วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (10)

Our Central Purpose for Existence

Jesus comes to us and gives us his peace with God. Then he gives us power to do the kinds of things that mere humans can't do — like defeating our own selfishness, and loving other people, and treasuring Christ above all. And then with that peace and that power he gives us our central purpose for existence: "As the Father has sent me, even so I am sending you."

I'm sending you to extend my peace and my light and my truth and my life in the world. I am going to my Father. But I give you my Spirit. I am the power in you. So go and glorify me in this world. That's our great purpose — in the peace of God, by the power of God, to do the will of God for the glory of God, and for the good of others.

And if you are puzzled by verse 23, here's what I think it means. It's a good way to end. Jesus says to the disciples: "If you forgive the sins of any, they are forgiven them; if you withhold forgiveness from any, it is withheld."

What he means is this: When you tell people about what I have done, speaking my word, about my work, in the power of my Spirit, I am the one speaking through you, so that if anyone believes your word, I forgive their sins. And if any does not believe your words, I don't' forgive them. And since you are my voice and my truth, I speak of you forgiving them, and you withholding forgiveness.

Which simply means that right now: what you make of this message from this fallible, sinful, human messenger will decide whether you are forgiven or not. As an ambassador of Christ, I urge you be reconciled to God: receive as a free gift his peace, his power, his purpose. In the name of Jesus. Amen.

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


วัตถุประสงค์สำหรับการดำรงอยู่ที่เป็นศูนย์กลางของเราทั้งหลาย

พระเยซูเสด็จมายังพวกเรา และประทานสันติสุขของพระองค์กับพระเจ้าให้กับพวกเรา เมื่อนั้น พระองค์ประทานฤทธิ์เดชในการทำสิ่งต่าง ๆ ที่เพียงแต่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ให้กับพวกเรา ดังเช่นการพิชิตความเห็นแก่ตัวของเราเอง และรักผู้อื่น และให้คุณค่าของพระคริสต์เหนือทุกสิ่ง และเมื่อนั้น ด้วยสันติสุขนั้นและฤทธิ์เดชนั้น พระองค์ประทานวัตถุประสงค์สำหรับการดำรงอยู่ที่เป็นศูนย์กลางของเราทั้งหลายให้กับเรา

"... พระ​บิดา​ทรง​ใช้​เรา​มา​อย่าง​ไร เรา​ก็​ใช้​พวก​ท่าน​ไป​อย่าง​นั้น" (ยอห์น 20:21 THSV2011)

"เรากำลังส่งเจ้าไปเพื่อส่งต่อสันติสุขของเราและแสงสว่างของเราและความจริงของเราและชีวิตของเราในโลกนี้ เรากำลังจะไปหาพระบิดาของเรา แต่เราจะมอบพระวิญญาณของเราให้กับเรา เราเป็นฤทธิ์เดชในเจ้า ดังนั้นจงไปและถวายเกียรติแก่เราในโลกนี้"

นั่นเป็นวัตถุประสงค์อันยิ่งใหญ่ของเราทั้งหลาย ในสันติสุขของพระเจ้า โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า ที่เราจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อพระสิริของพระเจ้า และเพื่อผลดีของผู้อื่น

และหากคุณสงสัยในข้อ 23 นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าคิดว่าข้อนี้หมายถึง นี่เป็นวิธีที่ดีที่ใช้ในการจบ พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า

"ถ้า​พวก​ท่าน​จะ​อภัย​บาป​ของ​ใคร บาป​ของพวกเขา​ก็​จะ​ได้​รับ​การ​อภัย ถ้า​ท่าน​ไม่​อภัย​บาป​ของ​ใคร บาป​ของ​พวก​เขา​ก็​จะ​ไม่​ได้รับ​การ​อภัย" (ยอห์น 20:23 THSV2011)

พระองค์กำลังหมายถึงสิ่งนี้: "เมื่อเจ้าไปบอกผู้คนเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้ทำ บอกคำพูดของเรา เกี่ยวกับการงานของเรา ในฤทธิ์เดชของวิญญาณของเรา เราจะเป็นผู้ที่กล่าวผ่านเจ้า เพื่อที่เมื่อผู้ใดเชื่อในถ้อยคำของเจ้า เราจะอภัยบาปของพวกเขา และหากผู้ใดไม่เชื่อถ้อยคำของเจ้า เราจะไม่อภัยพวกเขา และเมื่อเจ้าเป็นเสียงของเราและเป็นความจริงของเรา เราจึงกล่าวเกี่ยวกับการที่เจ้าอภัยพวกเขาหรือการที่เจ้าไม่อภัยพวกเขา"

ความหมายอย่างง่ายของสิ่งนี้ คือ ข้อความที่กล่าวจากผู้ส่งสารที่เป็นมนุษย์ที่เต็มด้วยบาปและล้มลงได้คนนี้ จะเป็นสิ่งที่ตัดสินว่าคุณจะได้รับอภัยหรือไม่ ในฐานะทูตของพระคริสต์ ข้าพเจ้าวิงวอนให้คุณคืนดีกับพระเจ้า รับของประทานแห่งสันติสุขของพระองค์ ฤทธิ์เดชของพระองค์ และวัตถุประสงค์ของพระองค์ อันไม่คิดมูลค่า ในพระนามพระเยซู อาเมน

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (9)

Power by the Spirit

Jesus was going to pour out the Holy Spirit when he ascended into heaven (Acts 2:33). That happens about seven weeks after his resurrection. We read about it in the first chapter of Acts. "But you will receive power when the Holy Spirit has come upon you" (Acts 1:8). The work of the Holy Spirit that Jesus gives is that he makes us able to do what we are simply not able to do on our own. He gives us power.

So here in John 20: 22 Jesus performs a kind of acted out parable. "He breathed on them and said to them, 'Receive the Holy Spirit.'" He didn't say, Receive him at this very moment. He said in effect: realize that my breath, my life, my word will be in the Holy Spirit. We've seen this before in John 14. Jesus said, "I will not leave you as orphans; I will come to you" (John 14:18). The risen, living Jesus has come to us. He has sent us the Holy Spirit. His Spirit. He has breathed on us.

This person — this power — is our only hope for accomplishing the purpose he has for us. And he gives that purpose in verse 21b: "As the Father has sent me, even so I am sending you." I want you to live in the world as my representatives. My ambassadors. I want you to take my peace and take my power, and glorify my Father the way I have (John 12 :27-28).

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


ฤทธิ์เดชโดยพระวิญญาณ

พระเยซูกำลังจะทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมาเมื่อพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์

เพราะ​ฉะ​นั้น​เมื่อ​ทรง​เชิด​ชู​พระ​องค์​ขึ้น​อยู่​ที่​พระ​หัตถ์​เบื้อง​ขวา​ของ​พระ​เจ้า​แล้ว และ​เมื่อ​พระ​องค์​ทรง​รับ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์​จาก​พระ​บิดา​ตาม​พระ​สัญ​ญา​แล้ว พระ​องค์​ทรง​เท​ลง​มา​ดัง​ที่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​ยิน​และ​ได้​เห็น (กิจการ 2:33 THSV2011)

สิ่งนี้เกิดขึ้นประมาณ 7 สัปดาห์หลังการเป็นขึ้นจากความตายของพระองค์ เราอ่านเกี่ยวกับสิ่งนี้ในบทแรกของพระธรมกิจการ

แต่​พวก​ท่าน​จะ​ได้​รับ​พระ​ราช​ทาน​ฤทธา​นุภาพ เมื่อ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์​เสด็จ​มา​เหนือ​ท่าน และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​เป็น​สักขี​พยาน​ของ​เรา​ใน​กรุง​เยรู​ซา​เล็ม ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย ทั่ว​แคว้น​สะมา​เรีย และ​จน​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แผ่นดิน​โลก (กิจการ 1:8 THSV2011)

พระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเยซูประทานให้ เป็นการที่พระองค์ทำให้เราสามารถทำในสิ่งที่เราเพียงแค่ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวของเราเอง พระองค์ประทานฤทธิ์เดชกับเรา

ดังนั้น ในยอห์น 20:22 พระเยซูทรงสำแดงถึงคำอุปมาด้วยการแสดงให้เห็น

เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว​จึง​ทรง​ระบาย​ลม​หาย​ใจ​เหนือ​พวก​เขา​และ​ตรัส​กับ​เขา​ว่า "จง​รับ​พระ​วิญ​ญาณ​บริสุทธิ์​เถิด" (ยอห์น 20:22 THSV2011)

พระองค์มิได้ตรัสให้พวกเขารับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเวลานั้นทันที พระองค์ตรัสในสิ่งที่จะเกิดขึ้น "จงตระหนักว่าลมหายใจของเรา ชีวิตของเรา คำพูดของเรา จะอยู่ในพระวิญญาณบริสุทธิ์"

เราได้เห็นสิ่งนี้ก่อนหน้านั้น ในยอห์น 14 พระเยซูตรัสว่า

เรา​จะ​ไม่​ละ​ทิ้ง​พวก​ท่าน​ไว้​ให้​เป็น​ลูก​กำพร้า เรา​จะ​มา​หา​ท่าน (ยอห์น 14:18 THSV2011)

พระเยซูผู้ซึ่งเป็นขึ้นมาและทรงพระชนม์อยู่ ได้มาหาพวกเราแล้ว พระองค์ได้ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กับพวกเรา พระวิญญาณของพระองค์ พระองค์ได้ทรงระบายลมหายใจเหนือพวกเรา

บุคคลนี้ ฤทธิ์เดชนี้ เป็นความหวังเดียวของพวกเราในการที่จะทำให้วัตถุประสงค์ที่พระองค์ทรงมีสำหรับเรานั้นสำเร็จ และพระองค์ประทานวัตถุประสงค์ในข้อ 21b

"... พระ​บิดา​ทรง​ใช้​เรา​มา​อย่าง​ไร เรา​ก็​ใช้​พวก​ท่าน​ไป​อย่าง​นั้น" (ยอห์น 20:21 THSV2011)

"เราต้องการให้เจ้ามีชีวิตในโลกดั่งตัวแทนของเรา เป็นทูตของเรา เราต้องการให้เจ้ารับเอาสันติสุขของเรา และรับเราฤทธิ์เดชของเรา และถวายเกียรติแด่พระบิดาด้วยหนทางที่เรามี"

27 "เดี๋ยว​นี้​ใจ​ของ​เรา​เป็น​ทุกข์ จะ​ให้​เรา​พูด​อย่าง​ไร? 'ข้า​แต่​พระ​บิดา ขอ​ทรง​ช่วย​ข้า​พระ​องค์​ให้​พ้น​จาก​ช่วง​เวลา​นี้' อย่าง​นั้น​หรือ? แต่​เพื่อ​จุด​ประ​สงค์​นี้​เอง เรา​จึง​มา​ถึง​ช่วง​เวลา​นี้
28 ข้า​แต่​พระ​บิดา ขอ​พระ​องค์​ทรง​ให้​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์​รับ​พระ​เกียรติ" แล้ว​ก็​มี​พระ​สุรเสียง​ดัง​มา​จาก​ฟ้า​ว่า "เรา​ให้​รับ​เกียรติ​แล้ว และ​เรา​จะ​ให้​รับ​เกียรติ​อีก" (ยอห์น 12:27-28)

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (8)

How Do You Receive This Peace?

And how do you receive this? Everybody doesn't have it. It's a gift of God. We receive it. Or we walk away from it. Or better to say: we receive him. Or walk away from him. He is our peace. If you have the risen, living Christ as your Savior, and Lord, and Treasure, and Friend, you have the peace that he gives — the peace that he is. "To all who received him, who believed in his name, he gave the right to become children of God" (John 1:12). "Since we have been justified by faith, we have peace with God through our Lord Jesus Christ" (Romans 5:1).

Jesus offers you that. I offer that on his behalf. It is free. I hope you receive it.

I've spent most of our time on the gift of peace because it is foundational. If we don't have peace with God we will take all his other gifts and use them to try to make peace. And it never works. Peace is first. And it is free. Everything else is the effect of peace, not the cause. It is fruit. Peace is the root.

So let me just point in closing to the power and the purpose Jesus gives. Both are mentioned in verses 21–22,

Jesus said to them again, "Peace be with you. As the Father has sent me, even so I am sending you." [the purpose] 22 And when he had said this, he breathed on them and said to them, "Receive the Holy Spirit." [the power]

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


คุณจะรับสันติสุขนี้ได้อย่างไร?

แล้วคุณจะรับสันติสุขนี้ได้อย่างไร? ไม่มีใครที่มีสิ่งนี้ นี่เป็นของประทานของพระเจ้า เราได้รับสิ่งนี้มา หรือเราเดินไปจากสิ่งนี้ หรืออาจจะกล่าวให้ชัดกว่านั้นว่า เรารับพระเยซู หรือเดินไปจากพระองค์ พระองค์เป็นสันติสุขของพวกเรา หากคุณมีพระคริสต์ผู้เป็นขึ้นจากความตายและผู้ซึ่งทรงพระชนม์อยู่ ในฐานะพระผู้ช่วยและองค์พระผู้เป็นเจ้าและทรัพย์สมบัติล้ำค่าและพระสหายของคุณ คุณก็จะมีสันติสุขที่พระองค์ประทานให้ สันติสุขที่พระองค์ทรงเป็น

แต่​ทุก​คน​ที่​ยอม​รับ​พระ​องค์ คือ​คน​ที่​เชื่อ​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์​นั้น พระ​องค์​ก็​จะ​ประ​ทาน​สิทธิ​ให้เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า (ยอห์น 1:12 THSV2011)

เพราะ​ฉะนั้น เมื่อ​เรา​ถูก​ชำระ​ให้​ชอบ​ธรรม​โดย​ความ​เชื่อ​แล้ว เรา​จึง​อยู่​อย่าง​สงบ​สุข​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​ทาง​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา (โรม 5:1 THSV2011)

พระเยซูยื่นเสนอสิ่งนี้กับคุณ ข้าพเจ้ายื่นเสนอในนามของพระองค์ นี่เป็นสิ่งที่ไม่คิดมูลค่า ข้าพเจ้าหวังว่าคุณจะรับสิ่งนี้ไว้

ข้าพเจ้าได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับของขวัญแห่งสันติสุขเพราะว่านี่เป็นรากฐานสำคัญ หากพวกเราไม่มีสันติสุขกับพระเจ้า เราก็จะรับเอาของประทานอื่น ๆ ของพระองค์ และใช่สิ่งเหล่านั้นเพื่อสร้างสันติสุข และมันจะไม่สำเร็จได้เลย สันติสุขเป็นสิ่งแรก และเป็นสิ่งที่ไม่คิดมูลค่า ทุกสิ่งอื่นใดล้วนเป็นผลจากสันติสุข ไม่ใช่สาเหตุ สันติสุขเป็นราก

ดังนั้น ขอให้ข้าพเจ้ากล่าวนำให้เข้าใกล้ถึงฤทธิ์เดชและวัตถุประสงค์ที่พระเยซูประทานให้ ทั้งสองได้ถูกกล่าวในข้อ 21-22

21 พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เขา​อีก​ว่า "สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย พระ​บิดา​ทรง​ใช้​เรา​มา​อย่าง​ไร เรา​ก็​ใช้​พวก​ท่าน​ไป​อย่าง​นั้น" [วัตถุประสงค์]
22 เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว​จึง​ทรง​ระบาย​ลม​หาย​ใจ​เหนือ​พวก​เขา​และ​ตรัส​กับ​เขา​ว่า "จง​รับ​พระ​วิญ​ญาณ​บริสุทธิ์​เถิด" [ฤทธิ์เดช] (ยอห์น 20:21-22 THSV2011)

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (7)

Where Peace Comes in Your Life

So there are five relationships where the crucified and risen Christ brings peace into your life:

  1. Peace between us and him. That's the first and most obvious meaning: he is standing there among them offering them himself as a friend and helper, not a judge.
  2. Peace between us and God. That's why God sent him — so that God's justice and wrath could be satisfied another way besides eternal punishment. God makes peace with us by substituting his Son's suffering for our penalty. Now he comes to us as a loving Father.
  3. Peace between us and others who are in Christ. To be reconciled to God is to be reconciled to all who are reconciled to God. No hostility vertically or horizontally. No racism. No ethnocentrism or classism or sexism. "There is neither Jew nor Greek, there is neither slave nor free, there is no male and female, for you are all one in Christ Jesus" (Galatians 3:28).
  4. Peace between us and our own souls. The New Testament letter to the Hebrews says, "The blood of Christ . . . will purify our conscience from dead works to serve the living God" (Hebrews 9:14). O the precious peace of a clear conscience. How many people labor under the misery of a defiled, guilty conscience. I read on Thursday the testimony of a woman who had an abortion 8 years ago and who said, "I cannot forgive myself." I wrote, "That's what Good Friday is for!"

    Peace with yourself doesn't mean that you start seeing past sins as desirable. Peace doesn't mean that past sins cease to be painful. It means they cease to be paralyzing. The pain may not be taken away immediately, but the penalty is taken away immediately through Christ. And that makes it possible to heal. And to move on with hope-filled life while you do.
  5. Peace with the world. Yes, when Jesus died he did what needed to be done (Colossians 1:19–20) so that someday, in God's time, all evil will be cast into outer darkness and the entire new creation will be full of peace and righteousness. "Of the increase of his government and of peace there will be no end . . . with righteousness from this time forth and forevermore" (Isaiah 9:7).

Peace with Jesus. Peace with God the Father. Peace with others in Christ. Peace with ourselves. And peace with the world. It was an amazing achievement.

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


ที่ซึ่งสันติสุขได้มายังชีวิตของเรา

ดังนั้น มีความสัมพันธ์ 5 ประการที่พระคริสต์ผู้ซึ่งถูกตรึงและเป็นขึ้นมาได้นำสันติสุขมาสู่ชีวิตของคุณ

1. สันติสุขระหว่างเราทั้งหลายกับพระองค์ นั่นเป็นความหมายแรกและชัดเจนที่สุด พระองค์ทรงยืนอยู่ที่นั่นท่ามกลางพวกเขา ยื่นเสนอพระองค์เองแก่พวกเขาในฐานะสหายและผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้พิพากษา

2. สันติสุขระหว่างเราทั้งหลายกับพระเจ้า นั่นเป็นเหตุผลที่พระเจ้าประทานพระเยซู เพื่อที่ความยุติธรรมและพระพิโรธของพระเจ้าจะได้รับการชดใช้ด้วยอีกหนทางหนึ่งนอกเหนือจากการลงโทษนิรันดร์ พระเจ้าทรงสร้างสันติสุขกับเราด้วยการแทนที่การทนทุกข์ของพระบุตรของพระองค์ สำหรับโทษของเรา บัดนี้พระองค์เสด็จมายังพวกเราในฐานะพระบิดาผู้ทรงรัก

3. สันติสุขระหว่างเราทั้งหลายกับผู้อื่นซึ่งอยู่ในพระคริสต์ การคืนดีกับพระเจ้า เป็นการคืนดีกับทุกคนที่ได้คืนดีกับพระเจ้า ไม่มีการเป็นศัตรูทั้งในแนวดิ่งและแนวระดับ ไม่มีการแบ่งชนชาติ ไม่มีการแบ่งเชื้อชาติ การแบ่งชนชั้น หรือการแบ่งแยกเพศ

จะ​ไม่​เป็น​ยิว​หรือ​กรีก จะ​ไม่​เป็น​ทาส​หรือ​ไท จะ​ไม่​เป็น​ชาย​หรือ​หญิง เพราะ​ว่า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน​ใน​พระ​เยซู​คริสต์ (กาลาเทีย 3:28 THSV2011)

4. สันติสุขระหว่างเราทั้งหลายกับจิตใจของเราทั้งหลายเอง จดหมายในพันธสัญญาใหม่ที่มีถึงชาวฮีบรู กล่าวว่า

มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด พระ​โล​หิต​ของ​พระ​คริสต์ ผู้​ทรง​ถวาย​พระ​องค์​เอง​ที่​ปราศ​จาก​ตำ​หนิ​แด่​พระ​เจ้า​โดย​พระ​วิญ​ญาณ​นิรันดร์ ก็​จะ​ทรง​ชำระ​มโน​ธรรม​ของ​เรา​จาก​การ​ประ​พฤติ​ที่​เปล่า​ประ​โยชน์ เพื่อ​เรา​จะ​ปรน​นิบัติ​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​พระ​ชนม์​อยู่ (ฮีบรู 9:14 THSV2011)

ช่างเป็นสันติสุขที่ล้ำค่าแห่งมโนธรรมที่ชัดเจน มีผู้คนมากมายที่เหน็ดเหนื่อยภายใต้ความทุก์ยากแห่งมโนธรรมที่มัวหมองและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ในวันพฤหัสบดีข้าพเจ้าอ่านคำพยานของหญิงผู้หนึ่งซึ่งทำแท้งเมื่อ 8 ปีก่อนหน้านั้นและกล่าวว่า "ฉันไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้" ข้าพเจ้าเขียนว่า "วันศุกร์ประเสริฐก็มีเพื่อสิ่งนั้น!"

สันติสุขกับตัวคุณเองไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะเริ่มเห็นบาปในอดีตเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจ สันติสุขไม่ได้หมายความว่าบาปในอดีตจะไม่สร้างความเจ็บปวดอีกต่อไป มันหมายความว่าบาปเหล่านั้นจะไม่ทำให้คุณเป็นอัมพาต ความเจ็บปวดอาจจะไม่ถูกกำจัดออกไปในทันที แต่โทษของบาปได้ถูกกำจัดไปแล้วทันทีผ่านทางพระคริสต์ และนั่นทำให้ความเจ็บปวดได้รับการรักษา และทำให้คุณสามารถเคลื่อนหน้าต่อไปด้วยชีวิตที่เต็มด้วยความหวัง

5. สันติสุขกับโลก ใช่แล้ว เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ พระองค์ได้ทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำให้สำเร็จ เพื่อที่วันหนึ่ง ในเวลาของพระเจ้า ความชั่วร้ายทั้งปวงจะถูกทิ้งไปในความมืดภายนอก และการทรงสร้างทั้งสิ้นจะเต็มไปด้วยสันติสุขและความชอบธรรม

19 เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​พอ​พระ​ทัย​ที่​จะ​ให้​ความ​บริ​บูรณ์​ทั้ง​หมด​ดำรง​อยู่​ใน​พระ​องค์
20 และ​โดย​พระ​องค์ พระเจ้า​ทรง​ให้​ทุก​สิ่ง​คืน​ดี​กับ​พระ​องค์​เอง ไม่​ว่า​สิ่ง​นั้น​จะ​อยู่​บน​แผ่น​ดิน​โลก​หรือ​อยู่​บน​สวรรค์ โดย​ทรง​ทำ​ให้​เกิด​สันติ​ภาพ​โดย​พระ​โลหิต​แห่ง​กาง​เขน​ของ​พระ​องค์ (โคโลสี 1:19-20 THSV2011)

การ​เพิ่ม​พูน​ขึ้น​ของ​การ​ปก​ครอง​และ​สันติ​ภาพ​ของ​ท่านจะ​ไม่​มี​ที่​สิ้น​สุด
บน​พระ​ที่​นั่ง​ของ​ดา​วิด และ​เหนือ​ราช​อา​ณา​จักร​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​จะ​สถา​ปนา​และ​เชิด​ชู​มัน​ไว้
ด้วย​ความ​ยุติ​ธรรม​และ​ความ​ชอบ​ธรรม ตั้ง​แต่​บัด​นี้​เป็น​ต้น​ไป​จน​นิรันดร์​กาล
ความ​กระ​ตือ​รือร้น​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​จอม​ทัพ​จะ​ทำ​การ​นี้ (อิสยาห์ 9:7 THSV2011)

สันติสุขกับพระเยซู สันติสุขกับพระเจ้าพระบิดา สันติสุขกับผู้อื่นที่อยู่ในพระคริสต์ สันติสุขกับเราทั้งหลายเอง และสันติสุขกับโลก นี่ช่างเป็นความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์ใจเสียจริง

 

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (6)

A Peace Accomplished

The peace that Jesus offers the disciples is peace that he accomplished when he died for them on the cross. That's why in verse 20 he says, "When he had said this, he showed them his hands and his side." I am the one who died. I am the one you abandoned. And I am the one who was "pierced for your transgressions" (Isaiah 53:5). And the reason I can offer you peace is because by my blood I have covered all your sins.

If you trust me they won't be held against you. The wrath of God is turned away. That's what Paul meant when he said, "Christ reconciled us both to God through the cross, thereby killing the hostility." All the hostility between God and us was absorbed on the cross. Here, look at my side and my hands. I made peace with these. Justice was satisfied with these. Peace between you and God (and me) was established with these.

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


สันติสุขได้สำเร็จแล้ว

สันติสุขที่พระเยซูเสนอให้กับเหล่าสาวก เป็นสันติสุขที่พระองค์ทำให้สำเร็จเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อพวกเขาบนไม้กางเขน นี่เป็นเหตุผลที่ข้อ 20 กล่าวว่า

เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว พระ​องค์​ทรง​ให้​เขา​ดู​พระ​หัตถ์​และ​สี​ข้าง​ของ​พระ​องค์ เมื่อ​พวก​สา​วก​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​แล้ว​ก็​มี​ความ​ยินดี (ยอห์น 20:20 THSV2011)

จากสิ่งนี้ พระองค์กำลังบอกว่า "เราเป็นผู้ที่สละชีวิต เราเป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้ง เราเป็นผู้ที่ถูกแทงเพราะความทรยศของเรา (อิสยาห์ 53:5) และเหตุผลที่เราสามารถมอบเสนอสันติสุขให้กับเจ้าได้ก็เพราะโลหิตของเราที่ได้ปกคลุมบาปของเจ้า"

แต่​ท่าน​ถูก​แทง​เพราะ​ความ​ทร​ยศ​ของ​เรา
ท่าน​บอบ​ช้ำ​เพราะ​ความ​บาปผิด​ของ​เรา
การ​ตี​สอน​ที่​ตก​บน​ท่าน​นั้น​ทำ​ให้​พวก​เรา​มี​สวัสดิ​ภาพ
และ​ที่​ท่าน​ถูก​เฆี่ยนตี​ก็​ทำให้​เรา​ได้​รับ​การ​รัก​ษา (อิสยาห์ 53:5 THSV2011)

"หากเจ้าวางใจในเราบาปจะไม่กล่าวโทษเจ้า พระพิโรธของพระเจ้าจะหันออกไปจากเจ้า"

นี่เป็นสิ่งที่เปาโลได้กล่าวถึงเมื่อท่านกล่าวว่า

"[พระเยซู] ​ทำ​ให้​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​คืน​ดี​กับ​พระ​เจ้า​เป็น​กาย​เดียว​โดย​ทาง​กาง​เขน จึง​เป็น​เหตุ​ให้​การ​เป็น​ศัตรู​กัน​หมด​สิ้น​ไป" (เอเฟซัส 2:16 THSV2011)

การเป็นศัตรูระหว่างพระเจ้ากับเราทั้งหมดนั้นได้ถูกดูดซับโดยกางเขน

"ตรงนี้ ดูที่สีข้างและมือของเรา เราสร้างสันติสุขด้วยสิ่งเหล่านี้ ความยุติธรรมได้รับการชดใช้ด้วยสิ่งเหล่านี้ สันติสุขระหว่างเจ้าและพระเจ้า (และเรา) ได้เกิดขึ้นแล้วด้วยสิ่งเหล่านี้"

 

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (5)

"Peace Be With You"

So what did he say?

Two times he said, "Peace be with you."

On the evening of that day, the first day of the week, the doors being locked where the disciples were for fear of the Jews, Jesus came and stood among them and said to them, "Peace be with you." 20 When he had said this, he showed them his hands and his side. Then the disciples were glad when they saw the Lord. 21 Jesus said to them again, "Peace be with you."

Before Jesus says anything about power or purpose he wants to establish peace. The order here is really important. The peace that Jesus gives is before and underneath any of our empowered actions or any of our purposeful deeds. We don't initiate peace with Jesus by our actions. He initiates peace with us.

The apostle Paul — who wrote 13 of those 21 New Testament letters — explains it like this: "He [Jesus] himself is our peace, who has made us both one [Jew and Gentile] . . . and reconciled us both to God in one body through the cross, thereby killing the hostility (Ephesians 2:14–18).

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


"สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย"

พระองค์ตรัสว่าอะไร? สองครั้งที่ตรัสว่า "สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย"

19 ค่ำ​วัน​นั้น​ซึ่ง​เป็น​วัน​อา​ทิตย์ เมื่อ​สา​วก​ปิด​ประตู​ห้อง​ที่​พวก​เขา​อยู่​เพราะ​กลัว​พวก​ยิว พระ​เยซู​ก็​เสด็จ​เข้า​มา​และ​ทรง​ยืน​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เขา​ตรัส​ว่า "สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย"
20 เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว พระ​องค์​ทรง​ให้​เขา​ดู​พระ​หัตถ์​และ​สี​ข้าง​ของ​พระ​องค์ เมื่อ​พวก​สา​วก​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​แล้ว​ก็​มี​ความ​ยินดี
21 พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เขา​อีก​ว่า "สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย พระ​บิดา​ทรง​ใช้​เรา​มา​อย่าง​ไร เรา​ก็​ใช้​พวก​ท่าน​ไป​อย่าง​นั้น" (ยอห์น 20:19-21 THSV2011)

ก่อนที่พระเยซูจะตรัสสิ่งใดเกี่ยวกับฤทธิ์เดชและวัตถุประสงค์ พระองค์ทรงต้องการที่จะให้สันติสุขเกิดขึ้น ลำดับนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สันติสุขที่พระเยซูประทานนั้นเกิดขึ้นก่อนและแฝงอยู่ใต้การเคลื่อนไหวที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์ใด ๆ หรือการกระทำที่เป็นไปด้วยวัตถุประสงค์ใด ๆ เราไม่ต้องเริ่มต้นสันติสุขกับพระเยซูด้วยการเคลื่อนไหวของเรา พระองค์ได้ทรงเริ่มต้นสันติสุขนี้กับเรา

อัครทูตเปาโลได้เขียนจดหมายฝาก 13 เล่มใน 21 เล่ม ที่ได้อธิบายดังนี้

เพราะ​ว่า​พระ​องค์​เอง [พระเยซู] ​ทรง​เป็น​สันติ​ภาพ​ของ​เรา โดย​ร่าง​กาย​ของ​พระ​องค์ ทรง​ทำ​ให้​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน [ยิวและชาวต่างชาติ] ... และ​ทำ​ให้​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​คืน​ดี​กับ​พระ​เจ้า​เป็น​กาย​เดียว​โดย​ทาง​กาง​เขน จึง​เป็น​เหตุ​ให้​การ​เป็น​ศัตรู​กัน​หมด​สิ้น​ไป ... (เอเฟซัส 2:14-18 THSV2011)

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (4)

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


ของประทานสามอย่างในคำตรัสพระเยซู

19 ค่ำ​วัน​นั้น​ซึ่ง​เป็น​วัน​อา​ทิตย์ เมื่อ​สา​วก​ปิด​ประตู​ห้อง​ที่​พวก​เขา​อยู่​เพราะ​กลัว​พวก​ยิว พระ​เยซู​ก็​เสด็จ​เข้า​มา​และ​ทรง​ยืน​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เขา​ตรัส​ว่า "สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย"
20 เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว พระ​องค์​ทรง​ให้​เขา​ดู​พระ​หัตถ์​และ​สี​ข้าง​ของ​พระ​องค์ เมื่อ​พวก​สา​วก​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​แล้ว​ก็​มี​ความ​ยินดี
21 พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เขา​อีก​ว่า "สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย พระ​บิดา​ทรง​ใช้​เรา​มา​อย่าง​ไร เรา​ก็​ใช้​พวก​ท่าน​ไป​อย่าง​นั้น"
22 เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว​จึง​ทรง​ระบาย​ลม​หาย​ใจ​เหนือ​พวก​เขา​และ​ตรัส​กับ​เขา​ว่า "จง​รับ​พระ​วิญ​ญาณ​บริสุทธิ์​เถิด
23 ถ้า​พวก​ท่าน​จะ​อภัย​บาป​ของ​ใคร บาป​ของพวกเขา​ก็​จะ​ได้​รับ​การ​อภัย ถ้า​ท่าน​ไม่​อภัย​บาป​ของ​ใคร บาป​ของ​พวก​เขา​ก็​จะ​ไม่​ได้รับ​การ​อภัย" (ยอห์น 20:19-23 THSV2011)

ดังนั้น สิ่งใดเป็นหนทางที่พระคริสต์ปฏิบัติในฐานะพระคริสต์ผู้ทรงพระชนม์ ขณะนี้พระองค์ตรัสสิ่งใด? และสิ่งที่เราเห็นก็คือในการปรากฎของพระองค์ครั้งแรกต่อเหล่าสาวก พระองค์ตรัส 3 สิ่ง (หรือ 4 ขึ้นอยู่กับวิธีนับ) และ 3 สิ่งนี้จะเป็นของประทาน 3 อย่างแก่คุณ ได้แก่ ของประทานแห่งสันติสุข ของประทานแห่งฤทธิ์เดช และของประทานแห่งวัตถุประสงค์

สิ่งตรงข้ามกับสันติสุขคือความขัดแย้ง สิ่งตรงข้ามกับฤทธิ์เดชคือความอ่อนแอ สิ่งตรงข้ามกับวัตถุประสงค์คือความปราศจากเป้าหมาย

มากมายหลายคนที่ถูกทำลายโดยความขัดแย้ง ความอ่อนแอ และความปราศจากเป้าหมาย พระเยซูไม่ได้มายังโลกนี้และสิ้นพระชนม์และเป็นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อทำลายชีวิตของคุณ แต่เพื่อช่วยคุณให้รอดพ้น และสิ่งที่เราเห็นก็คือว่าพระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากการทำลายชีวิตของเราเองด้วยการที่ทรงเป็นสันติสุข ฤทธิ์เดช และวัตถุประสงค์ของพวกเรา ข้าพเจ้าอธิษฐานว่าพระเจ้าจะทำสิ่งนี้สำหรับคุณ คือ ที่คุณจะให้พระเยซูเป็นสันติสุขของคุณ ให้พระเยซูเป็นฤทธิ์เดชของคุณ ให้พระเยซูเป็นวัตถุประสงค์ของคุณ

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (3)

Three Facts and How Jesus Deals With Us (3)

3. Jesus comes to them and stands in their midst.

Verse 19: ". . . the doors being locked where the disciples were for fear of the Jews, Jesus came and stood among them." The point here is that he came right into the middle of their meeting. He did not come to the edge and call out through the wall and deal with them as a distant deity. He wasn't playing games with them. He wasn't toying with their faith. He wanted them to see him and know him and believe in him and love him.

That's what he wants for you today. And that's what I want for you today. I want you to experience the living Jesus. To know him. To have him draw near into your life where no one else can go. To have him help you in your fear the way no one else can help you. And to have him come to you — close to you, not calling to you from a distance, but coming right into your midst. That's what I pray happens in this service.

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


ข้อเท็จจริง 3 ประการ และวิธีที่พระองค์ทรงปฏิบัติกับเรา (3)

3. พระเยซูเสด็จมาหาพวกเขา และยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา

... เมื่อ​สา​วก​ปิด​ประตู​ห้อง​ที่​พวก​เขา​อยู่​เพราะ​กลัว​พวก​ยิว พระ​เยซู​ก็​เสด็จ​เข้า​มา​และ​ทรง​ยืน​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เขา​ ... (ยอห์น 20:19 THSV2011)

ประเด็นของจุดนี้ คือว่า พระองค์เสด็จมายังกลางที่ประชุมของพวกเขา พระองค์ไม่ได้มาที่มุมใดมุมหนึ่ง และร้องเรียกผ่านกำแพง และปฏิบัติต่อพวกเขาดั่งพระเจ้าที่อยู่ไกลโพ้น พระองค์ไม่ได้เล่นเกมกับพวกเขา พระองค์ไม่ได้เล่นสนุกกับความเชื่อของพวกเขา พระองค์ต้องการให้พวกเขาเห็นพระองค์ และรู้จักพระองค์ และเชื่อในพระองค์ และรักพระองค์

นี่คือสิ่งที่พระองค์ต้องการจากคุณในวันนี้ และนี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการจากคุณในวันนี้ ข้าพเจ้าต้องการให้คุณได้มีประสบการณ์กับพระคริสต์ที่ทรงพระชนม์อยู่ ให้คุณได้รู้จักพระองค์ ให้คุณยอมให้พระองค์เข้าใกล้ชีวิตของคุณ เข้ามาในชีวิตของคุณในที่ที่ไม่มีใครสามารถเข้าได้ ให้คุณยอมให้พระองค์ช่วยเหลือคุณในขณะที่คุณกลัว ด้วยหนทางที่ไม่มีใครจะสามารถช่วยคุณได้ และให้คุณยอมให้พระองค์เสด็จมายังคุณ เข้าใกล้คุณ ไม่ใช่เรียกคุณจากที่ไกล แต่เสด็จมายังศูนย์กลางชีวิตของคุณ นั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐานให้เกิดขึ้นในการนมัสการครั้งนี้

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (2)

 

Three Facts and How Jesus Deals With Us (2)

2. They were afraid.

Verse 19: "The doors being locked where the disciples were for fear of the Jews . . ." Their leader had just been crucified as threat to Caesar. Their fear is totally understandable. And into that fear Jesus comes.

I suppose I want to draw your attention to this because this is the way I feel the need of risen, living Jesus most often. Fear. Fear that I won't be prepared for what I'm expected to do. Fear that the church won't prosper, or the conference won't be attended, or the class won't be helped. Fear that my children will make shipwreck of their faith. Fear that I won't have the faith to die well. Fear that I might drift into worldliness and uselessness.

And what Jesus is saying in this action is: I come to my own when they are afraid. I don't wait for them to get their act together. I don't wait for them to have enough faith to overcome fear. I come to help them have enough faith to overcome fear. And I testify after fifty years of being a Christian, this is still true. The risen, living Jesus is still doing this. He comes when we cry out to him in our fear. He helps us. I have called to him a thousand times: "Jesus please help me." And he has come near with the promise: "Fear not I am with, be not dismayed, I am your God, I will help you" (Isaiah 41:10). He will do this for you too, if you receive him into your life for who he really is.

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


ข้อเท็จจริง 3 ประการ และวิธีที่พระองค์ทรงปฏิบัติกับเรา (2)

2. พวกเขากลัว

... เมื่อ​สา​วก​ปิด​ประตู​ห้อง​ที่​พวก​เขา​อยู่​เพราะ​กลัว​พวก​ยิว ... (ยอห์น 20:19 THSV2011)

ผู้นำของพวกเขาเพิ่งถูกตรึงที่กางเขนเนื่องจากคุกคามซีซาร์ ความกลัวของพวกเขานั้นเข้าได้ได้ทั้งหมด และพระเยซูก็ได้เสด็จมายังความกลัวนั้นเอง

ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าต้องการดึงดูดความสนใจมายังที่นี้ เพราะนี่เป็นหนทางบ่อยครั้งที่สุดที่ข้าพเจ้ารู้สึกต้องการพระเยซูผู้ซึ่งเป็นขึ้นและทรงพระชนม์อยู่

ความกลัว กลัวว่าข้าพเจ้าจะไม่พร้อมสำหรับสิ่งที่ข้าพเจ้าถูกคาดหวังให้ทำ กลัวว่าคริสตจักรจะไม่เจริญรุ่งเรือง หรือจะไม่มีคนมาร่วมประชุมในงานสัมมนา หรือจะไม่มีใครช่วยในชั้นเรียน กลัวว่าบุตรของข้าพเจ้าจะล้มเหลวทางความเชื่อ กลัวว่าข้าพเจ้าจะไม่มีความเชื่อที่ทำให้ข้าพเจ้าตายอย่างสมเกียรติ กลัวว่าข้าพเจ้าจะหลงไปในทางของโลกและใช้การไม่ได้

และสิ่งที่พระเยซูกำลังตรัสในท่าทางของพระองค์ คือ "เรามาหาคนของเราเมื่อพวกเขากำลังกลัว เราไม่รอจนพวกเขาร่วมกันทำสิ่งใดได้ เราไม่รอจนพวกเขามีความเชื่อเพียงพอที่จะเอาชนะความกลัว เรามาเพื่อช่วยพวกเขาให้มีความเชื่อเพียงพอที่จะเอาชนะความกลัว"

และข้าพเจ้ายืนยันหลังจากที่ได้เป็นคริสเตียนมา 50 ปี ว่าสิ่งนี้เป็นความจริง พระเยซูผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้วและทรงพระชนม์อยู่ยังคงกระทำเช่นนี้ พระองค์เสด็จมาเมื่อเราร้องต่อพระองค์ในความกลัวของพวกเขา พระองค์ทรงช่วยเรา

ข้าพเจ้าได้ร้องต่อพระองค์เป็นพันครั้ง "พระเยซู โปรดช่วยข้าพระองค์ด้วย" และพระองค์เสด็จมาใกล้ด้วยพระสัญญา

อย่า​กลัว​เลย เพราะ​เรา​อยู่​กับ​เจ้า
อย่า​ขยาด เพราะ​เรา​เป็น​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า
เรา​จะ​เสริม​กำลัง​เจ้า เรา​จะ​ช่วย​เจ้า
เรา​จะ​ชู​เจ้า​ด้วย​มือ​ขวา​อัน​ชอบ​ธรรม​ของ​เรา (อิสยาห์ 41:10 THSV2011)

พระองค์จะทำสิ่งนี้สำหรับคุณด้วยเช่นกัน หากคุณต้อนรับพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็นจริง ๆ ให้เข้ามาในชีวิตของคุณ

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

The Risen Christ - พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว (Eng-Thai) (1)

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org



19 ค่ำ​วัน​นั้น​ซึ่ง​เป็น​วัน​อา​ทิตย์ เมื่อ​สา​วก​ปิด​ประตู​ห้อง​ที่​พวก​เขา​อยู่​เพราะ​กลัว​พวก​ยิว พระ​เยซู​ก็​เสด็จ​เข้า​มา​และ​ทรง​ยืน​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เขา​ตรัส​ว่า "สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย"
20 เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว พระ​องค์​ทรง​ให้​เขา​ดู​พระ​หัตถ์​และ​สี​ข้าง​ของ​พระ​องค์ เมื่อ​พวก​สา​วก​เห็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​แล้ว​ก็​มี​ความ​ยินดี
21 พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เขา​อีก​ว่า "สันติ​สุข​จง​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย พระ​บิดา​ทรง​ใช้​เรา​มา​อย่าง​ไร เรา​ก็​ใช้​พวก​ท่าน​ไป​อย่าง​นั้น"
22 เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​อย่าง​นั้น​แล้ว​จึง​ทรง​ระบาย​ลม​หาย​ใจ​เหนือ​พวก​เขา​และ​ตรัส​กับ​เขา​ว่า "จง​รับ​พระ​วิญ​ญาณ​บริสุทธิ์​เถิด
23 ถ้า​พวก​ท่าน​จะ​อภัย​บาป​ของ​ใคร บาป​ของพวกเขา​ก็​จะ​ได้​รับ​การ​อภัย ถ้า​ท่าน​ไม่​อภัย​บาป​ของ​ใคร บาป​ของ​พวก​เขา​ก็​จะ​ไม่​ได้รับ​การ​อภัย" (ยอห์น 20:19-23 THSV2011)


พระคัมภีร์มีสองส่วน คือภาคพันธสัญญาเดิมและภาคพันธสัญญาใหม่

พันธสัญญาใหม่มี 27 เล่ม ประกอบด้วย พระกิตติคุณ 4 เล่มที่บอกถึงเรื่องราวชีวิตของพระเยซู จดหมาย 21 ฉบับที่อธิบายถึงความหมายของพระเยซูในชีวิตของเรา ประวัติศาสตร์ 1 เล่ม เกี่ยวกับคริสตจักรยุคแรก และคำพยากรณ์อีก 1 เล่ม

ทั้ง 27 เล่มเหล่านั้น เกี่ยวข้องกับพระคริสต์ผู้ซึ่งทรงพระชนม์ เป็นขึ้นจากความตาย และเป็นความจริงที่เป็นศูนย์กลางและมีชีวิตในจักรวาลในวันนี้ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าอย่างแท้จริง และเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง

สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการที่จะทำในข้อความนี้ คือ มองดูพระเยซูพร้อมกับคุณ เมื่อครั้งที่พระองค์ปรากฎกับเหล่าสาวกที่กำลังตกใจกลัวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ทรงเป็นขึ้นจากความตาย และข้าพเจ้าต้องการให้เห็นว่า พระเยซูที่เป็นขึ้นจากความตายนั้นทรงปฏิบัติอย่างไร และพระองค์ตรัสอะไร

การปรากฎตัวครั้งแรกต่อเหล่าสาวกที่อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม เกิดขึ้นในยอห์น 20:19-23

 

ข้อเท็จจริง 3 ประการ และวิธีที่พระองค์ทรงปฏิบัติกับเรา

ขอที่เราจะมาดูด้วยกันที่ส่วนแรกของยอห์น 20:19 เพื่อจะได้เห็นว่าพระเยซูคริสต์ทรงปฏิบัติอย่างไร

ค่ำ​วัน​นั้น​ซึ่ง​เป็น​วัน​อา​ทิตย์ เมื่อ​สา​วก​ปิด​ประตู​ห้อง​ที่​พวก​เขา​อยู่​เพราะ​กลัว​พวก​ยิว พระ​เยซู​ก็​เสด็จ​เข้า​มา​และ​ทรง​ยืน​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เขา​ ... (ยอห์น 20:19 THSV2011)

ดังนั้น นี่เป็นเย็นวันอาทิตย์ที่พระองค์ทรงเป็นขึ้นจากความตาย เช้าวันนั้นพระเยซูปรากฎต่อมารีย์ชาวมักดาลา (ยอห์น 20:1-18) แต่บัดนี้ พระองค์ปรากฎต่อเหล่าสาวก (อัครสาวก 11 คน) พร้อมกัน สังเกต 3 ประการ คือ ประตูล็อกอยู่ เหล่าสาวกกำลังกลัว และพระเยซูเสด็จมาหาพวกเขาและยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา

ข้อเท็จจริง 3 ประการนี้ บอกเราถึง 3 สิ่งที่เราสามารถรู้ได้เกี่ยวกับวิธีที่พระคริสต์ผู้ทรงเป็นขึ้นมาแล้วปฏิบัติต่อเราในทุกวันนี้

1. ประตูล็อกอยู่

พระเยซูคริสต์ไม่จำเป็นต้องเคาะประตู พระองค์ไม่ต้องแม้แต่เปิดประตู พระองค์เพียงแค่อยู่ที่นั่น และพระองค์ไม่ใช่ผี

ดูที่ข้อ 20

... พระ​องค์​ทรง​ให้​เขา​ดู​พระ​หัตถ์​และ​สี​ข้าง​ของ​พระ​องค์ ... (ยอห์น 20:20 THSV2011)

อีกที่หนึ่ง พระองค์ตรัสว่า

"จง​ดู​ที่​มือ​และ​เท้า​ของ​เรา​ว่า​เป็น​เรา​เอง จง​คลำ​ตัว​เรา​ดู เพราะ​ว่า​ผี​ไม่​มี​เนื้อ​และ​กระ​ดูก​เหมือน​อย่าง​ที่​พวก​ท่าน​เห็น​ว่า​เรา​มี" (ลูกา 24:39 THSV2011)

ดังนั้น พระองค์ทรงมีร่างกายที่เป็นทางกายภาพ แต่ไม่เหมือนกับร่างกายของพวกเรา เหมือนกัน แต่ก็ยังคงแตกต่าง พระองค์เพียงแค่อยู่ที่นั่น แม้ว่าประตูจะปิดอยู่

นี่หมายความว่าในชีวิตของคุณในวันนี้ พระเยซูสามารถไปในที่ที่ไม่มีใครสามารถไปได้ พระองค์สามารถไปในที่ที่ทนายความปรึกษาไปไม่ได้ พระองค์สามารถไปในที่ที่แพทย์ไปไม่ได้ พระองค์สามารถไปในที่ที่คนรักไปไม่ได้ พระองค์สามารถเข้าถึงคุณ และเข้าถึงในตัวคุณ ทุกที่ ทุกเวลา ไม่มีที่ใดที่คุณอยู่ หรือที่ลึกใดในตัวตนของคุณที่คุณเป็น ที่พระเยซูไม่สามารถเข้าใจหรือเข้าถึงได้ การเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซูทำให้พระองค์ทำในสิ่งที่ไม่มีผู้ใดอีกแล้วที่สามารถทำได้ ไม่มีใครอีกแล้วที่จะเหมือนพระองค์ในทั่วทั้งจักรวาล พระองค์ทรงพระชนม์ และพระองค์เป็นเพียงผู้เดียวที่เป็นทั้งพระเจ้าและเป็นทั้งมนุษย์ คุณไม่สามารถจินตนาการถึงสิ่งที่พระองค์สามารถทำได้ และนี่เป็นความอัศจรรย์ที่นำมาซึ่งการรักษา หากคุณได้ใคร่ครวญว่า ทุกชั้นแห่งความสลับซับซ้อนของชีวิตของคุณ ซึ่งไม่ว่าคุณหรือใครก็ตามไม่สามารถเข้าใจได้ เป็นดินแดนที่คุ้นเคยสำหรับพระองค์

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "พระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นขึ้นแล้ว - สันติสุข ฤทธานุภาพ และวัตถุประสงค์ของพระองค์"

เมื่อวันที่ 07/04/2012

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/the-risen-christ-his-peace-power-and-purpose.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

คันหน้าคว่ำ คันหลังอย่าตามไป (10)

บาปของอิสราเอล 4 ประการ

1. ลืมพระคุณของพระเจ้า

6 แต่​เมื่อ​เรา​ผ่าน​เจ้า​ไป เรา​เห็น​เจ้า​ดิ้น​กระ​แด่วๆ อยู่​ใน​กอง​เลือด​ของ​เจ้า เรา​ก็​พูด​กับ​เจ้า​ใน​กอง​เลือด​ของ​เจ้า​ว่า "จง​มี​ชีวิต​อยู่" (เอเศเคียล 16:6 THSV2011)

14 ชื่อ​เสียง​ของ​เจ้า​ก็​เลื่อง​ลือ​ไป​ท่าม​กลาง​ประ​ชา​ชาติ​ใน​เรื่อง​ความ​งด​งาม​ของ​เจ้า เพราะ​ความ​งด​งาม​นั้น​ก็​สม​บูรณ์​ที​เดียว​เนื่อง​ด้วย​สง่า​ราศี​ที่​เรา​มอบ​ให้​เจ้า พระ​ยาห์​เวห์​องค์​เจ้า​นาย​ตรัส​ดัง​นี้​แหละ
15 แต่​เจ้า​วาง​ใจ​ใน​ความ​งด​งาม​ของ​เจ้า และ​เจ้า​เล่น​ชู้​เนื่อง​ด้วย​ชื่อ​เสียง​ของ​เจ้า เจ้า​เป็น​ชู้​กับ​ทุก​คน​ที่​ผ่าน​มา และ​เจ้า​ก็​เป็น​ของ​คน​นั้น (เอเศเคียล 16:14-15 THSV2011)

อิสราเอลเป็นเหมือนกองเลือด ที่พระเจ้าได้ทรงหยิบขึ้นมาเพื่อให้เป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาลืมพระคุณ

ท่านจะไปไม่ถึงที่สุด หากลืมพระคุณของพระเจ้า คนเราจะลืมอะไรก็ได้ แต่อย่าลืมตัว

 

2. เปลี่ยนพระทั้งชาติ

ไม่มีประเทศไหนเปลี่ยนพระทั้งชาติ มีเพียงแค่อิสราเอล จนพระองค์ตรัสกับอิสราเอลว่า ไม่มีทางที่จะนำอิสราเอลกลับมาคืนดีแล้ว

คน​คูช​เปลี่ยน​สี​ผิว​ของ​ตน​เอง​ หรือ​เสือ​ดาว​เปลี่ยน​ลาย​ของ​มัน​ได้​หรือ? ถ้า​ได้​แล้ว​พวก​เจ้า​ผู้​ที่​เคย​ชิน​ต่อ​การ​ทำ​ความ​ชั่ว จึง​จะ​มา​ทำ​ความ​ดี​ได้ (เยเรมีย์ 13:23 THSV2011)

หากเสือดาวเปลี่ยนลายได้ นิโกรเปลี่ยนเป็นคนขาวได้ อิสราเอลคงจะเปลี่ยนได้

 

3. ทำพิธีกรรมทางศาสนาแต่เปลือกนอก แก่นแท้ของศาสนาไม่ยอมรับ

เขาไม่ยอมรับศาสนา ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง การอธิษฐาน หรือการถวาย พระเจ้าทรงถือว่าเป็นเพียงพิธีกรรมเปลือกนอก

เพราะ​เอฟ​รา​อิม​ได้​สร้าง​แท่น​บูชา​เพิ่ม​ขึ้น​เพื่อ​ลบ​บาป แต่​แท่น​เหล่า​นั้น​กลาย​เป็น​แท่น​เพื่อ​ให้​เขา​ทำ​บาป (โฮเชยา 8:11 THSV2011)

อิสราเอลสร้างแท่นบูชาเพื่อบาป แต่แท่นบูชานั้นกลับเพิ่มบาปแก่เขา

พระนิเวศของพระเจ้ามีแท่นบูชาเดียว แต่ขณะนั้นพระนิเวศของพระเจ้ากิจการดี เพราะอิราเอลทำบาปเยอะ แท่นบูชาไม่พอถวาย ธรรมกิจจึงจะสร้างแท่นบูชาเพิ่มขึ้นสัก 10 แท่น จะได้เพียงพอกับพี่น้องเวลาทำบาป ไม่ต้องรอคิวนาน

 

4. ไม่ฟังพระคำพระเจ้า แล้วต่อว่าพระเจ้า

ไม่ฟังพระเจ้าแล้วยังบ่นต่อว่าพระเจ้า

เวลานั้นปุโรหิต ไม่ยอมสอนพระคำของพระเจ้า แทนที่จะสอนพระคำของพระเจ้า กลับสอนสิ่งใดก็ไม่รู้ ถึงขนาดที่มีการใช้ไม้ติ้วในการทำนายในสมัยโฮเชยา

ประ​ชา​กร​ของ​เรา​ไป​ขอ​ความ​เห็น​จาก​สิ่ง​ที่​ทำ​ด้วย​ไม้ และ​ไม้​ติ้ว​ก็​ให้​คำ​พยา​กรณ์​แก่​เขา เพราะ​วิญ​ญาณ​แห่ง​การ​เล่น​ชู้​นำ​ให้​เขา​หลง​ไป และ​เขา​ทั้ง​หลาย​ได้​ละ​ทิ้ง​พระ​เจ้า​ของ​เขา​เพื่อ​ไป​เล่น​ชู้ (โฮเชยา 4:12 THSV2011)

พระเยซูคริสต์สอนพระคำของพระเจ้า พี่น้องต้องระวัง เพราะในยุคสุดท้าย ครูเทียมเท็จจะไม่สอนพระคำของพระเจ้า ระวังจะไปไม่ถึงนะครับ

 

อิสราเอลไม่สามารถเข้าแผ่นดินพระเจ้าได้ เพราะเขาลืมพระคุณ ถือศาสนาแต่เปลือกนอก ไหว้รูปเคารพ และไม่ฟังพระเจ้าแต่กลับต่อว่าพระเจ้า

ขอพระเจ้าอย่าให้เราเป็นเช่นนั้น อย่าลืมพระคุณพระเจ้า อย่าให้สิ่งใดยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้าในชีวิตของเรา อย่าทำศาสนาแต่เปลือกนอก อย่าทอดทิ้งพระคำพระเจ้า และอย่าต่อว่าพระเจ้า เช่นนี้ ท่านจึงจะสามารถไปถึงแผ่นดินแห่งพันธสัญญา

สิ่งเหล่านี้มิได้ทำเพื่อได้รับความรอด แต่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเป็นของจริง ไม่ใช่เชื่อพระคริสต์แต่ปาก

 

อ.นิกร สิทธิจริยาภรณ์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 24/07/2011

เรื่อง คันหน้าคว่ำ คันหลังอย่าตามไป

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

คันหน้าคว่ำ คันหลังอย่าตามไป (9)

บัพติศมาของเปาโล

1 พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย เพราะ​ว่า​ข้าพ​เจ้า​ต้อง​การ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เข้า​ใจ​ว่า บรรพ​บุรุษ​ของ​เรา​ทั้ง​หมด​ได้​อยู่​ใต้​เมฆ และ​ได้​ผ่าน​ทะเลไป​ทุก​คน
2 ได้​รับ​บัพ​ติศ​มา​ใน​เมฆ​และ​ใน​ทะเล​เข้า​สนิท​กับ​โม​เสส​ทุก​คน
3 ได้​รับ​ประ​ทาน​อา​หาร​ฝ่าย​จิต​วิญ​ญาณ​เดียว​กัน​ทุก​คน
4 และ​ได้​ดื่ม​น้ำ​ฝ่าย​จิต​วิญ​ญาณ​เดียว​กัน​ทุก​คน เพราะ​ว่า​พวก​เขา​ได้​ดื่ม​จาก​พระ​ศิลา​ฝ่าย​จิต​วิญ​ญาณ​ที่​ติด​ตาม​เขา​ไป พระ​ศิลา​นั้น​คือ​พระ​คริสต์
5 แต่​ถึง​กระ​นั้น​ก็​ดี​มี​คน​ส่วน​มาก​ใน​พวก​นั้น​ที่​พระ​เจ้า​ไม่​พอ​พระ​ทัย เรา​ทราบ​ได้​จาก​ที่​เขา​ล้ม​ตาย​กัน​เกลื่อน​กลาด​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร
6 เหตุ​การณ์​เหล่า​นี้​เป็น​เครื่อง​เตือน​ใจ​เรา​ไม่​ให้​ปรารถ​นา​สิ่ง​ชั่ว​เหมือน​เขา​ทั้งหลาย
7 พวก​ท่าน​อย่า​นับ​ถือ​รูป​เคารพ​เหมือน​บาง​คน​ใน​พวก​เขา​ได้​ทำ ดัง​ที่​มี​เขียน​ไว้​ว่า "ประ​ชา​ชน​ก็​นั่ง​ลง​กิน​และ​ดื่ม แล้ว​ก็​ลุก​ขึ้น​เล่น​สนุก​สนาน"
8 อย่า​ให้​เรา​ล่วง​ประ​เวณี​เหมือน​บาง​คน​ใน​พวก​เขา​ได้​ทำ แล้ว​ก็​ล้ม​ลง​ตาย​ใน​วัน​เดียว​สอง​หมื่น​สาม​พัน​คน
9 อย่า​ให้​เรา​ลอง​ดี​พระ​คริสต์ เหมือน​บาง​คน​ใน​พวก​เขา​ได้​ทำ แล้ว​ต้อง​พินาศ​ด้วย​งู​ร้าย
10 อย่า​ให้​เรา​บ่น​เหมือน​บาง​คน​ใน​พวก​เขา​ได้​ทำ แล้ว​ต้อง​พินาศ​ด้วย​องค์​เพชฌ​ฆาต
11 เหตุ​การณ์​เหล่า​นี้​เกิด​ขึ้น​กับ​พวก​เขา​เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง และ​ได้​เขียน​ไว้​เพื่อ​เตือน​สติ​เรา​ผู้​ซึ่ง​มา​ถึง​วาระ​สุด​ท้าย​ของ​ยุค​นี้แล้ว
12 เพราะ​เหตุ​นี้​คน​ที่​คิด​ว่า​ตัว​เอง​มั่น​คง​ดี​แล้ว ก็​จง​ระวัง​ไม่​ให้​ล้ม​ลง (1 โครินธ์ 10:1-12 THSV2011)

อาจารย์เปาโลกล่าวถึงชีวิตคริสเตียนหลังจากที่เชื่อแล้ว ว่าจะต้องรักษาความเชื่อ ใช้ชีวิตที่เหลือสำแดงว่าเป็นคนของพระเจ้าอย่างแท้จริง

ถ้าพี่น้องอยากเข้าใจเรื่องนี้ จะต้องดูความคิดของอาจารย์เปาโล ในความคิดของท่าน การที่จะเข้าใจแผนการที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ต้องดูจากทั้งพระคัมภีร์เดิมและพระคัมภีร์ใหม่ แล้วเราจะเข้าใจแผนการอย่างลึกซึ้ง

พระคัมภีร์เดิม มีอาณาจักรหนึ่งยิ่งใหญ่มาก เรียกว่า อียิปต์ กำลังครองโดยฟาโรห์ ทุกคนในอียิปต์ เป็นทาสฟาโรห์ อิสราเอลก็อยู่ในอียิปต์ เมื่อครบกำหนดพระเจ้าส่งโมเสสมา วัตถุประสงค์เพื่อปลดปล่อยจากการเป็นทาส เพื่อนำไปสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา เมื่อโมเสสนำอิสราเอลออกมา มีเสาเมฆ เสาเพลิง และทะเลแดง เป็นเครื่องหมายว่าจะไม่หันหลังกลับแล้ว เพราะเมื่อข้ามแล้ว ทะเลแดงปิด ถอยไม่ได้ ต้องเดินหน้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญา

สมัยพระเยซู อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่คือโลกใบนี้ ซึ่งปกครองโดยซาตาน ทุกคนที่อยู่ในโลก เป็นทาสของซาตาน คริสเตียนก็อยู่ในโลกนี้เช่นกัน เมื่อครบกำหนดพระเจ้าประทานพระเยซูคริสต์มา และการรับบัพติศมาเป็นการเริ่มต้นของการดำเนินชีวิตคริสเตียน

ผู้ที่ได้รับบัพติศมาแล้ว อย่าเพิ่งชะล่าใจ เพราะนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นในการเดินทางเท่านั้น ไม่ใช่จุดจบ

วันนี้คุณรับบัพติศมา ในที่สุดคุณจะต้องเดินตามพระคริสต์ไปถึงสวรรค์

พระองค์มิได้สัญญาว่าทางที่เดินจะราบเรียบ แต่ทรงสัญญาว่าหนทางที่เดินนั้นพระเจ้าจะทรงอยู่ด้วย ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวัน ดังเช่นเสาเมฆและเสาเพลิง พระเจ้าจะทรงนำทางเรา

แต่น่าเศร้าใจ ชนชาติอิสราเอลติดตามพระเจ้าไม่ถึงที่สุด สุดท้ายคนที่ออกจากอียิปต์ ไม่มีใครเข้าคานาอันเลย นอกจาก 3 คน ได้แก่ โยชูวา คาเลบ และโมเสส (เพียงแต่โมเสสได้เข้าหลังจากนั้นเกือบ 1500 ปี ปรากฎที่ภูเขาตอนที่พระเยซูคริสต์จำแลงพระกาย ได้เข้าทางวิญญาณ)

เรื่องนี้เตือนพวกเราว่า อิสราเอลกลุ่มนี้ไม่ได้เข้าคานาอัน เพราะเขาทำบางอย่างที่เลวร้าย ทำให้ไม่สามารถเข้าได้

เปาโลกล่าวว่า พวกเขาล้มแล้ว พวกเราอย่าล้มเช่นเดียวกัน

 

อ.นิกร สิทธิจริยาภรณ์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 24/07/2011

เรื่อง คันหน้าคว่ำ คันหลังอย่าตามไป

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

คันหน้าคว่ำ คันหลังอย่าตามไป (8)

บัพติมา 5 ประเภท

4. บัพติศมาของเปาโล

เป็นประเด็นหลัก จะขอกล่าวรายละเอียดในตอนท้าย

 

5. บัพติศมาของเปโตร

18 เพราะ​พระ​คริสต์​ทรง​ทน​ทุกข์​ครั้ง​เดียว​เป็น​พอ​เพราะ​บาป คือ​พระ​องค์​ผู้​ชอบ​ธรรม​เพื่อ​ผู้​ไม่​ชอบ​ธรรม เพื่อ​จะ​นำ​พวก​ท่าน​ไป​ถึง​พระ​เจ้า ฝ่าย​กาย​พระ​องค์​จึง​สิ้น​พระ​ชนม์ แต่​ฝ่าย​จิต​วิญ​ญาณ​ทรง​คืน​พระ​ชนม์
19 และ​โดย​ทาง​วิญ​ญาณ พระ​องค์​ได้​เสด็จ​ไป​บอก​พวก​วิญ​ญาณ​ที่​ติด​คุก​อยู่
20 ซึ่ง​ใน​สมัย​ก่อน​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระ​เจ้า คราว​เมื่อ​พระ​เจ้า​ทรง​อด​ทน​รอ​คอย​ให้​กลับ​ใจ​ใน​สมัย​โน​อาห์ ขณะ​ที่​ท่าน​กำ​ลัง​ต่อ​เรือ​ใหญ่ ใน​เรือ​นั้น​มี​น้อย​คน คือ​แปด​ชีวิต​รอด​ผ่าน​น้ำ
21 บัด​นี้​น้ำ​นั้น​ที่​เล็ง​ถึง​พิธี​บัพ​ติศ​มา​ก็​ช่วย​พวก​ท่าน​ให้​รอด​เช่น​เดียว​กัน ไม่​ใช่​เป็น​การ​ชำระ​มล​ทิน​ทาง​กาย แต่​เป็น​การ​วิง​วอน​พระเจ้า​เพื่อ​จะ​มี​มโน​ธรรม​ที่​ดี ความ​รอด​นั้น​มา​โดย​ทาง​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระ​เยซู​คริสต์
22 พระ​องค์​เสด็จ​สู่​สวรรค์ และ​ประ​ทับ​เบื้อง​ขวา​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​เจ้า​แล้ว มี​พวก​ทูต​สวรรค์​และ​พวก​วิญ​ญาณ​ที่​มี​อำ​นาจ และ​พวก​วิญ​ญาณ​ที่​มี​ฤทธา​นุภาพ​อยู่​ใต้​บังคับ​ของ​พระ​องค์ (1 เปโตร 18-22 THSV2011)

บัพติศมาของอาจารย์เปโตร กล่าวถึงโนอาห์ มีความหมายว่า "ถึงแม้จะเจอความยากลำบาก ยากดีมีจน สุขทุกข์ ฉันก็ยังไม่ละทิ้งความเชื่อ"

นี่เป็นความน่าประทับใจ ที่เราจะกล่าวว่า "ต่อไปนี้ มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้านกับพระองค์ จะติดตามพระองค์จนถึงที่สุด"

การบัพติศมาเป็นการทนทุกข์

 

อ.นิกร สิทธิจริยาภรณ์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 24/07/2011

เรื่อง คันหน้าคว่ำ คันหลังอย่าตามไป

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

What We Owe the Resurrection of Jesus - ผล 10 ประการของการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู

What We Owe the Resurrection of Jesus

1) A savior who can never die again. "For we know that Christ being raised from the dead will never die again." Romans 6:9

2) Repentance. "The God of our fathers raised Jesus, whom you killed by hanging him on a tree. God exalted him at his right hand as Leader and Savior, to give repentance to Israel." Acts 5:31

3) New birth. "By his great mercy we have been born anew to a living hope through the resurrection of Jesus Christ from the dead." 1 Peter 1:3

4) Forgiveness of sin. "If Christ has not been raised, your hope is futile and you are still in your sins." 1 Corinthians 15:17

5) The Holy Spirit. "This Jesus God raised up, and of that we are all witnesses. Being therefore exalted at the right hand of God, and having received from the Father the promise of the Holy Spirit, he has poured out this which you see and hear." Acts 2:32-33

6) No condemnation for the elect. "Who is to condemn? It is Christ Jesus who died, yes, who was raised from the dead, who is at the right hand of God." Romans 8:34

7) The Lord's personal fellowship and protection. "Lo, I am with you always, to the close of the age." Matthew 28:20

8) Proof of coming judgment. "God has fixed a day on which he will judge the world in righteousness by a man whom he has appointed, and of this he has given assurance to all men by raising him from the dead." Acts 17:31

9) Salvation from the future wrath of God. "We wait for his Son from heaven, whom he raised from the dead, Jesus who delivers us from the wrath to come." 1 Thessalonians 1:10; Romans 5:10

10) Our own resurrection from the dead. "We know that he who raised the Lord Jesus will raise us also with Jesus and bring us with you into his presence." 2 Corinthians 4:14; Romans 6:4; 8:11; 1 Corinthians 6:14; 15:20

The Lord is risen!

Pastor John

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


ผล 10 ประการของการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู

1. พระผู้ช่วยที่จะไม่ตายอีก

เรา​รู้​อยู่​ว่า พระ‌เจ้า​ทรง​ให้​พระ‌คริสต์​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ตาย แล้ว​พระ‌องค์​จะ​ไม่​ตาย​อีก ความ​ตาย​จะ​ไม่​มี​อำ‍นาจ​เหนือ​พระ‌องค์​ต่อ‌ไป (โรม 6:9 THSV2011)

2. การกลับใจ

พระ‌เจ้า​ทรง​ตั้ง​พระ‌องค์​ไว้​ที่​พระ‌หัตถ์​เบื้อง‌ขวา​ของ​พระ‌องค์ ให้​เป็น​องค์​พระ‌ผู้นำ​และ​องค์​พระ‌ผู้​ช่วย​ให้​รอด เพื่อ​จะ​ให้​ชน​อิส‍รา‍เอล​กลับ‌ใจ​ใหม่ แล้ว​จะ​ทรง​อภัย​บาป​ของ​เขา​ทั้ง‌หลาย (กิจการ 5:31 THSV2011)

3. การบังเกิดใหม่

สาธุ‌การ​แด่​พระ‌เจ้า​พระ‌บิดา​แห่ง​พระ‌เยซู​คริสต์​องค์​พระ‌ผู้‌เป็น‌เจ้า​ของ​เรา โดย​พระ‌เมต‍ตา​ล้น‌เหลือ​ของ​พระ‌องค์ ทรง​โปรด​ให้​เรา​บัง‌เกิด​ใหม่ เข้า​ใน​ความ​หวัง​ที่​ยั่ง‌ยืน โดย​การ​คืน​พระ‌ชนม์​ของ​พระ‌เยซู‌คริสต์ (1 เปโตร 1:3 THSV2011)

4. การอภัยบาป

และ​ถ้า​พระ‌คริสต์​ไม่​ได้​ทรง​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา ความ​เชื่อ​ของ​พวก​ท่าน​ก็​ไร้​ประ‍โยชน์ ท่าน​ก็​ยัง​คง​อยู่​ใน​บาป​ของ​ตน (1 โครินธ์ 15:17 THSV2011)

5. พระวิญญาณบริสุทธิ์

32 พระ‌เยซู​องค์​นี้​พระ‌เจ้า​ได้​ทรง‌ให้​คืน​พระ‌ชนม์​แล้ว​ซึ่ง​เรา​ทุก​คน​คือ​สักขี​พยาน​ของ​เรื่อง​นี้
33 เพราะ​ฉะ‍นั้น​เมื่อ​ทรง‌เชิด‌ชู​พระ‌องค์​ขึ้น​อยู่​ที่​พระ‌หัตถ์​เบื้อง​ขวา​ของ​พระ‌เจ้า​แล้ว และ​เมื่อ​พระ‌องค์​ทรง‌รับ​พระ‌วิญ‍ญาณ​บริ‍สุทธิ์​จาก​พระ‌บิดา​ตาม​พระ‌สัญ‍ญา​แล้ว พระ‌องค์​ทรง​เท​ลง​มา​ดัง​ที่​ท่าน​ทั้ง‌หลาย​ได้‌ยิน​และ​ได้‌เห็น (กิจการ 2:32-33 THSV2011)

6. ไม่มีการลงโทษสำหรับผู้ที่พระองค์ทรงเลือก

ใคร​จะ​เป็น​ผู้​ลง​โทษ​อีก? พระ‌เยซู‌คริสต์​หรือ? ผู้​สิ้น​พระ‌ชนม์​แล้ว และ​ยิ่ง​กว่า​นั้น​อีก​พระ‌เจ้า​ทรง​ให้​พระ‌องค์​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย พระ‌องค์​สถิต ณ เบื้อง‌ขวา​พระ‌หัตถ์​ของ​พระ‌เจ้า และ​ทรง​อธิษ‍ฐาน​ขอ​เพื่อ​เรา​ด้วย (โรม 8:34 THSV2011)

7. สามัคคีธรรมส่วนตัวและการปกป้องขององค์พระผู้เป็นเจ้า

และ​สอน​พวก​เขา​ให้​ถือ​รัก‍ษา​สิ่ง​สาร‍พัด​ที่​เรา​สั่ง​พวก​ท่าน​ไว้ และ​นี่‌แน่ะ เรา​จะ​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง‌หลาย​เสมอ​ไป จน‌กว่า​จะ​สิ้น​ยุค (มัทธิว 28:20 THSV2011)

8. ข้อพิสูจน์ของการพิพากษาที่จะมีมา

เพราะ​พระ‌องค์​ทรง​กำ‍หนด​วัน‌หนึ่ง​ไว้​แล้ว ใน​วัน​นั้น​พระ‌องค์​จะ​ทรง​พิพาก‍ษา​โลก​ตาม​ความ​ชอบ‌ธรรม​โดย​บุค‍คล​ที่​พระ‌องค์​ทรง​กำ‌หนด​ไว้ และ​พระ‌เจ้า​ทรง​ให้​คน​ทั้ง‌ปวง​มี​ความ​มั่น‌ใจ​ใน​เรื่อง‌นี้​โดย​ทรง​ให้​บุคคล​ผู้​นั้น​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย (กิจการ 17:31 THSV2011)

9. ความรอดจากพระพิโรธของพระเจ้าในอนาคต

และ​รอ‌คอย​พระ‌บุตร​ของ​พระ‌เจ้า​จาก​สวรรค์ ซึ่ง​พระ‌องค์​ทรง​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย คือ​พระ‌เยซู​ผู้​ทรง​ช่วย​เรา​ให้​พ้น​จาก​พระ​พิ‍โรธ​ที่​จะ​มี​มา​ภาย‌หน้า​นั้น (1 เธสะโลนิกา 1:10 THSV2011)

เพราะ‌ว่า​ถ้า​ขณะ​ที่​เรา​ยัง​เป็น​ศัตรู​ต่อ​พระ‌เจ้า​เรา​ได้​กลับ​คืน​ดี​กับ​พระ‌องค์ โดย​ที่​พระ‌บุตร​ของ​พระ‌องค์​สิ้น​พระ‌ชนม์ ยิ่ง‌กว่า​นั้น​อีก​เมื่อ​กลับ​คืน​ดี​แล้ว เรา​ก็​จะ​รอด​โดย​พระ‌ชนม์‌ชีพ​ของ​พระ‌องค์ (โรม 5:10 THSV2011)

10. การเป็นขึ้นจากความตายของพวกเราเอง

เรา​รู้​ว่า​พระ‌องค์​ผู้​ทรง​ให้​พระ‌เยซู​องค์​พระ‌ผู้‌เป็น‌เจ้า​เป็น​ขึ้น​มา​นั้น จะ​ทรง​ให้​เรา​เป็น​ขึ้น​มา​กับ​พระ‌เยซู​ด้วย และ​จะ​ทรง‌พา​เรา​เข้า​เฝ้า​พร้อม​กับ​ท่าน​ทั้ง‌หลาย (2 โครินธ์ 4:14 THSV2011)

เพราะ​ฉะนั้น เรา​จึง​ถูก​ฝัง​ไว้​กับ​พระ‌องค์​แล้ว โดย​การ​รับ​บัพ‍ติศ‍มา​เข้า​ใน​การ​ตาย​นั้น เพื่อ​ว่า​เมื่อ​พระ‌บิดา​ทรง​ให้​พระ‌คริสต์​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ตาย​โดย​พระ‌สิริ​ของ​พระ‌องค์​แล้ว เรา​ก็​จะ​ได้​ดำ‍เนิน​ตาม​ชีวิต​ใหม่​ด้วย​เหมือน​กัน (โรม 6:4 THSV2011)

ถ้า​พระ‌วิญ‍ญาณ​ของ​พระ‌องค์ ผู้​ทรง​ให้​พระ‌เยซู​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ตาย​สถิต​อยู่​ใน​ท่าน​ทั้ง‌หลาย พระ‌องค์​ผู้​ทรง​ให้​พระ‌เยซู‌คริสต์​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ตาย​แล้ว​นั้น จะ​ทรง​ทำ​ให้​กาย​ซึ่ง​ต้อง​ตาย​ของ​พวก​ท่าน​เป็น​ขึ้น​มา​ใหม่ โดย​พระ‌วิญ‍ญาณ​ของ​พระ‌องค์​ซึ่ง​สถิต​อยู่​ใน​ท่าน (โรม 8:11 THSV2011)

พระ‌เจ้า​ทรง‌ทำ​ให้​องค์​พระ‌ผู้‌เป็น‌เจ้า​เป็น​ขึ้น​มา และ​พระ‌องค์​จะ​ทรง‌ทำ​ให้​เรา​เป็น​ขึ้น​มา​โดย​ฤทธา‍นุภาพ​ของ​พระ‌องค์ (1 โครินธ์ 6:14 THSV2011)

แต่​บัด​นี้ พระ‌คริสต์​ทรง​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​แล้ว และ​ทรง​เป็น​ผล‌แรก​ของ​พวก​ที่​ล่วง‌หลับ​ไป (1 โครินธ์ 15:20 THSV2011)

 

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นขึ้นมาแล้ว!

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

หัวข้อ "ผล 10 ประการของการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู"

เมื่อวันที่ 24/03/1986

แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/taste-see-articles/what-we-owe-the-resurrection-of-jesus.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

Lenten Lights - แสงไฟแห่งเทศกาลมหาพรต (8)

Easter Sunday

HE IS GOD! He cannot stay dead. HE IS ALIVE. The true Glory of God shines in the world. The Light has won! The Eternal Light! TheBright Morning Star! The Light of the World!

The angel said to the women, "Do not be afraid, for I know that you seek Jesus who was crucified. He is not here, for he has risen, as he said. Come, see the place where he lay.

He is the image of the invisible God, the firstborn of all creation. For by him all things were created, in heaven and on earth, visible and invisible, whether thrones or dominions or rulers or authorities—all things were created through him and for him. And he is before all things, and in him all things hold together. And he is the head of the body, the church. He is the beginning, the firstborn from the dead, that in everything he might be preeminent.

For in him all the fullness of God was pleased to dwell, and through him to reconcile to himself all things, whether on earth or in heaven, making peace by the blood of his cross. And you, who once were alienated and hostile in mind, doing evil deeds, he has now reconciled in his body of flesh by his death, in order to present you holy and blameless and above reproach before him, if indeed you continue in the faith, stable and steadfast, not shifting from the hope of the gospel that you heard, which has been proclaimed in all creation under heaven.

Blessed be the God and Father of our Lord Jesus Christ! According to his great mercy, he has caused us to be born again to a living hope through the resurrection of Jesus Christ from the dead, to an inheritance that is imperishable, undefiled, and unfading, kept in heaven for you.

(Taken from Matthew 28:5-6; Colossians 1:15-23; 1 Peter 1:3-4)

The Lord is risen!
The Lord is risen, indeed!

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


วันอาทิตย์อีสเตอร์

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า! พระองค์ไม่สามารถคงอยู่ในภาพของคนตาย พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ พระสิริแท้ของพระเจ้าส่องสว่างเข้ามาในโลก แสงสว่างได้มีชัยชนะแล้ว แสงสว่างนิรันดร์! ดาวประจำรุ่งอันเจิดจ้า! แสงสว่างของโลก!

ทูต‌สวรรค์​องค์​นั้น​กล่าว​กับ​ผู้​หญิง​เหล่า​นั้น​ว่า "อย่า​กลัว​เลย เรา​รู้​แล้ว​ว่า​พวก​ท่าน​มา​หา​พระ‌เยซู​ที่​ถูก​ตรึง​กาง‌เขน พระ‌องค์​ไม่​ได้​อยู่​ที่​นี่ เพราะ​ทรง​เป็น​ขึ้น​มา​แล้ว​ตาม​ที่​พระ‌องค์​ตรัส​ไว้​นั้น จง​มา​ดู​ที่​ซึ่ง​เขา​วาง​พระ‌องค์​ไว้​นั้น"

พระ‌คริสต์​ทรง​เป็น​พระ‌ฉายา​ของ​พระ‌เจ้า​ผู้​ไม่​ทรง​ปรา‍กฏ​แก่​ตา ทรง​เป็น​บุตร‌หัวปี​เหนือ​ทุก‌สิ่ง​ที่​ทรง​สร้าง เพราะ‌ว่า​โดย​พระ‌องค์​ทุก‌สิ่ง​ได้​รับ​การ​ทรง​สร้าง​ขึ้น ทั้ง​สิ่ง​ที่​อยู่​บน​ท้อง‌ฟ้า​และ​บน​แผ่น‌ดิน​โลก ทั้ง​สิ่ง​ที่​มอง​เห็น​และ​สิ่ง​ที่​มอง​ไม่​เห็น ไม่‌ว่า​จะ​เป็น​บัล‍ลังก์​แห่ง​พวก​ภูต‌ผี หรือ​พวก​ภูต‌ผี​ที่​ปก‌ครอง หรือ​พวก​ภูต‌ผี​ที่​ครอบ‌ครอง หรือ​พวก​ภูต‌ผี​ที่​มี​อำ‍นาจ --- ทุก‌สิ่ง​ถูก​สร้าง​ขึ้น​โดย​พระ‌องค์​และ​เพื่อ​พระ‌องค์ พระ‌องค์​ทรง​ดำ‍รง​อยู่​ก่อน​ทุก​สิ่ง และ​ทุก​สิ่ง​ถูก​ยึด​เข้า​ด้วย​กัน​โดย​พระ‌องค์ พระ‌องค์​ทรง​เป็น​ศีรษะ​ของ​กาย​คือ​คริสต‍จักร พระ‌องค์​ทรง​เป็น​ปฐม ทรง​เป็น​ผู้​แรก​ที่​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย เพื่อ​ว่า​พระ‌องค์​จะ​ทรง​เป็น​เอก​ใน​ทุก‌สิ่ง

เพราะ‌ว่า​พระ‌เจ้า​พอ​พระ‌ทัย​ที่​จะ​ให้​ความ​บริ‍บูรณ์​ทั้ง‌หมด​ดำรง​อยู่​ใน​พระ‌องค์ และ​โดย​พระ‌องค์ พระเจ้า​ทรง​ให้​ทุก‌สิ่ง​คืน​ดี​กับ​พระ‌องค์​เอง ไม่​ว่า​สิ่ง​นั้น​จะ​อยู่​บน​แผ่น‌ดิน​โลก​หรือ​อยู่​บน​สวรรค์ โดย​ทรง​ทำ​ให้​เกิด​สันติ‌ภาพ​โดย​พระ‌โลหิต​แห่ง​กาง‍เขน​ของ​พระ‌องค์ และ​เมื่อ​ก่อน​นี้​พวก​ท่าน​ถูก​ตัด‌ขาด​จาก​พระ‌เจ้า และ​เป็น​ศัตรู​ใน​ใจ​โดย​การ​ทำ​ชั่ว​ต่างๆ แต่​บัด‌นี้​พระ‌เจ้า​โปรด​ให้​คืน​ดี​กับ​พระ‌องค์​เอง​โดย​ความ​ตาย​ของ​พระ‌กาย​ที่​เป็น​เนื้อ‌หนัง​ของ​พระ‌คริสต์ เพื่อ​จะ​ถวาย​พวก​ท่าน​เป็น​ผู้​บริ‍สุทธิ์ ไร้​มล‍ทิน และ​ปราศ‌จาก​ตำ‍หนิ​เฉพาะ​พระ‌พักตร์​ของ​พระ‌องค์ แต่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ต้อง​ดำ‍รง​อยู่​ใน​ความ​เชื่อ​อย่าง​แน่ว‌แน่ มั่น‌คง​และ​ไม่​โยก‌ย้าย​ไป​จาก​ความ‌หวัง​ใน​ข่าว​ประ‍เสริฐ​ที่​ท่าน​ได้​ยิน ซึ่ง​ได้​ประ‍กาศ​แก่​มนุษย์​ทุก‌คน​ทั่ว​ใต้​ฟ้า

สาธุ‌การ​แด่​พระ‌เจ้า​พระ‌บิดา​แห่ง​พระ‌เยซู​คริสต์​องค์​พระ‌ผู้‌เป็น‌เจ้า​ของ​เรา โดย​พระ‌เมต‍ตา​ล้น‌เหลือ​ของ​พระ‌องค์ ทรง​โปรด​ให้​เรา​บัง‌เกิด​ใหม่ เข้า​ใน​ความ​หวัง​ที่​ยั่ง‌ยืน โดย​การ​คืน​พระ‌ชนม์​ของ​พระ‌เยซู‌คริสต์ และ​เข้า​ใน​มร‍ดก ซึ่ง​ไม่​เสื่อม​สลาย​และ​ไร้​มล‍ทิน และ​ไม่​ร่วง‌โรย ซึ่ง​ได้​เก็บ​รัก‍ษา​ไว้​ใน​สวรรค์​แล้ว​เพื่อ​พวก​ท่าน

(จาก มัทธิว28:5-6; โคโลสี 1:15-23; 1 เปโตร 1:3-4 THSV2011)

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นขึ้นมาแล้ว!

แน่ทีเดียว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นขึ้นมาแล้ว!

 

อ. โนเอล ไพเพอร์

หัวข้อ "แสงไฟแห่งเทศกาลมหาพรต บทใคร่ครวญเพื่อเตรียมตัวสู่วันอีสเตอร์"

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage, including audio or video files, please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/articles/lenten-lights.

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

Lenten Lights - แสงไฟแห่งเทศกาลมหาพรต (7)

Good Friday

This was the darkest day in history. The Son of God himself was killed by people who weren't satisfied simply to reject him; they couldn't stand to have him exist. They thought they could put God out of existence.

And they brought him to the place called Golgotha (which means Place of a Skull). And they offered him wine mixed with myrrh, but he did not take it. And they crucified him.

"You stiff-necked people . . . you always resist the Holy Spirit. As your fathers did, so do you. Which of the prophets did not your fathers persecute? And they killed those who announced beforehand the coming of the Righteous One, whom you have now betrayed and murdered, you who received the law as delivered by angels and did not keep it."

"Hear these words: Jesus of Nazareth, a man attested to you by God with mighty works and wonders and signs that God did through him in your midst, as you yourselves know. This Jesus, delivered up according to the definite plan and foreknowledge of God, you crucified and killed by the hands of lawless men."

Surely he has borne our griefs and carried our sorrows; yet we esteemed him stricken, smitten by God, and afflicted. But he was wounded for our transgressions; he was crushed for our iniquities; upon him was the chastisement that brought us peace, and with his stripes we are healed. All we like sheep have gone astray; we have turned every one to his own way; and the LORD has laid on him the iniquity of us all.

(Taken from Mark 15:22-24; Acts 7:51-53; Isaiah 53:4-6)

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


วันศุกร์ประเสริฐ

นี่เป็นวันที่มืดทึบที่สุดในประวัติศาสตร์ พระบุตรของพระเจ้าพระองค์เองถูกฆ่าโดยประชากรผู้ซึ่งไม่พึงพอใจเพียงแค่ที่ได้ปฏิเสธพระองค์ พวกเขาทนไม่ได้ที่จะให้พระองค์มีชีวิตอยู่ พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถกำจัดพระเจ้าออกจากการดำรงอยู่

พวก​เขา​พา​พระ‌องค์​มา​ถึง​ที่​แห่ง​หนึ่ง​ชื่อ​กลโก‍ธา (แปล​ว่า​กะ‌โหลก​ศีรษะ) แล้ว​พวก​เขา​เอา​เหล้า‌องุ่น​ผสม​กับ​มด‍ยอบ​ให้​พระ‌องค์​เสวย แต่​พระ‌องค์​ไม่​ทรง​รับ แล้ว​พวก​เขา​ก็​ตรึง​พระ‌องค์​ที่​กาง‌เขน ...

"เจ้า​พวก​คน​หัว​แข็ง ... พวก​ท่าน​ขัด​ขวาง​พระ‌วิญ‍ญาณ‌บริ‍สุทธิ์​อยู่​เสมอ บรรพ‍บุรุษ​ของ​ท่าน​ทั้ง‌หลาย​ทำ​อย่าง‌ไร พวก​ท่าน​ก็​ทำ​อย่าง​นั้น มี​ใคร​บ้าง​ใน​บรร‍ดา​ผู้​เผย​พระ‌วจนะ​ที่​บรรพ‍บุรุษ​ทั้ง‌หลาย​ของ​พวก​ท่าน​ไม่​ได้​ข่ม‌เหง? พวก​เขา​ฆ่า​คน​ทั้ง‌หลาย​ที่​พยา‍กรณ์​ถึง​การ​เสด็จ​มา​ของ 'องค์​ผู้​ชอบ‌ธรรม' และ​บัด‌นี้​ท่าน​ทั้ง‌หลาย​ก็​ทรยศ​และ​ฆ่า​พระ‍องค์ คือ​พวก​ท่าน​ที่​ได้​รับ​ธรรม​บัญ‍ญัติ​จาก​เหล่า​ทูต‌สวรรค์ แต่​ไม่​ได้​ประ‍พฤติ​ตาม​ธรรม​บัญ‍ญัติ​นั้น"

"จง​ฟัง​เรื่อง​ต่อ​ไป​นี้ คือ​พระ‌เยซู​ชาว​นา‍ซา‍เร็ธ​ผู้​ที่​พระ‌เจ้า​ทรง​รับ‌รอง​ต่อ​ท่าน​ทั้ง‌หลาย โดย​การ​อิทธิ‍ฤทธิ์ การ​อัศ‍จรรย์​และ​หมาย​สำ‍คัญ​ต่างๆ ที่​พระ‌เจ้า​ได้​ทรง​ทำ​โดย​พระ‌องค์​ท่าม‌กลาง​ท่าน​ทั้ง‌หลาย ดัง​ที่​พวก​ท่าน​ทราบ​อยู่​แล้ว พระ‍เยซู​องค์​นี้​ทรง​ถูก‌มอบ​ไว้​ตาม​ที่​พระ‌เจ้า​ทรง​ดำริ​แน่‌นอน​และ​ทรง‌ทราบ​ล่วง‌หน้า และ​ท่าน​ทั้ง‌หลาย​ได้​ประ‍หาร​พระ‌องค์​ด้วย​การ‌ตรึง​พระ‌องค์​บน​กาง‌เขน​โดย​อา‍ศัย​น้ำ‌มือ​ของ​คน​อธรรม"

แน่​ที‌เดียว​ท่าน​แบก​ความ‌เจ็บ​ไข้​ของ​พวก​เรา และ​หอบ​ความ‌เจ็บ‌ปวด​ของ​เรา​ไป กระ‍นั้น​พวก​เรา​ยัง​คิด​ว่า​ที่​ท่าน​ถูก​ตี คือ​ถูก​พระ‌เจ้า​ทรง‌โบย‌ตี​และ​ข่ม‌ใจ แต่​ท่าน​ถูก​แทงt​เพราะ​ความ​ทร‍ยศ​ของ​เรา ท่าน​บอบ‌ช้ำ​เพราะ​ความ‌บาปผิด​ของ​เรา การ​ตี‌สอน​ที่​ตก​บน​ท่าน​นั้น​ทำ​ให้​พวก​เรา​มี​สวัสดิ‌ภาพ และ​ที่​ท่าน​ถูก​เฆี่ยนตี​ก็​ทำให้​เรา​ได้​รับ​การ​รัก‍ษา เรา​ทุก‌คน​หลง​ทาง​ไป​เหมือน​แกะ ต่าง​คน​ต่าง​หัน​ไป​ตาม​ทาง​

(จาก มาระโก 15:22-24; กิจการ 7:51-53; 2:22-23 อิสยาห์ 53:4-6 THSV2011)

 

อ. โนเอล ไพเพอร์

หัวข้อ "แสงไฟแห่งเทศกาลมหาพรต บทใคร่ครวญเพื่อเตรียมตัวสู่วันอีสเตอร์"

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage, including audio or video files, please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/articles/lenten-lights.

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

Lenten Lights - แสงไฟแห่งเทศกาลมหาพรต (6)

Thursday before Easter

God made very sure that we could understand who he is, what he is like, and what he wants for us and what he wants from us. He did this by sending his Son, Jesus. Now we don't have just the written Word, we have the Living Word—a real person. When people watched Jesus, they were seeing God.

BUT even God himself, God in person, was rejected. People hated him and rejected his message from God.

For God so loved the world, that he gave his only Son, that whoever believes in him should not perish but have eternal life.

And while they were there, the time came for her to give birth. And she gave birth to her firstborn son and wrapped him in swaddling cloths and laid him in a manger, because there was no place for them in the inn.

He was despised and rejected by men; a man of sorrows, and acquainted with grief; and as one from whom men hide their faces he was despised, and we esteemed him not.

And taking the twelve again, he began to tell them what was to happen to him, saying, "See, we are going up to Jerusalem, and the Son of Man will be delivered over to the chief priests and the scribes, and they will condemn him to death and deliver him over to the Gentiles. And they will mock him and spit on him, and flog him and kill him."

(Taken from John 3:16; Luke 2:6-7; Isaiah 53:3; Mark 10:32-34)

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


วันพฤหัสบดีก่อนวันอีสเตอร์

พระเจ้าได้ทำให้มั่นพระทัยว่าเราจะสามารถเข้าใจว่าพระองค์เป็นผู้ใด พระองค์มีลักษณะเช่นไร และพระองค์ต้องการสิ่งใดสำหรับพวกเรา และพระองค์ต้องการสิ่งใดจากพวกเรา พระองค์ทรงทำสิ่งนี้โดยการส่งพระเยซูพระบุตร บัดนี้เราไม่ได้มีเพียงแต่พระวาทะที่ถูกเขียนขึ้นมา เรามีพระวาทะที่ดำรงพระชนม์อยู่ เป็นบุคคลจริง ๆ เมื่อผู้คนเฝ้ามองพระเยซู พวกเขากำลังเห็นพระเจ้า

แต่แม้แต่พระเจ้าในสภาวะบุคคลพระองค์เอง ก็ยังโดนปฏิเสธ ผู้คนเกลียดชังพระองค์และปฏิเสธข้อความจากพระเจ้า

พระ‌เจ้า​ทรง‌รัก​โลก​ดัง​นี้ คือ​ได้​ประทาน​พระ‌บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ‌องค์ เพื่อ​ทุก‌คน​ที่​วาง‌ใจ​ใน​พระ‌บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์

ขณะ​เขา​ทั้ง‌สอง​อยู่​ที่​นั่น ก็​ถึง​เวลา​ที่​มา‍รีย์​จะ​คลอด​บุตร นาง​จึง​คลอด​บุตร‌ชาย​หัวปี เอา​ผ้า‌อ้อม​พัน​และ​วาง​ไว้​ใน​ราง‌หญ้า เพราะ‌ว่า​ไม่​มี​ที่​ว่าง​ใน​โรง‌แรม​สำ‍หรับ​พวก​เขา

ท่าน​ถูก​ดู‌หมิ่น​และ​ถูก​ทอด‌ทิ้ง เป็น​คน​ที่​รับ​ความ‌เจ็บ‌ปวด และ​คุ้น‌เคย​กับ​ความ​ทุกข์‌ยาก และ​เป็น​ดั่ง​ผู้​ซึ่ง​คน​ทั้ง‌หลาย​หัน​หน้า​หนี ท่าน​ถูก​ดู‌หมิ่น และ​เรา​ไม่‌ได้​นับ‌ถือ​ท่าน

พระ‌องค์​จึง​ทรง​พา​สา‍วก​สิบ‌สอง​คน​แยก​ออก​มา​อีก แล้ว​ตรัส​ให้​พวก​เขา​ทราบ​ถึง​เหตุ‌การณ์​ที่​จะ​เกิด​กับ​พระ‌องค์​นั้น​ว่า "นี่แน่ะ พวก​เรา​จะ​ขึ้น​ไป​ยัง​กรุง​เยรู‍ซา‍เล็ม และ​บุตร‌มนุษย์​จะ​ทรง​ถูก​มอบ​ไว้​กับ​พวก​หัว‌หน้า​ปุโร‍หิต​และ​พวก​ธรร‍มา‍จารย์ และ​เขา​เหล่า‌นั้น​จะ​ลง‌โทษ​ท่าน​ถึง​ตาย และ​จะ​มอบ​ท่าน​ไว้​กับ​บรร‍ดา​คน​ต่าง​ชาติ คน​ต่าง‌ชาติ​เหล่า‌นั้น​จะ​เยาะ‌เย้ย​ท่าน ถ่ม​น้ำ‌ลาย​รด​ท่าน จะ​เฆี่ยน​ตี​ท่าน​และ​จะ​ฆ่า​ท่าน"

(จาก ยอห์น 3:16; ลูกา 2:6-7; อิสยาห์ 53:3; มาระโก 10:32-34 THSV2011)

 

อ. โนเอล ไพเพอร์

หัวข้อ "แสงไฟแห่งเทศกาลมหาพรต บทใคร่ครวญเพื่อเตรียมตัวสู่วันอีสเตอร์"

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage, including audio or video files, please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/articles/lenten-lights.

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

Lenten Lights - แสงไฟแห่งเทศกาลมหาพรต (5)

Wednesday before Easter

God wants people to be happy. And the only way we can be happy is by following his instructions. So he gave us his Word, his written Word, to make very clear to us where our life comes from and how we can keep it.

BUT again and again we think our ideas are better than God's. And we turn from life to death.

The law of the LORD is perfect, reviving the soul; the testimony of the LORD is sure, making wise the simple; the precepts of the LORD are right, rejoicing the heart; the commandment of the LORD is pure, enlightening the eyes; the fear of the LORD is clean, enduring forever; the rules of the LORD are true, and righteous altogether.

More to be desired are they than gold, even much fine gold; sweeter also than honey and drippings of the honeycomb. Moreover, by them is your servant warned; in keeping them there is great reward.

I [Daniel] prayed to the LORD my God and made confession, saying, "O Lord, the great and awesome God, who keeps covenant and steadfast love with those who love him and keep his commandments, we have sinned and done wrong and acted wickedly and rebelled, turning aside from your commandments and rules. We have not listened to your servants the prophets, who spoke in your name to our kings, our princes, and our fathers, and to all the people of the land.

To you, O Lord, belongs righteousness, but to us open shame . . . because we have sinned against you. To the Lord our God belong mercy and forgiveness, for we have rebelled against him and have not obeyed the voice of the LORD our God by walking in his laws, which he set before us by his servants the prophets. All Israel has transgressed your law and turned aside, refusing to obey your voice.

(Taken from Psalm 19:7-11; Daniel 9:4-11)

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org


วันพุธก่อนวันอีสเตอร์

พระเจ้าต้องการให้ประชากรมีความสุข และวิธีเดียวที่เราจะสามารถมีความสุขได้ ก็คือโดยการทำตามคำแนะนำของพระองค์ ดังนั้นพระองค์ประทานพระวาทะของพระองค์ให้กับเรา เพื่อทำให้เราได้เข้าใจชัดเจนว่าชีวิตของเรามาจากไหน และเราจะสามารถรักษาชีวิตนี้ได้อย่างไร

แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า เราคิดว่าความคิดของเรานั้นดีกว่าของพระเจ้า และเราหันจากชีวิตสู่ความตาย

ธรรม‍บัญ‍ญัติ​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์​ดี​พร้อม และ​ฟื้น‌ฟู​ชีวิต พระ‌โอ‍วาท​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์​นั้น​แน่‌นอน ทำ​ให้​คน​รู้​น้อยt​มี​ปัญ‍ญา ข้อ‌บัง‍คับ​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์​นั้น​ถูก‌ต้อง ทำ​ให้​ใจ​ยินดี พระ‌บัญ‍ญัติ​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์​นั้น​บริ‍สุทธิ์ ทำ​ให้​ดวง‌ตา​กระ‍จ่าง​แจ้ง ความ​ยำ‍เกรง​พระ‌ยาห์‍เวห์​นั้น​สะอาด​หมด‌จด ถา‍วร​เป็น​นิตย์ กฎ‌หมาย​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์​ก็​สัตย์‌จริง และ​ชอบ‌ธรรม​ทั้ง‌สิ้น

น่า​ปรารถ‍นา​มาก‌กว่า​ทอง‌คำ ยิ่ง‌กว่า​ทอง​บริ‍สุทธิ์​มาก​นัก หวาน​ยิ่ง‌กว่า​น้ำ‌ผึ้ง ที่​หยด​ลง​จาก​รวง อนึ่ง สิ่ง​เหล่า‌นี้​เป็น​ที่​ตัก‌เตือน​ผู้‌รับ‌ใช้​ของ​พระ‌องค์ การ​รัก‍ษา​ข้อ‌ความ​เหล่า‌นั้น​ก็​ได้​บำ‍เหน็จ​ยิ่ง‌ใหญ่

ข้าพ‍เจ้า (ดาเนียล) ​ได้​อธิษ‍ฐาน​ต่อ​พระ‌ยาห์‍เวห์​พระ‌เจ้า​ของ​ข้าพ‍เจ้า และ​สาร‍ภาพ​ว่า "ข้า‌แต่​องค์​เจ้า​นาย พระ‌เจ้า​ผู้​ใหญ่​ยิ่ง​และ​น่า​เกรง​ขาม ผู้​ทรง​รัก‍ษา​พันธ‍สัญ‍ญา​และ​ความ​รัก​มั่น‌คง​ต่อ​ผู้​ที่​รัก​พระ‌องค์​และ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ‌บัญ‍ญัติ​ของ​พระ‌องค์ ข้า‌พระ‌องค์​ทั้ง‌หลาย​ได้​ทำ​บาป และ​ได้​ทำ​ผิด ได้​ก่อ​การ​อธรรม​และ​การ​กบฏ ได้​หัน​จาก​พระ‌บัญ‍ญัติ​และ​กฎ‌หมาย​ของ​พระ‌องค์ ข้า‌พระ‌องค์​ไม่‌ได้​ฟัง​บรร‍ดา​ผู้​เผย​พระ‌วจนะ​ผู้​รับ‌ใช้​ของ​พระ‌องค์ ผู้​กล่าว​ใน​พระ‌นาม​ของ​พระ‌องค์​ต่อ​บรร‍ดา​กษัตริย์​ของ​ข้า‌พระ‌องค์​ทั้ง‌หลาย ทั้ง​ต่อ​บรร‍ดา​ผู้​นำ​และ​บรรพ‍บุรุษ​ของ​ข้า‌พระ‌องค์ รวม​ทั้ง​ประ‍ชา‌ชน​ทุก​คน​ของ​แผ่น‌ดิน

ข้า‌แต่​องค์​เจ้า​นาย ความ​ชอบ‌ธรรม​เป็น​ของ​พระ‌องค์ แต่​ความ​อับ‌อาย​ควร​แก่​พวก​ข้า‌พระ‌องค์​จน​ถึง​ทุก​วัน‌นี้ ... เพราะ​ข้า‌พระ‌องค์​ทั้ง‌หลาย​ได้​ทำ​บาป​ต่อ​พระ‌องค์ พระ‌กรุ‍ณา​และ​การ​อภัย​โทษ​เป็น​ของ​องค์​เจ้า‌นาย​พระ‌เจ้า​ของ​ข้า‌พระ‌องค์​ทั้ง‌หลาย เพราะ​ว่า​พวก​ข้า‌พระ‌องค์​ได้​กบฏ​ต่อ​พระ‌องค์ และ​ไม่​เชื่อ‌ฟัง​พระ‌ยาห์‍เวห์​พระ‌เจ้า​ของ​ข้า‌พระ‌องค์​ทั้ง‌หลาย​ที่​ให้​ทำ​ตาม​ธรรม‍บัญ‍ญัติ​ของ​พระ‌องค์ ซึ่ง​ทรง​ตั้ง​ไว้​ต่อ‌หน้า​ข้า‌พระ‌องค์​ทั้ง‌หลาย ผ่าน​บรร‍ดา​ผู้​เผย​พระ‌วจนะ​ผู้​รับ‌ใช้​ของ​พระ‌องค์ อิส‍รา‍เอล​ทั้ง‌ชาติ​ได้​ทำ​ผิด​ต่อ​ธรรม‌บัญ‍ญัติ​ของ​พระ‌องค์​และ​ได้​หัน​ไป​เสีย ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระ‌องค์"

(จาก สดุดี 19:7-11; ดาเนียล 9:4-11 THSV2011)

 

อ. โนเอล ไพเพอร์

หัวข้อ "แสงไฟแห่งเทศกาลมหาพรต บทใคร่ครวญเพื่อเตรียมตัวสู่วันอีสเตอร์"

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

For original passage, including audio or video files, please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/articles/lenten-lights.