วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อย่าลืม (4/8)

อย่ามองที่ความดีของตนเอง (1)

บางครั้งเราสุขอยู่ในทางธรรม มีชีวิตที่บริสุทธิ์ แต่เรากลับภูมิใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง เมื่อมองนาน ๆ ก็อาจคิดว่าตัวเองเป็นดังอัครทูต ภาคภูมิใจในความสมบูรณ์พร้อมที่ไม่ได้ทำผิดในทางของพระเจ้า แววตา สีหน้า ท่าทางของเราบางครั้งก็จะข่มผู้อื่น แม้จะไม่ได้พูดออกมา แต่ก็แสดงออกมาว่า ตนเองจะไม่มีทางทำผิดแบบคนอื่น

การมองที่ความดีของตนเอง อาจวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อผู้อื่น โดยถือว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิด ต่ำชั้น แย่

นี่แปลว่าอะไร? เป็นเพราะไม่ได้มองที่พระคุณพระเจ้า ลืมไปว่าเราแต่ละคนมีศักดิ์ศรีเพียงแค่ผลคลีดิน แต่เรากลับพบว่าผงคลีดินกลับมาข่มทับกันเอง

มีใครบ้างที่คู่ควรกับการทรงไถ่? มีใครบ้างที่ไม่มีจุดอ่อน? ใจของเราจริง ๆ แล้วไม่ได้แข็งแกร่ง แต่บอบบาง เป็นแผลง่าย ๆ เพียงแค่โดนชมหน่อย ก็จะหน้าบาน และที่ชัดเจนยิ่งกว่าคือการโดนด่า แม้ว่าอาจไม่ใช่ความจริง แต่กลับเดือดร้อนไปหลายวัน แม้รู้ว่าสิ่งที่พูดนั้นไม่จริงเลย แต่ก็กลับยอมโดนหลอกด้วยคำพูดเหล่านั้น

มีใครบ้างที่ไม่มีจุดอ่อนที่จิตใจ? มีใครบ้างที่ไม่มีจุดอ่อนเรื่องเพศ? มีใครบ้างที่ไม่มีจุดอ่อนเรื่องความโลภ หรือเรื่องความงก? มีใครบ้างไม่มีจุดอ่อนเรื่องความเย่อหยิ่ง หรือไม่เคยสะใจในความผิดพลาดของผู้อื่นเลย? ทุกคนมีจุดอ่อนทั้งสิ้น และคนที่ดูเหมือนไม่มีข้อบกพร่อง ก็เป็นเพราะไม่เคยถูกบีบคั้นในส่วนที่เป็นจุุดอ่อนของตน แต่หากว่าเราแต่ละคน ต้องประสบกับความกดดันจนถึงที่สุด เราอาจสามารถทำสิ่งที่เราไม่คิดที่จะทำได้เลย อาจสามารถเป็นได้แม้กระทั่งโจรใจเหี้ยมหรือหญิงโสเภณี

เมื่ออิสราเอลถูกล้อม ไม่มีทหารเหลือ เพชรพลอยทั้งสิ้นถูกทิ้งเกลื่อนกลาด ผู้คนต่างแย่งชิงอาหาร คนใส่เสื้อสีม่วงกลับต้องนอนบนกองขยะ คนอิสราเอลเหล่านั้นก็ถูกบีบคั้นให้ทำสิ่งที่ชั่วร้าย แม้กระทั่งต้มลูกของตนเองกิน

"มือของหญิงที่ใจอ่อน กลับเอาลูกของตัวต้มกิน ลูกที่ถูกต้มเป็นอาหารนั้น กินกันเมื่อยามหายนะมาสู่ธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้า" (บทเพลงคร่ำครวญ 4:10)

เมื่อเราอยู่ในทางธรรม อย่าคิดว่าเราดีเอง แต่เป็นเพราะว่าเราไม่ได้ถูกกดดันในส่วนที่เป็นจุดอ่อนของเรา

นี่คือความจริง คือ เขาก็เป็นเพียงผงคลีดิน และเราก็เป็นเพียงผงคลีดินเช่นกัน ไม่มีใครแข็งแรงตลอดเวลาหรืออ่อนแอตลอดเวลา ทุกคนมีช่วงที่ดีขึ้นและช่วงที่ตกต่ำลง ขอที่เราจะรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง


อ. ชัยราช กิจเกื้อกูล (พี่ด้องYFC)

คำเทศนาค่ายสามคณะ คริสตจักรสะพานเหลือง "กายเดียวกัน" ตอนที่ 1

ระหว่างวันที่ 23-25/10/2010 ณ อาราญาน่า ภูพิมาน รีสอร์ทแอนด์สปา

เมื่อคืนวันที่ 23/07/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ


วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อย่าลืม (3/8)

อย่ามองที่ความสำเร็จ (2)

คนหนึ่ง เขียนคำพยานว่า เมื่อทำวิทยานิพนธ์ อาจารย์ที่ปรึกษาได้มาดูและบอกว่า งานวิทยานิพนธ์ของเขาเป็นระดับนานาชาติ เป็น masterpiece ด้วยเหตุนี้ เขาจึงคิดว่าตัวเองเก่ง ไม่มีพระเจ้าก็สามารถทำได้ แต่เมื่อเขาส่งวิทยานิพนธ์นี้ เขากลับไม่ผ่าน

หลังจากนั้น เขาก็ได้กลับใจ อธิษฐานต่อพระเจ้า และลองส่งผลงานชิ้นเดิมไปใหม่ เขาก็ผ่านได้โดยไม่ต้องแก้อะไรเลย

เรามีประสบการณ์หรือไม่ ที่อ่านหนังสือเตรียมสอบจนไม่มานมัสการที่คริสตจักรในวันอาทิตย์ แต่อ่านแล้วก็กลับจำไม่ได้? หลายคนอ่านหนังสือดีมาก คิดว่าต้องได้ A แน่นอน แต่กลับตก ในขณะที่บางคนคิดว่าตกแน่ ๆ กับได้เกรดดี ๆ

มีคนหนึ่ง เขามีความตั้งใจที่จะรับใช้พระเจ้าเต็มที่ในวันอาทิตย์ เขาจัดเวลาดีมากในระหว่างสัปดาห์ เพื่อที่วันอาทิตย์เขาสามารถรับใช้พระเจ้า ครั้งหนึ่ง เขาจะต้องสอบวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งเขาไม่ถนัดและไม่พร้อมเลย คืนก่อนสอบเขาก็มีประชุมกรรมการที่คริสตจักร แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะรับใช้เต็มที่ และเข้าร่วมประชุม เขาใช้ช่วงเวลาในการประชุมที่เขาไม่เกี่ยวข้องในการอ่านหนังสือ ซึ่งรวมเวลาทั้งหมดได้ไม่เกิน 30 นาที วันรุ่งขึ้นเขาก็ไปสอน และพระเจ้าก็ทรงนำให้เขาได้คะแนนสูงสุดในชั้นเรียน

ถ้าพระเจ้าไม่ให้โอกาส หรือไม่ได้สนับสนุน เราก็จะไม่มีทางที่จะทำอะไรได้ อย่าลืม มองพระคุณพระเจ้าบ่อย ๆ แล้วเข็มขัดแห่งความรอดจะแน่น แต่ถ้ามองที่ตัวเองบ่อย ๆ เข็มขัดนั้นจะหลวมและหลุดได้ง่าย

พระเจ้าทรงนำเนบูคัดเนซซาร์ให้ได้ขยายอาณาจักรจนมีอาณาจักรใหญ่โต เมื่อท่านได้มองดูดินแดนของท่าน ก็เกิดความลำพอง และพระเจ้าก็ทรงลงโทษเขา

"28 สิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นได้บังเกิดขึ้นแก่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
29 พอสิ้นสิบสองเดือน พระองค์เสด็จดำเนินอยู่บนดาดฟ้าพระราชวังที่บาบิโลน
30 และพระราชาตรัสว่า 'นี่เป็นมหาบาบิโลนมิใช่หรือ ซึ่งเราได้สร้างไว้ด้วยอำนาจใหญ่ยิ่งของเรา ให้เป็นราชฐานและเพื่อเป็นศักดิ์ศรีอันสูงส่งของเรา'
31 เมื่อพระราชาตรัสยังไม่ทันขาดพระวาทะ ก็มีเสียงตกลงมาจากฟ้าสวรรค์ว่า 'โอ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เราลั่นวาจาไว้กับเจ้าแล้วว่า ราชอาณาจักรได้พรากไปเสียจากเจ้าแล้ว
32 และเจ้าจะถูกขับไล่ไปจากท่ามกลางมนุษย์ และเจ้าจะอยู่กับสัตว์ในทุ่งนา และเจ้าจะต้องกินหญ้าอย่างกับโค จะเป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ จนกว่าเจ้าจะเรียนรู้ได้ว่า ผู้สูงสุดปกครองอยู่เหนือราชอาณาจักรของมนุษย์ และประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์จะประทาน'
33 ในทันใดนั้นเอง พระวาทะก็สำเร็จในเรื่องเนบูคัดเนสซาร์ พระองค์ถูกขับไล่ไปจากท่ามกลางมนุษย์ และเสวยหญ้าอย่างกับโค และพระกายก็เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จนพระเกศางอกยาวอย่างกับขนนกอินทรี และพระนขาก็เหมือนเล็บนก" (ดาเนียล 4:28-33)

อย่าให้สถานการณ์ต่าง ๆ หลอกเรา แม้แต่ลึก ๆ ในใจ เพราะสิ่งนี้จะขยายจนเต็มหัวใจของเรา

"ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงเฝ้าอยู่เหนือนคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า" (สดุดี 127:1)

"ความยำเกรงพระเจ้าเป็นความเกลียดชังความชั่วร้าย เราเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหอง และทางของความชั่วร้ายกับวาจาตลบตะแลง" (สุภาษิต 8:3)

พระเจ้าทรงเกลียดคนเย่อหยิ่ง คนจองหอง

เวลาเราเกลียดคนบางคน เราจะทำอะไร? บางครั้งเราอาจจะแกล้ง หรือไม่สนใจเขา ถ้าเราทำได้ ด้วยแรงริษยาเราอาจทำลายเขาได้ แต่แม้ว่าพระเจ้าจะทรงเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหองซึ่งอยู่ในใจของเรา เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นความชั่วร้าย แต่พระเจ้าก็มิได้ทรงทอดทิ้งเรา พระองค์ทรงติดตามเราเสมอ พยุงรักษาเราไว้ พระเจ้าไม่ได้แกล้งเราให้ย่ำแย่ นี่แหละ คือพระคุณ ทั้ง ๆ ที่เราเองมักจะอวดตัว เย่อหยิ่ง ขโมยผลงานของพระเจ้าเป็นผลงานของตนเอง ชอบแสดงความฉลาดออกมาทางคำพูด ทำสิ่งที่น่าเกลียดในสายพระเนตรของพระเจ้า ถึงกระนั้น พระองค์ก็ยังทรงประทานความสำเร็จในเราเรื่อย ๆ


อ. ชัยราช กิจเกื้อกูล (พี่ด้องYFC)

คำเทศนาค่ายสามคณะ คริสตจักรสะพานเหลือง "กายเดียวกัน" ตอนที่ 1

ระหว่างวันที่ 23-25/10/2010 ณ อาราญาน่า ภูพิมาน รีสอร์ทแอนด์สปา

เมื่อคืนวันที่ 23/07/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ


วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อย่าลืม (2/8)

อย่ามองที่ความสำเร็จ (1)

ถ้าเรามองเรื่องความสำเร็จนาน ๆ ใจเราจะผยอง แม้ปากจะบอกว่าขอบคุณพระเจ้า แต่ลึก ๆ ในใจ มีความผยองแอบซ่อนอยู่ แม้จะเล็กน้อย แต่สิ่งนั้นจะบงการชีวิตของเรา และแสดงออกมาในแววตา สีหน้า คำพูด และเมื่อเรามองความสำเร็จของตนเองนาน ๆ เราจะลืมพระคุณของพระเจ้า เป็นผลให้เข็มขัดหลุด เพราะจะไม่มีความจริงคาดเอวอยู

สมัยโยชูวานำทัพอิสราเอลยึดคานาอัน คนอิสราเอล อันประกอบด้วยทหารหลายแสนคน ถืออาวุธไปโจมตีศัตรู พวกเขาเหนื่อยมาก อาจไม่ได้กิน ไม่ได้นอน เอาชีวิตของตนเองเสี่ยง จนยึดดินแดนได้ เพราะพระเจ้าทรงประทานแผ่นดินแห่งนั้นให้อิสราเอล

"24 เชื้อสายเหล่านั้นจึงเข้าไปและยึดแผ่นดินนั้น พระองค์ทรงปราบปรามชาวแผ่นดินนั้น คือคนคานาอันให้พ้นหน้าเขาและทรงมอบเขาทั้งหลาย ไว้ในมือของเขา พร้อมกับพระราชาและชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ให้ได้กระทำแก่คนเหล่านั้นตามชอบใจเขา
25 และเขาจึงเข้ายึดหัวเมืองที่มีป้อมและแผ่นดินอุดม และถือกรรมสิทธิ์เรือนซึ่งเต็มด้วยของดีทั้งปวง ทั้งที่ขังน้ำซึ่งสกัดไว้ สวนองุ่น สวนมะกอกเทศ และต้นไม้ผลมากมาย เขาจึงได้กินอิ่มจนอ้วน และปีติยินดีในพระคุณยิ่งของพระองค์" (เนหะมีย์ 9:24-25)

เมื่ออิสราเอลออกจากอียิปต์ พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ในการสู้รบเลย เพราะไม่เคยได้รับการฝึกทหารเลย เมื่อเทียบกับทหารของเมืองต่าง ๆ ในแผ่นดินคานาอัน 30 กว่าเมือง ที่มีประสบการณ์ในการสู้รบ เข้มแข็ง และเวลานั้นทหารมือใหม่ก็ได้ไปต่อสู้กับทหารมือเก่าซึ่งเต็มด้วยประสบการณ์ แต่โดยพระเจ้า พวกเขาจึงสามารถชนะได้ และถ้าไม่มีพระเจ้า พวกเขาจะขนะไม่ได้เลย

อย่ามองความสำเร็จของตนเองบ่อยนัก เพราะถ้าเรายิ่งมอง ก็จะยิ่งอิน ยิ่งพูดในใจว่าตัวเองเจ๋งไม่ใช่เล่น

เมื่อเราทำงานหนัก ๆ ต้องแก้ปัญหาต่าง ๆ ต้องฝ่าฟัน เหนื่อยกายเหนื่อยใจ และเมื่อเสร็จ เราก็จะอดคิดในใจไม่ได้ว่าเราเก่งไม่ใช่เล่น เมื่อสิ่งนี้เข้ามาในใจ เราอาจจะไม่กล้าพูดออกมา เก็บไว้ในใจ แต่ขอที่เราจะไม่ลืมพระคุณพระเจ้า อย่ามองตัวเองนาน ๆ อย่ามองความสำเร็จของตนเองนาน ๆ แต่มองที่พระคุณของพระเจ้านาน ๆ


อ. ชัยราช กิจเกื้อกูล (พี่ด้องYFC)

คำเทศนาค่ายสามคณะ คริสตจักรสะพานเหลือง "กายเดียวกัน" ตอนที่ 1

ระหว่างวันที่ 23-25/10/2010 ณ อาราญาน่า ภูพิมาน รีสอร์ทแอนด์สปา

เมื่อคืนวันที่ 23/07/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ


วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อย่าลืม (1/8)


"1 จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า และทั้งสิ้นที่อยู่ภายในข้า จงถวายสาธุการแด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์
2 จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเจ้า และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์" (สดุดี 103:1-2)


อย่าลืม

พระคัมภีร์ตอนนี้ สอนให้เราสื่อสารกับตัวเอง ให้เราพูดกับตัวเองเสมอว่า "อย่าลืม"

คำว่า "อย่าลืม" ในที่นี้ มิได้หมายความว่าข้อมูลได้หายไป หรือว่าเราจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่การลืมในที่นี้ แปลว่า การที่เราไปจดจ่อเรื่องอื่น ๆ มากเกินไป ทำให้เราเองให้น้ำหนักกับความจริงของพระเจ้าน้อยลง

ละครหลังข่าว ถ้าหากว่าเราติดตามดูนาน ๆ เราก็จะอินกับพระเอกนางเอก แต่เมื่อหนังอวสานแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็จะถูกหลงลืมไป และเราก็จะไปอินกับเรื่องใหม่ ๆ แทน แต่เมื่อนำหนังเรื่องนั้นกลับมาถ่ายทำใหม่ หนังเรื่องนั้นก็จะกลับมาฮิตกันใหม่

การที่เราจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนาน ๆ เราจะอินกับสิ่งนั้น ดังนั้น ขอที่เราจะไม่จดจ่อเรื่องอื่นเรื่องใดนานเกินไป แต่ขอที่เราจะจดจ่อกับพระคุณของพระเจ้านาน ๆ นี่เป็นลักษณะของการนำเอาความจริงคาดเอว และถ้าเราจดจ่อเรื่องอื่นนาน ๆ ไม่เอาความจริงคาดเอวเอาไว้ ระวังเข็มขัดจะหลุด

บางครั้งเราอาจจะจดจ่อกับเรื่องอื่น ๆ แม้แต่ในขณะที่กำลังนมัสการหรือเฝ้าเดี่ยว


อ. ชัยราช กิจเกื้อกูล (พี่ด้องYFC)

คำเทศนาค่ายสามคณะ คริสตจักรสะพานเหลือง "กายเดียวกัน" ตอนที่ 1

ระหว่างวันที่ 23-25/10/2010 ณ อาราญาน่า ภูพิมาน รีสอร์ทแอนด์สปา

เมื่อคืนวันที่ 23/07/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ