วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, April 30 (บทความสอนใจประจำวัน 30 เมษายน)


The Believer's Daily Remembrancer

April 30

"Teach me what I do not see." (Job 34:32)

We were once spiritually blind, but now we see. If God teaches us we shall see our sins; the vanity of this world, the bitterness of sin, the preciousness of the blood of Jesus, His glorious righteousness; His Name as our only hope; His love as our joy; His Holy Spirit our strength; His glory our aim; and our daily prayer should be, "Lord teach me."

We only see a little of what Christ is in Himself; of what He has done for us; of what He possesses and will give to all who will call upon Him in truth.

Let us pray daily, "Help me to know You; help me to love You; help me to keep Your commandments."

"O Jesus, teach my soul to know
Yourself, the Truth, the Life, the Way;
May I in grace and knowledge grow,
'Til I arrive in perfect day;
From Satan, self, and sin set free,
And what I know not, please teach me."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 30 เมษายน

"ที่ยังไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ก็ขอทรงชี้แนะสั่งสอน" (โยบ 34:32 TNCV)

ครั้งหนึ่ง เราเคยตาบอดฝ่ายวิญญาณ แต่ตอนนี้เรามองเห็นแล้ว หากพระเจ้าสอนเรา เราก็จะเห็นบาปของเรา ความว่างเปล่าของโลกนี้ ความขมขื่นของบาป ความล้ำค่าของพระโลหิตของพระเยซู ความชอบธรรมอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ พระนามพระองค์ซึ่งเป็นความหวังเดียวที่เรามี ความรักแท้ของพระองค์ซึ่งเป็นความชื่นบานของเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นกำลังของเรา เกียรติสิริของพระองค์ซึ่งเป็นเป้าหมายของเรา และคำอธิษฐานประจำวันของเราควรจะเป็น "ขอทรงชี้แนะสั่งสอน"

เรามองเห็นเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยของพระลักษณะของพระเยซู ของสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อเรา ของสิ่งที่พระองค์มีและจะให้แก่ทุกคนที่ร้องออกพระนามของพระองค์ด้วยใจจริง

ขอให้เราอธิษฐานในแต่ละวันว่า "ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์รู้จักพระองค์ ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์รักพระองค์ ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ทำตามคำสั่งของพระองค์"

"โอ พระเยซู ขอทรงสอนให้ใจข้าฯ รู้จักพระองค์
ผู้ทรงเป็นความจริง เป็นชีวิต และเป็นทาง
ขอที่ข้าฯ จะเติบโตในพระคุณและความรู้
จนกว่าจะถึงวันแห่งความสมบูรณ์แบบ
ที่ข้าฯ จะเป็นอิสระจากซาตาน เนื้อหนัง และบาป
และสิ่งที่ข้าฯ ยังไม่รู้ ขอทรงชี้แนะสั่งสอน"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, April 29 (บทความสอนใจประจำวัน 29 เมษายน)

The Believer's Daily Remembrancer

April 29

"But you are rich." (Revelation 2:9)
Many Christians are poor, for God has chosen the poor of this world, rich in faith, and heirs of heaven, which He has promised to those who love Him. They are often persecuted and troubled. So was the church in Smyrna, but Jesus said to her, "You are rich." (Revelation 2:9)
So are all the Lord’s people. Rich by relation- God is their Father, and Jesus their elder brother. Rich by donation- Jesus has given them unsearchable riches. Rich by promise- the Lord has promised all good things.
You are rich! Jesus has given you His righteousness, to cover your sins; His blood, to cleanse you; His Spirit, to make you holy; His angels to help you and heaven to be your home.
Precious Saviour- teach me to love You more.
"Count your many blessings,
Wealth can never buy,
Your reward in heaven,
Nor your home on high!"
(Johnson Oatman Jr, hymn "When upon life’s billows you are tempest tossed")
Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

บทความสอนใจประจำวัน 29 เมษายน

"กระนั้นเจ้าก็มั่งมี!" (วิวรณ์ 2:9 TNCV)
คริสเตียนหลายคนยากจน เพราะพระเจ้าได้เลือกคนยากจนในโลกนี้ ให้เป็นคนที่มั่งมีในความเชื่อ และให้เป็นผู้รับสวรรค์เป็นมรดก ซึ่งพระองค์ได้สัญญาไว้กับผู้ที่รักพระองค์ บ่อยครั้งที่พวกเขาถูกข่มเหงและเผชิญปัญหา ดังเช่นคริสตจักรในเมืองสเมอร์นา แต่พระเยซูพูดกับคริสตจักรนี้ว่า "กระนั้นเจ้าก็มั่งมี!" (วิวรณ์ 2:9 TNCV)
ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดก็มั่งมีเช่นเดียวกัน มั่งมีโดยความสัมพันธ์ เพราะพระเจ้าเป็นพระบิดาและพระเยซูเป็นพี่ชายของพวกเขา มั่งมีโดยการบริจาค เพราะพระเยซูได้ให้ความมั่งมีเหลือคณานับแก่พวกเขา มั่งมีโดยคำสัญญา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาสิ่งดีทั้งปวง
คุณมั่งมี! พระเยซูได้ให้ความชอบธรรมของพระองค์แก่คุณเพื่อที่จะปกคลุมบาปของคุณ พระองค์ได้ให้พระโลหิตของพระองค์แก่คุณเพื่อชำระล้างคุณ พระองค์ได้ให้พระวิญญาณของพระองค์แก่คุณเพื่อทำให้คุณบริสุทธิ์ พระองค์ได้ให้ทูตสวรรค์ของพระองค์แก่คุณเพื่อคอยช่วยคุณ และพระองค์ได้ให้สวรรค์แก่คุณเพื่อเป็นบ้านของคุณ
โอ พระผู้ช่วยที่รัก ขอทรงสอนข้าพระองค์ให้รักพระองค์มากขึ้น
"รับพระพรซึ่งทรัพย์สินเงินทองซื้อไม่ได้
แล้วพระเจ้าประทานบำเหน็จจนเหลือบรรยาย"
(Johnson Oatman Jr, เพลง "นับพระพร")
Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, April 28 (บทความสอนใจประจำวัน 28 เมษายน)

The Believer's Daily Remembrancer

April 28

"Though I am nothing." (2 Corinthians 12:11)

This was Paul’s opinion of himself; "the chief of sinners." (1 Timothy 1:15)

The more we know of ourselves, and of Jesus, the more humble we are; and so happier and more holy.

It is our pride that makes us want to be noticed in this world! The Christian is willing to be nothing, that Christ may be all in all. Apart from Christ we are less than nothing, but in Christ we are something!

We are empty, but He fills us; naked, but He clothes us; helpless, but He strengthens us; lost, but He finds us; ruined, but He saves us; poor, but He supplies us.

All we are, is by Christ; all we have, is from Christ; all we shall be is through Christ.

"Now none but Christ can satisfy,
No other name for me.
There’s love, and life, and lasting joy,
Lord Jesus, found in Thee."
(Hymn "None but Christ", unknown author)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 28 เมษายน

"ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่มีอะไรดีเด่น" (2 โครินธ์ 12:11 TNCV)

นี่เป็นความเห็นของเปาโลที่มีต่อตัวท่านเอง "ในบรรดาคนบาปข้าพเจ้าเป็นตัวร้ายที่สุด" (1 ทิโมธี 1:15 TNCV)

ยิ่งเรารู้จักตัวเราเองและรู้จักพระเยซูมากขึ้นเท่าไร เราจะยิ่งถ่อมใจลงเท่านั้น และเราก็จะมีความสุขและบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

ความหยิ่งผยองของเราทำให้เราอยากจะเป็นที่ยอมรับของโลกนี้! คริสเตียนปรารถนาที่จะไม่มีอะไรดีเด่นเพื่อที่พระคริสต์จะเป็นทุกสิ่งในชีวิตของเ หากปราศจากพระคริสต์แล้ว เราก็ต่ำต้อยยิ่งกว่าผู้ที่ไม่มีอะไรเลย แต่ในพระคริสต์ เราเป็นบางสิ่งบางอย่าง!

เราว่างเปล่า แต่พระองค์เติมเต็มชีวิตเรา เราเปลือยกาย แต่พระองค์ใส่เสื้อผ้าให้แก่เรา เราไร้ที่พึ่ง แต่พระองค์ให้กำลังแก่เรา เราหลงทาง แต่พระองค์พบเรา เราถูกทำลาย แต่พระองค์ช่วยชีวิตเรา เรายากจน แต่พระองค์จัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้แก่เรา

ทุกสิ่งที่เราเป็นก็โดยพระคริสต์ ทุกสิ่งที่เรามีก็มาจากพระคริสต์ และทุกสิ่งที่เราจะเป็นก็เพราะพระคริสต์

"บัดนี้ ไม่มีผู้ใดนอกจากพระคริสต์ ที่ทำให้อิ่มใจ!
ไม่มีนามอื่นใดสำหรับข้าฯ
สำหรับความรัก ชีวิต และความชื่นชมยินดีอันถาวร
ข้าสามารถพบได้ในพระองค์ พระเยซูเจ้าข้า"
(เพลง "None but Christ", ไม่ทราบผู้แต่ง)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, April 27 (บทความสอนใจประจำวัน 27 เมษายน)

The Believer's Daily Remembrancer

April 27

"I, yes I, am the One who comforts you." (Isaiah 51:12)

We, as believers in Jesus, often become discouraged; we do not live up to our privileges. The things of time become too important to us, because we do not give enough thought to the heaven that awaits us. But our Lord is the God of all comfort, and to Him alone we should look.

He comforts us by His Son whom He has given us; by the Holy Spirit whom He pours out upon us; by His Word in which He speaks to us; and through the church where we have fellowship with His people.

Let us look to God this morning, and pray according to His Word for His comfort for ourselves and others.

"I know that my Redeemer lives,
And on the earth again shall stand,
I know eternal life He gives,
That grace and power are in His hand."
(Jessie B. Pounds, hymn "I know that my Redeemer liveth")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 27 เมษายน

"เรานี่แหละเป็นผู้ปลอบโยนเจ้า" (อิสยาห์ 51:12 TNCV)

เราซึ่งเป็นผู้เชื่อในพระเยซูมักจะท้อใจ เราไม่ได้ดำรงชีวิตให้สมกับสิทธิพิเศษที่เรามี สิ่งต่างๆ ในกาลเวลากลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของเรามากจนเกินไป เพราะเราไม่ได้คิดถึงสวรรค์ที่รอคอยเราอยู่มากเพียงพอ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งการปลอบโยนทั้งสิ้น และเราควรจะมองไปที่พระองค์แต่เพียงผู้เดียว

พระองค์ปลอบโยนเราโดยพระบุตรของพระองค์ที่พระองค์ได้ให้แก่เรา โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ผู้ซึ่งพระองค์ได้เทลงมาเหนือชีวิตของเรา โดยพระคำของพระองค์ที่พระองค์ได้พูดกับเรา และผ่านทางคริสตจักรที่ซึ่งเรามีสายสัมพันธ์กับประชากรของพระองค์

ขอให้เรามองไปที่พระเจ้าในเช้าวันนี้และอธิษฐานตามพระคำของพระองค์ เพื่อที่เราเองและผู้อื่นจะได้รับการปลอบโยน

"ข้าฯ รู้ว่าพระผู้ไถ่ทรงพระชนม์
และจะเสด็จมายังโลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
ข้าฯ รู้จักชีวิตนิรันดร์ที่พระองค์ประทานให้
พระคุณและฤทธิ์อำนาจล้วนอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์"
(Jessie B. Pounds, เพลง "I know that my Redeemer liveth")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, April 26 (บทความสอนใจประจำวัน 26 เมษายน)

The Believer's Daily Remembrancer

April 26

"Look, here is the Man." (John 19:5)

Jesus is presented before the crowd, crowned with thorns, whipped, His face disfigured more than any other, His blood is flowing. His heart is breaking, He is "the Man of Sorrows." (Isaiah 53:3)

Look to Him, for in Him is all the fullness of God; all the treasures of wisdom and knowledge. In Him the love of God shines forth. He is the only source of eternal salvation. He is God’s only-begotten Son, and the exact likeness of the Father. He is your Substitute and Redeemer. He is the holy, sinless Lamb of God taking away the sin of the world.

Consider Him, for here He shows forth the depth of His love; and teaches patience, and meekness despite insult, suffering and disgrace. Consider Jesus, and be ashamed of complaining. Love and obey Him.

"Lord, I love You, and adore,
Oh, for grace to love You more."
(William Cowper; hymn "Hark, My Soul, It Is The Lord!)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 26 เมษายน

"เขาอยู่ที่นี่แล้ว!" (ยอห์น 19:5 TNCV)

พระเยซูถูกนำเสนอให้กับฝูงชน ถูกสวมมงกุฎหนาม ถูกโบยตี โฉมหน้าของพระองค์ก็ผิดรูปยิ่งกว่าคนอื่นๆ พระโลหิตของพระองค์ก็หลั่งไหล หัวใจของพระองค์แตกสลาย พระองค์เป็น "คนที่รับความเจ็บปวด" (อิสยาห์ 53:3 THSV2011)

จงมองดูพระองค์ เพราะความสมบูรณ์ของพระเจ้า รวมทั้งทรัพย์สมบัติแห่งสติปัญญาและความรู้ทั้งปวงล้วนเห็นได้ชัดในพระองค์ ความรักแท้ของพระเจ้าก็ส่องประกายในพระองค์ พระองค์เป็นเพียงแหล่งเดียวแห่งความหลุดพ้นนิรันดร์ พระองค์เป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าและเป็นเหมือนพระบิดาอย่างแท้จริง พระองค์ตายแทนที่คุณและเป็นพระผู้ไถ่ พระองค์เป็นลูกแกะที่บริสุทธิ์และปราศจากบาปของพระเจ้าผู้ซึ่งรับบาปของโลกไป

จงพิจารณาพระองค์ เพราะพระองค์สำแดงความยิ่งใหญ่ของความรักแท้ของพระองค์ และสอนให้เราเข้าใจความอดทนและความนอบน้อมแม้ในยามที่เผชิญกับการดูถูก การทนทุกข์ และความอับอาย จงพิจารณาพระเยซูและรู้สึกอับอายกับการบ่น จงรักพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์

"องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าฯ รักและเทดทูนพระองค์
โอ ขอพระองค์ประทานพระคุณแก่ข้าฯ เพื่อข้าฯ จะรักพระองค์มากขึ้น"
(William Cowper; เพลง "Hark, My Soul, It Is The Lord!)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, April 25 (บทความสอนใจประจำวัน 25 เมษายน)

The Believer's Daily Remembrancer

April 25

"For who makes you differ from another?" (1 Corinthians 4:7)

There is a big difference! The Christian is alive to God by Jesus Christ, while non- believers are spiritually dead in their sins. Believers have been chosen by God the Father, saved by the blood of Jesus, and taught by the Holy Spirit. They are created anew by Christ Jesus unto good works, which God has planned for them before their very births!

Who made the difference? You readily reply, "By God’s rich, free grace, through the truth of the Bible, I am what I am." (1 Corinthians 15:10)

Dear believer, know that you are entirely dependent on God’s grace and be humble before Him who has made you different. Pray for, and do all you can for those who are still without hope. God invites all to come to Him.

"Ask, and it shall be given unto you;
Seek, and you shall find;
Knock, and the door shall be opened unto you.
Hallelu, Hallelujah!"

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 25 เมษายน

"เพราะใครเล่าทำให้ท่านผิดแผกจากคนอื่น?" (1 โครินธ์ 4:7 TNCV)

มีความแตกต่างมากทีเดียว! คริสเตียนมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าโดยพระเยซูคริสต์ ขณะที่ผู้ที่ไม่เชื่อได้ตายฝ่ายวิญญาณในความบาปของพวกเขา ผู้เชื่อได้รับการเลือกโดยพระเจ้าพระบิดา ได้รับความหลุดพ้นโดยพระโลหิตของพระเยซู และได้รับการสอนโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเขาได้รับการสร้างใหม่โดยพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดีที่พระเจ้าได้วางแผนไว้สำหรับพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะเกิดเสียอีก!

ใครเล่าทำให้ท่านผิดแผกจากคนอื่น? คุณสามารถตอบได้ทันทีว่า "โดยพระคุณของพระเจ้าข้าพเจ้าจึงเป็นอย่างที่เป็นอยู่นี้" (1 โครินธ์ 15:10 TNCV)

ผู้เชื่อที่รัก จงรู้ว่าคุณต้องพึ่งพาพระคุณของพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง และจงถ่อมใจลงต่อพระองค์ผู้ทำให้คุณแตกต่าง จงอธิษฐานเพื่อและทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อบรรดาผู้ที่ยังคงไร้ความหวัง พระเจ้าเชิญชวนทุกคนให้เข้ามาหาพระองค์

"จงขอแล้วท่านจะได้รับ จงหาแล้วท่านจะพบ จงเคาะแล้วประตูจะเปิดให้แก่ท่าน" (มัทธิว 7:7 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, April 24 (บทความสอนใจประจำวัน 24 เมษายน)

The Believer's Daily Remembrancer

April 24

"I am the Bread of Life." (John 6:35)

We need bread for the soul, as well as for the body. All we need to strengthen and satisfy us is in Jesus, and found in the words of the Bible. He is received by faith. Yesterday’s spiritual food is no good for today! We must come to Him preferably morning by morning.

If the Holy Spirit has given us a spiritual hunger, Jesus, and Jesus only, will satisfy. When we feel weak, faint and weary, let us make use of this spiritual bread. If we feed on Jesus, we shall live by Him and have eternal life.

Let us come to Him, many times a day. Jesus only is "the bread of life: the bread which came down from Heaven." (John 6:35; 6:51)

"O come, in this sweet morning hour,
Feed me with food divine;
And fill with all Your love and power
This worthless heart of mine."
(Henry W. Baker, hymn "I am not worthy, holy Lord")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 24 มกราคม

"เราเป็นอาหารแห่งชีวิต" (ยอห์น 6:35 TNCV)

เราจำเป็นต้องได้รับอาหารสำหรับจิตวิญญาณเช่นเดียวกับร่างกาย ทั้งหมดที่เราจำเป็นต้องมีเพื่อที่เราจะได้รับกำลังและความอิ่มใจล้วนอยู่ในพระเยซูและพบได้ในพระคำในพระคัมภีร์ เราสามารถต้อนรับพระองค์ได้ด้วยความเชื่อ อาหารฝ่ายวิญญาณของเมื่อวานก็ไม่เหมาะสมสำหรับวันนี้! เราจะต้องเข้าหาพระองค์ทุกเวลาเช้า

หากพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทำให้เราหิวกระหายฝ่ายวิญญาณ พระเยซูเท่านั้นที่จะทำให้เราอิ่มได้ เมื่อเรารู้สึกอ่อนแอ อ่อนกำลัง และเหน็ดเหนื่อย ขอให้เราใช้ประโยชน์จากอาหารฝ่ายวิญญาณนี้ หากเราเลี้ยงชีวิตด้วยพระเยซู เราจะดำรงชีวิตอยู่โดยพระองค์และมีชีวิตนิรันดร์

ขอให้เราเข้าหาพระองค์หลายครั้งต่อวัน พระเยซูเพียงผู้เดียวที่เป็น "อาหารแห่งชีวิต อาหารซึ่งลงมาจากสวรรค์" (ยอห์น 6:35,51)

"ขอพระองค์เสด็จมาในเวลาเช้าอันหวานชื่นนี้
เลี้ยงดูชีวีข้าฯ ด้วยอาหารของพระองค์
และเติมความรักแท้และฤทธิ์อำนาจของพระองค์
เข้าสู่หัวใจดวงนี้ของข้าฯ ที่ไม่คู่ควร"
(Henry W. Baker, เพลง "I am not worthy, holy Lord")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie