วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

Colossians Lesson 3 (2:6-23): Continue To Live in Christ - จงดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (5)

I. A COMMAND to Continue to Live in Christ (5)

Philosophy defines willing to pursuit wisdom. That's ok to pursue wisdom. But philosophy that Paul mentioned was about world's view or man's view. It is based on human wisdom. It measures everything by man's rule. Noting is in depth in world's view.

Let our wisdom be based on divine which is in depth and forever.

"For the message of the cross is foolishness to those who are perishing, but to us who are being saved it is the power of God." (1Corinthians 1:18 NKJV)

For human philosophy, the cross is futile. But in God's standpoint, cross is wisdom.

Human traditions try to teach human perspectives. Stay away from human traditions.

"5 Then the Pharisees and scribes asked Him, 'Why do Your disciples not walk according to the tradition of the elders, but eat bread with unwashed hands?'
6 He answered and said to them, 'Well did Isaiah prophesy of you hypocrites, as it is written: ' This people honors Me with their lips, But their heart is far from Me.
7 And in vain they worship Me, Teaching as doctrines the commandments of men.'
8 For laying aside the commandment of God, you hold the tradition of men --- the washing of pitchers and cups, and many other such things you do.' " (Mark 7:5-8 NKJV)

 

PRINCIPLE I:

  • A Live and Worldview Centered on Jesus Protects You From Being Captured by the World.

 

That's why it is so important to understand what the bible says.

If we claim to be a Christian, we have to understand what the bible's truth is.

What would we do for keeping from being trapped by the world? Continue to live in Christ. Deepen in being rooted in Him, built up in Him, strengthened in the faith, and overflowing with thankfulness.

 


 

I. คำสั่งให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (5)

หลักปรัชญากำหนดความปรารถนาในการเสาะหาสติปัญญา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีในการเสาะหาสติปัญญา แต่หลักปรัชญาที่อาจารย์เปาโลกล่าวถึงนี้เป็นปรัชญาเกี่ยวกับมุมมองของโลก และมุมมองขอบมนุษย์ ซึ่งอยูบนพื้นฐานของสติปัญญาของมนุษย์ สิ่งนี้จะวัดมาตรฐานของทุกสิ่งด้วยกฎเกณฑ์ของมนุษย์ ไม่มีสิ่งใดที่ลงลึกในมุมมองของโลก

จงให้สติปัญญาของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งพระเจ้า ซึ่งเป็นสติปัญญาที่ลึกและนิรันดร์

เพราะ​ว่า​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​กำ​ลัง​จะ​พินาศ​ก็​เห็น​ว่า​เรื่อง​กาง​เขน​เป็น​เรื่อง​โง่ แต่​เรา​ที่​กำ​ลัง​จะ​รอด​เห็น​ว่า​เป็น​ฤท​ธา​นุภาพ​ของ​พระ​เจ้า (1 โครินธ์ 1:18 THSV2011)

สำหรับหลักปรัชญาของมนุษย์ กางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่จากจุดยืนของพระเจ้า กางเขนคือสติปัญญา

คำสอนที่สืบทอดกันมาของมนุษย์ พยายามที่จะสอนมุมมองของมนุษย์ จงพยายามที่จะอยู่ห่างคำสอนเหล่านี้

5 พวก​ฟา​ริสี​กับ​พวก​ธรร​มา​จารย์​จึง​ทูล​ถาม​พระ​องค์​ว่า "ทำ​ไม​พวก​สา​วก​ของ​ท่าน​ไม่​ประ​พฤติ​ตาม​คำ​สอน​ที่​ตก​ทอด​มา​จาก​บรรพ​บุรุษ แต่​กลับ​รับ​ประ​ทาน​อาหาร​ด้วย​มือ​ที่​เป็น​มล​ทิน?"
6 พระ​องค์​ตรัส​ตอบ​พวก​เขา​ว่า "อิส​ยาห์​พยา​กรณ์​ถึง​พวก​ท่าน​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด ก็​ถูก​ต้อง​แล้ว​ตาม​ที่​เขียน​ไว้​ว่า 'ชน​ชาติ​นี้​ให้​เกียรติ​เรา​แต่​ปาก ใจ​ของ​พวก​เขา​ห่าง​ไกล​จาก​เรา
7 พวก​เขา​นมัส​การ​เรา​โดย​เปล่า​ประ​โยชน์ เพราะ​เอา​กฎ​เกณฑ์​ของ​มนุษย์​มา​สอน​ว่า​เป็น​พระ​ดำรัส​สอน' 
8 พวก​ท่าน​ละ​ทิ้ง​พระ​บัญ​ญัติ​ของ​พระ​เจ้า และ​กลับ​ไป​ยึด​ถือ​ถ้อย​คำ​ของ​มนุษย์​ที่​สอน​ต่อๆ กัน​มา" (มาระโก 7:5-8 THSV2011)

 

ข้อคิดที่ I:

  • ชีวิตและมุมมองของโลกที่มีศูนย์กลางอยู่ในพระเยซู ปกป้องคุณจากการถูกครอบครองโดยโลกนี้

 

นี่จึงเป็นเหตุผลที่บอกว่าเหตุไรการเข้าใจถึงสิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หากเราบอกว่าเราเป็นคริสเตียน เราจำเป็นจะต้องเข้าใจว่าความจริงของพระคัมภีร์คือสิ่งใด

อะไรคือสิ่งที่เราจะทำเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกับดักของโลกนี้? จงดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป จงลงลึกด้วยการหยั่งรากในพระองค์ จงก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงอยู่ในความเชื่อ และจงบริบูรณ์ด้วยการขอบพระคุณ

 

Gary Walthall

BSF Foreign Resident Ambassador

คำแบ่งปันสำหรับ Bible Study Fellowship pilot class III: Colossians Lesson 3

เมื่อวันที่ 03/05/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

 

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

Colossians Lesson 3 (2:6-23): Continue To Live in Christ - จงดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (4)

I. A COMMAND to Continue to Live in Christ (4)

3. Established in the faith (Strengthened in the Faith)

Christian life is like a body.

"15 but, speaking the truth in love, may grow up in all things into Him who is the head --- Christ ---
16 from whom the whole body, joined and knit together by what every joint supplies, according to the effective working by which every part does its share, causes growth of the body for the edifying of itself in love." (Ephesians 4:15-16 NKJV)

Christ is the Head and we are the body. Be strengthened in faith in Christ and oppose to the false teachings. Our faith is in Christ.

 

4. Abounding in with Thanksgiving (Overflowing with Thankfulness)

Paul had a thanksgiving heart. He realized what God had done for him.

 

After that, Paul warned the Christians in Colosse against the philosophy and empty deceit, according to the tradition of men and according to the basic principles of the world.

Be careful. Be aware. Be on guard. Be watchful what are going on around us. Don't be wrapped by anything.

 


 

I. คำสั่งให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (4)

3. จงมั่นคงอยู่ในความเชื่อ

ชีวิตคริสเตียนเป็นเหมือนกับร่างกาย

15 แต่​ให้​เรา​ยึด​ถือ​ความ​จริง​ด้วย​ความ​รัก เพื่อ​จะ​เจริญ​ขึ้น​ใน​ทุก​ด้าน​สู่​พระ​องค์​ผู้​เป็น​ศีรษะ​คือ​พระ​คริสต์
16 เนื่อง​จาก​พระ​องค์​นี้​เอง ร่าง​กาย​ทั้ง​หมด​จึง​ได้​รับ​การ​เชื่อม​และ​ประ​สาน​เข้า​ด้วย​กัน​โดย​ทุกๆ ข้อ​ต่อ​ที่​ประ​ทาน​มา​นั้น และ​เมื่อ​แต่​ละ​ส่วน​ทำ​งาน​ตาม​หน้าที่​แล้ว ก็​ทำ​ให้​ร่าง​กาย​เจริญ​และ​เสริม​สร้าง​ตน​เอง​ขึ้น​ด้วย​ความ​รัก (เอเฟซัส 4:15-16 THSV2011)

พระคริสต์ทรงเป็นศีรษะ เราทั้งหลายเป็นร่างกาย จงมั่นคงในความเชื่อในพระคริสต์ และจงต่อต้านคำสอนเท็จ ความเชื่อของเราอยู่ในพระคริสต์

 

4. จงบริบูรณ์ด้วยการขอบพระคุณ

อาจารย์เปาโลมีใจที่ขอบพระคุณ ท่านตระหนักถึงสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อท่าน

หลังจากนั้น อาจารย์เปาโลก็ได้เตือนคริสเตียนในเมืองโคโลสีถึงหลัก​ปรัชญาและ​คำ​ล่อลวง​อัน​เหลวไหล​ตาม​ตำนาน​ของ​มนุษย์ และตามหลักคำสอนทั่วไปของโลกนี้

จงระมัดระวัง ตระหนักไว้ ป้องกันตัว และเฝ้าระวังถึงสิ่งที่เป็นอยู่รอบตัวเรา อย่าถูกห่อหุ้มด้วยทุกสิ่ง

 

Gary Walthall

BSF Foreign Resident Ambassador

คำแบ่งปันสำหรับ Bible Study Fellowship pilot class III: Colossians Lesson 3

เมื่อวันที่ 03/05/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

Colossians Lesson 3 (2:6-23): Continue To Live in Christ - จงดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (3)

I. A COMMAND to Continue to Live in Christ (3)

2. Built Up in Him

It's just like building a house. Christian life is like a building.

Paul also used this analogy also in 1 Corinthians chapter 3.

"9 For we are God's fellow workers; you are God's field, you are God's building.
10 According to the grace of God which was given to me, as a wise master builder I have laid the foundation, and another builds on it. But let each one take heed how he builds on it.
11 For no other foundation can anyone lay than that which is laid, which is Jesus Christ." (1Corinthians 3:9-11 NKJV)

Paul also said that each believer is the temple of the Holy Spirit.

"Or do you not know that your body is the temple of the Holy Spirit who is in you, whom you have from God, and you are not your own?" (1Corinthians 6:19 NKJV)

We are in the process. The buildings are not complete yet. As we walk in Him, we would become more and more a house. It's ongoing process. He will never stop building us.

 


 

I. คำสั่งให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (3)

2. จงก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์

นี่เป็นเหมือนกับการสร้างบ้าน ชีวิตคริสเตียนเป็นเหมือนอาคาร

อาจารย์เปาโลได้ใช้สิ่งที่คล้ายคลึงกันนี้ในการอธิบายในพระธรรม 1 โครินธ์ บทที่ 3 เช่นเดียวกัน

9 เพราะ​ว่า​เรา​ร่วม​กัน​ทำ​งาน​เพื่อ​พระ​เจ้า ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​ไร่​นา​ของ​พระ​เจ้า และ​เป็น​ตึก​ของ​พระ​องค์
10 โดย​พระ​คุณ​ของ​พระ​เจ้า​ที่​ประ​ทาน​แก่​ข้าพ​เจ้า ข้าพ​เจ้า​ได้​วาง​ราก​ลง​แล้ว​เหมือน​นาย​ช่าง​ผู้​ชำ​นาญ และ​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​มา​ก่อ​ขึ้น แต่​ละ​คน​ต้อง​ระวัง​ให้​ดี​ว่า​เขา​จะ​ก่อ​ขึ้น​อย่าง​ไร
11 เพราะ​ว่า​ใคร​จะ​มา​วาง​ราก​อื่น​อีก​ไม่​ได้​แล้ว นอก​จาก​ที่​วาง​ไว้​แล้ว​คือ​พระ​เยซู​คริสต์ (1 โครินธ์ 3:9-11 THSV2011)

อาจารย์เปาโลกล่าวว่าผู้เชื่อแต่ละคนเป็นเหมือนกับพระวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ท่าน​รู้​แล้ว​ไม่​ใช่​หรือ​ว่า ร่าง​กาย​ของ​พวก​ท่าน​เป็น​วิหาร​ของ​พระ​วิญ​ญาณ​บริ​สุทธิ์​ผู้​สถิต​ใน​ท่าน ผู้​ซึ่ง​พวก​ท่าน​ได้​รับ​จาก​พระ​เจ้า และ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​ใช่​เจ้า​ของ​ตัว​ท่าน​เอง? (1 โครินธ์ 6:19 THSV2011)

เรายังอยู่ในกระบวนการ อาคารนี้ยังสร้างไม่เสร็จ ขณะที่เราดำเนินชีวิตในพระองค์ เราจะเป็นเหมือนบ้านมากขึ้นทุก ๆ วัน นี่เป็นกระบวนการต่อเนื่อง พระองค์จะไม่หยุดสร้างเราเลย

 

Gary Walthall

BSF Foreign Resident Ambassador

คำแบ่งปันสำหรับ Bible Study Fellowship pilot class III: Colossians Lesson 3

เมื่อวันที่ 03/05/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

 

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

Colossians Lesson 3 (2:6-23): Continue To Live in Christ - จงดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (2)

I. A COMMAND to Continue to Live in Christ (2)

1. Rooted in Him

Christian life is like a plant. To be rooted in Him is to be connected with Him. Just like a plant that has roots in the ground. We have the root of Christ within us.

To be rooted in Christ is to become a believer of Christ.

Paul used this analogy also in 1 Corinthians chapter 3.

"5 Who then is Paul, and who is Apollos, but ministers through whom you believed, as the Lord gave to each one?
6 I planted, Apollos watered, but God gave the increase.
7 So then neither he who plants is anything, nor he who waters, but God who gives the increase.
8 Now he who plants and he who waters are one, and each one will receive his own reward according to his own labor." (1Corinthians 3:5-8 NKJV)

If we have a strong root, we would not be afraid when we face the storms.

He is the root. He will supply what we need to walk in Him.

 


 

I. คำสั่งให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (2)

1. จงหยั่งรากในพระองค์

ชีวิตคริสเตียนเป็นเหมือนดั่งต้นไม้ การหยั่งรากในพระองค์ก็เป็นการที่เราเชื่อมติดสนิทกับพระองค์ เป็นเหมือนต้นไม้ที่จะต้องหยั่งรากลงในดิน เรามีรากแห่งพระคริสต์อยู่ในตัวเรา

การหยั่งรากในพระคริสต์ ก็คือการที่เราได้เป็นผู้เชื่อในพระองค์

อาจารย์เปาโลได้กล่าวถึงสิ่งที่คล้ายคลึงกันในพระธรรม 1 โครินธ์ บทที่ 3

5 อปอล​โล​คือ​ใคร? เปา​โล​คือ​ใคร? คือ​ผู้​ปรน​นิบัติ​ซึ่ง​ได้​สอน​พวก​ท่าน​ให้​เชื่อ ตาม​งาน​ที่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​กำ​หนด​ให้​แต่​ละ​คน
6 ข้าพ​เจ้า​ปลูก อปอล​โล​รด​น้ำ แต่​พระ​เจ้า​ทรง​ทำ​ให้​เติบ​โต
7 เพราะ​ฉะนั้น​คน​ที่​ปลูก​และ​คน​ที่​รด​น้ำ​ไม่​สำ​คัญ​อะไร แต่​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​ให้​เติบ​โต​นั้น​ต่าง​หาก​ที่​สำ​คัญ
8 คน​ที่​ปลูก​และ​คน​ที่​รด​น้ำ​ก็​เป็น​พวก​เดียว​กัน และ​ทุก​คน​ก็​จะ​ได้​บำ​เหน็จ​ตาม​การ​งาน​ของ​ตน (1 โครินธ์ 3:5-8 THSV2011)

หากรากของเราเข้มแข็ง เราก็จะไม่กลัวเมื่อมีลมพายุพัดมา

พระองค์ทรงเป็นราก พระองค์จะทรงจัดหาสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีในการดำเนินชีวิตในพระองค์

 

Gary Walthall

BSF Foreign Resident Ambassador

คำแบ่งปันสำหรับ Bible Study Fellowship pilot class III: Colossians Lesson 3

เมื่อวันที่ 03/05/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

 

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

Colossians Lesson 3 (2:6-23): Continue To Live in Christ - จงดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (1)

Colossians Lesson 3
(2:6-23)

Continue To Live in Christ
(Do Not Submit To The World)

 

Outlines

I. A COMMAND to Continue to Live in Christ (6-8)

II. The TRUTH about Being in Christ (9-15)

III. A WARNING for Believers (16-23)

 

There is much information today. We have received news from many sources. We face the information overload. We just want to know what the truth is.

Jesus is the truth. We don't have to add any thing to Christ. There are many heresies and traditions of the world trying to add something to Jesus Christ. Don't add any thing to Him. Stay on tract and continue the connection with Him.

 

I. A COMMAND to Continue to Live in Christ (1)

"6 As you therefore have received Christ Jesus the Lord, so walk in Him,
7 rooted and built up in Him and established in the faith, as you have been taught, abounding in it with thanksgiving.
8 Beware lest anyone cheat you through philosophy and empty deceit, according to the tradition of men, according to the basic principles of the world, and not according to Christ." (Colossians 2:6-8 NKJV)

Paul referred back to the previous verses. He continued to warn the believers not to be deceived by fine-sounding arguments. So then, receiving Jesus Christ here is not about receiving salvation, but receiving instruction who Jesus was. What Paul mentioned here is about teaching of the truth about Jesus Christ that.

The same as in the church in Colosse that time, there are many false teachers in churches this day.

Paul spent time to describe each detail about Christ in this chapter. To continue to live in Him is the command. In Him, be continuing walking in Him. It's to continue walking with Him, walking in the same path with Him, and steadily progressing with Him. Only do so one step at a time.

But when we follow Him, we sometimes go ahead of Him. Let Him lead our lives.

To continue walking in Him is a way that we can protect ourselves from false teaching. Living in Him that we would avoid the pitfall of false teachings.

Paul suggests here about how we could walk in Him.

 


 

โคโลสี บทเรียนที่ 3
(2:6-23)

จงดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป
(อย่ายอมตามโลกนี้)

 

โครงร่าง

I. คำสั่งให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (6-8)

II. ความจริงเกี่ยวกับการอยู่ในพระคริสต์ (9-15)

III. คำเตือนสำหรับผู้เชื่อทั้งหลาย (16-23)

 

ทุกวันนี้ เราได้รับข้อมูลมากมาย เราได้รับข่าวสารจากหลายแหล่ง เราพบกับข้อมูลที่เกินพิกัด เราเพียงแค่ต้องการรู้ว่าอะไรคือความจริง

พระเยซูทรงเป็นความจริง เราไม่ต้องเพิ่มเติมสิ่งใดให้กับพระคริสต์ มีคำสอนนอกรีดและขนบธรรมเนียมมากมายของโลกนี้ที่พยายามที่จะเพิ่มเติมบางสิ่งให้กับพระเยซูคริสต์ จงอย่าเพิ่มเติมสิ่งใด จงรักษาหนทางให้ดี และจงดำเนินความสัมพันธ์กับพระองค์ต่อไป

 

I. คำสั่งให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ต่อไป (1)

6 เหตุ​ฉะนั้น​เมื่อ​ท่าน​ได้รับ​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า​แล้ว​ฉัน​ใด จง​ปฏิบัติ​พระ​องค์​ด้วย​ฉัน​นั้น​
7 จง​หยั่ง​ราก​และ​ก่อ​ร่าง​สร้าง​ขึ้น​ใน​พระ​องค์ และ​มั่นคง​อยู่​ใน​ความ​เชื่อ ตาม​ที่​ท่าน​ได้รับ​คำ​สั่ง​สอน​มา​แล้ว และ​จง​บริบูรณ์​ด้วย​การ​ขอบ​พระ​คุณ​
8 จง​ระวัง​ให้​ดี อย่า​ให้​ผู้ใด​ทำ​ให้​ท่าน​ตก​เป็น​เหยื่อ​ด้วย​หลัก​ปรัชญา และ​ด้วย​คำ​ล่อลวง​อัน​เหลวไหล​ตาม​ตำนาน​ของ​มนุษย์ ตาม​วิญญาณ​ต่างๆ แห่ง​สากล​จักรวาล ไม่ใช่​ตาม​พระ​คริสต์​ (โคโลสี 2:6-8 THSV2011)

อาจารย์เปาโลได้อ้างย้อนกลับไปยังข้อก่อนหน้านี้ ท่านได้กล่าวเตือนต่อไปแก่ผู้เชื่อทั้งหลาย เพื่อที่พวกเขาจะไม่ถูกล่อลวงด้วยคำชักจูงที่น่าฟัง ด้วยเหตุนี้ การรับพระเยซูคริสต์ในที่นี้ อาจารย์เปาโลไม่ได้หมายถึงการรับความรอด แต่ท่านหมายถึงการรับข้อแนะนำเกี่ยวกับว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ใด สิ่งที่อาจารย์เปาโลกล่าวถึงที่นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับคำสอนถึงหลักความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์

เช่นเดียวกับคริสตจักรในเมืองโคโลสีในเวลานั้น ปัจจุบันนี้ก็มีผู้สอนเท็จมากมายในโบสถ์ต่าง ๆ

อาจารย์เปาโลได้ใช้เวลาในการบรรยายแต่ละข้อมูลเกี่ยวกับพระคริสต์ในพระคำบทนี้

การที่จะดำเนินชีวิตต่อไปในพระคริสต์นั้นเป็นคำสั่ง ในพระองค์ จงเดินในพระองค์ต่อไป ซึ่งนี่เป็นการเดินต่อไปกับพระองค์ เดินต่อไปในหนทางร่วมกับพระองค์ และเป็นการดำเนินก้าวไปอย่างต่อเนื่องกับพระองค์ เพียงแค่เราจะก้าวไปทีละขั้น

แต่เมื่อเราติดตามพระองค์ บางครั้งเราก็เดินล้ำหน้าพระองค์ไป จงยอมให้พระองค์ทรงนำในชีวิตของเรา

การที่จะดำเนินชีวิตต่อไปในพระองค์ต่อไปนั้น เป็นหนทางหนึ่งที่เราสามารถใช้ปกป้องชีวิตเราจากคำสอนที่ผิดได้ การดำเนินชีวิตในพระองค์เป็นการหลีกเลี่ยงหลุมพรางของคำสอนผิดต่าง ๆ ได้

อาจารย์เปาโลแนะนำถึงวิธีที่เราจะสามารถดำเนินชีวิตในพระองค์ได้

 

Gary Walthall

BSF Foreign Resident Ambassador

คำแบ่งปันสำหรับ Bible Study Fellowship pilot class III: Colossians Lesson 3

เมื่อวันที่ 03/05/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

 

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

Colossians Lesson 2 (1:15-2:5): Supremacy of Christ Over All - สิทธิอำนาจสูงสุดของพระคริสต์เหนือทุกสิ่ง (5)

III. Christ is God's Revealed MYSTERY (1:24-2:5):
What do we find when we encounter Jesus?

"24 I now rejoice in my sufferings for you, and fill up in my flesh what is lacking in the afflictions of Christ, for the sake of His body, which is the church,
25 of which I became a minister according to the stewardship from God which was given to me for you, to fulfill the word of God,
26 the mystery which has been hidden from ages and from generations, but now has been revealed to His saints.
27 To them God willed to make known what are the riches of the glory of this mystery among the Gentiles: which is Christ in you, the hope of glory.
28 Him we preach, warning every man and teaching every man in all wisdom, that we may present every man perfect in Christ Jesus.
29 To this end I also labor, striving according to His working which works in me mightily." (Colossians 1:24-29 NKJV)

"1 For I want you to know what a great conflict I have for you and those in Laodicea, and for as many as have not seen my face in the flesh,
2 that their hearts may be encouraged, being knit together in love, and attaining to all riches of the full assurance of understanding, to the knowledge of the mystery of God, both of the Father and of Christ,
3 in whom are hidden all the treasures of wisdom and knowledge.
4 Now this I say lest anyone should deceive you with persuasive words.
5 For though I am absent in the flesh, yet I am with you in spirit, rejoicing to see your good order and the steadfastness of your faith in Christ." (Colossians 2:1-5 NKJV)

God calls any of us to the service. It will require suffering, which is a natural consequence of serving God.

The verse 24 does not mean that Christ's work is not sufficient. The main purpose of Paul's mission was that man might know the mystery of God.

The Christian's mystery had been mystery before, but now it had been made known. The mystery is that "Christ is in us, the hope of glory". This is an unusual phrase to say. We are in Christ, as said many times in the bible. But Paul tried to oppose false teaching that to gain fullness of God was like climbing the ladders. We don't need to do so. The fact is that He is in us. We don't have to go anywhere. All God's blessing have come from heaven to us in Christ.

God's love is within us. He delivered us from the power of sin. We have power over sin. We sin because we allow it. But we have strength to fight with our sinful nature.

Hope in Glory is both now and in the future. We will see his glory.

Paul proclaimed, admonished, and taught. He did these so that he may present every man perfect in Christ Jesus. He wanted to mature us to be more and more like Jesus Christ. This was Paul's purpose.

Christ is God's revealed mystery. Why should we know more about Christ? Because all treasures, wisdom and honor are hidden in Christ. We have to dig for wisdom and knowledge. We know what mystery is. God wants us to be found and to find the treasure.

Don't' be deceived by any fine arguments, such as evolution, or Big-Bang theory.

God's Word is spoken to us. We have the truth in our hands.

 

PRINCIPLE V:

  • Jesus Christ is God's revealed Mystery and Treasure.

 

Are you willing to dig for it? How persistent are you doing that?

Study the word daily in your life. Continue to do so, not only today, but all your life. Bible study is the way of life. Never too old or too young to do so.

 


 

III. พระคริสต์ทรงเป็นความลำลึกของพระเจ้าที่ถูกสำแดง (1:24-2:5):
เราจะได้เจอสิ่งใดเมื่อเราได้พบกับพระเยซู?

24 เวลา​นี้​ข้าพ​เจ้า​ชื่น​ชม​ยินดี​ใน​ความ​ทุกข์​ยาก​เพราะ​เห็น​แก่​พวก​ท่าน และ​ความ​ยาก​ลำ​บาก​อย่าง​พระ​คริสต์​ที่​ทรง​ทน​เพราะ​เห็น​แก่​พระ​กาย​ของ​พระ​องค์​คือ​คริสต​จักร ซึ่ง​ยัง​ขาด​อยู่​นั้น ข้าพ​เจ้า​ก็​ทน​จน​ครบ​บริ​บูรณ์​ใน​เนื้อ​หนัง​ของ​ข้าพ​เจ้า
25 ข้าพ​เจ้า​มา​เป็น​ผู้​ปรน​นิบัติ​ของ​คริสต​จักร​ตาม​ภาร​กิจ​ที่​พระ​เจ้า​ทรง​มอบ​ให้​แก่​ข้าพ​เจ้า เพื่อ​กล่าว​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​แก่​พวก​ท่าน​อย่าง​เต็ม​บริบูรณ์
26 คือ​ความ​ล้ำ​ลึก​ที่​ซ่อน​ไว้​หลาย​ยุค​และ​หลาย​ชั่ว​อายุ​คน ซึ่ง​เวลา​นี้​โปรด​ให้​ปรา​กฏ​แก่​พวก​ธรร​มิก​ชน​ของ​พระ​องค์​แล้ว
27 พระ​เจ้า​ทรง​ประ​สงค์​ที่​จะ​ให้​พวก​เขา​รู้​ว่า ความ​ล้ำ​ลึก​นี้​มี​ศักดิ์​ศรี​อุดม​เพียง​ไร​ใน​หมู่​คน​ต่าง​ชาติ นั่น​คือ​พระ​คริสต์​สถิต​ใน​พวก​ท่าน อัน​เป็น​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​รับ​ศักดิ์​ศรี
28 พระ​องค์​นี้​แหละ​ที่​เรา​ประ​กาศ​อยู่​โดย​การ​เตือน​สติ​และ​สั่ง​สอน​ทุก​คน​ด้วย​สรรพ​ปัญ​ญา เพื่อ​ว่า​เรา​จะ​ถวาย​ทุก​คน​ที่​เป็น​ผู้ใหญ่​แล้ว​ใน​พระ​คริสต์
29 เพราะ​เหตุ​นี้ ข้าพ​เจ้า​จึง​ตราก​ตรำ​ต่อ​สู้​ตาม​กำ​ลัง​ที่​พระ​องค์​ทรง​ทำ​กิจ​ใน​ตัว​ข้าพ​เจ้า​อย่าง​มาก​มาย (โคโลสี 1:24-29 THSV2011)

1 เพราะ​ว่า​ข้าพ​เจ้า​ต้อง​การ​ให้​ท่านทั้ง​หลาย​รู้​ว่า​ข้าพ​เจ้า​ต่อสู้​มาก​เพียง​ไร​เพื่อ​ท่าน เพื่อ​ชาว​เมือง​เลา​ดี​เซีย และ​เพื่อ​ทุก​คน​ที่​ไม่​เคย​เห็น​หน้า​ข้าพ​เจ้า​เป็น​ส่วน​ตัว
2 เพื่อ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​หนุน​ใจ​และ​ผูกพัน​กัน​ใน​ความ​รัก ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​เขา​เปี่ยม​ด้วย​ความ​มั่น​ใจ​อย่าง​บริ​บูรณ์​ใน​ด้าน​ความ​เข้า​ใจ และ​ทำ​ให้​พวก​เขา​รู้​ความ​ล้ำ​ลึก​ของ​พระ​เจ้า คือ​พระ​คริสต์
3 ซึ่ง​คลัง​สติ​ปัญ​ญา​และ​ความ​รู้​ทุก​อย่าง​ซ่อน​อยู่​ใน​พระ​องค์
4 ข้าพ​เจ้า​กล่าว​เช่น​นี้​เพื่อ​จะ​ไม่​ให้​ใคร​ล่อ​ลวง​พวก​ท่าน​ด้วย​คำ​ชัก​ชวน​ที่​น่า​ฟัง
5 เพราะ​ว่า​ถึง​แม้​ตัว​ข้าพ​เจ้า​ไม่​อยู่ แต่​ใจ​ก็​อยู่​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย และ​มี​ความ​ชื่น​ชม​ยินดี​ที่​เห็น​ท่าน​อยู่​กัน​อย่าง​เรียบ​ร้อย และ​เห็น​ความ​เชื่อ​มั่น​คง​ของ​พวก​ท่าน​ใน​พระ​คริสต์ (โคโลสี 2:1-5 THSV2011)God calls any of us to the service. It will require suffering, which is a natural consequence of serving God.

พระเจ้าทรงเรียกเราสู่การรับใช้ ซึ่งจะต้องพบกับความทุกข์ยาก ซึ่งเป็นสิ่งธรรมดาที่จะเกิดตามมาจากการรับใช้พระเจ้า

ข้อ 24 ไม่ได้หมายความว่าพระราชกิจของพระคริสต์นั้นไม่เพียงพอ เป้าหมายพันธกิจของอาจารย์เปาโลคือที่คนจะได้รู้ถึงความลึกลับของพระเจ้า
ความล้ำลึกของคริสเตียน ได้เป็นความล้ำลึกมาก่อน แต่บัดนี้ความล้ำลึกนี้ได้ถูกเปิดเผย ความล้ำลึกนี้ก็คือ "พระ​คริสต์​สถิต​ใน​พวก​ท่าน อัน​เป็น​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​รับ​ศักดิ์​ศรี" นี่ไม่ใช่คำที่จะใช้พูดกันทั่ว ๆ ไป เราทั้งหลายอยู่ในพระคริสต์ ดังเช่นที่เราพบได้จากพระคัมภีร์หลายตอน แต่อาจารย์เปาโลพยายามที่จะแย้งคำสอนที่ผิดที่สอนว่าการที่จะได้รับความสมบูรณ์ของพระเจ้าเป็นเหมือนการปีนบันได
เราไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ความจริงคือว่า พระองค์สถิตในพวกเรา พวกเราไม่จำเป็นจะต้องไปที่ไหน พระพรทั้งสิ้นของพระเจ้าได้ลงมาสู่เราทั้งหลายในพระคริสต์

ความรักของพระเจ้าอยู่ในพวกเรา พระองค์ทรงช่วยกู้เราจากอำนาจของบาป เรามีอำนาจเหนือบาป เราทำบาปได้ก็เพราะเราอนุญาตมัน แต่เรามีกำลังที่จะต่อสู้กับธรรมชาติบาปของเรา

ความหวังที่จะได้รับศักดิ์ศรี เป็นทั้งปัจจุบันและอนาคต เราจะได้เห็นพระสิริของพระองค์

อาจารย์เปาโลประกาศ เตือนสติ และสั่งสอน ท่านได้ทำสิ่งเหล่านี้เพื่อที่ท่านจะได้ถวาย​ทุก​คน​ที่​สมบูรณ์แบบใน​พระ​คริสต์ ท่านต้องการที่จะให้เราเป็นผู้ใหญ่ ให้เป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้นทุกวัน ๆ นี่เป็นเป้าหมายของอาจารย์เปาโล

พระคริสต์ทรงเป็นความล้ำลึกที่ได้รับการเปิดเผย เหตุไรเราจึงควรที่จะเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับพระคริสต์? ก็เพราะขุมทรัพย์ สติปัญญา และเกียรติ ได้ถูกซ่อนในพระคริสต์ เราจำเป็นจะต้องเสาะหาสติปัญญาและความรู้ เรารู้ว่าความล้ำลึกนี้คืออะไร พระเจ้าทรงต้องการให้เราถูกพบ และเสาะหาทรัพย์สมบัตินี้

อย่าถูกล่อลวงด้วยคำชักชวนที่น่าฟัง เช่นเรื่องวิวัฒนาการ หรือทฤษฎี Big Bang

พระเจ้าตรัสพระวจนะแก่เรา เรามีความจริงอยู่ในมือของพวกเรา

 

ข้อคิดที่ V:

  • พระเยซูคริสต์ทรงเป็นความล้ำลึกและขุมทรัพย์ของพระเจ้าที่ได้รับการเปิดเผย

คุณต้องการที่จะเสาะหาขุมทรัพย์นี้หรือไม่? คุณมีความต่อเนื่องอย่างไม่ย่อท้อในการทำสิ่งนั้นอย่างไร?

จงศึกษาพระคำทุกวันในชีวิตของคุณ จงดำเนินต่อไปเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงแค่วันนี้ แต่ตลอดชีวิตของคุณ

การศึกษาพระคัมภีร์เป็นวิถีแห่งชีวิต ไม่มีใครแก่เกินไปหรือเด็กเกินไปที่จะทำเช่นนี้

 

Gary Walthall

BSF Foreign Resident Ambassador

คำแบ่งปันสำหรับ Bible Study Fellowship pilot class III: Colossians Lesson 2

เมื่อวันที่ 26/04/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

 

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

Colossians Lesson 2 (1:15-2:5): Supremacy of Christ Over All - สิทธิอำนาจสูงสุดของพระคริสต์เหนือทุกสิ่ง (4)

II. Christ is RECONCILER of ALL to God. (1:19-1:23):
How does Jesus make us complete?

"19 For it pleased the Father that in Him all the fullness should dwell,
20 and by Him to reconcile all things to Himself, by Him, whether things on earth or things in heaven, having made peace through the blood of His cross.
21 And you, who once were alienated and enemies in your mind by wicked works, yet now He has reconciled
22 in the body of His flesh through death, to present you holy, and blameless, and above reproach in His sight ---
23 if indeed you continue in the faith, grounded and steadfast, and are not moved away from the hope of the gospel which you heard, which was preached to every creature under heaven, of which I, Paul, became a minister." (Colossians 1:19-23 NKJV)

All God's fullness dwells in Jesus Christ. Everything that is in God is also in Christ. Jesus is fully God. Through Jesus all things have been reconciled to God through His blood.

Reconciliation means to restore peace, make compatible, or make people back together.

Jesus Christ was the one who reconciled us toward God. Jesus atoned for our sins, and now peace is on us because of this reconciliation.

God is fully righteous. He could not let the sin go. Someone has to pay for it. He has to be a man. And Jesus Christ was righteous and was a man. No body else is good enough. He gave His live for us and paid for our sins. He reunited us with God.

We were alienated from God, and we needed reconciliation. And now we have been reconciled to Christ's body.

Jesus Christ can present us holy, without blemish and free from accusation. No one can accuse us that we are sinners.

We cannot lose our salvation. True faith lasts to very end. We will be raised from the dead in the end.

True faith will produce fruits. It will be firm because it will build up on the rock of Jesus Christ.

 

PRINCIPLE IV:

  • Jesus Christ has reconciled us to Himself so that we may share His Life and Holiness.

 

How firm is your faith? Is it strong or firm because it places on the rock? Or is it put on something else that is just like the sand and not last to the end?

If our faith is on the Rock, how could we do to strengthen our faith? Nothing is better than to exercise it or use it. When God calls you in any situation, use your faith and exercise it.

 


 

II. พระคริสต์ทรงเป็นผู้ที่นำทุกคนให้คืนดีกับพระเจ้า (1:19-1:23):
พระเยซูทรงทำให้เรากลับสู่สภาพสมบูรณ์อย่างไร?

19 เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​ทรง​พอ​พระ​ทัย ที่​จะ​ให้​ความ​บริบูรณ์​ทั้งสิ้น​ธำรง​ใน​พระ​องค์​
20 และ​โดย​พระ​องค์ ให้​สิ่ง​สารพัด​กลับคืน​ดี​กับ​พระ​เจ้า ไม่​ว่า​สิ่ง​นั้น​จะ​อยู่​ใน​แผ่นดิน​โลก​หรือ​ใน​สวรรค์ ​พระ​องค์​ทรง​ทำ​ให้​มี​สันติภาพ​ด้วย​พระ​โลหิต​แห่ง​กางเขน​ของ​พระ​องค์
21 และ​พวก​ท่าน ซึ่ง​เมื่อก่อน​นี้​ไม่​ถูก​กัน​กับ​พระ​เจ้า และ​เป็น​ศัตรู​ใน​ใจ​ด้วย​การ​ชั่ว​ต่างๆ
22 บัดนี้​พระ​องค์​ทรง​โปรด​ให้​คืน​ดี​กับ​พระ​องค์ โดย​ความ​ตาย​แห่ง​พระ​กาย​เนื้อ​หนัง​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​จะ​ได้​ถวาย​ท่าน​แด่​พระ​เจ้า​ให้​เป็น​ผู้​บริสุทธิ์​ไร้​มลทิน และ​ปราศจาก​ตำหนิ​
23 แต่​ท่าน​ต้อง​ดำรง​และ​ตั้ง​มั่น​อยู่​ใน​ความ​เชื่อ และ​ไม่​โยกย้าย​ไป​จาก​ความ​หวัง​ใจ​ใน​ข่าว​ประเสริฐ​ซึ่ง​ท่าน​ได้​ยิน​แล้ว และ​ได้​ประกาศ​แล้ว​แก่​มนุษย์​ทุก​คน​ที่​อยู่​ใต้​ฟ้า ซึ่ง​ข้าพเจ้า​เปาโล​เป็น​ผู้รับ​ใช้​ใน​การ​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ​นั้น​ (โคโลสี 1:19-23 THSV2011)

ความสมบูรณ์ของพระเจ้าทั้งสิ้นอยู่ในพระเยซูคริสต์ ทุกสิ่งที่มีในพระเจ้า ก็มีในพระเยซูคริสต์เช่นกัน พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ ทุกสิ่งได้รับการคืนดีกับพระเจ้าผ่านทางพระโลหิตของพระยซู

การคืนดี หมายถึง การฟื้นฟูสันติสุข การทำให้สามารถเข้ากันได้ หรือการทำให้คนกลับมาอยู่ร่วมกัน

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ที่นำเราให้คืนดีกับพระเจ้า พระเยซูทรงไถ่บาปของเรา และบัดนี้ สันติสุขได้อยู่เหนือพวกเราเพราะการคืนดีนี้เอง

พระเจ้าทรงชอบธรรมอย่างสมบูรณ์ พระองค์ไม่สามารถปล่อยให้บาปดำเนินอยู่ได้ บางคนจะต้องชดใช้เผื่อบาป พระองค์จะต้องเป็นมนุษย์ และพระเยซูคริสต์ทรงชอบธรรม และทรงเป็นมนุษย์ ไม่มีผู้ใดอีกแล้วที่ดีเพียงพอ พระองค์ประทานชีวิตของพระองค์ และชำระเพื่อบาปของเรา พระองค์ทรงนำให้เรากับพระเจ้ากลับมีความสัมพันธ์ได้อีกครั้งหนึ่ง

เราเคยถูกตัดขาดจากพระเจ้า และเราต้องการการคืนดี และบัดนี้ เราได้รับการคืนดีเข้าสู่พระกายของพระคริสต์

พระเยซูคริสต์ทรงสามารถทำให้เราบริสุทธิ์ ปราศจากตำหนิ และอิสระจากการกล่าวโทษ ไม่มีใครสามารถกล่าวโทษเราได้ว่าเราเป็นคนบาป

เราไม่สามารถสูญเสียความรอดของเราได้ ความเชื่อที่แท้จะดำรงอยู่จนสุดปลาย เราจะถูกชุบชีวิตขึ้นจากตายในที่สุด

ความเชื่อที่แท้ จะเกิดผล และจะเป็นสิ่งถาวร เพราะว่าได้ถูกก่อขึ้นบนศิลาแห่งพระเยซูคริสต์

 

ข้อคิดที่ IV:

  • พระเยซูคริสต์ทรงนำเราให้คืนดีกับพระองค์เอง เพื่อที่เราจะได้มีส่วนในชีวิตของพระองค์และความบริสุทธิ์ของพระองค์

ความเชื่อของคุณมั่นคงเพียงไร? ความเชื่อของคุณแข็งแรงหรือมั่นคงเพราะว่าตั้งอยู่บนศิลาหรือไม่? หรือว่าตั้งอยู่บนสิ่งอื่นใด ที่เปรียบเหมือนทราย และจะไม่คงทนอยู่จนถึงที่สุด?

ถ้าหากความเชื่อของเราอยู่บนพระศิลา เราจะทำอย่างไรเพื่อทำให้ความเชื่อของเราเข้มแข็งขึ้น? ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าการที่เราบริหารความเชื่อ และใช้ความเชื่อ เมื่อพระเจ้าทรงเรียกคุณในสถานการณ์ใดก็ตาม จงใช้และบริหารความเชื่อ

 

Gary Walthall

BSF Foreign Resident Ambassador

คำแบ่งปันสำหรับ Bible Study Fellowship pilot class III: Colossians Lesson 2

เมื่อวันที่ 26/04/2010

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ