วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 15 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 15 มิถุนายน

"อย่าให้ใจของพวกท่านเป็นทุกข์เลย" (ยอห์น 14:1 THSV2011)

พระเยซูต้องการให้เรามีความสุขและมีชีวิตที่บริสุทธิ์ และไม่วิตกกังวลหรืออารมณ์เสีย พระองค์ห้ามไม่ให้คุณกลัว พระองค์สั่งให้คุณมีความเชื่อ คุณควรละทิ้งความวิตกกังวลทั้งหลายของคุณไว้กับพระองค์

เราจะทำเช่นนี้สำเร็จได้อย่างไร? จงระลึกถึงสิ่งที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ พระองค์จะไม่มีวันทำให้คุณผิดหวัง พระองค์เฝ้าดูแลคุณอยู่ และพระองค์จะรอคอยโอกาสที่จะทำดีต่อคุณ พระองค์จะไม่อนุญาตให้สิ่งใดมาทำร้ายคุณ

พระองค์จะปกป้องรักษาคนเหล่านั้นไว้ในสันติสุขที่สมบูรณ์แบบ คือคนที่มีความคิดจดจ่ออยู่ที่พระองค์ เพราะพวกเขาวางใจในพระองค์ เพราะกำลังอันนิรันดร์อยู่ในองค์พระผู้เป็นเจ้า

"พระเจ้าเป็นความเมตตากรุณา และจะไม่ทอดทิ้งคุณ 
เมื่อคุณจำเป็นที่จะต้องได้รับพระกรุณาของพระองค์อย่างมากที่สุด 
พระเจ้าทรงสัตย์จริง พระองค์ไม่สามารถหลอกลวงคุณได้ 
แม้ความเชื่อของคุณจะอ่อนแอถึงที่สุด"

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 15

"Don't let your heart be troubled." (John 14:1)

Jesus wants us to be happy and holy, and not worried and upset. He forbids your fear; He commands your faith. You should leave all your worries with Him.

How can we achieve this? Remember what God has promised by covenant. He will never fail you. He watches over you, and He waits for an opportunity to do you good. He will not allow anything to hurt you.

He will keep them in perfect peace, whose minds are stayed on Him, because they trust in Him. In the Lord is everlasting strength.

"God is love, and will not leave you, 
When you most His kindness need; 
God is true, nor can deceive you, 
Though your faith be weak indeed."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 14 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 14 มิถุนายน

"ขอให้กำลังของท่านคงอยู่ตลอดวันคืนของท่าน" (เฉลยธรรมบัญญัติ 33:25 THSV2011)

ไม่มีใครสามารถบอกอนาคตได้ มีเพียงแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้อนาคต และพระองค์ได้สัญญาไว้ว่าประชากรของพระองค์จะได้รับกำลังเพียงพอสำหรับการทดลองที่พวกเขาจะเผชิญ

เราไม่ควรวิตกกังวล เพราะกำลังจะมาพร้อมกับการทดลอ การทดลองของเราจะมีปริมาณเท่ากับพระเมตตาที่พระเจ้าให้แก่เรา เราได้เห็นเสมอว่าพระเจ้าสัตย์ซื่อ พระองค์ให้กำลังเพียงพอสำหรับแต่ละวันเสมอ แล้วเหตุใดเราจึงควรสงสัยเล่า?

"ข้าพเจ้าจะวางใจและไม่กลัว เพราะพระยาห์เวห์ คือพระยาห์เวห์เองทรงเป็นกำลังและบทเพลงของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้าแล้ว" (อิสยาห์ 12:2 THSV2011)

เราก้าวจากกำลังสู่กำลังที่มากยิ่งขึ้น และผู้เชื่อแท้ทุกคนก็จะปรากฏต่อหน้าพระเจ้าในศิโยน พระองค์จะทำให้ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเราสมบูรณ์แบบ

เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอให้เราคาดหวังที่พระเจ้าจะให้สิ่งจำเป็นทั้งสิ้นแก่เรา ขอให้เราเชื่อว่ากำลังของเราจะพียงพอสำหรับภาระของเรา

"วางใจเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป วางใจเมื่อวันเวลาผ่านไป 
วางใจพระองค์ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงแค่วางใจในพระเยซู" 
(Edgar Page Stites, เพลง "Simply Trusting Every Day")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 14

"As your days, so shall your strength be." (Deuteronomy 33:25)

No one can possibly tell the future; but our God knows, and He has promised His people strength equal to their trials.

We should not be anxious, for with the trial comes the strength. Our trials are to be numbered among our mercies. We have always found our God faithful; He always gives strength according to the day; and why should we ever doubt?

"I will trust and not be afraid, for the Lord is my strength and my song; He also is become my salvation." (Isaiah 12:2)

We go from strength to strength, and every true believer shall appear before God in Zion. He will perfect that which concerns us.

Let us then expect God to give us all we need. Let us believe that our strength will be equal to the burden.

"Trusting as the days go by; 
Trusting as the moments fly; 
Trusting Him whate're befall, 
Trusting Jesus – that is all." 
(Edgar Page Stites, hymn "Simply Trusting Every Day")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 13 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 13 มิถุนายน

"ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ก็ยืนอยู่" (เศคาริยาห์ 3:5 THSV2011)

เมื่อซาตานกล่าวหาโยชูวา เมื่อเสื้อผ้าอันสกปรกได้เป็นพยานแจ้งความผิดแก่ท่าน และท่านถูกเรียกตัวให้เข้าพบพระเจ้า พระเยซูก็ยืนอยู่ที่นั่นพร้อมที่จะช่วยเหลือท่าน

พระเยซูองค์เดียวกันนี้แหละ ที่ก็ได้ยืนอยู่เคียงข้างประชากรของพระองค์ทุกคนพระองค์ยืนอยู่ฝ่ายเราในการอธิษฐาน ในความยากลำบาก ในการทดลอง และในความพยายามทั้งสิ้นของเราที่จะถวายเกียรติสิริแด่พระเจ้า พระองค์ยืนอยู่เคียงข้างเราเพื่อสอนเราถึงพระประสงค์ของพระเจ้าและเพื่อช่วยเราในการรับใช้พระเจ้า

สายตาของเราควรจับจ้องไปที่พระเยซูเสมอ พระองค์จะไม่มีวันละทิ้งเราไปเลย พระเยซูเห็นทุกการกระทำของเรา วามจริงนี้ควรที่จะทำให้เราระมัดระวัง สำนึกในพระคุณ และมีความกล้าหาญอย่างยิ่ง

ขอให้เราระลึกเสมอว่าพระเยซูอยู่เคียงข้างเราเพื่อช่วยเรา

"ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ตั้งค่ายอยู่โดยรอบผู้ที่ยำเกรงพระองค์ พระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นภัย" (สดุดี 34:7 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 13

"The Angel of the Lord stood by." (Zechariah 3:5)

When Satan accused Joshua, when his filthy clothes witnessed against him, and he was summoned to appear before God, it was Jesus who stood ready to help him.

The same Jesus stands by all His people. He stands on our side in prayer- in trouble- in temptation-in all our efforts to glorify God. He stands by to instruct us in the will of God; to help us in the work of God.

Our eyes should always be fixed on Jesus; He will never leave us. Jesus sees our every action. That should make us very careful, thankful and courageous.

May we always remember that Jesus stands by us to help us.

"The Angel of the Lord surrounds
And guards continually
All those who fear and honour Him;
He sets his people free." (Psalm 34:7)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 12 มิถุนายน




บทความสอนใจประจำวัน 12 มิถุนายน

"พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเป็นดวงตะวันและเป็นโล่" (สดุดี 84:11 THSV2011)

เราต้องพึ่งพาพระเจ้าสำหรับแสงสว่าง การปลอบใจ และการเกิดผลดี ทุกคนที่รู้จักพระองค์ เชื่อในพระองค์ และดำเนินชีวิตกับพระองค์ก็ได้รับพร

พระองค์ให้แสงสว่างในความมืด ความชื่นบานในความเศร้าโศก และชีวิตในความตาย เราพบการปกป้องในพระองค์ ความหลุดพ้นของพระองค์เป็นโล่ของเรา เราใช้โล่นี้โดยความเชื่อ พระองค์จะทำให้เราเข้าใจและปกป้องเราจากแผนการของซาตาน พระองค์จะไม่มีวันทำให้เราผิดหวังหรือละทิ้งเราให้ขัดสน พระองค์เทพระพรมาให้แก่เราเปล่าๆ เช่นเดียวกับที่ดวงอาทิตย์ได้ส่องแสงให้ความอบอุ่นแก่เรา

ดังนั้น ขอให้เรารอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าในวันนี้ และดำเนินชีวิตในความสว่างของใบหน้าของพระองค์ จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า คำสัญญาของพระองค์จะสำเร็จในชีวิตของเรา และพระองค์จะยังคงทำให้ความสมบูรณ์แบบทุกประการของธรรมชาติของพระองค์ที่อยู่ในเราได้รับเกียรติสิริ

โอ พระคุณของพระองค์ช่างบริบูรณ์จริง!

"เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเป็นดวงตะวันและเป็นโล่ พระยาห์เวห์ประทานความโปรดปรานและเกียรติ พระองค์มิได้ทรงหวงสิ่งดีอันใดไว้ จากบรรดาผู้ที่ดำเนินในความซื่อสัตย์
ข้าแต่พระยาห์เวห์จอมทัพ คนที่วางใจในพระองค์ก็เป็นสุข" (สดุดี 84:11-12 THSV2011)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 12

"The Lord God is a Sun and Shield." (Psalm 84:11)

We must look to God for light, comfort, and fruitfulness. All who know Him, believe Him, and walk with Him are blessed.

He gives light in darkness, joy in sorrow, and life in death. We find protection in Him. His salvation is our shield; we use it by faith. He will enlighten and protect us against all Satan's schemes. He will never fail us, or leave us in need. He pours down blessings upon as freely as the sun shines its heat.

Let us then wait upon the Lord this day, and walk in the light of His face. Trust in the Lord; His promises shall be fulfilled in us, and He will yet glorify every perfection of His nature in us.

O, the riches of His grace!

"For the Lord gives grace and honour;
God will be a shield and sun.
He will not withhold His blessing
From the just and blameless one.
Lord Almighty, great and true,
Blessed the one who trusts in You." (Psalm 84:11-12)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 11 มิถุนายน



บทความสอนใจประจำวัน 11 มิถุนายน

"พระยาห์เวห์ทรงเป็นมรดกส่วนของข้าพเจ้า" (บทเพลงคร่ำครวญ 3:24 THSV2011)

คริสเตียนมีผู้ที่จัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้อย่างดีเยี่ยม! องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ให้พระองค์เองแก่เรา พระองค์กล่าวว่า "เราเป็นมรดกของท่าน" (กันดารวิถี 18:20)

เราอยู่กับพระองค์เสมอ และทุกสิ่งที่พระองค์มีก็เป็นของเรา ฤทธิ์อำนาจของพระองค์เป็นของเราเพื่อช่วยเหลือเรา พระปัญญาของพระองค์เป็นของเราเพื่อนำทางให้เรา ความรักท้ของพระองค์เป็นของเราเพื่อปลอบใจเรา พระเมตตาของพระองค์เป็นของเราเพื่อทำให้เราได้ผ่อนคลาย ความดีของพระองค์เป็นของเราเพื่อจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้เรา ความยุติธรรมของพระองค์เป็นของเราเพื่อปกป้องเรา พระสัญญาของพระองค์เป็นของเราเพื่อรักษาเราไว้ให้ปลอดภัย และสวรรค์ของพระองค์เป็นของเราเพื่อต้อนรับเรา

เราจำเป็นต้องดำรงชีวิตในพระองค์ ชื่นชมยินดีในพระองค์ และพึ่งพาพระองค์สำหรับสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นสำหรับชีวิตเรา เราจำเป็นต้องให้พระองค์เป็นที่หนึ่งในชีวิตในขณะที่เราแสวงหาที่จะดำรงชีวิตเพื่อเกียรติสิริของพระองค์ ไม่มีใครเอามรดกของเราไปจากเราได้ ผู้คนอาจจะทำให้เราผิดหวังและหลอกลวงเรา แต่พระเจ้าจะเป็นมรดกส่วนของเราตลอดไป

"ประทานคำปรึกษาแนะนำข้าพเจ้า แล้วจะทรงรับข้าพเจ้าไว้ในพระสิริรุ่งโรจน์ 
ยังมีใครอีกเล่าสำหรับข้าพเจ้าในสวรรค์? เมื่ออยู่กับพระองค์ ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาสิ่งใดบนแผ่นดิน 
แม้ร่างกายและจิตใจข้าพเจ้าอ่อนกำลัง พระเจ้าก็ทรงเป็นหลักศิลาแห่งดวงใจ ทรงเป็นทรัพย์สมบัติของข้าพเจ้าตลอดไป" (สดุดี 119:24-26 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 11

"The Lord is my portion." (Lamentations 3:24)

The Christian is wonderfully provided for! The Lord has given us Himself; He says, "I am your inheritance." (Numbers 18:20)

We are always with Him, and all He has is ours. His power is ours to support us, His wisdom to guide us, His love to comfort us, His mercy to relieve us, His goodness to provide for us, His justice to defend us, His covenant to keep us secure, and His heaven to receive us.

We are to live in Him, rejoice in Him, and look to Him for all we need. We must give Him first place as we seek to live for His glory. No one can take our inheritance from us. People may fail us and deceive us, but God is our portion for ever.

"To Your glory You will bring me
With Your counsel as my guide.
I have none but You in heaven;
All on earth I lay aside.
Flesh and heart may fail, but ever
God my portion will abide." (Sing Psalms 73:24-26)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie






วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 10 มิถุนายน


"เราคือ อัลฟาและโอเมก้า" (วิวรณ์ 22:13)

บทความสอนใจประจำวัน 10 มิถุนายน

"เราคือ อัลฟาและโอเมก้า" (วิวรณ์ 22:13 THSV2011)

พระเยซูเป็นเบื้องต้นและบั้นปลาย พระองค์เริ่มต้น พระองค์ดำเนินการ และพระองค์จะทำการงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อความหลุดพ้นนิรันดร์องเราให้สำเร็จ

พระองค์เป็นบุคคลแรกที่อยู่กับเราในการทดลองต่างๆ และจะไม่มีวันละทิ้งหรือทอดทิ้งเราเลย พระองค์เป็นรากฐานที่ชีวิตของเราสร้างขึ้นมา พระองค์รวมเอาทุกสิ่งที่ดี ยิ่งใหญ่ และเต็มด้วยเกียรติสิริ ผู้ทีเชื่อวางใจพระเยซูมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับโลกนี้และสำหรับนิรันดร์กาล

ขอให้เราเริ่มต้นกับพระเยซู และดำเนินชีวิตต่อไปกับพระเยซู แล้วเราก็จะมีอวสานร่วมกันกับพระเยซู ซึ่งจะเป็นอวสานที่เต็มด้วยพระพร

โอ้ ขอที่ข้าพระองค์จะรู้จักพระองค์ และรู้จักฤทธิ์เดชแห่งการคืนพระชนม์ของพระองค์ และรู้จักการมีส่วนร่วมในความทุกข์ของพระองค์ และเป็นเหมือนพระองค์ในความตาย

ขอให้เรามองดูพระเยซูผู้เป็นอัลฟาและโอเมกาของเราทุกๆ วัน

"พระคริสต์เป็นความหวัง กำลัง และผู้นำทางชีวิตของข้าฯ
พระองค์คร่ำครวญ หลั่งโลหิต และสละชีวิตเพื่อข้าฯ
พระคริสต์เป็นแหล่งของสุขสำราญทั้งสิ้นของข้าฯ
เป็นสติปัญญา และความชอบธรรมของข้าฯ
พระผู้ช่วย พี่ชาย สหายที่ไว้ใจได้ของข้าฯ
ข้าฯ จะหวังพึ่งในพระองค์แต่เพียงผู้เดียว"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 10

"I am Alpha and Omega." (Revelations 22:13)

Jesus is the first and the last. He began, He carries on, and He will complete the great work of our eternal salvation.

He is first with us in every trial, and He will never leave us nor forsake us. He is the foundation on which we build. He includes all that is good, great and glorious. The believer in Jesus has everything needed for this world and eternity.

Let us begin with Jesus, and then go on with Jesus, so shall we end with Jesus; and a blessed end it will be.

Oh, to know Him, and the mighty power that raised Him from the dead, to suffer with Him sharing in His death.

Let us look to Jesus as our Alpha and Omega from day to day.

"Christ is my hope, my strength, my guide,
For me He groaned, and bled, and died;
Christ is the source of all my bliss,
My wisdom, and my righteousness;
My Saviour, Brother, faithful Friend,
On Him alone I now depend."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 09 มิถุนายน


"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า" (สดุดี 130:7)

บทความสอนใจประจำวัน 09 มิถุนายน

"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ทีองค์พระผู้เป็นเจ้า" (สดุดี 130:7 TNCV)

คำว่า "อิสราเอล" หมายถึง ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมด คำนี้บ่งชี้ถึงความมีเกียรติ เพราะพวกเขาคือเจ้าชาย คำนี้บ่งชี้ถึงประสบการณ์ของพวกเขา เพราะพวกเขาปล้ำสู้กับพระเจ้าในคำอธิษฐาน และพวกเขามีชัยชนะ

พระเจ้าของเราเป็น "พระเจ้าแห่งความหวัง" และเราควรจะฝากความหวังไว้ในพระองค์

อิสราเอลควรฝากความหวังไว้ในพระเมตตาของพระองค์ ในความอดทนอดกลั้นของพระองค์ ในการจัดเตรียมของพระองค์ ในการไถ่อันล้ำค่าของพระองค์ พวกเขาควรมีความหวังที่จะพบแสงสว่างในความมืด พบกำลังในความอ่อนแอ พบการนำทางในความสับสนอลหม่าน พบการช่วยกู้ในอันตราย พบชัยชนะในความขัดแย้ง และพบการเฉลิมฉลองแห่งชัยชนะในความตาย

พวกเขาควรฝากความหวังไว้ในพระเจ้าด้วยความมั่นใจเพราะพระองค์ได้สัญญาไว้ ด้วยใจอธิษฐานเพราะพระองค์ปรารถนาที่จะฟังจากเรา ด้วยความเชื่อฟังเพราะคำสั่งของพระองค์ก็ชัดเจน และด้วยความสม่ำเสมอเพราะพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง

จงฝากความหวังไว้ในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะความรักมั่นคงอยู่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า
การไถ่อันสมบูรณ์อยู่ที่พระองค์
พระองค์เองจะทรงไถ่อิสราเอล
จากบาปทั้งสิ้นของพวกเขา" (สดุดี 130:7-8 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 09

"O Israel, hope in the Lord." (Psalm 130:7)

This title refers to all the Lord's people; it sets forth their dignity- they are princes; it refers to their experience, they wrestle with God in prayer, and they prevail.

Our God is "The God of Hope": and we should hope in Him.

Israel should hope in His mercy- in His patience – in His provision- in His precious redemption. They should hope for light in darkness; for strength in weakness; for direction in perplexity; for deliverance in danger; for victory in conflict; and for triumph in death.

They should hope in God with confidence, because He has promised; prayerfully, for He loves to hear from us; obediently, for His commandments are clear; and constantly, for He does not change.

Hope in the Lord, and in the Lord alone.

"O Israel, put your hope in God,
For mercy is with Him
And full redemption. From their sins
His people He'll redeem." (Psalm 130:7-8)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 08 มิถุนายน

"ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราใครเล่าจะต่อสู้เราได้?" (โรม 8:31)

บทความสอนใจประจำวัน 08 มิถุนายน

"ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราใครเล่าจะต่อสู้เราได้?" (โรม 8:31 TNCV)

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู ความสมบูรณ์แบบทั้งหมดของพระเจ้าของเราก็มีพร้อมสำหรับการปกป้องและความปลอดภัยของเรา พระองค์อยู่ฝ่ายเรา สนับสนุนเรา ต่อสู้กับศัตรูของเรา

อะไรคือสิ่งที่พระเจ้าได้สัญญาไว้? พระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งเราหรือละทิ้งเรา เราจะมีชัยชนะในพระคริสต์ แต่ชัยชนะนี้อยู่ในพระคริสต์เท่านั้น

หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว เราก็จะมีสิ่งจำเป็นทั้งหมดจัดเตรียมให้แก่เรา หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว มนุษย์หรือมารก็จะไม่มีทางมีอำนาจเหนือเรา หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว เราก็จะชนะโลกนี้ พิชิตความตาย และรับเกียรติศักดิ์ศรีเป็นมรดกชั่วนิรันดร์

พระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา แล้วใครเล่าจะทำร้ายเราได้? อะไรจะทำให้เราตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวได้? พระเจ้าเป็นของเราและเราก็เป็นของพระเจ้า นี่เป็นเกียรติยศของเรา ความสุขของเรา การโอ้อวดของเรา และเกียรติสิริของเรา

"ในพระนามพระเยซู ในพระนามพระเยซู
เราจะเป็นผู้มีชัย
ในพระนามพระเยซู ในพระนามพระเยซู
ผีร้ายจะต้องหนีไป
เมื่อเราสู้โดยนามพระเยซู
ใครสามารถต่อสู้เราได้
เมื่อเราสู้โดยนามพระเยซู
เราจะเป็นผู้มีชัย"
(เพลง "ในพระนามพระเยซู")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 08

"If God is for us, who can be against us?" (Romans 8:31)

As believers in Jesus, all the perfections of our God are available for our protection and safety. He is for us; engaged in our cause; opposed to our enemies.

What has God promised? He will never leave us, nor forsake us. We may triumph in Christ, but only in Christ.

If God is for us, then all that we need will be available. If God is for us, men or devils will never prevail against us. If God is for us, we shall overcome the world, conquer death, and eternally inherit glory.

God is for us, who then can harm us? What then shall alarm or terrify us? God is ours; we are God's. This is our honour, our happiness, our boast and our glory.

"In the name of Jesus, in the name of Jesus,
We have the victory!
In the name of Jesus, in the name of Jesus,
Demons will have to flee!
Who can tell what God can do?
Who can tell of His love for you?
In the mighty name of Jesus
We have the victory!"
(Hymn "In The Name of Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 07 มิถุนายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า 'เจ้าเป็นพยานของเรา' " (อิสยาห์ 43:12)

บทความสอนใจประจำวัน 07 มิถุนายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า 'เจ้าเป็นพยานของเรา' " (อิสยาห์ 43:12 TNCV)

พระเจ้าเรียกเราให้บอกเล่าถึงความจริงและฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า บอกเล่าถึงความดี ความบริสุทธิ์ และความสัตย์ซื่อของพระองค์ เราจะต้องบอกเล่าแก่โลกนี้ด้วยคำกล่าวยืนยันและการกระทำที่ประกอบด้วยความกล้าหาญและความรักแท้ สิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้นจากการดำเนินชีวิตประจำวันกับพระเจ้า

เรารู้จักพระเจ้าหรือไม่? เรามีประสบการณ์กับฤทธิ์อำนาจแห่งความจริงในหัวใจของเราทุกๆ วันหรือไม่? ประสบการณ์ของเราปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากความกลัว การรักโลก และฤทธิ์อำนาจของบาปหรือไม่?

เราบอกได้หรือไม่ว่า "เรารู้และเชื่อมั่นในความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา พระเจ้าเป็นความรัก" (1 ยอห์น 4:16)? เรากำลังบอกกับคนรอบข้างได้หรือไม่ว่า "เชิญชิมดูแล้วจะรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าแสนดี ความสุขมีแก่ผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์" (สดุดี 34:8)?

เราพร้อมเหมือนเปาโลผู้ที่กล่าวคำยืนยันต่อหน้าผู้พิพากษาและกษัตริย์ในการจองจำ และยอมแลกแม้กระทั่งชีวิตของเขาเองหรือไม่?

"ขอบพระคุณสำหรับการกำหนดเส้นทางชีวิตให้ข้าฯ
ขอบพระคุณสำหรับการรับเอาความผิดบาป ความกลัว และความดิ้นรนฟันฝ่าของข้าฯ ไป
คำอธิษฐานของข้าฯ คือที่จะรู้จักพระองค์มากขึ้นในแต่ละวัน
และที่จะแบ่งปันพระองค์ให้กับผู้ที่ยังไม่พบหนทางชีวิตของเขา
"
(Bonnie Mendell - อดีตผู้ติดเฮโรอีน)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 07

" 'You are My witnesses,' says the Lord." (Isaiah 43:12)

We are called to witness to the truth and the power of God; to His goodness, holiness and faithfulness. We are to witness to the world by our testimony and conduct with courage and love. It should arise from our daily walk with God.

Do we know God? Do we daily experience the power of truth in our hearts? Does it free us from fear, the love of the world and the power of sin?

Can we say, "We have known and believed the love which God has for us – God is love" (1 John 4:16)? Are we saying to those around us, "O taste and see that the Lord is good; there is no lack to those who fear Him" (Psalm 34:8)?

Are we ready like Paul, to witness before judges and kings, in prison or at the cost of our very lives?

"Thank You for setting a course for my life;
Thank You for taking my guilt, fear and strife.
My prayer is to learn more about You each day,
And to share You with those who have not found their way."
(Bonnie Mendell- former heroin addict)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 06 มิถุนายน


"ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น" (มาระโก 7:37)

บทความสอนใจประจำวัน 06 มิถุนายน

"ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น" (มาระโก 7:37 THSV2011)

นี่เป็นการตัดสินของฝูงชนที่เห็นการอัศจรรย์ของพระเยซู เราเห็นด้วยกับพวกเขาอย่างจริงจ พระองค์เรียกเราโดยพระคุณของพระองค์ และเราชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อเรา

พระองค์ได้ทดสอบเราเป็นครั้งคราว แต่เมื่อเราคิดถึงพระเมตตาของพระองค์และการที่พระองค์ช่วยให้เราผ่านพ้นได้ เราก็ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย

เรามองย้อนดูการตายบนไม้กางเขนของพระเยซูเพื่อนำเราสู่ความหลุดพ้น การคืนชีวิตจากความตายของพระองค์ การส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นผู้ปลอบใจเรา และเราก็โห่ร้องสรรเสริญว่า "ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น"

เมื่อเราไปถึงสวรรค์ เราก็จะสรรเสริญพระองค์ชั่วนิรันดร์สำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำด้วยใจขอบพระคุณและด้วยความรั

"ความรักของพระองค์ที่มีต่อคนบาปอย่างข้าฯ
ทั้งสิ้นช่างยิ่งใหญ่ ยอดเยี่ยม และไม่คิดมูลค่า
พระองค์คว้าข้าฯ ขึ้นมาจากนรก!
พระเยซูของข้าฯ ทำทุกย่างล้วนดีทั้งนั้น"
(Samuel Medley)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 06

"He has done all things well." (Mark 7:37)

This was the verdict of the crowd who saw the miracles of Jesus. We heartily agree. He called us by His grace and we rejoice in all He has done for us.

We have been tried and tested from time to time, but when we think of His mercies and His deliverances we give thanks that He has never failed us.

We look back to the death of Jesus on the cross to procure our salvation, to His rising again from the dead, to His sending the Holy Spirit as our Comforter and we acclaim, "He has done all things well."

When we reach heaven, with what thanksgiving and love, we shall praise Him eternally for all He has done.

"How sovereign, wonderful, and free,
Is all His love to sinful me,
He plucked me as a brand from hell!
My Jesus has done all things well."
(Samuel Medley)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 05 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 05 มิถุนายน

"พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร" (กิจการ 9:6 TKJV)

ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดควรทำงานเพื่อถวายเกียรติสิริแด่พระเจ้า มีบางสิ่งให้เราทำในวันนี้ พระเยซูเป็นเจ้านายของเราและมีสิทธิที่จะได้รับการรับใช้จากเรา เราควรเชื่อฟังพระองค์เป็นประจำด้วยความเต็มใจและความยินดี

เราเป็นของพระองค์หรือไม่? เราแสดงออกได้ด้วยการเชื่อฟังพระองค์

เรามีความเชื่อ ความหวัง ความรัก ความถ่อมใจ สันติสุข และใจสำนึกในพระคุณหรือไม่? เมื่อนั้นเราควรทำงานเพื่อพระองค์ ทำงานตลอดเวลา และทำงานราวกับว่าทุกวันเป็นวันสุดท้ายของเรา พร้อมด้วยมีใจขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระพรทั้งสิ้นที่เราได้รับ

คุณกำลังรับใช้พระเยซูด้วยพระวิญญาณของพระองค์หรือไม่? จงระวัง อย่าให้การรับใช้ของคุณมาแทนที่พระเยซู ทำทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้ และวางทุกสิ่งไว้ที่เท้าของพระองค์ เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการชำระล้าง!

"พระเจ้าได้เรียกคุณให้ออกจากความมืด
เข้าสู่ความสว่างอันล้ำเลิศที่สุดของพระองค์
พระองค์ได้นำความจริงของพระองค์สู่ชีวิตภายในคุณ
ทำให้คุณซึ่งตาบอดได้มองเห็น
ขอที่แสงสว่างของคุณจะส่องประกาย
เพื่อพระนามของพระเจ้าจะได้รับเกียรติสิริ
และทุกคนก็จะได้พบความหวังและวัตถุประสงค์ที่สดใหม่
ในพระเยซูคริสต์ผู้ได้สละพระชนม์เพื่อเราทั้งหลาย"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 05

"Lord, what so You want me to do?" (Acts 9:6)

All the Lord's people should be working for the Lord's glory. There is something for us to do to-day. Jesus is our Master, and has a right to our service. We should obey Him willingly, cheerfully, habitually.

Are we His? We show it by obeying Him.

Have we faith, hope, love, humility, peace and thankfulness? We ought then in thankfulness for all these blessings to be working for Him, always working, and working as if every day were our last.

Are you serving Jesus in the spirit of Jesus? Beware not to put your service in the place of Jesus.

Do all you can, and then lay all you do at His feet, it will need washing!

"God has called you out of darkness
Into His most marvellous light;
Brought His truth to life within you,
Turned your blindness into sight.
Let your light so shine around you
That God's name is glorified
And all find fresh hope and purpose
In Christ Jesus crucified."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 04 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 04 มิถุนายน

"พระกรุณาที่มีต่อเรา" (เอเฟซัส 2:7 THSV2011)

ขอให้เราสรรเสริญพระเจ้าสำหรับพระกรุณาที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อเราในทุกส่วนของชีวิตของเรา แต่เน้นเป็นพิเศษสำหรับการเกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณของเรา

มีคนมากมายเพียงไรที่เกิดที่เดียวกับเราและเรียนที่โรงเรียนเดียวกันกับเรา แล้วได้ดำรงชีวิตโดยปราศจากการรับรู้ถึงพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า? เหตุใดเราจึงได้รับสิทธิพิเศษมากเช่นนี้? พระคุณได้เรียกเรา!

ความบาปมากมายของเราได้รับการยกโทษ และเราก็ได้รับการพิทักษ์รักษาไว้โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า! เราได้รับการอวยพรโดยพระสัญญาของพระเจ้า และได้รับการช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตกับพระเจ้าได้ เรากำลังรอคอยการกลับมาของพระเยซู เรามีพระสัญญาแห่งชีวิตนิรันดร์! เราสามารถกล่าวได้ว่า "ทุกสิ่งก็เป็นของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเป็นของพระคริสต์ และพระคริสต์เป็นของพระเจ้า"

"โอ ขอทรงสำแดงพระองค์เองให้ข้าฯ ได้เห็นมากยิ่งขึ้นในทุกโมงยาม
โอ ขอทรงสำแดงเกียริสิริของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าฯ
ในพระคุณและฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ขอทรงสำแดงพระองค์เองมากยิ่งขึ้
ขอทรงสำแดงความรักและความจริงมากยิ่งขึ้นด้วยเถิด พระคำผู้เสด็จมาบังเกิด" 
(H. Bonar)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 04

"His kindness to us." (Ephesians 2:7)

Let us praise God for His great kindness to us in every aspect of our lives- but especially in our spiritual rebirth.

How many, born in the same place, and educated in the same school, have lived their lives without a realization of the great kindness of God? Why have we been so privileged? We have been called by grace!

Our many sins have been forgiven, and we are kept by the power of God! We are blessed by the promises of God, and enabled to walk with God. We are looking for the coming again of Jesus. We have the promise of everlasting life! We can say, "All things are mine, for I am Christ's, and Christ is God's!"

"More of Yourself, O show me hour by hour,
More of Your glory, O my God and Lord;
More of Yourself, in all Your grace and power,
More of Your love and truth, Incarnate Word!" 
(H. Bonar)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 03 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 03 มิถุนายน

"พระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์" (เอเฟซัส 2:7 THSV2011)

องค์พระผู้เป็นเจ้าปีติยินดีในพระคุณของพระองค์ พระคุณเป็นความอุดมหรือความมั่งมีของพระองค์ และพระคุณบริบูรณ์พร้อมในพระเยซู เพื่อที่เราจะได้รับพระคุณนี้ผ่านทางพระองค์ พระคุณของพระองค์มีมากเกินกว่าที่ความคิด ความคาดหวัง และรวมถึงความเชื่อของเราจะหยั่งถึง

พระเยซูเป็นของขวัญแห่งพระคุณเช่นเดียวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์และพระพรฝ่ายวิญญาณทั้งสิ้น พระคุณได้รวมถึงพระพรทั้งสิ้นที่คริสตจักรได้รับแล้ว กำลังได้รับ และจะได้รับจวบจนชั่วนิจนิรันดร์

โอ ขอพระองค์ประทานความเชื่อ เพื่อที่ข้าพระองค์จะเชื่อวางใจในพระสัญญาของพระเจ้า

มีพระคุณอันอุดมเพื่อเรา เพื่อเราในเช้าวันนี้ เพื่อเราในทุกเวลาที่เราขอ ด้วยเหตุนี้ ขอให้เรารับเอาพระคุณ เพื่อที่ผ่านทางพระคุณนี้ เราจะได้รับใช้พระเจ้าอย่างที่พระองค์พอใจด้วยความเคารพยำเกรงพระองค์

"พระคุณพระเจ้านั้นแสนชื่นใจ 
ช่วยได้คนชั่วอย่างฉัน 
ครั้งนั้นฉันหลงพระองค์ตามหา 
ตาบอดแต่ฉันเห็นแล้ว" 
(John Newton, เพลง "พระคุณพระเจ้า")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 03

"The exceeding riches of His grace." (Ephesians 2:7)

The Lord glories in His grace. It is His riches- His wealth. It is all treasured up in Jesus to be received by us. His grace exceeds our thoughts and expectations - and our faith.

Jesus is the gift of grace, as is the Holy Spirit and also all spiritual blessings. Grace includes all the blessings the church has received, is receiving and will receive throughout eternity.

Oh, for faith to believe the promises of God.

There is an abundance of grace, and it is for us; for us this morning, for us whenever we ask. Let us therefore have grace, by which we may serve God acceptably with reverence and godly fear.

"Amazing grace! How sweet the sound; 
That saved a wretch like me! 
I once was lost, but now am found; 
Was blind, but now I see." 
(John Newton, hymn "Amazing Grace")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 02 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 02 มิถุนายน

"เราจะทำดีแก่เจ้า" (ปฐมกาล 32:9 THSV2011)

ดังเช่นที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาไว้กับยาโคบ รวมถึงพระสัญญาที่พระองค์ได้ให้แก่บรรพบุรุษของเรา พระองค์จะทำตามคำสัญญานั้นเพื่อเรา พระสัญญาดังกล่าวมิได้ตัดปัญหาประเภทต่างๆ ออกไป และพระเจ้าจะยังคงดูแลเราอย่างดี

พระสัญญายืนยันว่าสิ่งดีจะเกิดขึ้นผ่านทางการทดสอบที่เราเผชิญ และพระองค์จะให้พระคุณแก่เราเพื่เสริมกำลังแก่เรา และเราจะได้รับสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นสำหรับเรา

ช่างเป็นคำปลอบใจที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ที่พระเจ้าจะปฏิบัติต่อเราด้วยความกรุณาในยามที่เราแข็งแรงดีและในยามเจ็บป่วย ในชีวิตและในความตาย ในกาลเวลาและจวบจนนิรันดร์กาล เรามีเหตุผลที่ดีที่จะเปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจ ความพอใจ และใจที่สำนึกในพระคุณ!

แม้ยาโคบเผชิญการทดสอบมากมาย ท่านได้พบว่าพระเจ้าสัตย์ซื่อ และก็จะเป็นเช่นนั้นสำหรับเรา

ขอให้เราชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าได้กล่าวว่า "เราจะทำดีแก่เจ้า เราจะช่วยให้เจ้าหลุดพ้นด้วยความหลุดพ้นนิรันดร์ เราจะเป็นพระเจ้าของเจ้าและเกียรติสิริของเจ้า"

"จงนิ่งเสีย จิตใจของข้าฯ พระเจ้าอยู่เคียงข้างคุณ
จงรับกางเขนแห่งความทุกข์หรือความเจ็บปวด และแบกไว้ด้วยความอดทน
จงวางใจให้พระเจ้าบัญชาและจัดเตรียม
พระองค์ยังคงสัตย์ซื่อในทุการเปลี่ยนแปลง
จงนิ่งเสีย จิตใจของข้าฯ พระองค์เป็นสหายรัก สหายแห่งสวรรค์
หนทางขวากหนามนี้ จะนำไปสู่จุดหมายแห่งความชื่นชมยินดี"
(K.V. Schlegel, เพลง "Be Still, My Soul")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 02

"I will treat you kindly." (Genesis 32:9)

So the Lord promised Jacob; and the promise made to our fathers, He will fulfil for us. Such a promise does not exclude troubles of all kinds, and still the Lord deals well with us.

The promise guarantees that good will come through our trials; that grace will be given to strengthen us, and all our needs will be met.

What a comfort to know that God treats us kindly in health and in sickness, in life and in death; in time and through eternity. We have good reason to be filled with confidence, contentment and thanksgiving!

Jacob, though tried, found the Lord faithful, and so shall we.

Let us rejoice that God has said "I will treat you well. I will save you with an everlasting salvation. I will be your God and your glory."

"Be still my soul: the Lord is on your side;
Bear patiently the cross of grief or pain;
Leave to your God to order and provide;
In every change He faithful will remain.
Be still, my soul: your best, your heavenly Friend
Through thorny ways leads to a joyful end."
(K.V. Schlegel, hymn "Be Still, My Soul")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 01 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 01 มิถุนายน

"พระยาห์เวห์ทรงเป็นความชอบธรรมของเรา" (เยเรมีย์ 23:6 THSV2011)

พระเยซูเป็นพระเจ้าองค์นิรันดร์ผู้ไม่เปลี่ยนแปลง พระองค์เป็นความชอบธรรมของเรา ด้วยเหตุนี้เอง พระบุตรของพระเจ้าจึงได้มาเป็นมนุษย์ ทำงาน ทนทุกข์ และตายบนกางเขนเพื่อรับเอาการลงโทษบาปของเราไป

โดยธรรมชาติแล้ว เราไม่มีความชอบธรรม แต่เราได้รับความชอบธรรมของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซู เรามีคุณสมบัติเพียพร้อมตามที่ความยุติธรรมเรียกร้องหรือพระเจ้าต้องการเพื่อที่เราจะได้รับความหลุดพ้นอย่างสมบูรณ์และนิรันดร์

ขอให้เราพึ่งพาพระเยซูผู้เป็น "องค์พระผู้เป็นเจ้าและความชอบธรรมของเรา" ในวันนี้ ตลอดทั้งวัน และทุกๆ วัน ขอให้เราเผชิญกับการงานและสถานการณ์ที่ยากทุกอย่างด้วยกำลังขององค์พระผู้เป็นเจ้า และขอบพระคุณพระองค์สำหรับความชอบธรรมของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว นี่เป็นกำลังของเราในการอธิษฐาน การสรรเสริญประจำวัน และการวางใจของเรา เมื่อยามที่เราเผชิญกับความตาย

"พระผู้ช่วย ครั้นเวลาแห่งเมืองศิโยน (สวรรค์)
ซึ่งข้าฯ เป็นสมาชิกผ่านทางพระคุณ
ยอมให้โลกหัวเราะเยาะและสงสาร
ข้าฯ จะถวายเกียรติพระนามพระองค์
ความพึงพอใจสูงสุดของโลกนี้ก็จืดจาง
รวมถึงทุกสิ่งที่โลกนี้โอ้อวดและแสดงออก
แต่ไม่มีใครเลย ยกเว้นบุตรของศิโยนเท่านั้น
ที่รู้จักกับความชื่นชมยินดีที่มั่นคงและทรัพย์สมบัติอันถาวร"
(John Newton, เพลง "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 01

"The Lord is our righteousness." (Jeremiah 23:6)

Jesus is the eternal unchangeable God. He is our righteousness. For this reason the Son of God became man, worked, suffered, and died on the cross to take the punishment for our sins.

We have no righteousness by nature, but we have the righteousness of God by faith in Jesus. We have all justice can demand, or God requires, for our full and eternal salvation.

Let us look to-day, all the day, and every day to Jesus, as "The Lord our righteousness." Let us go to work, to every difficult situation, in the strength of the Lord, thanking God for His righteousness, even His alone. This is our strength in prayer, in daily praise, and our trust as we face death.

"Saviour, since of Zion's city * (*heaven)
I through grace a member am,
Let the world deride or pity,
I will glory in Your name:
Fading are the world's best pleasures,
All its boasted pomp and show:
Solid joys and lasting treasures
None but Zion's children know." 
(John Newton, hymn "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 31 พฤษภาคม


บทความสอนใจประจำวัน 31 พฤษภาคม

"คนชอบธรรมหนีพ้นจากความลำบาก" (สุภาษิต 12:13 THSV2011)

ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้รับความหลุดพ้นผ่านทางความเชื่อในพระเยซู และเขาทุกคนก็มีอุปนิสัยใหม่ พวกเขาเกลียดชังความบาป ติดตามความบริสุทธิ์ และดำรงชีวิตเพื่อทำให้พระเจ้าพอใจ ความบาปจะไม่มีอำนาจเหลือพวกเขา พวกเขาประสบกับปัญหามากมาย แต่พวกเขาจะมีชัยชนะตลอด เพราะพระเจ้ายกชูเขาด้วยมือของพระองค์

ผู้เชื่อที่รัก จงมองผ่านการทดลองที่คุณกำลังเผชิญในปัจจุบัน ระลึกว่าหากคุณทนทุกข์ในฐานะคริสเตียน คุณก็ทนทุกข์ร่วมกับพระคริสต์ และคุณจะร่วมครอบครองกับพระองค์ พระเจ้าของคุณได้สัญญาไว้ว่าจะช่วยให้คุณผ่านพ้นได้ จงวางใจในพระองค์โดยปราศจากความสงสัย อย่ายอมต่อการทดลอง พระเจ้าของคุณจะนำให้คุณให้พ้นจากปัญหา พระองค์จะให้ความชอบธรรมของคุณปรากฏอย่างความสว่าง คุณจะลืมความทุกข์ยาก ปัญหาในปัจจุบันจะจบลงที่สันติสุขนิรันดร์

"คนนับล้านที่อยู่ล้อมรอบพระบัลลังก์ของพระเจ้า
ที่นี่สามารถพบความผ่อนคลายและพระเมตตา
องค์พระผู้เป็นเจ้าขับไล่ความกลัวความเศร้าหมองของเขา
รักษาบาดแผลของเขา เช็ดน้ำตาของเขาให้แห้ง
แล้วคุณจะพบกับพระเมตตาด้วย
เพราะพระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ เที่ยงธรรม และกรุณา"
(L.M., เพลง "Relief Sought and Found")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

May 31

"The righteous will come through trouble." (Proverbs 12:13)

The Lord's people are saved through faith in Jesus; and all such have a new disposition; they hate sin, follow holiness and live to please God. Sin shall not have dominion over them. They meet with many troubles, but they shall win through, for the Lord upholds them with His hand.

Dear believer, look beyond your present trials; remember if you suffer as a Christian, you suffer with Christ; and so you shall also reign with Him. Your God has promised to deliver you; trust in Him without wavering; do not yield to temptation. Your God will bring you out of trouble. He will bring forth your righteousness as the light. You shall forget your misery. Present troubles will end in everlasting peace.

"Millions who now His throne surround,
Here sought relief, here mercy found;
The Lord dispelled their gloomy fears,
Healed all their wounds, and dried their tears;
And you shall also mercy find,
For God is faithful, just and kind."
(L.M., hymn "Relief Sought and Found")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 30 พฤษภาคม


บทความสอนใจประจำวัน 30 พฤษภาคม

"น้ำพุทั้งสิ้นของเราอยู่ในพระองค์" (สดุดี 87:7 THSV2011)

พระเยซูเป็นแหล่งของน้ำที่ให้ชีวิต "บ่อน้ำแห่งความหลุดพ้น" อยู่ในพระบุคคล พระราชกิจ และพระคำของพระองค์ พระองค์กล่าวว่า "ถ้าใครกระหาย ให้คนนั้นมาหาเรา" (ยอห์น 7:37 THSV2011)

น้ำพุแห่งการปลอบโยน สันติสุข และความหลุดพ้นทั้งสิ้นอยู่ในพระองค์ พระองค์ชำระล้างสิ่งทั้งปวงที่ไม่บริสุทธิ์ ทำให้คนอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยมีความสดชื่น และทำให้บรรดาจิตใจที่แสวงหาได้เต็มอิ่ม น้ำพุนี้ไม่มีวันแห้งเหือด ใครก็ตามที่ปรารถนาก็สามารถมาดื่มได้

เราจำเป็นต้องพึ่งพาพระเยซูอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นความสุขของเรา พระเยซูสามารถทำและให้สิงจำเป็นทั้งสิ้นสำหรับเรา เพราะนี่เป็นความยินดีของพระเจ้าที่ความบริบูรณ์ทั้งหมดจะอยู่ในพระเยซู

ขอให้เราขอ แล้วพระองค์จะให้ "น้ำที่ให้ชีวิต" เพื่อที่เราจะไม่กระหายอีกเลย

"บัดนี้ ไม่มีผู้ใดนอกจากพระคริสต์ที่ทำให้อิ่มใจ!
ไม่มีนามอื่นใดสำหรับข้าฯ
ข้าฯ พบความรักแท้ ชีวิต และความชื่นบานอันถาวร
ในพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า"
(เพลง "None but Christ", ไม่ทราบผู้แต่ง)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

May 30

"All my springs are in You." (Psalm 87:7)

Jesus is the fountain of living water; the "wells of salvation" are in His person, work and word; He says, "Anyone who is thirsty, may come to Me and drink." (John 7:37)

The springs of comfort, peace and salvation are all in Him. He cleanses from all that is impure; refreshes the faint and weary; and satisfies the longing soul. The springs never run dry; whoever wishes may come and take.

We are absolutely dependant on Jesus, this is our happiness. Jesus can do, and give all we can possibly need; for it has pleased the Father that all fullness should be in Jesus.

Let us ask, and He will give us "living water": that we will no longer be thirsty.

"Now none but Christ can satisfy,
No other Name for me!
There's love, and life, and lasting joy,
Lord Jesus, found in Thee."
(Hymn "None but Christ", unknown author)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie






วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 29 พฤษภาคม


บทความสอนใจประจำวัน 29 พฤษภาคม

"และจะได้เห็นว่าข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์" (ฟิลิปปี 3:9 THSV2011)

การอยู่ "ในพระคริสต์" คือการเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์ในความเชื่อและความรักแท้ หากปราศจากพระองค์แล้วเราก็ยากจน ตาบอด และเปลือยกาย ในพระองค์เราก็ร่ำรวยมหาศาล ปลอดภัยตลอดกาล ได้รับการยกชูสู่เกียรติยศสูงสุด และจะยังคงพบว่าปราศจากความผิดต่อหน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้า

เราถูกนับว่าปราศจากบาปผ่านทางการเชื่อฟังของพระองค์ดังเช่นลูกหนี้ได้รับการปลดหนี้เมื่อมีผู้หนึ่งได้ชำระหนี้แทนแล้ว เราได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ผ่านทางพระองค์ดังเช่นจานชามได้รับการชำระล้างในแหล่งน้ำพุ เราได้รับการปกป้องโดยพระองค์ดังเช่นเมื่อโนอาห์อยู่ในเรือ เราได้รับการยกชูสู่เกียรติยศดัเช่นเจ้าสาวของพระมหากษัตริย์ ไม่มีใครสามารถกล่าวพรรณนาถึงพรพรที่ได้รับจากการอยู่ "ในพระองค์" ได้อย่างครบถ้วน

จงถามตัวคุณเองว่า "ฉันอยู่ในพระองค์หรือไม่? ฉันกำลังดำรงชีวิตร่วมกับพระองค์ดั่งเจ้าสาวที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ ดำรงชีวิตเพื่อพระองค์ดั่งผู้รับใช้ที่อุทิศชีวิตเพื่อพระองค์ และดำรงชีวิตโดยพึ่งพาพระองค์ดั่งบุตรที่ต้องให้พระองค์คอยดูแลรือไม่?"

"ใช่แล้ว ข้าฯ ต้องและจะยึดถือว่าทุกสิ่ง 
เป็นเพียงการขาดทุนเพื่อเห็นแก่พระคริสต์ 
โอ ขอที่จิตใจข้าฯ จะพักพิงอยู่ในพระองค์ 
และเข้าร่วมในความชอบธรรมของพระองค์" 
(Isaac Watts, เพลง "I Boast No More")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

May 29

"And be found in Him." (Philippians 3:9)

To be "in Christ" is to be one with Him in faith and love. Apart from Him we are poor, blind and naked; in Him we are immensely rich; forever safe; exalted to the highest honour; and shall yet appear faultless before God's throne.

We are accounted as sinless through His obedience, as the debtor is cleared when another pays his debt; we are made holy through Him, as the dish is cleansed in the fountain; we are protected by Him, as Noah was in the ark; we are exalted to honour as the Bride of the King. No one can fully declare the blessedness of being "in Him."

Ask yourself "Am I in Him? Am I living with Him, as His faithful bride; for Him, as His devoted servant; upon Him, as His dependant child?"

"Yes, and I must and will esteem 
All things but loss for Jesus' sake; 
Oh, may my soul be found in Him, 
And of His righteousness partake." 
(Isaac Watts, hymn "I Boast No More")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie






บทความสอนใจประจำวัน 28 พฤษภาคม

บทความสอนใจประจำวัน 28 พฤษภาคม

"จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า" (สุภาษิต 3:6 THSV2011)

ชีวิตของเราเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าและได้ถูกซื้อไว้แล้วด้วยพระโลหิตของพระเยซู พระองค์ได้มอบความรักแท้ให้แก่เราและสนใจทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเราเป็นอย่างยิ่ง

เราควรทำทุกสิ่งเพื่อถวายเกียรติสิริแด่พระองค์ และอธิษฐานร่วมกับขอบพระคุณพระองค์สำหรับทุกสิ่ง เราควรทูลทุกสิ่งต่อพระองค์

เราควรอธิษฐานด้วยหมดทั้งหัวใจของเราเกี่ยวกับทุกสิ่ง พร้อมทั้งแสวงหาการสถิตอยู่ การนำทาง และการอวยพรของพระองค์ สิ่งนี้จะนำสันติสุขแห่งความคิด ปกป้องรักษาเราจากการทดลอง และทำให้ความเชื่อของเราเข้มแข็

คนที่ยอมรับรู้พระเจ้าเสมอ จะพบว่าพระเจ้านำหนทางชีวิตของเขาเสมอ

"เป็นการดีที่จะขอบพระคุณพระยาห์เวห์ ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด 
ที่จะร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์ 
ที่จะประกาศความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า 
และประกาศความซื่อสัตย์ของพระองค์ในกลางคืน" (สดุดี 92:1-2 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

May 28

"Seek His will in all you do." (Proverbs 3:6)

We are the Lord's, bought by the blood of Jesus. He has set His love upon us, and is deeply interested in all that concerns us.

We should do all things for His glory; and in everything by prayer with thanksgiving, we should let our requests be made known to Him.

We should pray with our whole heart about everything seeking His presence, direction and blessing. This will bring peace of mind, preserve us from many temptations, and strengthen our faith.

Those who always acknowledge God, will find that God always directs their paths.

"It is good to praise the Lord, 
And make music to Your Name, O most High, 
To proclaim Your love in the morning 
And Your faithfulness at night." (Psalm 92:1-2)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie