วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2567

บทความสอนใจประจำวัน 07 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 07 ตุลาคม

"คนที่รักเรานั้น พระบิดาของเราจะทรงรักเขา" (ยอห์น 14:21 THSV2011)

เรารักพระเยซูหรือไม่?

หากเรารักพระองค์ เราจะอยากรู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น อยากรับใช้พระองค์ด้วยใจร่าเริงมากยิ่งขึ้น และอยากเพลิดเพลินกับพระองค์ตลอดเวลา

หากเรารักพระองค์ เราจะตั้งใจใช้เวลาในการศึกษาพระคำของพระองค์และอธิษฐานต่อพระองค์ ตั้งใจออกห่างจากสิ่งที่พระองค์ห้ามไว้ ละพยายามทำตามสิ่งที่พระองค์สั่งไว้

หากเรารักพระองค์ เราอยากอยู่กับพระองค์เสมอ

หากเรารักพระองค์ พระองค์บอกกับเราว่าพระบิดาก็จะรักเรา หากพระเจ้ารักเรา จะมีสิ่งดีสิ่งใดที่พระองค์จะสงวนไว้จากเราหรือ? พระองค์จะทำให้พระองค์เองได้รับเกียรติสิริผ่านทางชีวิตของเรา พระองค์จะทำเพื่อเรามากยิ่งกว่าที่เราคาดหวังหรือคาดคิดเสียอีก!

การได้รับความรักแท้จากพระเจ้า คือการเพลิดเพลินกับเกียรติสูงสุด และการเป็นผู้รับมรดกแห่งความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คนคนหนึ่งจะสามารถเพลิดเพลินได้

"ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสอนข้าพระองค์ให้รู้จักพระองค์ สอนข้าพระองค์ให้รักพระองค์ สอนข้าพระองค์ให้เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์"

"ข้าฯ อยากรู้จักพระเยซูมากขึ้น
ข้าฯ อยากสำแดงมากขึ้นถึงพระคุณของพระองค์ให้ผู้อื่นได้เห็น
ข้าฯ อยากเข้าใจมากขึ้นถึงความบริบูรณ์ของพระองค์ในการนำข้าฯ สู่ความหลุดพ้น
ข้าฯ อยากสัมผัสมากขึ้นถึงความรักแท้ของพระองค์ผู้สิ้นพระชนม์เพื่อข้าฯ"
(Eliza E. Hewitt, เพลง "More About Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 07

"He who loves Me, will be loved by My Father." (John 14:21)

Do we love Jesus?

If we love Him we will want to know Him more and more; to serve Him more cheerfully; and to enjoy Him continually.

If we love Jesus we are willing to spend time studying His Word, and praying to Him; to part with what He forbids, and seek to do what He commands.

If we love Him we want to be always with Him.

If we love Him, He tell us His Father will love us. If God loves us, what good thing will He keep from us? He will glorify Himself in us. He will do for us far more than we expect or think!

To be loved by God is to enjoy the highest honour, and to be heirs of the greatest happiness one can possibly enjoy.

"Lord, teach me to know You; teach me to love You; teach me to keep Your commandments."

"More about Jesus would I know,
More of His love to others show,
More of His saving fullness see,
More of His love who died for me."
(Eliza E. Hewitt, hymn "More About Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567

บทความสอนใจประจำวัน 06 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 06 ตุลาคม

"เพียงแต่ยอมรับความผิดของเจ้า" (เยเรมีย์ 3:13 THSV2011)

ยิ่งเราอ่านพระคัมภีร์และติดตามพระเยซูมากเท่าไร เราก็จะยิ่งตระหนักถึงบาปของเรามากขึ้นเท่านั้น! ความบาปไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำชั่วเท่านั้น แต่ยังเป็นการล้มเหลวที่จะทำความดีซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรทำด้วย เราทำบาปทางความคิด คำพูด และการกระทำ

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู เราเพลิดเพลินกับความสัมพันธ์กับพระเจ้า และได้มีประสบการณ์กับความชื่นบานและสันติสุขในพระองค์

บางครั้งเราพบว่าการอ่านพระคัมภีร์และอธิษฐานเป็นสิ่งที่ทำยาก และเราจำเป็นต้องถามตัวเราเองว่า "เราได้ทำบาปอะไรหรือไม่?" หากเราไม่ก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณ เราก็กำลังถดถอย พระเจ้าได้เรียกเราในความรักแท้อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ให้สารภาพบาปของเราต่อพระองค์ และมีประสบการณ์กับความชื่นบานละสันติสุขของพระองค์ที่ได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่

"ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น" (1 ยอห์น 1:9 THSV2011)

ขอให้เราสารภาพบาปของเราต่อพระองค์ทุกๆ วัน ขอคำสรรเสริญทั้งปวงมีแด่พระบิดาในสวรรค์ผู้เปี่ยมด้วยความรักแท้!

"คนหนุ่มจะรักษาวิถีทางของตนให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร? 
ก็โดยปฏิบัติตามพระวจนะของพระองค์
ข้าพระองค์แสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจ 
ขออย่าให้ข้าพระองค์หลงไปจากพระบัญญัติของพระองค์" (สดุดี 119:9-10 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 06

"Only acknowledge your sin." (Jeremiah 3:13)

The more we read the Bible and follow Jesus, the more we realize what sin is! It is not only doing bad things, but also failing to do the good things we should do. We sin in thought, word and action.

As believers in Jesus, We enjoy fellowship with God, and know His joy and peace.

Sometimes we find it really hard to read our Bibles and pray, and we need to ask ourselves, "Have we sinned?" If we are not making spiritual progress, we are backsliding. God, in His great love, calls us to confess our sins to Him and know His peace and joy restored to us.

"If we confess our sins, He is faithful and just to forgive us our sins, and to cleanse us from all unrighteousness." (1 John 1:9)

Let us daily confess our sins to Him. All praise to our Loving Heavenly Father!

"How can the young keep their life pure?
By doing what Your Word demands!
I seek You with my heart and soul,
Let me not stray from Your commands."
(Sing Psalms 119:9-10)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567

บทความสอนใจประจำวัน 05 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 05 ตุลาคม

"ความชอบธรรมที่มาจากพระเจ้าโดยความเชื่อ" (ฟิลิปปี 3:9 THSV2011)

ธรรมบัญญัติของพระเจ้าเรียกร้องให้เชื่อฟังอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นไปไม่ได้สำหรับเราที่จะทำตามเนื่องจากธรรมชาติบาปของเรา

พระเยซูเจ้าได้ให้ความชอบธรรมอย่างสมบูรณ์แบบแก่ทุกคนที่จะมาหาพระองค์พร้อมกับารภาพความบาปและความขัดสนของเขา เราได้รับความชอบธรรมนี้ผ่านทางข่าวดีนิรันดร์ และทุกคนที่เชื่อวางใจก็ได้รับชีวิตนิรันดร์ เราได้รับความชอบธรรมนี้จากพระเจ้าผ่านทางความเชื่อ

ผู้ที่ไม่เชื่อทุกคนหรือแม้แต่ผู้ที่คิดว่าตนชอบธรรมปฏิเสธความชอบธรรมนี้ แต่ผู้เชื่อทุกคนค้นพบความงดงาม เกียรติสิริ และคุณค่าของความชอบธรรมนี้ เพลิดเพลินกับความชอบธรรมนี้ เห็นว่านี่เป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้าให้แก่เรา และทรัพย์สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลเวลาและชั่วนิรันดร์

"เมื่อกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริของข้าฯ เสด็จมา
เพื่อนำผู้ที่พระองค์ไถ่ไว้กลับบ้าน
เมื่อนั้นเราจะร้องบทเพลงบทใหม่
สรรเสริญพระเจ้า! องค์พระผู้ไถ่!"
(P. Bliss, เพลง "Hallelujah, What a Savior")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 05

"The righteousness which is from God by faith." (Philippians 3:9)

God's law requires perfect obedience. This is impossible for us because of our sinful natures.

The Lord Jesus has provided perfect righteousness to all who will come to Him confessing their sin and need. It is presented to us in the everlasting gospel and all who believe are honoured with Eternal Life. It comes to us from God by faith.

Every unbeliever, or self-righteous person rejects this righteousness - but every believer discovers the beauty, glory and value of it; enjoys it as God's greatest gift to us and our greatest treasure for time and eternity.

"When He comes, our glorious King,
All His ransomed home to bring.
Then, anew this song we'll sing
Hallelujah! What a Saviour!"
(Philip P. Bliss, hymn "Hallelujah! What a Savior!")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2567

บทความสอนใจประจำวัน 04 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 04 ตุลาคม

"เราจะไม่ทำอันตรายแก่เจ้า" (เยเรมีย์ 25:6 THSV2011)

เป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าแห่งความรักแท้และความเมตตาสงสารจะทำร้ายลูกของพระองค์

พระเจ้าส่งผู้คนในอดีตให้ไปเป็นเชลยศึกที่ถูกกวาดต้อนไปยังบาบิโลน แต่นั่นก็เพื่อผลดีต่อพวกเขา พระองค์อนุญาตให้ลูกของพระองค์ถูกโยนลงไปยังเตาเพลิงและไปยังถ้ำสิงโต และพวกเขาก็ได้รับพรผ่านทางเหตุการณ์เหล่านี้ พระเจ้าสถิตอยู่กับพวกเขาตลอดหนทางชีวิต และความเชื่อของพวกเขาก็เข้มแข็งขึ้น

แม้แต่ในปัจจุบันนี้ ผู้เชื่อหลายคนพบกับการทดลองอันยากลำบากซึ่งอาจจะไม่สามารถเข้าใจได้เลย แต่พระบิดาในสวรรค์ของเราได้ยืนยันกับเราว่า "สิ่งที่เราทำในขณะนี้ท่านยังไม่รู้เรื่อง แต่ภายหลังท่านจะเข้าใจ" (ยอห์น 13:7 THSV2011)

เมื่อเราไปยังสวรรค์ เราจะกล่าวยืนยันว่าทุกสิ่งล้วนเพื่อผลดีต่อชีวิตของเรา และระบิดาในสวรรค์ของเราได้ทำทุกสิ่งอย่างดีแล้ว

"ไม่มีความผิดในชีวิต ไม่มีความกลัวตาย
นี่คือฤทธิ์เดชของพระคริสต์ในชีวิตข้าฯ
จากการร้องครั้งแรกของชีวิต จวบจนสิ้นชีวา
พระเยซูได้กำหนดชะตาชีวิตของข้าฯ ไว้
ไม่มีอำนาจของนรก ไม่มีแผนการของมนุษย์ใด
ที่จะนำเราออกไปจากพระหัตถ์ของพระองค์ได้
จวบจนพระองค์กลับมา หรือเรียกข้าฯ กลับบ้าน
ข้าฯ จะยืนอยู่ในฤทธิ์เดชของพระคริสต์เสมอไป"
(Keith Getty & Stuart Townend, เพลง "In Christ Alone")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 04

"I will not harm you." (Jeremiah 25:6)

It is impossible that a God of love and compassion would ever harm His children.

God sent His ancient people as captives to Babylon but it was for their good. He allowed His children to be cast into the fiery furnace and into the lions' den. They were blessed through it. God was with them all the way and their faith was strengthened.

Even to-day many believers face severe trials which may be impossible to understand but our heavenly Father assures us, "What I do, you do not know now- but you will know afterwards." (John 13:7)

When we reach heaven we shall testify that all was for our good and our loving Heavenly Father has done all things well.

"No guilt in life, no fear in death,
This is the power of Christ in me,
From life's first cry to final breath,
Jesus commands my destiny.
No power of hell, no scheme of man,
Can ever pluck me from His hand;
Till He returns or calls me home,
Here in the power of Christ I'll stand."
(Keith Getty & Stuart Townend, Hymn "In Christ Alone")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567

บทความสอนใจประจำวัน 03 ตุลาคม



บทความสอนใจประจำวัน 03 ตุลาคม

"เจ้าจะเป็นพร" (ปฐมกาล 12:2 THSV2011)

โดยธรรมชาติแล้ว เราเป็นคำสาปแช่งสู่ผู้อื่น แต่พระเจ้าแห่งความรักแท้เข้ามาแทรกแซง เทพระพรของพระองค์มาเหนือชีวิตของเรา และทำให้เรากลายเป็นพร

พระองค์ให้พระคุณเพื่อสร้างอุปนิสัยของเรา ให้ความสามารถเพื่อที่เราจะเป็นคนที่ใช้การได้ ให้สติปัญญาเพื่อที่เราจะเลือกแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ให้กำลังเพื่อที่เราจะทำตามความตั้งใจของพระองค์ ให้ความเชื่อเพื่อที่เราจะวางใจในพระคำของพระองค์ ให้ความอดทนเพื่อที่เราจะบากบั่นจนถึงที่สุด และให้ความสำเร็จเพื่อเป็นรางวัลแก่ความพยายามของเรา ดังนี้ เรากลายเป็นพรสู่ผู้อื่น

เราเป็นพรด้วยการถ่อมใจและสุภาพ ด้วยการเป็นแบบอย่างชีวิตหากเราติดตามพระเยซู ด้วยการอธิษฐานเพื่อให้เกิดผลดีแก่จิตวิญญาณและเพื่อเกียรติสิริของพระเจ้า และด้วยการพยายามที่จะบอกเล่าข่าวดีไปยังทุกหนทุกแห่ง

ช่างเป็นพรเสียจริง หากแม้เพียงจิตวิญญาณดวงหนึ่งได้มาเชื่อในพระเยซูผ่านทางความพยายามของเรา!

ขอพระองค์ใช้ข้าพระองค์ในการสอน "ทางนั้น" แก่ผู้อื่น ในการให้กำลังผู้อ่อนแอ หรือในการปลอบใจผู้ที่เศร้าโศก

โอ พระเยซู! ขอพระองค์ทำให้ชีวิตของข้าพระองค์เป็นพร! พระคุณของพระองค์ก็เพียงพอเสมอ!

"ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยให้ข้าฯ สัตย์ซื่อจนวันตาย
ให้เป็นพยานของพระองค์จนลมหายใจสุดท้าย
บอกเล่าถึงพระเกียรติสิริของพระเมษโปดก (ลูกแกะ)
ผู้ซึ่งข้าฯ รับใช้ และเป็นเจ้าของชีวิตข้าฯ
ผู้ซึ่งข้าฯ พึ่งพาขอกำลังในแต่ละวัน
ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของกำลังที่ปรากชัดในยามที่ข้าฯ อ่อนแอ"
(ไม่ทราบผู้แต่ง)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 03

"You shall be a blessing." (Genesis 12:2)

We were by nature a curse to others; but the God of love intervened, pours His blessing upon us, and makes us a blessing.

He gives grace to form character; gifts to make us useful; wisdom to choose the right course; strength to do His will; faith to trust His Word; patience to persevere to the end; and success to crown our efforts. Thus we become a blessing to others.

We are a blessing by being meek and gentle; by the example we set, if we follow Jesus; by our prayers for the good of souls, and the glory of God; and by our efforts to spread the good news in every place.

What a blessing if even one soul believes in Jesus through our efforts!

Oh to be used to teach others the Way, to strengthen the weak, or to comfort the sad.

Oh, Jesus! Make us a blessing! Your grace is sufficient!

"Lord, make me faithful unto death,
Your witness with my latest breath,
To tell the glories of the Lamb,
Him whom I serve, and whose I am;
On whom for strength I daily lean,
Whose strength is in my weakness seen."
(Unknown Author)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2567

บทความสอนใจประจำวัน 02 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 02 ตุลาคม

"ใครอยู่ฝ่ายพระยาห์เวห์?" (อพยพ 32:26 THSV2011)

ผู้เชื่อทุกคนพร้อมที่จะตอบว่า "ข้าพระองค์อยู่ฝ่ายพระองค์"

หากคุณอยู่ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า คุณก็อยู่ฝ่ายความจริงและความบริสุทธิ์ รักการนมัสการ ประชากรของพระองค์ และทางของพระองค์ และร้อนรนเพื่อเกียรติของพระองค์ คุณร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับประชากรของพระองค์ พร้อมที่จะทนต่อความอับอายดังเช่นที่พระเยซูได้รับ

หากคุณอยู่ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะเฝ้าดูแลคุณ ปกป้องคุณ และห่วงใยคุณ คุณจะไม่มีวันอยากเปลี่ยนฝ่ายหรือเสียใจที่ได้ตัดสินใจรับใช้องค์เจ้านายที่แสนดีเช่นนี้ คุณจะพบว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เคียงข้างคุณ คอยสนับสนุนและปลอบโยนจิตใจคุณในทุกการทดลอง ให้คุณได้รับชัยชนะเมื่อคุณจากโลกนี้ไป และให้เกียรติคุณในวันแห่งการพิพากษา

หากคุณอยู่ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า จงเปิดใจของคุณออก ทดสอบความจริงนี้ และให้ทุกการกระทำของคุณกล่าวว่า "ชีวิตข้าพเจ้าเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า"

"ใครอยู่ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า? ใครจะรับใช้องค์กษัตรา? 
ใครจะเป็นผู้ช่วยของพระองค์ ที่นำชีวิตมาถวายแด่พระองค์? 
ใครจะละจากฝ่ายของโลก? ใครจะออกไปเพื่อพระองค์? 
ด้วยการเรียกแห่งพระเมตตาของพระองค์ ด้วยพระคุณของพระองค์
เราจะอยู่ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า ชีวิตเราเป็นของพระผู้ช่วย" 
(Frances Ridley Havergal, เพลง "Who is on the Lord's side")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 02

"Who is on the Lord's side?" (Exodus 32:26)

Every believer is ready to answer, "I am."

If you are on the Lord's side, you are on the side of truth, holiness, love of His worship, of His people and His ways, and you are zealous for His honour. You unite with His people; be ready to bear the disgrace Jesus bore.

If you are on the Lord's side, He will watch over you, protect you and care for you. You will never want to change sides, or regret that you decided to serve so good a Master. You will find the Lord to be on your side, supporting and comforting you in every trial; giving you victory in death; and honouring you on the Day of Judgement.

If you are on the Lord's side, be open about it; prove it daily; and let your whole conduct say, "I am the Lord's"

"Who is on the Lord's side? Who will serve the King? 
Who will be His helpers, other lives to bring? 
Who will leave the world's side? Who will face the foe? 
Who is on the Lord's side? Who for Him will go? 
By Thy call of mercy, by Thy grace divine, 
We are on the Lord's side. Saviour, we are Thine.' 
(Frances Ridley Havergal, hymn "Who is on the Lord's side")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567

บทความสอนใจประจำวัน 01 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 01 ตุลาคม

"พระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์" (มัทธิว 6:32 THSV2011)

เมื่อคุณอธิษฐาน ให้กล่าวว่า "พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย" เมื่อคุณเสียใจหรือกังวลใจ จงระลึกว่าคุณมีพ่อในสวรรค์ู้ซึ่งรักคุณ ได้ให้พระคำของพระองค์แก่คุณ และพร้อมเสมอที่จะทำดีกับคุณ

เดือนนี้และทุกๆ เดือน จงเริ่มต้นด้วยการเชื่อว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพ่อของลูกของพระองค์ พระองค์อ่อนโยนและเมตตาสงสารคนที่ยำเกรงพระองค์"

ขอให้เราบอกพระองค์ทุกเรื่อง อ่านพระคำของพระองค์ซึ่งสำแดงความรักแท้อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และชื่นชมยินดี พระบิดาในสวรรค์ของพวกเราทราบว่าสิ่งใดที่จำเป็นสำหรับเราและจะจัดหาให้เรา ไม่มีสิ่งใดยากเกินกว่าที่พระองค์จะทำได้

ช่างเป็นพระเมตตายิ่งใหญ่ที่เรามีพระเจ้าเป็นพ่อของเรา ขอให้เราละความกังวลใจทั้งสิ้นของเราไว้กับพระองค์

"บิดาสงสารบุตรของตนฉันใด พระยาห์เวห์ทรงสงสารคนที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น 
เพราะพระองค์เองทรงรู้จักโครงร่างของเรา พระองค์ทรงระลึกว่าเราเป็นแต่ผงคลี" (สดุดี 103:13-14 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 01

"Your Heavenly Father." (Matthew 6:32)

When you pray, say, "Our Father." When you are sad or worried remember you have a Father in heaven who loves you, has given His Word to you, and is always ready to do you good.

Begin this month, and every month, believing that "the Lord is a father to His children, tender and compassionate to those who fear Him."

Let us tell Him everything, read His Word which shows His great love, and rejoice. Our heavenly Father knows what we need, and will provide it. Nothing is too hard for Him to do.

What a mercy to have God as our Father. Let us leave all our worries with Him.

"Just as a Father loves His child,
So God loves those who fear* His name. (*respects)
For He remembers we are dust,
And well He knows our feeble frame." (Psalm 103:13-14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie