วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 19 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 19 กรกฎาคม

"พวกท่านรักพระองค์อยู่ แม้ว่าขณะนี้พวกท่านไม่เห็นพระองค์" (1 เปโตร 1:8 THSV2011)

เราไม่เคยเห็นพระเยซู แต่เราได้เชื่อวางใจในพระคำของพระองค์

เรารักพระองค์ผู้ที่รักราก่อน พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้าผู้ซึ่งได้รับการยกชูตั้งแต่นิรันดร์กาล พระองค์เป็นผู้ที่ช่วยให้คนบาปที่หลงทางได้หลุดพ้นด้วยความเต็มใจ พระองค์ได้รับสภาพเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับพวกเรา ทนทุกข์ และยอมตายเพื่อเรา พระองค์เปี่ยมด้วยความรักแท้ ฤทธิ์อำนาจ ความเมตตาสงสาร และการสถิตอยู่ของพระองค์ก็คือสวรรค์

เรารักความหลุดพ้นอันล้ำค่าที่พระองค์ได้ให้แก่เราเปล่าๆ โดยมบูรณ์แบบ และเต็มด้วยเกียรติสิริ

เรารักครอบครัวที่เกิดจากสวรรค์ของพระองค์ผู้ซึ่งเป็นเหมือนกับพระองค์และเป็น "ผู้ประเสริฐในแผ่นดินโลก" (สดุดี 16:3)

โอ ขอที่ข้าพระองค์จะรักพระองค์มากยิ่งขึ้น! ขอที่ข้าพระองค์จะรักพระองค์ด้วยสิ้นสุดใจ สุดความคิด สุดจิต สุดกำลัง และขอที่ข้าพระองค์จะแสดงออกถึงความรักแท้นี้ด้วยการมีชีวิตอับริสุทธิ์ที่พระองค์ใช้การได้

"ข้าพเจ้ารักพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงฟังเสียงและคำวิงวอนของข้าพเจ้า 
พระองค์เงี่ยพระกรรณฟังข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจะทูลพระองค์ตราบที่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่" (สดุดี 116:1-2 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 19

"You love Him even though you have never seen Him." (1 Peter 1:8)

We have never seen Jesus, but we have believed His Word.

We love Him who first loved us; as the only-begotten Son of God, who was exalted from everlasting; as the voluntary Saviour of lost sinners, who became human like us, suffered and died for us. He is loving, powerful, compassionate, and His presence is heaven.

We love His precious salvation; in its freeness,-completeness – and glory.

We love His promises; which fill us with peace.

We love His holy laws; which call us to holiness.

We love His heaven-born family; who are like Him-and are "the excellent of the earth." (Psalm 16:3)

Oh, to love Him more! To love Him with all our hearts, minds, souls, and strength and to show our love by holy and useful lives

"I love the Lord because He heard my voice;
He listened when I cried to Him for aid.
I'll call on Him as long as I shall live,
Because He turned to hear me when I prayed." (Psalm 116:1-2)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 18 กรกฎาคม



บทความสอนใจประจำวัน 18 กรกฎาคม

"คนที่มีใจบริสุทธิ์ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้า" (มัทธิว 5:8 THSV2011)

ความเชื่อคือสิ่งที่ชำระหัวใจของเราให้บริสุทธิ์ เราเพลิดเพลินกับการยกโทษบาป สันติสุข และมิตรภาพกับพระเจ้าผ่านทางความเชื่อ ความเชื่อชำระล้างมโนธรรมของเราจากการงานแห่งความตายและช่วยเราให้รอดพ้นจากการลงโทษทั้งสิ้น ความเชื่อได้รับความจริงของพระเจ้าและพระเยซูก็เป็นความจริง เราได้รับฤทธิ์อำนาจในการเป็นบุตรของพระเจ้า

เราชื่นชมยินดีในความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า กล่าวอ้างพระสัญญาแห่งพระคุณของพระเจ้า และตั้งตารอคอยที่จะเข้าสู่สวรรค์ ทุกคนที่มีความหวังใจเช่นนี้ก็ชำระชีวิตของเขาเองให้บริสุทธิ์เหมือนพระคริสต์ผู้บริสุทธิ์ มโนธรรมของเขาก็อ่อนไหว ความตั้งใจของเขาก็ซื่อตรง และหัวใจของเขาก็สอดคล้องกับพระคำของพระเจ้า เขายอมสละทุกสิ่งเพื่อที่ชีวิตองเขาจะปราศจากบาปเพราะเขาปรารถนาความบริสุทธิ์

เขาป็นสุข เขาจะได้เห็นพระเจ้าและได้สุขสันต์กับพระองค์ผู้เป็นพระบิดาในสวรรค์ของเขาตลอดกาล แล้วเขาก็จะได้อยู่กับพระเจ้าของเขา และเป็นเหมือนพระองค์ในความบริสุทธิ์ ความสุข และเกียรติสิริ

"โอ พระเยซู ข้าฯ เพ่งมองพระคุณที่สมบูรณ์แบบของพระองค์
ขอทรงอวยพรข้าฯ ด้วยการทำให้ใจของข้าฯ บริสุทธิ์
เพื่อที่เมื่อข้าฯ แลดูพระองค์ในเวลานี้
ข้าฯ จะเห็นพระพักตร์ของพระองค์ในไม่ช้า
ข้าฯ จะเพ่งดูความงดงามอันเต็มด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์ทั้งสิ้น
และข้าฯ จะเห็นพระเจ้าตลอดกาล!"
(Charles Wesley)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 18

"God blesses those whose hearts are pure, for they will see God." (Matthew 5:8)

It is faith that purifies the heart; through faith we enjoy pardon, peace, and friendship with God; it clears the conscience from dead works, and delivers from all condemnation. It receives the truth of God, and Jesus is the truth; and we receive power to be children of God.

We rejoice in our relationship with God, claim God's gracious promises, and look forward to heaven; and all who have this hope purify themselves even as Christ is pure. Their consciences are tender, their intentions are honest, and their hearts are sound in God's Word. They would give all to be free from sin, for they long for holiness.

They are blessed. They shall see God, and enjoy Him as their heavenly Father for ever. Then they shall be with their God; and be like Him in purity, happiness and glory.

"Jesus, Your crowning grace impart;
Bless me with purity of heart,
That now beholding You,
I soon may see you face to face,
On all Your glorious beauties gaze,
And God for ever see!" 
(Charles Wesley)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 17 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 17 กรกฎาคม

"พยานผู้ซื่อสัตย์" (วิวรณ์ 1:5 THSV2011)

พระเจ้าพระบิดาให้พระเยซูแก่เรา เพื่อเป็นพยานกับถึงความรักแท้ของพระองค์

"พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์" (ยอห์น 3:16 THSV2011)

เพื่อเป็นพยานถึงพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับคนบาป

"เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ที่จะให้ทุกคนที่เห็นพระบุตรและวางใจพระองค์มีชีวิตนิรันดร์ และเราเองจะให้คนนั้นเป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย" (ยอห์น 6:40 THSV2011)

เพื่อเป็นพยานถึงความปีติยินดีองพระเจ้าในการทำให้ประชากรของพระองค์มีความสุข

"ฝูงแกะเล็กน้อยเอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระบิดาของพวกท่านชอบพระทัยจะประทานแผ่นดินนั้นให้แก่ท่าน" (ลูกา 12:32 THSV2011)

พระองค์เยซูสัญญาว่าพระเจ้าและพระบิดาของเราจะทำเพื่อเราและให้สิ่งจำเป็นทั้งหมดแก่เรา 

พระเยซูเป็นพยานผู้สัตย์ซื่อและเป็นสหายผู้เปี่ยมไปด้วยเกียรติสิริ ขอให้เราเป็นพยานเพื่อพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ได้เป็นพยานเพื่อพระบิดา

"จิตใจของข้าฯ อ่อนแรง และความคิดอันร้อนรนของข้าฯ เยือกเย็น 
แต่เมื่อข้าฯ เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์เป็น ข้าฯ จะสรรเสริญพระองค์อย่างที่ข้าฯ ควรทำ 
จนกว่าจะถึงวันนั้น ข้าฯ จะประกาศความรักแท้ของพระองค์ทุกลมหายใจ 
และขอเสียงดนตรีแห่งพระนามของพระองค์คืนความสดชื่นให้แก่จิตใจของข้าฯ ยามสิ้นลมหายใจ
(John Newton, เพลง "How sweet the Name of Jesus sounds")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 17

"The faithful witness." (Revelation 1:5)

God, the Father, gave Jesus to testify to us of His love: "For God loved the world so much that He gave His one and only Son, so that everyone who believes in Him will not perish but have Eternal Life." (John 3:16)

To witness to God's will with regard to sinners: "This is the will of Him that sent Me, that everyone who ---believes on the Son, may have Everlasting Life, and I will raise Him up at the last day." (John 6:40)

To witness to God's delight in making His people happy; "Fear not, little flock, it is your Father's good pleasure to give you the Kingdom." (Luke 12:32)

He promised that our God and Father will do for us, and give us, all that we need.

Jesus is the Faithful Witness, and our Glorious Friend. Let us witness for Him, as He does for His Father.

"Weak is the effort of my heart, and cold my warmest thought: 
But when I see You as You are, I'll Praise You as I ought. 
Till then I would Your love proclaim with every fleeting breath: 
And may the music of Your name, refresh my soul in death." 
(John Newton, hymn "How sweet the Name of Jesus sounds")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 16 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 16 กรกฎาคม

"จงถ่อมใจต่อกันและกัน" (1 เปโตร 5:5 TNCV)

เป็นสิ่งสำคัญที่เรามีความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับความเล็กน้อยของตัวเราเอง เกี่ยวกับความไม่คู่ควรของเรา และเกี่ยวกับการพึ่งพาอาศัยพระเมตตาของพระเจ้าตลอดเวลาของเรา

เราจำเป็นต้องมีจิตวิญญาณที่อ่อนโยนและสงบเยือกเย็นซึ่งมีค่ายิ่งนักในสายตาของพระเจ้า (1 เปโตร 3:4) ดังนั้นเราจึงรู้สึกขอบคุณสำหรัความดีของพระเจ้าแม้เมื่อเราเผชิญการทดลอง เราพึงพอใจสำหรับส่วนที่เราได้รับและสำหรับสิ่งต่างๆ ที่เรามี เราพึ่งพาองค์พระเยซูเจ้าจนเป็นนิสัย และระลึกถึงทั้งหมดที่พระองค์ได้สละเพื่อความหลุดพ้นของเรา รวมทั้งระลึกว่าเราจะมีสภาพเช่นไรเมื่อเราได้อยู่กับพระองค์ในกียรติสิริเร็วๆ นี้

ความถ่อมใจเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนบาปที่ได้หลุดพ้นโดยพระคุณของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าได้สัญญาว่าพระองค์จะอยู่กับผู้ที่ถ่อมใจ พระองค์ให้พระคุณแก่ผู้ที่ถ่อมใจ ผู้ที่ถ่อมใจจะได้รับการยกชู ความถ่อมใจดึงดูดความสนใจของพระเจ้าและนำพระพรของพระเจ้าลงมาจากสวรรค์

"แต่ข้าพระองค์ยากจนและขัดสน 
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์เถิด 
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขออย่าทรงรอช้า 
พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์" (สดุดี 70:5 THSV2011) 
J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 16

"Be clothed with humility." (1 Peter 5:5)

It is important to have a right understanding of our own littleness; of our unworthiness; and of our constant dependence on the mercy of God.

We need to have a meek and quiet spirit, which is in God's sight very precious (1 Peter 3:4). Thus we acknowledge God's goodness even when facing trials; we are content with our lot and with such things as we have. We habitually look to the Lord Jesus and remember all He sacrificed for our salvation, and what we shall soon be with Him in glory.

Humility is most appropriate for a sinner saved by God's grace, for God has promised that He will live with the humble. He gives grace to the humble. The one who is humble will be exalted. Humility attracts God's notice, and brings down God's blessing.

"Yet I am poor and needy; 
Come quickly, God, I pray. 
You are my God and Saviour; 
O Lord, do not delay." (Psalm 70:5)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 15 กรกฎาคม

บทความสอนใจประจำวัน 15 กรกฎาคม

"เมื่อข้าพระองค์กลัว ข้าพระองค์วางใจในพระองค์" (สดุดี 56:3 THSV2011)

เราอาจมีความกลัวมากมาย แต่เราควรทำตามแบบอย่างความแน่วแน่ของดาวิด องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่เราวางใจ และพระองค์สมควรที่จะได้รับความวางใจตลอดเวลา

ช่างยิ่งใหญ่เสียจริงเมื่อเราสามารถกล่าวว่า "ข้าพเจ้าจะเชื่อมั่นในพระสัญญาอันสัตย์ซื่อของพระบิดาในสวรรค์ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะมอบทุกอย่างไว้ให้อยู่ในมือขององค์พระผู้ช่วยของข้าพเจ้า"

ขอให้เราวางใจในพระเจ้า ไม่ว่าเราจะรู้สึกเช่นไร พระเจ้าของเราได้กล่าวว่า "จงวางใจในพระยาห์เวห์เป็นนิตย์" (อิสยาห์ 26:4 THSV2011)

ขอให้เราแสวงหาพระคุณ เพื่อที่เราจะสามารถกล่าวพร้อมกับโยบได้ว่า "ถึงแม้พระองค์ทรงประหารข้าเสีย ข้าก็ยังวางใจในพระองค์" (โยบ 13:15 TKJV)

"ใครที่วางใจในพระเจ้าผู้เป็นที่อาศัยที่แข็งแรงมั่นคงและครอบครองสวรรค์และโลก
ใครที่มองดูพระคริสต์ที่อยู่เบื้องบนด้วยความรักแท้ เขาผู้นั้นก็จะไม่มีความกลัวที่ทำให้ใจทุกข์ระทม" 
(Joachim Magdeburg, เพลง "Who Trusts In God, A Strong Abode")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 15

"Whenever I am afraid, I will put my trust in You." (Psalm 56:3)

We may have many fears, but we should take up David's resolve. Our Lord is the only proper object of trust, and He should be trusted at all times.

It is great when we can say, "I will depend on the faithful promises of my loving Heavenly Father; I will leave all in my Saviour's hands."

Let us trust in God- no matter how we feel. Our God has said, "Trust in the Lord for ever." (Isaiah 26:4)

Let us seek grace to say with Job, "Though He slay me, yet will I trust in Him." (Job 13:15)

"Who trusts in God, a strong abode, in Heav'n and earth possesses;
Who looks in love to Christ above, no fear his heart oppresses." 
(Joachim Magdeburg, hymn "Who Trusts In God, A Strong Abode")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 14 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 14 กรกฎาคม

"ชนชาติของเราไม่ยอมรับรู้ถึงความห่วงใยของเราที่มีต่อพวกเขา" (อิสยาห์ 1:3แปลจาก NLT)

อะไรที่เราควรจะรับรู้?

แน่นอน เราควรจะรับรู้สิ่งยิ่งใหญ่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทำเพื่อเรา พระองค์ได้ช่วยจิตวิญญาณของเราให้พ้นจากความตาย ตาของเราให้พ้นจากน้ำตา และเท้าของเราให้พ้นจากการสะดุดล้มลง เพื่อที่เราจะดำเนินชีวิตต่อหน้าพระเจ้าในดินแดนของคนเป็

เราควรจะรับรู้ว่าพระเจ้าในฐานะผู้สร้าง ผู้ธำรงรักษา พระเจ้าแห่งพันธสัญญา และพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยพระคุณของเราด้จัดเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อเราอย่างไร

เราควรจะรับรู้ว่าพระองค์เป็นผู้ปกครองดูแลสูงสุดที่ควบคุมจักรวาลไว้ พระองค์บริหารจัดการทุกเหตุการณ์ ไม่มีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้นได้ ไม่มีที่สำหรับความบังเอิญ แต่ทุกสิ่งได้รับการนำทางโดยพระปัญญาอันไร้ขีดจำกัด และความรักแท้ที่อยู่ทุกแห่งหน

เหตุใดเราจึงไม่รับรู้สิ่งนี้? ก็เพราะหัวใจของเรามักจะไม่ซื่อตรงและเต็มไปด้วยค่านิยมของโลก ความคิดของเราได้รับผลกระทบจากความเห็นที่ไม่ตรงตามพระคัมภีร์ และเราพยายามที่จะดำเนินชีวิตด้วยสายตา ไม่ใช่ด้วยความเชื่อ ด้วยวิธีนี้เองที่เราทำให้พระเจ้าเสียพระเกียรติ และจิตใจของเราก็ถูกนำให้หลงไป

"เป็นการดีที่จะขอบพระคุณพระยาห์เวห์ ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด ที่จะร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์ 
ที่จะประกาศความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า และประกาศความซื่อสัตย์ของพระองค์ในกลางคืน" (สดุดี 92:1-2 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 14

"My people don't recognize My care for them." (Isaiah 1:3)

What should we recognize?

Surely, what great things the Lord has done for us; He has delivered our souls from death, our eyes from tears, and our feet from falling, that we may walk before God in the land of the living.

How God, as our Creator, Preserver, covenant God , and gracious Father, provides for us.

That He is the supreme and universal Governor; arranging and managing every event; accident can never happen, chance can have no place, but all is directed by infinite wisdom and omnipresent love.

Why do we not recognise this? Because our hearts are often false and worldly; our minds are influenced by unbiblical notions; and we try to walk by sight and not by faith. In this way we dishonour God; and our souls are misled.

"It is good to praise the Lord 
And make music to Your Name, O most High, 
To proclaim Your love in the morning, 
And Your faithfulness at night." (Psalm 92:1-2)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 13 กรกฎาคม

บทความสอนใจประจำวัน 13 กรกฎาคม

"นี่แน่ะ เราได้ตั้งเขา...เป็นหัวหน้าและเป็นผู้บัญชาการของชนชาติทั้งหลาย" (อิสยาห์ 55:4 THSV2011)

เราไม่รู้ทางไปบ้านของพระบิดาในสวรรค์ของเรา แต่พระองค์ส่งพระเยซูมาเพื่อ "นำคนตาบอดทั้งหลาย ไปในทางที่เขาทั้งหลายไม่รู้จัก" (อิสยาห์ 42:6 THSV2011)

มีความยากลำบากมากมาย แต่พระเยซูมาเป็นผู้นำของเรา กล่าวว่า "เราจะอุ้มชูและเราจะช่วยกู้" (อิสยาห์ 46:4 THSV2011)

เราเห็นความห่วงใยของพระบิดาในสวรรค์ของเราเกี่ยวกับสวัสดิภาพของเราพระองค์ส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาเพื่อนำเราจากโลกนี้ไปสู่คริสตจักร จากบาปไปสู่ความบริสุทธิ์ จากความโกรธของพระเจ้าที่มีต่อวามบาปไปสู่ความรักแท้ของพระองค์

พระองค์นำคนของพระองค์ทั้งหมดไปยังบ้านแห่งการอธิษฐาน ไปยังความรักแท้ของพระเจ้า และไปยังคฤหาสน์แห่งเกียรติสิริที่ไม่มีที่สิ้นสุด พระองค์นำเราให้ต่อสู้กับซาตานและเราก็มีชัยชนะ ให้ต่อสู้กับตัณหาและเราก็พิชิตได้

พระองค์นำเราไปในทางที่พระองค์ปด้วยพระองค์เองและตามรอยเท้าของฝูงแกะของพระองค์ตามกำลังของเรา เพื่อที่จะตรึง "ตัวตนก่า" ไว้ที่กางเขน พร้อมทั้งฟื้นฟูสภาพและให้กำลัง "ตัวตนใหม่"

ขอพระองค์นำข้าพระองค์ไปในความจริงและสอนข้าพระองค์ เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ (สดุดี 25:5)

"ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงให้ข้าพระองค์รู้จักพระมรรคาของพระองค์ ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าพระองค์ 
ขอทรงนำข้าพระองค์ไปในความจริงของพระองค์ และขอทรงสอนข้าพระองค์ 
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รอคอยพระองค์อยู่วันยังค่ำ" (สดุดี 25:4-5 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 13

"Behold, I have given Him as a Leader to the people." (Isaiah 55:4)

We don't know the way to our Heavenly Father's house, but Jesus is sent to"lead the blind by a way they do not know." (Isaiah 42:16)

There are many difficulties but Jesus comes as our Leader, saying, "I will carry, and will deliver you." (Isaiah 46:4)

We see our Heavenly Father's concern for our safety. He sent His only Son to lead us from the world to the church, from sin to holiness, from God's anger against sin to His love. He leads all His own to the house of prayer, to God's love, and to the mansions of endless glory. He leads us against Satan, and we overcome; against lust, and we conquer. He leads us in the way He went Himself; in the footsteps of His flock; as we are able to bear; so as to crucify"the old man," and revive and strengthen "the new."

Lead me in truth and teach me, for You are my God. (Psalm 25:5)

"O Lord, reveal to me Your ways,
And all Your paths help me to know.
Direct and guide me in Your truth;
Instruct me in the way to go." (Psalm 25:4-5)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie