วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, November 23 (บทความสอนใจประจำวัน 23 พฤศจิกายน

The Believer's Daily Remembrancer

November 23

"Open your mouth wide and I will fill it." (Psalm 81:10)

Believers "ought always to pray, and not to faint." (Luke 18:1)

We come to God as our Heavenly Father, and pray for all our needs. We ask of Him because He invites us to, and expect to receive because He is faithful. He rejoices over us to do us good. God looks upon us as His dear children, and promises to give us all we need, or can use for His glory.

Let us ask and plead His gracious promises, praying in the name of Jesus. Our God is "the hearer and answerer of prayer."

"Let us come boldly to the throne of grace, so that we may obtain mercy and find grace to help us." (Hebrew 4:16)

"You are coming to a King,
Large petitions with you bring
For His grace and power are such,
None can ever ask too much."
(John Newton)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 23 พฤศจิกายน

"จงอ้าปากของเจ้าให้กว้าง แล้วเราจะป้อนเจ้าให้อิ่ม" (สดุดี 81:10 THSV2011)

ผู้เชื่อทั้งหลาย "ควรอธิษฐานอยู่เสมอและไม่อ่อนระอาใจ" (ลูกา 18:1 THSV2011)

เราเข้ามาหาพระเจ้าผู้เป็นพระบิดาในสวรรค์ของเรา และอธิษฐานขอสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นในชีวิตของเรา เราทูลขอพระองค์เพราะพระองค์เชิญชวนให้เราขอ และคาดหวังที่จะได้รับเพราะพระองค์สัตย์ซื่อ พระองค์ชื่นชมยินดีในชีวิตของเราและปรารถนาที่จะให้สิ่งดีแก่เรา พระเจ้ามองดูเราในฐานะบุตรที่รักของพระองค์ และสัญญาว่าจะให้ทุกสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีหรือที่เราสามารถใช้เพื่อเกียรติสิริของพระองค์

ขอให้เราทูลขอและกล่าวอ้างพระสัญญาแห่งพระคุณของพระองค์ พร้อมด้วยอธิษฐานในพระนามของพระเยซู พระเจ้าของเราเป็น "ผู้ฟังและผู้ตอบคำอธิษฐาน"

"อให้เราเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยความกล้า เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่ช่วยเรา" (ฮีบรู 4:16 THSV2011)

"คุณกำลังเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์
คุณนำคำอ้อนวอนที่ยิ่งใหญ่มาด้วย
ร้องขอพระคุณและฤทธิ์เดชของพระองค์
ไม่มีใครเลยที่จะขอได้มากเกินไป"
(John Newton)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, November 22 (บทความสอนใจประจำวัน 22 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 22

"I discipline you with justice." (Jeremiah 30:11)

Every good parent disciplines the child who needs correction. Sin needs to be corrected and love sends it.

Our Heavenly Father disciplines us when we do wrong –not in anger, but in love; not to destroy, but to save. He loves us- but not our sins. He says, "As many as I love I rebuke and chasten; be zealous therefore and repent." (Revelation 3:19)

Let us be thankful for His discipline is sent to purify and cleanse us. He corrects us for our good to enable us to share in His holiness and glory.

"As far as east is from the west,
So far His love has borne away
Our many sins and trespasses
And all the guilt that on us lay.
Just as a father loves his child,
So God loves those who fear His name.
For He remembers we are dust,
And well He knows our feeble frame."
(Sing Psalms 103:12-14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 22 พฤศจิกายน

"เราจะตีสอนเจ้าตามขนาด" (เยเรมีย์ 30:11 THSV2011)

พ่อแม่ที่ดีทุกคนตีสอนบุตรผู้ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข ความบาปจำเป็นที่จะต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข และความรักก็นำมาซึ่งการปรับปรุงแก้ไข

พระบิดาในสวรรค์ของเราตีสอนเราเมื่อเราทำผิด ไม่ใช่ด้วยความโกรธ แต่ด้วยความรักแท้ (=ความเมตตากรุณา) ไม่ใช่เพื่อทำลาย แต่เพื่อช่วยให้รอด พระองค์รักเราอย่างแท้จริง แต่พระองค์ไม่รักความบาปของเรา พระองค์กล่าวว่า "เรารักใครเราก็ตักเตือนและตีสอนเขา เพราะฉะนั้นจงมีความกระตือรือร้น และกลับใจใหม่" (วิวรณ์ 3:19 THSV2011)

ขอให้เราสำนึกในพระคุณสำหรับการตีสอนของพระองค์ที่ส่งมาให้เราเพื่อชำระเราให้บริสุทธิ์ พระองค์ปรับปรุงแก้ไขชีวิตของเราเพื่อผลดีแก่เรา ทำให้เราได้มีส่วนร่วมในความบริสุทธิ์และเกียรติราศีของพระองค์

"ตะวันออกไกลจากตะวันตกเท่าใด พระองค์ทรงปลดการละเมิดไปไกลจากเราเท่านั้น
บิดาสงสารบุตรของตนฉันใด พระยาห์เวห์ทรงสงสารคนที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น
เพราะพระองค์เองทรงรู้จักโครงร่างของเรา พระองค์ทรงระลึกว่าเราเป็นแต่ผงคลี" (สดุดี 103:12-14 THSV2011)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, November 21 (บทความสอนใจประจำวัน 21 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 21

"My peace I give to you." (John 14:27)

Only believers know the sweetness of the peace Jesus gives. Peace with God is made possible as a result of the sacrificial death of the Lord Jesus and the working of the Holy Spirit in the individual’s heart. It is the beginning of heaven in the soul; a peaceful conscience. It is often given in the midst of trouble; and it lightens every burden and the sinner happy in every situation.

O Jesus, give us Your peace this morning.

Believer, look only to Jesus for peace, for "He is our peace." (Ephesians 2:14) Believe His Word, receive His forgiveness, trust in His perfect work, aim to show forth His praise, and "the peace which passes all understanding shall fill your mind." (Philippians 4:17)

"Depart and turn from evil paths
And practise what is right.
Desire to know the way of peace;
Pursue it with your might." (Sing Psalms 34:14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 21 พฤศจิกายน

"เรามอบสันติสุขแก่พวกท่าน สันติสุขที่เราให้ไม่เหมือนที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านทุกข์ร้อนและอย่ากลัวเลย" (ยอห์น 14:27 TNCV)

ผู้เชื่อเท่านั้นที่จะรู้จักกับความหวานชื่นของสันติสุขที่พระเยซูมอบให้ สันติสุขกับพระเจ้าเป็นไปได้เพราะผลจากการสละชีวิตขององค์พระเยซู และจากการงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในหัวใจของแต่ละคน มันเป็นจุดเริ่มต้นของสวรรค์ในจิตใจ ซึ่งก็คือความรู้สึกผิดชอบที่เต็มด้วยสันติสุข เรามักจะได้รับสันติสุขนี้ในท่ามกลางความทุกข์ยาก และมันจะทำให้ภาระหนักทั้งสิ้นเบาลง และทำให้คนบาปได้มีความสุขในทุกสถานการณ์

โอ พระเยซู ขอประทานสันติสุขของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในเช้าวันนี้

ผู้เชื่อเอ๋ย จงมองไปที่พระเยซูเท่านั้นเพื่อจะได้รับสันติสุข "เพราะพระองค์เองทรงเป็นสันติสุขของเรา" (เอเฟซัส 2:14 TNCV) จงเชื่อในพระคำของพระองค์ จงรับเอาการยกโทษของพระองค์ จงวางใจในการงานอันสมบูรณ์แบบของพระองค์ จงตั้งเป้าที่จะถวายสรรเสริญแด่พระองค์ "แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจจะปกป้องความคิดจิตใจของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์" (ฟิลิปปี 4:7 TNCV)

"จงหันจากความชั่วร้ายและทำความดี
จงใฝ่หาสันติภาพและมุ่งมั่นเพื่อให้ได้มา" (สดุดี 34:14 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, November 20 (บทความสอนใจประจำวัน 20 พฤศจิกายน) Daily Devotional, November 20

The Believer's Daily Remembrancer

November 20

"Lord, It is good for us to be here." (Matthew 17:4)

This is what Peter exclaimed when he had a wonderful experience of the Glory of God. It is good to live and walk in communion with God. It is good to be numbered with God’s people and be in church. It is good to be in the present world, and have opportunities of service for Jesus.

Is Jesus honoured by our patience in sickness? Then we should say, "Lord, it is good to be here."

Is God glorified by our daily work and testimony to the power and grace of Jesus, no matter how humble? Then we may say, "Lord, it is good to be here."

Yes, Christian, it is good to be anywhere so that Jesus is glorified!

Aim always to honour God, and then we can say everywhere, "Lord it is good to be here!" But if it is good to be here, how much more wonderful it will be in heaven!

"Tis Jesus the First and the Last
Whose Spirit shall guide us safe home!
We’ll praise Him for all that is past,
And trust Him for all that’s to come."
(Joseph Hart, hymn "How good is the God we adore")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 20 พฤศจิกายน

"พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่" (มัทธิว 17:4)

นี่คือสิ่งที่เปโตรได้ร้องอุทานออกมาเมื่อท่านได้มีประสบการณ์อันดีเยี่ยมในการได้เห็นพระสง่าราศีของพระเจ้า เป็นการดีที่จะดำเนินชีวิตด้วยความสนิทสนมกับพระเจ้า เป็นการดีที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในประชากรของพระเจ้าและได้อยู่ในคริสตจักร เป็นการดีที่เราได้อยู่ในโลกปัจจุบันนี้ และมีโอกาสรับใช้พระเยซู

พระเยซูได้รับเกียรติจากความอดทนของเราในการเจ็บป่วยหรือไม่? เมื่อนั้นเราควรกล่าวว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่"

พระเจ้าได้รับเกียรติจากการงานของเราในแต่ละวัน และคำพยานถึงฤทธิ์อำนาจและพระคุณของพระเยซู รวมถึงความถ่อมของพระองค์หรือไม่? เมื่อนั้นเราอาจกล่าวว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่"

ใช่แล้ว คริสเตียน เป็นการดีที่เราได้อยู่ในที่ใดๆ เพื่อพระเยซูจะได้รับเกียรติ!

จงตั้งเป้าหมายเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าเสมอ และเมื่อนั้นเราก็จะสามารถกล่าวได้ในทุกที่ว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่" แต่หากการอยู่ที่นี่นั้นดีจริง แล้วในสวรรค์เล่าจะดีเยี่ยมมากกว่านี้เพียงไร!

"พระองค์คือเยซู ผู้ต้นและผู้ปลาย
พระวิญญาณของพระองค์จะนำเรากลับบ้านปลอดภัย!
เราจะสรรเสริญพระองค์สำหรับทุกสิ่งในอดีต
และวางใจพระองค์สำหรับสิ่งที่กำลังมา"
(Joseph Hart, เพลง "How good is the God we adore")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, November 19 (บทความสอนใจประจำวัน 19 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 19

"Brothers and sisters, the time that remains is short." (1 Corinthians 7:29)

Our sufferings must be short, for they are confined to this present world. Our opportunities to glorify God must be short; therefore we ought to make full use of them.

The prospering of the wicked must be short; let us be prayerful, patient and diligent for the coming of the Lord draws near. We shall soon see Jesus, enjoy heaven and be for ever with the Lord.

Time is short but Eternity is long; therefore let us be laying up for ourselves treasure in heaven where neither moth nor rust can harm them. Let us daily prepare for The Day of the Lord.

Time is short, it flies away! Let us use the time we have carefully and for God’s glory.

"Christ, at God’s right hand victorious,
You will judge the world You made;
Lord, in mercy help Your servants
For whose freedom You have paid;
Raise us up from dust to glory,
Guard us from all sin today;
King enthroned above all praises,
Save Your people, God, we pray."
(C. Hubert H. Parry, hymn "God, We Praise You")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 19 พฤศจิกายน

"พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่าเวลาก็เหลือน้อยแล้ว" (1 โครินธ์ 7:29 TNCV)

ความทุกข์ยากของเรานั้นเหลือน้อย เพราะว่าเราจะมีความทุกข์ยากเฉพาะในโลกนี้ โอกาสของเราที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้าก็เหลือน้อย ดังนี้เราจึงควรที่จะใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

ความมั่งมีของคนชั่วนั้นเหลือน้อย ขอที่เราจะหมั่นอธิษฐาน อดทน และบากบั่น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้ที่จะเสด็จมาแล้ว เราจะได้เห็นพระเยซูเร็วๆ นี้ ได้เพลิดเพลินกับสวรรค์ และได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดร์

เวลานั้นสั้นนัก แต่นิรันดร์กาลนั้นยาวนาน ดังนั้นขอที่เราจะสะสมทรัพย์สมบัติของเราไว้ในสวรรค์ ที่ซึ่งแมลงหรือสนิมกัดกินไม่ได้ ขอที่เราจะเตรียมพร้อมในแต่ละวันสำหรับวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า

เวลานั้นสั้นนัก มันผ่านไปอย่างรวดเร็ว! ขอที่เราจะใช้เวลาที่เรามีด้วยความระมัดระวัง และเพื่อพระเกียรติของพระเจ้า

"พระคริสต์ ทรงสถิตที่พระหัตถ์ข้างขวาของพระเจ้าด้วยชัยชนะ
พระองค์จะพิพากษาโลกที่ทรงสร้าง
องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ ในพระเมตตาของพระองค์
ผู้ซึ่งได้รับชัยชนะที่พระองค์ได้ชำระให้
ขอยกชูข้าพระองค์ทั้งหลายจากบาปในวันนี้
กษัตริย์ผู้ครองบัลลังก์เหนือคำสรรเสริญทั้งปวง
พระเจ้า ข้าพระองค์อธิษฐาน ขอทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอด"
(C. Hubert H. Parry, เพลง "God, We Praise You")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, November 18 (บทความสอนใจประจำวัน 18 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 18

"I will be like the dew to Israel." (Hosea 14:5)

Our hearts, by nature, are like the dry barren earth. There can be neither spiritual life, beauty nor fruit without God’s grace. Even after we have become believers in Jesus, we need God’s grace as the earth needs dew. "No grace-no fruit."

God promises, "I will be like the dew to refresh you with My love." God will soften our hard hearts. He will prepare our hearts to receive the seed of His Word and cause us to grow and be fruitful.

"Learn, O my soul, what God demands
Is not a faith like barren sands,
But fruit of heavenly hue.
By this we prove that Christ we know,
If in His holy steps we go;
Faith works by love, if true."
(R.M. McCheyne)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 18 พฤศจิกายน

"เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรมให้อิสราเอล" (โฮเชยา 14:5 TNCV)

หัวใจของเราโดยธรรมชาติ ก็เป็นเหมือนดินที่แห้งแล้ง ปราศจากพืชผล เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีชีวิตฝ่ายวิญญาณ ความสวยงาม หรือผล หากปราศจากพระคุณของพระเจ้า แม้หลังจากที่เราได้เป็นผู้เชื่อในพระคริสต์แล้ว เราก็ยังต้องการพระคุณของพระเจ้า ดังดินที่ต้องการน้ำค้าง "ไม่มีพระคุณ ก็ไม่มีผล"

พระเจ้าสัญญา "เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรม เพื่อที่จะทำให้เจ้ากลับมามีชีวิตชีวาด้วยความรักแท้ของเรา" พระเจ้าจะทำให้หัวใจอันแข็งกระด้างของเราอ่อนนุ่มลง พระองค์จะเตรียมหัวใจของเราให้รับเมล็ดพันธุ์แห่งพระคำของพระองค์ และทำให้เราเติบโตและเกิดผล

"จงเรียนรู้ โอจิตใจของข้า ถึงสิ่งที่พระเจ้าบัญชา
ว่ามิใช่ความเชื่อดั่งทรายที่แห้งแล้ง
หากแต่เป็นผลแห่งสีสันของสวรรค์
ด้วยสิ่งนี้ เราพิสูจน์ได้ว่าพระคริสต์ที่เรารู้จักนั้นเป็นจริง
หากในย่างก้าวอันบริสุทธิ์ของพระองค์ที่เราดำเนินไป
ความเชื่อของเราก็สำแดงออกด้วยความรัก"
(R.M. McCheyne)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, November 17 (บทความสอนใจประจำวัน 17 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 17

"Be reconciled to God." (2 Corinthians 5:20)

God is love. He hates sin. In His great love for us He gave His only begotten Son, Jesus, to die for our sins and reconcile us to God.

When we confess our sins and accept Jesus as our Lord and Saviour, we are reconciled to God.

Through faith in Jesus we have forgiveness of all sin, the Holy Spirit to comfort and teach us, the promise of Eternity in heaven, and countless blessings along the Way!

Are we content to walk at a distance from God? His Word to us this morning is "Come back to God."

"There’s a way back to God
From the dark paths of sin.
There’s a door that is open
And you may go in.
At Calvary’s Cross is where you begin
When you come as a sinner to Jesus."
(Eric Hubert Swinstead, hymn "There's A Way Back To God")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 17 พฤศจิกายน

"ให้คืนดีกับพระเจ้า" (2 โครินธ์ 5:20 THSV2011)

พระเจ้าเป็นความรักแท้ (= ความเมตตากรุณา) พระองค์เกลียดชังความบาป ในความรักแท้ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์สำหรับเรานั้น พระองค์ได้ให้พระเยซู ซึ่งเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาตายเพื่อบาปทั้งหลายของเรา และนำเราให้คืนดีกับพระเจ้า

เมื่อเราสารภาพบาปของเราและยอมรับว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยของเรา เราก็ได้รับการคืนดีกับพระเจ้า

ผ่านทางความเชื่อในพระเยซู เราก็ได้รับการยกโทษบาปทั้งหมด ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ซึ่งปลอบโยนจิตใจเราและสอนเรา ได้รับพระสัญญาแห่งนิรันดร์กาลในสวรรค์ และได้รับพระพรมากมายเหลือคณานับตามหนทางสู่สวรรค์นั้น!

เราพอใจที่จะดำเนินชีวิตห่างจากพระเจ้าหรือไม่? พระคำของพระองค์ที่มีต่อเราในเช้าวันนี้ คือ "จงกลับมาหาพระเจ้า"

"มีหนทางกลับสู่พระเจ้า
จากทางเดินอันมืดมิดแห่งบาป
มีประตูที่เปิดออก
และคุณอาจเปิดเข้าไปได้
ที่กางเขนบนภูเขานั้นคือที่ที่คุณจะเริ่มต้น
เมื่อคุณมาหาพระเยซูในฐานะคนบาปคนหนึ่ง"
(Eric Hubert Swinstead
, เพลง "There's A Way Back To God")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie