วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, May 06 (บทความสอนใจประจำวัน 06 พฤษภาคม)

Daily Devotional, May 06

"Never stop praying." (1 Thessalonians 5:17)

In prayer we come to God, our heavenly Father, asking Him for what we really need, and expecting to receive according to His wisdom and the promises of His Word.
We are always needing His help and blessing, and so should always pray. God is always ready to hear us, and delights in prayer offered in the name of Jesus. We should pray as naturally as we breathe; for prayer is the breath of the soul.
If prayer becomes a mere duty occasionally offered, we should come anew to our Saviour, as the disciples of old, with this prayer, "Lord, teach me to pray." (Luke 11:1)

"What a Friend we have in Jesus,
All our sins and griefs to bear;
What a privilege to carry
Everything to God in prayer.
Oh, what peace we often forfeit,
Oh, what needless pain we bear-
All because we do not carry
Everything to God in prayer."
(Joseph M Scriven, Hymn "What a Friend We Have in Jesus")

J. Smith (Adapted by Alina McKenzie)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความสอนใจประจำวัน 06 พฤษภาคม

"จงอธิษฐานอยู่เสมอ" (1 เธสะโลนิกา 5:17 TNCV)

ผ่านทางการอธิษฐาน เราเข้าเฝ้าพระเจ้าผู้ซึ่งเป็นพระบิดาในสวรรค์ของเรา ขอพระองค์ในสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีจริงๆ และคาดหวังที่จะได้รับคำตอบตามพระปัญญาของพระองค์และพระสัญญาแห่งพระคำของพระองค์
เราจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือและการอวยพรจากพระองค์เสมอ ดังนั้นเราจึงควรที่จะอธิษฐานอยู่เสมอ พระเจ้าพร้อมที่จะฟังเราเสมอ และโปรดปรานในคำอธิษฐานที่ทูลขอในพระนามของพระเยซู เราควรอธิษฐานอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับการที่เราหายใจ เพราะการอธิษฐานเป็นการหายใจของจิตวิญญาณ
หากการอธิษฐานกลายเป็นเพียงแค่หน้าที่ที่เราทำเป็นครั้งคราว เราควรจะเข้าเฝ้าพระผู้ช่วยของเราด้วยท่าทีใหม่ ให้เป็นเหมือนเหล่าสาวกในอดีตที่ได้อธิษฐานว่า "พระองค์เจ้าข้า ขอทรงสอนพวกข้าพระองค์อธิษฐาน" (ลูกา 11:1 TNCV)

"มีสหายเลิศคือพระเยซู     
ผู้ได้แบกบาปทุกข์ของเรา
มีอะไรรบกวนให้โศกเศร้า
จงรีบเร่งมาเข้าเฝ้า
เหตุไฉนเราลืมพระเจ้าบ่อย
ใจเป็นทุกข์โดยไม่มีเหตุ
เพราะการไหว้วอนเราได้ท้อถอย
ไม่ได้ทูลผู้ทรงฤทธิ์เดช"
(Joseph M Scriven, เพลง "มีสหายเลิศคือพระเยซู")

J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, May 05 (บทความสอนใจประจำวัน 05 พฤษภาคม)

Daily Devotional, May 05

"Being in an agony." (Luke 22:44)

Let us visit Gethsemane this morning. See this strange sight. Here is our Saviour; the one and only Son of God; the brightness of the Father’s glory, and the express likeness of His person; groaning in agony. His heart is filled with horror and dread. The pains of hell have taken hold of Him. His whole being is gripped in pain. He sweats blood. He cries out with an exceedingly bitter cry, and His whole being fails Him. There is no human hand to comfort Him; it is the hour and power of darkness. Our sins are laid on Him. Was there ever sorrow like His sorrow? Here our sins are being punished, and our salvation is being secured.

"Forbid it, Lord, that I should boast,
Save in the death of Christ, my God;
All the vain things that charm me most,
I sacrifice them to his blood."
(Isaac Watt, hymn "When I survey the wondrous cross")

J. Smith (Adapted by Alina McKenzie)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความสอนใจประจำวัน 05 พฤษภาคม

"พระเยซูทรงเป็นทุกข์ยิ่งนัก" (ลูกา 22:44 TNCV)

ขอให้เราเยี่ยมเยียนเกทเสมนีในเช้าวันนี้ จงมองดูภาพที่ประหลาด พระผู้ช่วยของเราผู้ซึ่งเป็นพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระเจ้า เป็นแสงสว่างแห่งเกียรติสิริของพระบิดา และเป็นการแสดงออกของลักษณะบุคคลของพระองค์ อยู่ที่นี่ และกำลังเป็นทุกข์ยิ่งนัก พระทัยของพระองค์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความเจ็บปวดแห่งนรกก็ได้ครอบงำจิตใจของพระองค์ ทั้งสิ้นของพระองค์ก็ถูกยึดด้วยความกลัว พระองค์หลั่งเหงื่อออกมาเป็นเลือด พระองค์ร้องคร่ำครวญด้วยเสียงร้องอันขมขื่นอย่างยิ่งยวด และทั้งสิ้นของพระองค์ก็อ่อนแอลง ไม่มีมือของมนุษย์ใดที่จะสามารถปลอบโยนพระองค์ นี่เป็นชั่วโมงและฤทธิ์อำนาจของความมืด
พระองค์รับบาปของเราไว้ จะมีความเศร้าเสียใจใดหนักหนาเท่ากับที่พระองค์เผชิญ? ที่นี่เองที่บาปของเราจะได้รับการลงโทษ และความรอดของเราจะได้รับการรับประกัน

"โปรดอย่าให้ข้าอวดอ้างโลกนี้
ขออวดถึงมรณาพระคริสต์
สิ่งของในโลกที่ข้าชอบชี้
มอบไว้หมดกับพระผู้พลีชีพ"
(Isaac Watt, เพลง "เมื่อข้าเพ่งดูกางเขนประหลาด")

J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, May 04 (บทความสอนใจประจำวัน 04 พฤษภาคม)

Daily Devotional, May 04

"I will heal your backslidings." (Jeremiah 3:22)

The believer can only be spiritually healthy when walking with God in obedience, and looking for the return of the Lord Jesus.
If we wander from Jesus we are in trouble. The backslider has no freedom in prayer, no enjoyment of the Bible, no peace of mind, no delight in the Lord. But the Lord says, "Return, O backsliding children; I will heal your backslidings" (Jeremiah 3:22). This is a message from the Great Physician, an invitation from the Father’s throne, a promise of the Saviour’s love.
Return to Him with true sorrow for sin, take David’s prayer as your own, "Wash me, and I shall be whiter than snow." (Psalm 51:7) The Lord will welcome and restore us.

"Lord, create a pure heart in me,
And a steadfast mind renew.
Do not take Your Spirit from me;
Cast me not away from You.
Give me back the joy I had;
Keep my willing spirit glad." (Psalm 51:10-12)

J. Smith (Adapted by Alina McKenzie)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความสอนใจประจำวัน 04 พฤษภาคม

"เราจะรักษาเจ้าจากการหลงผิด" (เยเรมีย์ 3:22 TNCV)

ผู้เชื่อจะมีสุขภาพฝ่ายวิญญาณที่ดีก็ต่อเมื่อเขาได้เดินกับพระเจ้าด้วยการเชื่อฟัง และตั้งตารอคอยการเสด็จกลับมาของพระเยซูเจ้า
หากเราออกห่างจากพระเยซู เราก็จะมีปัญหา ผู้ที่หลงผิดไม่มีเสรีภาพในการอธิษฐาน ไม่ได้รับความเพลิดเพลินจากพระคัมภีร์ ไม่มีสันติสุขในความคิด ไม่ได้รับความโปรดปรานจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า "กลับมาเถิด ประชากรผู้ไม่ซื่อสัตย์ เราจะรักษาเจ้าจากการหลงผิด" (เยเรมีย์ 3:22 TNCV) นี่เป็นข้อความจากแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นคำเชิญชวนจากบัลลังก์ของพระบิดา เป็นคำสัญญาแห่งความเมตตากรุณา (ความรักที่แท้) ของพระผู้ช่วย
จงกลับมาหาพระองค์ด้วยความเสียใจต่อบาปที่แท้จริง จงอธิษฐานตามแบบอย่างของดาวิด "ขอทรงล้างข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะขาวยิ่งกว่าหิมะ" (สดุดี 51:7 TNCV) องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาและทำให้เรากลับสู่สภาพดี

"ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสร้างจิตใจที่บริสุทธิ์ในข้าพระองค์
และทรงฟื้นจิตวิญญาณอันมั่นคงขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์
ขออย่าทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ไปจากเบื้องพระพักตร์
หรืออย่าทรงนำพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไปจากข้าพระองค์
ขอทรงคืนความปีติยินดีในความรอดแก่ข้าพระองค์
และขอประทานจิตใจที่เชื่อฟังเพื่อค้ำชูข้าพระองค์" (สดุดี 51:10-12 TNCV)

J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, May 03 (บทความสอนใจประจำวัน 03 พฤษภาคม)

Daily Devotional, May 03

"Has your Counsellor perished?" (Micah 4:9)

Our Counsellor is the Lord Jesus who has infinite wisdom and love. He counsels freely and successfully often by applying words from the Bible to our situations.
It may often be asked of us, "Is your Counsellor perished?" (Micah 4:9) Why do we run to friends for advice rather than to Jesus who is always able and willing to help us?
Let us in the future never listen to Satan who would hinder our going to Jesus. He promises, "I will counsel you; My eye is upon you." (Psalm 32:8)

"And His name will be called
Wonderful, Counsellor, Mighty God,
Everlasting Father, Prince of Peace." (Isaiah 9:6)

J. Smith (Adapted by Alina McKenzie)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความสอนใจประจำวัน 03 พฤษภาคม

"ที่ปรึกษาของเจ้าย่อยยับไปแล้วหรือ?" (มีคาห์ 4:9 TNCV)

ที่ปรึกษาของเราคือพระเยซูเจ้า ผู้ซึ่งมีสติปัญญาและความเมตตากรุณา (ความรักที่แท้) อย่างไร้ขีดจำกัด พระองค์ให้คำปรึกษาอย่างฟรีๆ และบ่อยครั้งที่คำปรึกษานั้นประสบความสำเร็จด้วยการประยุกต์พระคำจากพระคัมภีร์ไปใช้ในสถานการณ์ที่เราเผชิญ
บ่อยครั้งที่เราจะได้รับคำถามท้าทายว่า "ที่ปรึกษาของเจ้าย่อยยับไปแล้วหรือ?" (มีคาห์ 4:9 TNCV) เหตุใดเราจึงหันไปหาเพื่อนเพื่อขอคำปรึกษา แทนที่จะมาหาพระเยซูผู้ที่สามารถและเต็มใจที่จะช่วยเราเสมอ?
จากนี้ไป ขออย่าให้เราฟังเสียงซาตานที่ขัดขวางไม่ให้เราเข้าหาพระเยซูเป็นอันขาด พระองค์สัญญาว่า "เราจะให้คำปรึกษาและเฝ้าดูเจ้า" (สดุดี 32:8 TNCV)

"ด้วยว่ามีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา
มีบุตรชายคนหนึ่งที่ประทานแก่เรา
และการปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา
และเขาจะได้รับการขนานนามว่า
ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
พระบิดานิรันดร์ องค์สันติราช" (อิสยาห์ 9:6 TNCV)

J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)

วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, May 02 (บทความสอนใจประจำวัน 02 พฤษภาคม)

Daily Devotional, May 02

"Grow in grace." (2 Peter 3:18)

Never be satisfied with your present status. God has much grace to give, and we are capable of receiving, enjoying and using it to His glory.
As a tree planted in good soil grows both downwards and upwards, so should we be rooted in the love of God, and growing up in the likeness of Jesus. We will discover more of our sinfulness, and more of the glory and preciousness of Jesus.
Grace always leads from self to Jesus. Grace is spiritual beauty; it is the very glory of God. To grow in grace is to grow like Jesus, humble in heart, active and devoted in life, blameless and harmless as children of God.
Let us have grace, for God loves to give it; let us grow in grace, for God commands it; let us look forward for the grace that is to be brought at the coming of Jesus, for God has promised it.

"O Saviour, may I grow in grace
‘Til I behold You face to face."

J. Smith (Adapted by Alina McKenzie)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทความสอนใจประจำวัน 02 พฤษภาคม

"จงเจริญขึ้นในพระคุณ" (2 เปโตร 3:18 TNCV)

อย่าพึงพอใจกับสถานะของคุณในปัจจุบันเป็นอันขาด พระเจ้ามีพระคุณที่มากกว่านั้นที่จะมอบให้กับคุณ และเราก็มีขีดความสามารถในการรับ เพลิดเพลิน และใช้พระคุณนั้นเพื่อเกียรติสิริของพระองค์
เช่นเดียวกับที่ต้นไม้ที่ปลูกไว้ในดินดีที่เจริญเติบโตทั้งลงล่างและขึ้นบน เราก็ควรที่จะหยั่งรากในความเมตตากรุณา (ความรักที่แท้) ของพระเจ้า และเจริญขึ้นให้เป็นเหมือนพระเยซูมากยิ่งขึ้น เราจะค้นพบกิเลสตัณหา (ความบาป) ของเรามากขึ้น และจะค้นกับเกียรติสิริและความล้ำค่าของพระเยซู
พระคุณจะนำเราให้ออกห่างจากตัวตนของเราไปยังพระเยซูเสมอ พระคุณเป็นความงดงามฝ่ายวิญญาณ และเป็นเกียรติสิริของพระเจ้าอย่างแท้จริง การเจริญขึ้นในพระคุณเป็นการเจริญขึ้นให้เป็นเหมือนพระเยซู ให้เราเป็นคนที่มีใจถ่อม มีความร้อนรนและอุทิศชีวิตเพื่อพระองค์ ปราศจากตำหนิและไร้ซึ่งพิษภัย ดั่งเช่นบุตรทั้งหลายของพระเจ้า
ขอให้เรารับเอาพระคุณนี้ เพราะพระเจ้ารักที่จะมอบให้กับเรา ขอให้เราเจริญขึ้นในพระคุณ เพราะพระเจ้าสั่งไว้ ขอให้เรามองไปข้างหน้าเพื่อที่จะได้รับพระคุณที่จะมาถึงเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา เพราะพระเจ้าได้สัญญาไว้แล้ว

"โอ พระผู้ช่วย ขอที่ข้าฯ จะเจริญขึ้นในพระคุณ
จนกว่าที่ข้าฯ จะได้พบพระองค์ต่อหน้า"

J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, May 01 (บทความสอนใจประจำวัน 01 พฤษภาคม)

Daily Devotional, May 01
"Prove Me." (Malachi 3:10)
No believer in the Bible can be a loser, for God has promised a hundred-fold in this present life, and in the world to come Everlasting Life. We must leave aside worldly things. Christ and the world are not compatible. Our God says, "Come out from among them and be separate—Do not touch what is unclean, and I will receive you, and I will be a Father to you." (2 Corinthians 6:17) Even if people reject you, or persecute you, God will care for you, protect you, comfort you, supply all your needs. God says, "Prove Me." (Malachi 3:10)
Are you asked to give up worldly friends, to lose trade, or endure persecution? Do not fear, act for God- look to God-He will receive you, and be your Heavenly Father.
"Saviour, since of Zion’s city
I through grace a member am,
Let the world deride or pity,
I will glory in Your name;
Fading are the world’s best pleasures,
All its boasted pomp and show;
Solid joys and lasting treasures
None but Zion’s children know."
(John New­ton, hymn "Glorious things of thee are spoken")
J. Smith (Adapted by Alina McKenzie)
 
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
บทความสอนใจประจำวัน 01 พฤษภาคม
"จงลองดูเรา" (มาลาคี 3:10)
ไม่มีผู้เชื่อคนใดในพระคัมภีร์ที่สามารถเป็นผู้แพ้ เพราะพระเจ้าได้สัญญาถึงการอวยพรเป็นร้อยเท่าในชีวิตนี้ และชีวิตนิรันดร์ในโลกหน้า
เราจะต้องละทิ้งสิ่งของของโลกนี้ พระคริสต์และโลกนี้ไม่สามารถเข้ากันได้ พระเจ้าตรัสว่า "ดังนั้นจงออกมาจากพวกเขาและแยกตัวออก อย่าแตะต้องสิ่งมลทิน แล้วเราจะรับเจ้า" (2 โครินธ์ 6:17) แม้ว่าผู้คนอาจปฏิเสธคุณหรือข่มเหงคุณ พระเจ้าจะห่วงใยคุณ ปกป้องคุณ ปลอบโยนคุณ ประทานสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นให้แก่คุณ พระเจ้าตรัสว่า "จงลองดูเรา" (มาลาคี 3:10)
คุณกำลังถูกเรียกให้ละทิ้งเพื่อนทางโลก ให้ยอมเสียดุลทางการค้า หรือให้ฟันผ่าการข่มเหงหรือไม่? อย่ากลัวเลย จงทำเพื่อพระเจ้า จงมองไปที่พระเจ้า พระองค์จะรับคุณไว้และจะเป็นพระบิดาในสวรรค์ของคุณ
"พระผู้ช่วย ครั้นเวลาแห่งเมืองศิโยน (สวรรค์)
ซึ่งข้าเป็นสมาชิก ผ่านทางพระคุณ
ยอมให้โลกหัวเราะเยาะและสงสาร
ข้าพระองค์จะถวายเกียรติพระนามพระองค์
ความพึงพอใจสูงสุดของโลกนี้ก็จืดจาง
รวมถึงทุกสิ่งที่โลกนี้โอ้อวดและแสดงออก
แต่ไม่มีใครเลย ยกเว้นบุตรของศิโยนเท่านั้น
 ที่รู้จักกับความชื่นชมยินดีที่มั่นคงและทรัพย์สมบัติอันถาวร"
(John Newton, เพลง "Glorious Things of Thee Are Spoken")
J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, April 30 (บทความสอนใจประจำวัน 30 เมษายน)

Daily Devotional, April 30
"Teach me what I do not see." (Job 34:32)
We were once spiritually blind, but now we see. If God teaches us we shall see our sins; the vanity of this world, the bitterness of sin, the preciousness of the blood of Jesus, His glorious righteousness; His Name as our only hope; His love as our joy; His Holy Spirit our strength; His glory our aim; and our daily prayer should be, "Lord teach me."
We only see a little of what Christ is in Himself; of what He has done for us; of what He possesses and will give to all who will call upon Him in truth.
Let us pray daily, "Help me to know You; help me to love You; help me to keep Your commandments."
"O Jesus, teach my soul to know
Yourself, the Truth, the Life, the Way;
May I in grace and knowledge grow,
‘Til I arrive in perfect day;
From Satan, self, and sin set free,
And what I know not, please teach me."
J. Smith (Adapted by Alina McKenzie)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทความสอนใจประจำวัน 30 เมษายน
"ที่ยังไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ก็ขอทรงชี้แนะสั่งสอน" (โยบ 34:32 TNCV)
ครั้งหนึ่ง เราเคยตาบอดฝ่ายวิญญาณ แต่ตอนนี้เรามองเห็นแล้ว หากพระเจ้าสอนเรา เราก็จะเห็นกิเลสตัณหา (บาป) ของเรา เราจะเห็นความว่างเปล่าของโลกนี้ ความขมขื่นของกิเลสตัณหา ความล้ำค่าของพระโลหิตของพระเยซู ความชอบธรรมอันเต็มด้วยเกียรติราศีของพระองค์ เราจะเห็นพระนามพระองค์เป็นความหวังเดียวที่เรามี เราจะเห็นความเมตตากรุณา (ความรักที่แท้) ของพระองค์เป็นความชื่นบานของเรา เราจะเห็นพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นกำลังของเรา เราจะเห็นเกียรติราศีของพระองค์เป็นเป้าหมายของเรา และคำอธิษฐานประจำวันของเราก็จะเป็น "ขอทรงชี้แนะสั่งสอน"
เรามองเห็นเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยของลักษณะของพระเยซู ของสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อเรา ของสิ่งที่พระองค์มีและจะประทานให้แก่ทุกคนที่ร้องออกพระนามของพระองค์ด้วยใจจริง
ขอให้เราอธิษฐานในแต่ละวันว่า "ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์รู้จักพระองค์ ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์มีใจกตัญญู (ความรักที่แท้) ต่อพระองค์ ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ทำตามคำสั่งของพระองค์"
"โอ พระเยซู ขอทรงสอนให้ใจข้าฯ รู้จักพระองค์
ผู้ทรงเป็นความจริง เป็นชีวิต และเป็นทาง
ขอที่ข้าฯ จะเติบโตในพระคุณและความรู้
จนกว่าจะถึงวันแห่งความสมบูรณ์แบบ
ที่ข้าฯ จะเป็นอิสระจากซาตาน เนื้อหนัง และบาป
และสิ่งที่ข้าฯ ยังไม่รู้ ขอทรงชี้แนะสั่งสอน"
J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)