วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 06 กรกฎาคม



บทความสอนใจประจำวัน 06 กรกฎาคม

"พระเจ้าสถิตกับเรา" (อิสยาห์ 8:10 THSV2011)

ประชากรของพระเจ้าไม่ควรรู้สึกเหงาเลย เพราะพวกเขาไม่มีทางที่จะอยู่อย่างเดียวดาย

พระเจ้าอยู่กับพวกเขา เป็นผู้สังเกตการณ์ที่เฝ้าดูทุกความคิด คำพูด และการกระทำ ทุกการทดลองและอันตราย

พระองค์อยู่กับพวกเขา เป็นพระบิดาที่เปี่ยมด้วยความรักแท้ และคอยพูดคุยกับพวกเขา

พระองค์อยู่กับพวกเขา เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าจอมทัพที่คอยควบคุมกองทัพบนโลกนี้และในสวรรค์ให้อยู่ภายใต้การชี้ทางของพระองค์

พระองค์อยู่กับพวกเขา เป็นผู้นำทางและที่ปรึกษาที่นำพวกเขาไป เป็นสหายที่ปลอบใจพวกเขา เป็นพระผู้ช่วยที่นำพวกเขาให้พ้นภัย และเป็นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ที่เกลียดชังความบาป

พระองค์อยู่กับพวกเขาเพื่อตักเตือนและทดสอบพวกเขา เพื่อสอนให้พวกเขาถ่อมใจและพิทักษ์รักษาพวกเขาไว้ เพื่อปลอบใจและช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นด้วยความหลุดพ้นนิรันดร์

ขอให้เราระลึกว่า พระเจ้าอยู่กับเราและอยู่ฝ่ายเราเสมอ และ "ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครจะขัดขวางเราได้?" (โรม 8:31 THSV2011)

"เพราะฟ้าสูงเหนือแผ่นดินเท่าใด ความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์ก็ใหญ่ยิ่งเท่านั้น 
ตะวันออกไกลจากตะวันตกเท่าใด พระองค์ทรงปลดการละเมิดไปไกลจากเราเท่านั้น 
บิดาสงสารบุตรของตนฉันใด พระยาห์เวห์ทรงสงสารคนที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น" (สดุดี 103:11-13 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 06

"God is with us." (Isaiah 8:10)

God's people should never feel lonely, for they are never alone.

God is with them as an Observer, noticing every thought, word, and action; every trial and danger. He is with them as a Father, loving and talking with them. He is with them as the Lord of Armies, having all armies of earth and heaven under His direction. He is with them as a Guide and Counsellor, to lead them; as a Friend to comfort them; as a Saviour, to deliver them; and asthe holy, sin-hating God. He is present with them to reprove and try them, to humble and preserve them, to comfort and save them with an everlasting salvation.

Let us remember that God is always with us, and for us; and "If God be for us ,Who can be against us?" (Romans 8:31)

"As far as East is from the West,
So far His love has borne away
Our many sins and trespasses
And all the guilt that on us lay.
Just as a father loves his child,
So God loves those who fear His name.
For He remembers we are dust,
And well he knows our feeble frame." (Psalm 103:11-13)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 05 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 05 กรกฎาคม

"เรารู้ถึงความทุกข์ร้อนต่างๆ ของเขา" (อพยพ 3:7 THSV2011)

ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ประสบความทุกข์ยากโดยไม่ได้รับการดูแล พระองค์เข้าใจพวกเขาและนำพระพรมาสู่พวกเขาผ่านทางความทุกข์ยากนั้น

อิสราเอลทุกข์ยาก แต่พระเยซูเข้าใจ "พระองค์ทุกข์พระทัยในความทุกข์ทั้งหมดของเขา แล้วทูตสวรรค์ที่อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ช่วยพวกเขาให้รอด พระองค์ทรงไถ่เขาด้วยความรักและความสงสารของพระองค์ พระองค์ทรงยกพวกเขาขึ้นและหอบเขาไปตลอดกาลก่อน" (อิสยาห์ 63:9 THSV2011) พระองค์เข้าใจความทุกข์ร้อนต่างๆ ของเรา และพระองค์จะเป็นผู้ปลอบใจเรา

ขอให้เรานำความทุกข์ร้อนต่างๆ มาทูลต่อพระองค์ในคำอธิษฐาน พระองค์จะตอบด้วยความกรุณา พระองค์รู้ว่าเรารู้สึกเช่นไร พระองค์เป็น "ผู้ที่คุ้นเคยกับความทุกข์ยาก" และพระองค์สามารถช่วยเราได้ ความทุกข์ยากของพระองค์เสร็จสิ้นแล้ว และของเราก็จะจบลงในเร็วๆ นี้ การคร่ำครวญจะอยู่เพียงแค่ค่ำคืนเดียว และความชื่นบานจะมาในยามเช้า เราจะเข้าสู่ความชื่นบานของพระองค์ ได้รับการเติมด้วยความรักแท้ของพระองค์ และจะอยู่กับพระองค์ตลอดกาล

"เขาจะร้องทูลเรา แล้วเราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก เราจะช่วยกู้เขาและให้เกียรติเขา 
เราจะให้เขาอิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาว และให้เขาเห็นการช่วยกู้ของเรา" (สดุดี 91:15-16 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 05

"I know their sorrows." (Exodus 3:7)

The Lord's people do not suffer unnoticed; He sympathises with them, and will bring blessing from it.

Israel suffered, but Jesus sympathised. "In all their affliction He was afflicted; and the angel of His presence saved them; in His love and in His pity He redeemed them; and He carried them all the days of old." (Isaiah 63:9) He knows our sorrows, and He will be our Comforter.

Let us take them to Him in prayer; He will graciously answer. He knows how we feel. He was "the Man of sorrows" and He is able to help us. His sorrows are ended, and so will ours soon end; weeping may endure for a night, but joy comes in the morning. We shall enter into His joy, be filled with His love, and so be for ever with Him.

"He'll call on Me, and I will answer him;
With him in time of trouble I will be,
I will deliver him and honour him.
Long will he live, and My salvation see." (Psalm 91:15-16)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 04 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 04 กรกฎาคม

"พระองค์จะเป็นพยานให้เรา" (ยอห์น 15:26 THSV2011)

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพยานให้ระเยซู พระองค์ทำเช่นนั้นในพระคัมภีร์ที่ซึ่งเราได้เห็นพระคริสต์ในเกียรติสิริและพระคุณของพระองค์ พระวิญญาณเป็นพยานให้พระเยซูโดยการประกาศข่าวดีเรื่องพระเยซู เพราะว่เราประกาศพระคริสต์ผู้ถูกตรึงที่กางเขน และพระคุณของพระเจ้ากำหนดให้เราเทอดทูนพระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นทางเดียวสู่ความหลุดพ้น

พระวิญญาณเป็นพยานให้พระเยซูสู่หัวใจของเราเมื่อเราเห็นความดีงามและเกียรติสิริของพระองค์ วางใจในพระสัญญาของพระองค์ ยอมรับคำเชิญของพระองค์ รักพระองค์ และชื่นชมยินดีในพระนามของพระองค์

ปเคารพทั้งหมดล้มลงต่อหน้าพระองค์ เรารักพระองค์ เชื่อวางใจพระองค์ มีความหวังในพระองค์ ถ่อมใจลงต่อหน้าพระองค์ และมีใจร้อนรนเพื่อพระองค์

โอ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพยานให้พระเยซูสู่หัวใจของข้าพระองค์ในวันนี้และทุกๆ วัน และขอพระองค์เป็นพยานให้กับหัวจของข้าพระองค์ว่าข้าพระองค์เป็ลูกของพระเจ้า

"บัดนี้ ไม่มีผู้ใดนอกจากพระคริสต์ ที่ทำให้อิ่มใจ!
ไม่มีนามอื่นใดสำหรับข้าฯ
สำหรับความรัก ชีวิต และความชื่นชมยินดีอันถาวร
ข้าสามารถพบได้ในพระองค์ พระเยซูเจ้าข้า"
(ไม่ทราบผู้แต่งเพลง "None but Christ")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 04

"He shall testify of Me." (John 15:26)

The Holy Spirit testifies of Jesus. He has done so in the Bible; there Christ is seen in His glory and grace. He testifies of Jesus by the preaching of the Good News, for we preach Christ crucified, and are determined by God's grace to exalt Christ as the only way of salvation.

The Holy Spirit testifies of Jesus to the heart when we see His loveliness and glory, trust in His promises, accept His invitation; love Him and rejoice in His Name.

Every idol falls before Him; we love Him; believe Him; hope in Him; are humbled before Him, and are zealous for Him.

O, for the Holy Spirit to testify of Jesus to our hearts today and every day, and to bear witness with our hearts that we are children of God.

"Now none but Christ can satisfy,
None other name for me.
There's love, and life, and lasting joy,
Lord Jesus, found in Thee."
(Unknown Author, hymn "None but Christ", )

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 03 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 03 กรกฎาคม

"จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหลอกลวง" (โฮเชยา 10:2TNCV)

พระเจ้าต้องการหมดทั้งหัวใจและประชากรของพระองค์ก็ปฏิญาณตนว่าจะยอมจำนนหัวใจของเขาต่อพระองค์ แต่เรามีเหตุผลที่ดีที่จะสงสัยการอุทิศชีวิตของเราต่อพระองค์มิใช่หรือ?หัวใจของเราเต็มไปด้วยความหลอกลวงเพราะเราแบ่งใจให้ทั้งพระเจ้าและโลกนี้ ทั้งความบาปและความบริสุทธิ์ หรือทั้งพระคริสต์และตัวของเราเองหรือไม่?

อะไรคืออาการของหัวใจที่เต็มไปด้วยความหลอกลวง? ได้แก่ การยึดติดกับสิ่งของของโลกนี้ การยึดทางของพระเจ้าแต่เพียงเปลือกนอก การเชื่องช้าในการตรวจสอบตัวเองตามความจริงจากพระคำของพระเจ้า การไม่ชอบการสอนที่ให้พิจารณาจิตใจของตน

แล้วจะเป็นอย่างไรกับคุณ? พระเจ้าต่อต้านคนที่เฉื่อยช้า พระองค์จะได้ทั้งหัวใจของคุณหรือไม่ได้หัวใจของคุณเลยอย่างใดอย่างหนึ่ง

มีหนทางเยียวยารักษา จงตรวจสอบหัวใจของคุณอย่างถี่ถ้วน จงประณามสิ่งใดก็ตามที่คุณพบว่าผิด จงนำมันไปหาพระเยซูและขอให้พระองค์รักษามัน จงเปิดเผยมันต่อพระคำของพระเจ้า จงพยายามรักษาความรู้สึกถึงการอยู่ด้วยของพระเจ้าไว้

โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยให้หัวใจของข้าพระองค์ยำเกรงพระนามของพระองค์

"จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
ทั้งหมดในชีวิตของข้าพเจ้า จงสรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้
และอย่าลืมพระราชกิจทั้งปวงอันเปี่ยมด้วยพระคุณ
ผู้ทรงอภัยโทษบาปทั้งหมดของท่าน
และทรงรักษาโรคภัยทั้งสิ้นของท่าน
ผู้ทรงไถ่ชีวิตของท่านจากแดนผู้ตาย
และทรงเชิดชูท่านด้วยความรักมั่นคงและความเอ็นดูสงสาร(สดุดี103:1-4 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 03

"Their heart is divided." (Hosea 10:2)

God demands the whole heart, and His people profess to surrender it. But do we not have good reason to question our commitment? Are our hearts divided between God and the world; between sin and holiness; or between Christ and self?

What are the symptoms of a divided heart? Habitual cleaving to worldly things. Being satisfied with a form of godliness. Slowness to examine oneself in the light of God's Word. A dislike of soul- searching preaching.

How is it with you? God rejects the half-hearted. He will have all or none.

There is a remedy. Thoroughly examine your heart. Condemn whatever you find wrong in it. Take it to Jesus, and ask Him to heal it. Expose it to God's Word. Seek to maintain a constant sense of God's presence.

O Lord, unite my heart to fear Your name.

"Praise God, my soul! With all my heart
Let me exalt His holy name. 
Forget not all His benefits;
His praise, my soul, in song proclaim.
The Lord forgives you all your sins,
And heals your sickness and distress;
Your life He rescues from the grave,
And crowns you in His tenderness." (Sing Psalm 103:1-4)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 02 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 02 กรกฎาคม

"เพราะผู้ใดแตะต้องเจ้าก็แตะต้องแก้วพระเนตรของพระองค์" (เศคาริยาห์ 2:8 TNCV)

พระเจ้าห่วงใยประชากรของพระองค์ด้วยความอ่อนโยนมากจริงๆ! พวกเขาได้ผ่านการพิพากษาที่หนักหน่วงและดูเหมือนว่าพระเจ้าละเลยพวกเขา แต่พระองค์ยืนยันกับพวกเขาถึงความรักแท้ที่มีต่อพวกเขา และเตือนพวกเขาว่า "ใครก็ตามที่ทำร้ายเจ้า ก็ทำร้ายสิ่งล้ำค่าที่สุดที่เรามี"

ดังเช่นแพทย์ผู้เปี่ยมด้วยสติปัญญา พระองค์จะแตะต้องรักษาเรา เช่นเดียวกับแม่ที่เปี่ยมด้วยความรัก พระองค์จะปรับปรุงแก้ไขลูกของพระองค์

ความสัมพันธ์นี้แน่นแฟ้นมากจริงๆ! ความเห็นอกเห็นใจนี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนมากจริงๆ! ความเอาใจใส่นี้มาถึงเราอย่างสม่ำเสมอมากจริงๆ! การจัดเตรียมนี้เปี่ยมไปด้วยความเมตตามากจริงๆ! ลูกของพระองค์ปลอดภัยและมีความสุขมากจริงๆ! คุณใกล้ชิดและเป็นที่รักของพระองค์ดังเช่นแก้วตาของพระองค์

โอ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอปลอบโยนจิตใจของข้าพระองค์ด้วยความจริงนี้

"บัดนี้ ข้าฯ ไม่มีการลงโทษที่จะต้องสะพรึงกลัว
พระเยซูและทุกสิ่งในพระองค์เป็นของข้าฯ
มีชีวิตอยู่ในพระองค์ผู้เป็นศีรษะของข้าฯ
และสวมใส่ความชอบธรรมของพระเจ้า
ข้าฯ เข้าเฝ้าต่อหน้าพระที่นั่งนิรันดร์ด้วยความกล้าหาญ
และผ่านทางพระคริสต์ ข้าฯ รับมงกุฎนั้นเป็นของข้าฯ
"
(Charles Wesley, เพลง "Assurance and Joy of Salvation")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 02

"He who touches you, touches the apple of God's eye." (Zechariah 2:8)

How tenderly God cares for His people! They had been through hard judgments and appeared to be neglected by God. But He assures them of His love for them and reminds them that "anyone who harms you, harms My most precious possession."

As the wise doctor, He will touch to cure. Like a loving mother, He will correct His children.

How close the union! How tender the sympathy! How kind the care! How constant the attention! How merciful the provision! How safe and happy are His children! You are as near and dear to the Lord as the apple of His eye.

Holy Spirit, comfort me with this truth.

"No condemnation now I dread;
Jesus, and all in Him is mine:
Alive in Him, my living Head,
And clothed in righteousness divine,
Bold I approach the eternal throne, 
And claim the crown, thro' Christ, my own."
(Charles Wesley, hymn "Assurance and Joy of Salvation")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 01 กรกฎาคม


บทความสอนใจประจำวัน 01 กรกฎาคม

"พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเมตตา " (เฉลยธรรมบัญญัติ 4:31 TNCV)

หลายครั้งที่พระคัมภีร์เตือนเราว่าพระเจ้าเปี่ยมด้วยความเมตตา ธรรมชาติและความหลุดพ้นที่เราได้รับยืนยันข้อเท็จจริงที่ยิ่งใหญ่นี้เช่นกัน

เราจำเป็นที่จะต้องระลึกถึงสิ่งนี้เมื่อเราเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เมื่อเราสารภาพบาป เมื่อเราฟันฝ่าการทดลอง เมื่อเราอธิษฐานขอการอวยพรจากพระเจ้า และเมื่อเราปลอบใจผู้อื่น พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าที่เปี่ยมด้วยความเมตตา แต่ความเมตตาและความบริสุทธิ์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันในบุคลิกลักษณะ ถ้อยคำ และงานของพระองค์

การทำให้พระองค์พอใจไม่ยากเลย แต่เราก็ควรรักพระองค์ทุกๆ วันและวางใจพระองค์ตลอดเวลา ความเมตตาของพระองค์รักษาเราไว้จากความสิ้นหวัง บัดนี้ ขอให้เราวางใจพระองค์และอย่ากลัวเลย ดำเนินชีวิตกับพระองค์อย่างมีสันติสุข และชื่นชมยินดีในพระองค์ทุกๆ วั

"ชนชาติที่รู้จักการโห่ร้องอย่างชื่นบานก็เป็นสุข ข้าแต่พระยาห์เวห์ คือบรรดาผู้ที่เดินในแสงสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์" (สดุดี 89:10 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 01

"The Lord your God is a merciful God." (Deuteronomy 4:31)

Many times in the Bible we are reminded that God is merciful. Nature, and our salvation also witness to this great fact.

We need to remember this when burdened with guilt, when confessing sin, when enduring trials, when praying for God's blessing, and when comforting others. Our God is a merciful God- but mercy and holiness are united in His character, Word, and work.

He is not difficult to please, but He should be daily loved, and constantly trusted. His mercy keeps us from despair. Now we may trust and not be afraid, walk with Him in peace, and rejoice in Him daily.

"O greatly blest the people are
The joyful sound that know.
In brightness of Your face, O Lord,
They ever on shall go." (Psalm 89:15)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 30 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 30 มิถุนายน

"ข้าพระองค์เป็นของพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด" (สดุดี 119:94 THSV2011)

หากเราเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว เราก็ไม่ได้เป็นของตัวเราเองหรือของโลกนี้ เราไม่ได้เป็นผู้รับใช้ของความาปอีกต่อไป

เราได้มอบชีวิตเราไว้ให้อยู่ในมืของพระเจ้าแล้ว เพื่อที่เราจะได้หลุดพ้นด้วยพระคุณ อุทิศตนเพื่อการรับใช้พระองค์ และดำรงชีวิตเพื่อเกียรติสิริของพระองค์

ราเป็นลูกของพระองค์ ผู้รับใช้ของพระองค์ ทหารของพระองค์ และผู้ร่วมงานของพระองค์ด้วยความรักแท้และการเป็นหนึ่งเดียวกัน

เพราะเราเป็นของพระองค์ ราจึงสามารถพึ่งพาการช่วยเหลือจากพระองค์ในทุกปัญหา พระองค์จะช่วยชีวิตเรา นำเราให้รอดพ้นจากปัญหา

ขอให้เราดำเนินชีวิตให้สมกับที่เป็นบุตรที่รักของพระเจ้า และคาดหวังที่พระองค์จะ "ประทานพรทุกอย่างแก่เราทั้งหลายอย่างเหลือล้น เพื่อว่าเมื่อมีทุกอย่างเพียงพออยู่เสมอ เรายังจะมีเหลือล้นสำหรับการดีทุกอย่างด้วย" (2 โครินธ์ 9:8)

"เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ใหญ่ยิ่งถึงฟ้าสวรรค์ ความซื่อสัตย์ของพระองค์สูงถึงเมฆ" (สดุดี 57:10 THSV2011)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 30

"I am Yours, save me." (Psalm 119:94)

If we are the Lord's, we do not belong to ourselves or to the world. We are no longer servants to sin.

We have given ourselves into God's hands, to be saved by His grace, devoted to His service, and to live for His glory.

We are His children, His servants, His soldiers, His partners by love and union.

Being His, we can depend on His help in every trouble. He will save and deliver us.

Let us walk worthy of God as His dear children, and expect Him "to make all grace abound towards us, that we having all sufficiency in all things, may abound in every good work." (2 Corinthians 9:8)

"For your unfailing love is as high as the heavens.
Your faithfulness reaches to the clouds." (Psalm 57:10 NLT)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 29 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 29 มิถุนายน

"ลูกเอ๋ย ขอใจของเจ้าให้ข้าเถอะ" (สุภาษิต 23:26 THSV2011)

พระเจ้าของคุณขอใจของคุณ พระองค์สร้างใจของคุณขึ้นมาด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ พระองค์ต้องการครอบครองมันด้วยพระคุณของพระองค์ ขอให้เรายอมจำนนมอบใจของเราให้กับพระองค์ในเช้าวันนี้และในทุกๆ เช้า ขอให้เราร้องขอให้พระองค์ชำระใจของเราให้บริสุทธิ์ เติมใจของเราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพิทักษ์รักษาใจของเราด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์

หากเรามอบใจของเราให้กับพระเจ้า ชีวิตของเราจะสอดคล้องกับพระคำของพระองค์ หากพระองค์ครอบครองชีวิตของเรา เราก็จะดำรงชีวิตเหมือนกับพระเยซู

"ผู้ที่กล่าวว่า 'ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์' แต่ไม่ได้ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ คนนั้นเป็นคนพูดมุสาและสัจจะไม่ได้อยู่ในเขาเลย" (1 ยอห์น 2:4 THSV2011) จะแย่สักเพียงใดหากเราคิดว่าเราเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ยังคงมีใจที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของบาป ซาตาน และโลกนี้!

พระเยซูบอกว่า "ขอใจของเจ้าให้เราเถิด" ขอให้คำตอบของเราจะเป็น "องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์นำใจของข้าพระองค์ไป และครอบครองมันไว้ตลอดไป"

"สู่จิตใจข้าฯ สู่จิตใจข้าฯ
ขอทรงเสด็จมา พระเยซูเจ้า
ขอทรงเสด็จมาในวันนี้ ขอทรงสถิตอยู่ด้วย
ขอทรงเสด็จมา พระเยซูเจ้า"
(Harry Dudley Clarke, เพลง "Come Into My Heart, O Lord Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 29

"My son, give Me your heart." (Proverbs 23:26)

Your God asks for your heart. He made it by His power, He wants to rule it by His grace. Let us surrender our hearts to Him this morning, and every morning. Let us ask Him to make them holy, to fill them with the Holy Spirit, and to keep them by His power.

If the heart is given to God, the life will be according to His word. If He rules in us, we shall live as Jesus lived.

"He who says ,'I know Him,' but does not keep His commandments, is a liar, and the truth is not in him." (1 John 2:4) How awful, to think that we are the Lord's, and yet to have the heart under the influence of sin, Satan and the world!

Jesus says, "Give me your heart." Let our reply be, "Lord, take it and rule in it for ever."

"Into my heart, into my heart,
Come into my heart, Lord Jesus!
Come in to-day;come in to stay.
come into my heart, Lord Jesus." 
(Harry Dudley Clarke, hymn "Come Into My Heart, O Lord Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 28 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 28 มิถุนายน

"แต่พระเยโฮวาห์จะทรงเป็นความหวังแห่งประชาชนของพระองค์" (โยเอล 3:16 TKJV)

อาจมีการทดลองที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่พระเจ้าของเราเป็นความหวังของเราเราจะได้รับความช่วยเหลือในพระองค์ผู้เป็นที่ลี้ภัยของเรา คำสัญญา ลักษณะ และการตายบนไม้กางเขนของพระเยซูเป็นรากฐานของความวางใจของเรา พระคัมภีร์สอนให้เราวางใจในทุกเวลาและสำหรับทุกสิ่ง เราไม่มีเหตุที่จะต้องกลัวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามพระเจ้าของเราเป็นที่ลี้ภัยของเรา

ขอพระเจ้าแห่งความหวังใจจะเติมชีวิตเราด้วยความชื่นบานและสันติสุขในความเชื่อ เพื่อที่เราจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังใจโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอให้เราตั้งตารอคอยความหวังใจที่เป็นพรนั้น รอคอยวันที่พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระผู้ช่วยและพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของเราจะปรากกายด้วยเกียรติสิริ

เพราะพระเยซูเป็นความหวังใจของเรา ขอให้เกียรติสิริของพระองค์เป็นเป้าหมายของเราและการรับใช้พระองค์เป็นความปีติยินดีของเรา

"พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก 
ฉะนั้นเราจะไม่กลัว แม้ว่าแผ่นดินโลกจะเปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าภูเขาทั้งหลายจะโคลงเคลงลงสู่สะดือทะเล" (สดุดี 46:1 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 28

"The Lord will be the hope of His people." (Joel 3:16)

Many unexpected trials may occur; but our God is our hope. He is the refuge in whom we find help. His promises, character, and the precious death of Jesus for our sins are the foundation of our trust. The Bible teaches us to trust at all times, and for all things. No matter what happens, we have no cause to fear, our God is our refuge.

May the God of hope fill us with all joy and peace in believing, that we may abound in hope by the Holy Spirit. Let us look for that blessed hope even the glorious appearing of our great God, even our Saviour, Jesus Christ.

As Jesus is our hope, let His glory be our aim, and His service our delight.

"God is our refuge and our strength, 
our ever present aid; 
And therefore though the earth gives way, 
We will not be afraid." (Psalm 46:1)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 27 มิถุนายน



บทความสอนใจประจำวัน 27 มิถุนายน

"จงระลึกถึงภรรยาของโลทเถิด" (ลูกา 17:32 THSV2011)

ภรรยาของโลทได้ต้อนรับทูตสวรรค์ และคอยปรนนิบัติพวกเขา เธอเชื่อในข้อความที่ได้รับจากพวกเขา และได้ทำตาม และได้ออกจากเมืองโสโดม เธอละจากบรรดาผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า และร่วมเดินทางกับบรรดาธรรมิกชน แต่เธอต้องเสียชีวิตเพราะไม่เชื่อฟังพระเจ้า

เป็นสิ่งอันตรายที่จะขัดขืนคำสั่งของพระเจ้า พระองค์จะให้เกียรติการเชื่อฟังของพวกเรา

หัวใจของคุณได้ถูกแยกออกจากโลกนี้หรือไม่? จงอย่าหยิ่งผยอง แต่จงยำเกรงพระเจ้า จงระลึกถึงภรรยาของโลทเถิด

"เชื่อและฟังคำ ไม่มีทางอื่นเที่ยงธรรม
พระเยซูโปรดให้ความสุข แก่ผู้เชื่อและฟังคำ"
(John Henry Sammis, เพลง "เชื่อและฟังคำ")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 27

"Remember Lot's wife." (Luke 17:32)

She received the angels, and hospitably entertained them; she believed their message, and acted upon it; and left Sodom. She left the ungodly, and went in the company of the saints; yet her heart was left in the city, and she looked back. She died because she disobeyed God.

It is dangerous to disobey God's commands. God will be honoured by our obedience.

Are our hearts detached from the world? Be not high-minded, but fear. Remember lot's wife.

"Trust and obey, for there's no other way,
To be happy in Jesus, but to trust and obey."
(John Henry Sammis, Hymn "Trust and Obey")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 26 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 26 มิถุนายน

"พระคุณของเราเพียงพอสำหรับเจ้า" (2 โครินธ์ 12:9 TNCV)

อย่าพึ่งพาความช่วยเหลือจากที่อื่นใด พระเยซูยืนยันให้คุณมั่นใจว่าพระคุณของพระองค์คือทั้งหมดที่คุณจำเป็นต้องมี

พระองค์ยินดีและสนับสนุนให้คุณรับพระคุณจากพระองค์ เพื่อคุณจะเข้มแข็งในพระคุณซึ่งพบได้ในพระเยซู พระคุณเพียงพอที่จะช่วยคุณให้ผ่านพ้นทุกความยากลำบาก ให้กำลังแก่คุณสำหรับทุกภาระหน้าที่ ให้ชัยชนะแก่คุณเหนือทุกการทดลอง และเติมชีวิตคุณด้วยความชื่นบานและสันติสุขในการเชื่อวางใจพระองค์ พระคุณของพระองค์มีอำนาจไม่จำกัด ให้แก่คุณเปล่าๆ ดำรงอยู่เสมอ และนำคุณสู่ความหลุดพ้น

จงเข้ามาใกล้พระบัลลังก์แห่งพระคุณในเช้าวันนี้เพื่อคุณจะได้รับพระคุณสำหรับวันนี้ จงเข้ามาทุกวันและทุกคราวที่คุณรู้สึกอ่อนแอ หวาดกลัว หรือเสียใจ

เปาโลร่วมกับคนชอบธรรมและผู้ที่ยอมตายเพื่อความเชื่อทั้งหมดพบว่าพระคุณของพระองค์เพียงพอ และคุณก็จะพบเช่นเดียวกัน

ท่านบอกว่า "ฉะนั้นขอให้เราเข้ามาใกล้พระบัลลังก์แห่งพระคุณด้วยความมั่นใจ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตาและจะพบพระคุณที่จะช่วยเหลือเราเมื่อถึงคราวจำเป็น" (ฮีบรู 4:16 TNCV)

"พระนามอันล้ำค่า พระศิลาที่ข้าฯ ก่อชีวิตขึ้นมา
โล่และที่ซ่อนภัยของข้าฯ
แหล่งขุมทรัพย์ที่ไม่เคยทำให้ข้าฯ ผิดหวัง
อันเต็มเปี่ยมไปด้วยพระคุณอันไร้ขีดจำกัด"
(
J. Newton)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 26

"My grace is sufficient for you." (2 Corinthians 12:9)

Don't look anywhere else for help. Jesus assures you that His grace is all you need.

You are welcome to it. You are encouraged to have it- to be strong in the grace which is in Jesus. It is enough to help you over every difficulty, to strengthen you for every duty, to give you victory over every temptation, and to fill you with all joy and peace in believing. His grace is almighty- it is free- it is lasting- it brings salvation.

Go to His throne of grace this morning to receive grace for to-day; go every day; and whenever you feel weak, fearful or sad.

Paul, and all the saints and martyrs, found His grace sufficient, and so will you. He says "Come boldly to the throne of our gracious God. There we will receive His mercy, and we will find grace to help when we need it." (Hebrews 4:16)

"Dear name, the Rock on which I build,
My shield and hiding place;
My never-failing treasury filled
With boundless stores of grace." 
(J. Newton)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 25 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 25 มิถุนายน

"ท่านควรจะเป็นคนแบบไหน?" (2 เปโตร 3:11 THSV2011)

คนที่บอกว่าเป็นผู้เชื่อในพระเยซูและมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเขาควรแตกต่างจากคนทั่วไป เราเชื่อว่าโลกปัจจุบันนี้จะล่วงไป เราคาดหวังสวรรค์ใหม่และโลกใหม่ที่ซึ่งจะไม่มีบาปอีกต่อไป

เราเป็นคนแปลกถิ่นในโลกนี้และควรดำรงชีวิตเช่นนั้นด้วยการจดจ่อกับสิ่งที่เป็นนิรันดร์ เราควรตั้งตารอคอย หมั่นอธิษฐาน มีใจขอบพระคุณ มีชีวิตที่บริสุทธิ์ และอดทน เราควรพอใจในสิ่งที่มีอยู่ด้วยารตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเหมือนพระเยซู ดำรงชีวิตดั่งเช่นอาจารย์เปาโล คือตายต่อตัวเองทุกๆ วัน

เราเชื่อจริงๆ หรือไม่ว่าโลกปัจจุบันนี้จะเสื่อมสลายไป? ถ้าเชื่อเช่นนั้น เราดำรงชีวิตตามที่เราเชื่อหรือไม่? เรากำลังสะสมสมบัติในสวรรค์หรือไม่? เรามั่งมีในการดีทั้งปวงหรือไม่? เราพร้อมสำหรับการกลับมาของพระเยซูหรือไม่?

"จงใช้เวลาที่จะบริสุทธิ์ โลกนี้เคลื่อนหน้าไปอย่างรวดเร็
จงใช้เวลาในที่ลับ อยู่กับพระเยซูเป็นการส่วนตัว
คุณจะเป็นเหมือนพระเยซู ด้วยการเพ่งมองไปที่พระองค์
แล้วเพื่อนของคุณก็จะเห็นลักษณะของพระองค์ในการกระทำของคุณ"
(William D. Longstaff, เพลง "Take time to be holy")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 25

"What kind of people should you be?" (2 Peter 3:11)

Those who say that they believe in Jesus, and have the Holy Spirit in them, ought to be different from others. We believe that this present world will pass away. We expect a new heaven and new earth where there will be no sin.

We are strangers in this world and should live as such, concentrating on eternal things. We ought to be watchful, prayerful, thankful, holy and patient. We ought to be content with what we have aiming to be like Jesus; to live as Paul lived, dying daily to self.

Do we really believe that this present world will be dissolved? If so, are we living accordingly? Are we laying up treasure in heaven? Are we rich in good works? Are we ready for the coming of Jesus?

"Take time to be holy, the world rushes on;
Spend much time in secret with Jesus alone-
By looking to Jesus, like Him you shall be;
Your friends in your conduct His likeness shall see." 
(William D. Longstaff, hymn "Take time to be holy")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 24 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 24 มิถุนายน

"พวกท่านเป็นพงศ์พันธุ์ที่ทรงเลือกสรร" (1 เปโตร 2:9 THSV2011)

พระเจ้าได้เลือกผู้เชื่อทุกคนไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะสร้างโลก การเลือกนี้หลั่งไหลมาจากความรักแท้และสิทธิอำนาจของพระเจ้า สิ่งนี้ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่ได้ทำให้คนเหลือคณานับได้รับความมั่นใจในความหลุดพ้น และเป็นเพื่อเกียรติสิริของพระเจ้า

พระองค์เลือกเราในพระเยซูผู้นำเราสู่ความหลุดพ้น การเลือกนี้เป็นจากพระคุณอันบริสุทธิ์และนำสู่ความบริสุทธิ์ เราได้รับการเลือกให้ได้รับการไถ่จากความตาย ให้ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์จากความบาป ให้แยกตัวออกจากโลกนี้ ให้อุทิศชีวิตเพื่อพระเจ้า และให้เติบโตเข้าสู่สภาพแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้า และเมื่อพระเจ้าเลือกเราแล้ว เราจึงเลือกพระเจ้าตอ พระองค์เลือกเราให้เป็นเจ้าสาวของพระเยซู และเราเลือกพระเยซูให้เป็นเจ้าบ่าที่รักของเรา

สหายที่รัก หากเราเป็นคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ เราก็บริสุทธิ์ เราเห็นพ้องต้องกันกับพระเยซู อให้เราสำแดงสิ่งนี้ด้วยชีวิตของเราและเพลิดเพลินกับสิ่งนี้ จงระลึกด้วยเช่นกันว่าคำเชิญชวนของพระเจ้ามีมาถึงทุกคน และทุกคนที่แสวงหาพระองค์ก็จะพบพระองค์

"จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน" (มัทธิว 7:7 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 24

"You are a chosen generation." (1 Peter 2:9)

Every believer has been chosen by God from before the foundation of the world. Election flows from God's love and authority. It injures none but ensures salvation for countless millions and for God's glory.

He chose us in Christ Jesus as our Saviour; it was of pure grace and leads to holiness. We were chosen to be redeemed from death; purified from sin; separated from the world; devoted to God; and raised to a state of oneness with God. Being chosen by God, we choose God in return. He chose us to be the Bride of Jesus, and we choose Jesus to be our beloved Bridegroom.

Dear friends, if we are God's elect we are holy; we are in unison with Jesus. Let us show by our lives, and enjoy this. Remember too that God's invitation is to all, and all who seek Him will find Him.

"Ask, and it shall be given unto you, 
Seek, and you shall find, 
Knock, and the door shall be opened unto you 
Hallelu, Hallelujah!"

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 23 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 23 มิถุนายน

"พวกฮีบรูเหล่านี้มาทำอะไร?" (1 ซามูเอล 29:3 THSV2011)

กองทัพของดาวิดได้เคลื่อนทัพไปร่วมกับกองทัพของฟิลิสเตีย นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเป็นสิ่งผิดเมื่อประชากรของพระเจ้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกนี้ ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่พระคัมภีร์สอนไว้

เราอาจถามว่า "พวกคริสเตียนเหล่านี้มาทำอะไรที่นี่? เหตุใดคุณถึงร่วมเป็นพวกเดียวกันกับโลก? เจ้านายของคุณกล่าวว่า 'จงออกมาและแยกตัวออกต่างหาก' การอยู่ที่นี่ของคุณเป็นการสนับสนุนบาปหรือไม่? พระองค์ได้บอกไว้ว่า 'จงบริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์' คุณกำลังทำอะไรในดินแดนของซาตาน? หรือในยศตำแหน่งของข้าศึก?"

สหายที่รัก คุณควรที่จะอยู่ใกล้ชิดกับพระเยซูเหนือสิ่งอื่นใด จงเป็นสหายกับคนของพระองค์ และรักษาชีวิตของคุณไว้ไม่ให้ด่างพร้อยด้วยทางของโลก

"จงนำโลกนี้ไป และให้พระเยซูแก่ข้าฯ
ความวางใจของข้าฯ อยู่ที่กางเขนของพระองค์
จนกว่าจะได้เห็นนิมิตที่ชัดและสว่างจ้ามากขึ้น
เมื่อข้าฯ ได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าฯ ต่อหน้า"
(Fanny J. Crosby, เพลง "Take the World, But Give Me Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 23

"What are these Hebrews doing here?" (1 Samuel 29:3)

David's army were marching along with the Philistine army; this was decidedly wrong; and it is as wrong when God's people unite with the world contrary to the teaching of the Bible.

We may ask "What are these Christians doing here? Why are you joining with the world? Your Master has said, 'Come out and be separate.' Do you by your presence sanction sin? He has said, 'Be holy, for I am holy.' What are you doing on Satan's ground? In the enemy's ranks?"

Dear friends, you should above all keep close to Jesus; be friends with His people, and keep yourselves unspotted from the world.

"Take the world, but give me Jesus,
In His cross my trust shall be,
Till with clearer, brighter vision,
Face to face my Lord I see." 
(Fanny J. Crosby, hymn "Take the World, But Give Me Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 22 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 22 มิถุนายน

"พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ" (1 โครินธ์ 10:13 TKJV)

นี่เป็นที่ยึดเหนี่ยวของผู้เชื่อ หลายครั้งหลายคราที่เราสั่นคลอนเพราะความไม่เชื่อ เราอาจไม่รู้สึกถึงการอยู่ด้วย ฤทธิ์อำนาจ และการปลอบโยนจิตใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์เลย เราอาจไม่ค่อยชื่นชอบที่จะอธิษฐาน เราอาจถูกทดลองโดยซาตาน และอาจอารมณ์เสียจากความคิดที่คอยรบกวน แต่พระเจ้าไม่มีวันทำให้เราผิดหวัง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พระองค์ทำให้สันติสุขและความชื่นบานของเรากลับสู่สภาพดี

ช่วงเวลาที่ยากลำบากของเรามักจะตามมาด้วยความชื่นบานพิเศษ คำสัญญาจากพระคัมภีร์สามารถนำมาใช้ได้กับจิตใจของเรา และเราก็เต็มไปด้วยการปลอบโยนจิตใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อนั้นจิตใจของเราจะละลายไปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และเราจะสามารถทำได้เพียงแต่สรรเสริญพระเจ้าสำหรับความบริบูรณ์แห่งพระคุณที่มีอำนาจสูงสุดที่เราได้รับเปล่าๆ

สหายที่รัก ในคืนที่มืดมิดที่สุด จงระลึกว่า "พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ" (1 โครินธ์ 10:13 TKJV)

"พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ให้ได้รับเกียรติยศ 
นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีผู้ใดในฟ้าสวรรค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ประสงค์สิ่งใดในโลก 
ร่างกายและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจและเป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์" (สดุดี 73:24-26 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 22

"God is faithful." (1 Corinthians 10:13)

This is the believer's anchor. We may, at times, be shaken by unbelief. We may feel nothing of the presence, power, or comforts of the Holy Spirit. We may have little inclination to pray. We are tempted by Satan, and may be upset with disturbing thoughts. But God never fails us; again and again He restores us to peace and joy.

Our most trying times are often followed by special joys. The promises of the Bible are applied to our souls, and we are filled with the comforts of the Holy Spirit. Then our souls melt before the Lord, and we can only praise God for the riches of His free and sovereign grace.

Dear friends, in the darkest night , remember "God is faithful." (1 Corinthians 10:13)

"To Your glory you will bring me
With Your counsel as my guide.
I have none but You in heaven;
All on earth I lay aside.
Flesh and heart may fail, but ever
God my portion will abide." (Psalm 73:24-26)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 21 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 21 มิถุนายน

"ทำไมพวกเจ้ากลัว? พวกเจ้าไม่มีความเชื่อหรือ?" (มาระโก 4:40 THSV2011)

ที่ไหนที่มีความเชื่อน้อยนิด ที่นั่นก็มีความกลัวมากมาย เหล่าสาวกเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก และพระเยซูพูดกับพวกเขาว่า "ทำไมพวกเจ้ากลัว? พวกเจ้าไม่มีความเชื่อหรือ?" (มาระโก 4:40 THSV2011)

แน่ทีเดียว พระบิดาในสวรรค์อาจจะกำลังถามเราด้วยคำถามเดียวกัน "ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อคำของเรา? ทำไมเจ้าถึงไม่วางใจในการอยู่ด้วย ฤทธิ์อำนาจ และความรักแท้ของเรา? ทำไมเจ้าไม่มองดูเราเพื่อที่เราจะได้ให้สิ่งจำเป็นแก่เจ้า? เราไม่ได้สัญญาไว้กับเจ้าอย่างชัดเจนหรอกหรือ? เราไม่ได้ทำตามคำสัญญาของเราครั้งแล้วครั้งเล่าหรอกหรือ? เราไม่ได้สัญญาว่าจะให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของเราแก่เจ้าหรอกหรือ? เราไม่ได้ให้พระบุตรของเราเพื่อเจ้าและแก่เจ้าหรอกหรือ? เราไม่ได้อยู่กับเจ้าในทุกความยากลำบากหรอกหรือ? เหตุใดเจ้าจึงไม่มีความเชื่อ?"

สหายที่รัก ขอให้เราถ่อมใจลงต่อหน้าพระเจ้า ขอให้เราสารภาพว่าเราขาดความเชื่อและอธิษฐานขอความเชื่อ ขอให้เราแสวงหาพระเจ้าในทุกที่และในทุกสิ่ง

"พระองค์ทรงเป็นที่กำบังของข้าพระองค์ พระองค์ทรงปกป้องข้าพระองค์จากความยากลำบาก พระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์ไว้ด้วยเพลงฉลองการช่วยกู้" (สดุดี 32:7 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 21

"How is it that you have no faith?" (Mark 4:40)

Where there is little faith there are many fears. The disciples were filled with alarm, and Jesus asked them "How is it that you have no faith?" (Mark 4:40)

Our Heavenly Father may well ask us the same question. "Why do you not believe My Word? Why do you not trust My presence, power, and love? Why do you not look to Me to supply your need? Have I not made very clear promises? Have I not fulfilled My promises again and again? Have I not promised you My Holy Spirit? Have I not given My Son for you and to you? Have I not been with you in every difficulty? How is it then that you have no faith?"

Dear friends, let us humble ourselves before God; let us confess our lack of faith, and pray for faith. Let us look for God in every place and in every thing.

"You are my hiding – place, O Lord,
My true security.
You keep me safe in troubled days;
You circle me with joyful praise
When You have set me free." (Psalm 32:7)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 20 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 20 มิถุนายน

"พระเจ้าทรงถือว่าพวกเขาเป็นคนชอบธรรมแล้ว" (โรม 8:33 THSV2011)

การถือว่าเป็นคนชอบธรรม คือ การประกาศว่าพ้นผิดและประกาศว่าชอบธรรม มีการยกโทษอย่างสมบูรณ์สำหรับทุกคนที่เชื่อวางใจในพระเยซู

"เมื่อคนผิดที่ชั่วร้ายที่สุดได้เชื่อวางใจอย่างแท้จริง เขาก็ได้รับการยกโทษบาปผิดจากพระเยซู" ไม่มีการลงโทษอีกต่อไป เราได้รับการยอมรับในพระเยซูคริสต์ ความบาปทั้งสิ้นได้รับการยกโทษเปล่าๆ และถูกลืมชั่วนิรันดร์ พระเจ้าได้ทิ้งความบาปทั้งสิ้นของเราและไม่จดจำอีกต่อไป และขณะนี้พระองค์ก็ประกาศว่าเราสะอาดบริสุทธิ์

"ใครจะฟ้องคนที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้? พระเจ้าทรงถือว่าพวกเขาเป็นคนชอบธรรมแล้ว ใครจะเป็นผู้ลงโทษอีก? พระเยซูคริสต์หรือ? ผู้สิ้นพระชนม์แล้ว และยิ่งกว่านั้นอีกพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์สถิต ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า และทรงอธิษฐานขอเพื่อเราด้วย" (โรม 8:33-34 THSV2011)

"พระเยซู นามเหนือนามทั้งปวง
พระผู้ช่วยผู้งดงาม องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณ
องค์อิมมานูเอล พระเจ้าผู้ทรงสถิตกับเรา
พระผู้ไถ่ผู้ได้รับการสรรเสริญ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่"

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 20

"It is God who justifies." (Romans 8:33)

To be justified is to be acquitted, and pronounced righteous. There is complete forgiveness for all who believe in Jesus.

"The vilest offender who truly believes, that moment from Jesus a pardon receives." There is no more condemnation; we are accepted in Christ Jesus. All sins are freely forgiven and eternally forgotten. God has cast all our sins "behind His back", and now He pronounces us clean.

"Who dares accuse us whom God has chosen for His own? No one- for God Himself has given us right standing with Himself. Who then will condemn us? No one- for Christ Jesus died for us and was raised to life for us, and He is sitting in the place of honour at God's right hand pleading for us." (Romans 8:33-34)

"Jesus, Name above all names,
Beautiful Saviour, Glorious Lord. 
Emmanuel, God is with us ,
Blessed Redeemer, Living Word."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie