วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 11 มิถุนายน


"พระยาห์เวห์ทรงเป็นมรดกส่วนของข้าพเจ้า" (บทเพลงคร่ำครวญ 3:24)

บทความสอนใจประจำวัน 11 มิถุนายน

"พระยาห์เวห์ทรงเป็นมรดกส่วนของข้าพเจ้า" (บทเพลงคร่ำครวญ 3:24 THSV2011)

คริสเตียนมีผู้ที่จัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้อย่างดีเยี่ยม! องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ให้พระองค์เองแก่เรา พระองค์กล่าวว่า "เราเป็นมรดกของท่าน" (กันดารวิถี 18:20)

เราอยู่กับพระองค์เสมอ และทุกสิ่งที่พระองค์มีก็เป็นของเรา ฤทธิ์อำนาจของพระองค์เป็นของเราเพื่อช่วยเหลือเรา พระปัญญาของพระองค์เป็นของเราเพื่อนำทางให้เรา ความรักท้ของพระองค์เป็นของเราเพื่อปลอบใจเรา พระเมตตาของพระองค์เป็นของเราเพื่อทำให้เราได้ผ่อนคลาย ความดีของพระองค์เป็นของเราเพื่อจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้เรา ความยุติธรรมของพระองค์เป็นของเราเพื่อปกป้องเรา พระสัญญาของพระองค์เป็นของเราเพื่อรักษาเราไว้ให้ปลอดภัย และสวรรค์ของพระองค์เป็นของเราเพื่อต้อนรับเรา

เราจำเป็นต้องดำรงชีวิตในพระองค์ ชื่นชมยินดีในพระองค์ และพึ่งพาพระองค์สำหรับสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นสำหรับชีวิตเรา เราจำเป็นต้องให้พระองค์เป็นที่หนึ่งในชีวิตในขณะที่เราแสวงหาที่จะดำรงชีวิตเพื่อเกียรติสิริของพระองค์ ไม่มีใครเอามรดกของเราไปจากเราได้ ผู้คนอาจจะทำให้เราผิดหวังและหลอกลวงเรา แต่พระเจ้าจะเป็นมรดกส่วนของเราตลอดไป

"ประทานคำปรึกษาแนะนำข้าพเจ้า แล้วจะทรงรับข้าพเจ้าไว้ในพระสิริรุ่งโรจน์ 
ยังมีใครอีกเล่าสำหรับข้าพเจ้าในสวรรค์? เมื่ออยู่กับพระองค์ ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาสิ่งใดบนแผ่นดิน 
แม้ร่างกายและจิตใจข้าพเจ้าอ่อนกำลัง พระเจ้าก็ทรงเป็นหลักศิลาแห่งดวงใจ ทรงเป็นทรัพย์สมบัติของข้าพเจ้าตลอดไป" (สดุดี 119:24-26 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 11

"The Lord is my portion." (Lamentations 3:24)

The Christian is wonderfully provided for! The Lord has given us Himself; He says, "I am your inheritance." (Numbers 18:20)

We are always with Him, and all He has is ours. His power is ours to support us, His wisdom to guide us, His love to comfort us, His mercy to relieve us, His goodness to provide for us, His justice to defend us, His covenant to keep us secure, and His heaven to receive us.

We are to live in Him, rejoice in Him, and look to Him for all we need. We must give Him first place as we seek to live for His glory. No one can take our inheritance from us. People may fail us and deceive us, but God is our portion for ever.

"To Your glory You will bring me
With Your counsel as my guide.
I have none but You in heaven;
All on earth I lay aside.
Flesh and heart may fail, but ever
God my portion will abide." (Sing Psalms 73:24-26)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 10 มิถุนายน



"เราคือ อัลฟาและโอเมก้า" (วิวรณ์ 22:13)

บทความสอนใจประจำวัน 10 มิถุนายน

"เราคือ อัลฟาและโอเมก้า" (วิวรณ์ 22:13 THSV2011)

พระเยซูเป็นเบื้องต้นและบั้นปลาย พระองค์เริ่มต้น พระองค์ดำเนินการ และพระองค์จะทำการงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อความหลุดพ้นนิรันดร์องเราให้สำเร็จ

พระองค์เป็นบุคคลแรกที่อยู่กับเราในการทดลองต่างๆ และจะไม่มีวันละทิ้งหรือทอดทิ้งเราเลย พระองค์เป็นรากฐานที่ชีวิตของเราสร้างขึ้นมา พระองค์รวมเอาทุกสิ่งที่ดี ยิ่งใหญ่ และเต็มด้วยเกียรติสิริ ผู้ทีเชื่อวางใจพระเยซูมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับโลกนี้และสำหรับนิรันดร์กาล

ขอให้เราเริ่มต้นกับพระเยซู และดำเนินชีวิตต่อไปกับพระเยซู แล้วเราก็จะมีอวสานร่วมกันกับพระเยซู ซึ่งจะเป็นอวสานที่เต็มด้วยพระพร

โอ้ ขอที่ข้าพระองค์จะรู้จักพระองค์ และรู้จักฤทธิ์เดชแห่งการคืนพระชนม์ของพระองค์ และรู้จักการมีส่วนร่วมในความทุกข์ของพระองค์ และเป็นเหมือนพระองค์ในความตาย

ขอให้เรามองดูพระเยซูผู้เป็นอัลฟาและโอเมกาของเราทุกๆ วัน

"พระคริสต์เป็นความหวัง กำลัง และผู้นำทางชีวิตของข้าฯ
พระองค์คร่ำครวญ หลั่งโลหิต และสละชีวิตเพื่อข้าฯ
พระคริสต์เป็นแหล่งของสุขสำราญทั้งสิ้นของข้าฯ
เป็นสติปัญญา และความชอบธรรมของข้าฯ
พระผู้ช่วย พี่ชาย สหายที่ไว้ใจได้ของข้าฯ
ข้าฯ จะหวังพึ่งในพระองค์แต่เพียงผู้เดียว"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 10

"I am Alpha and Omega." (Revelations 22:13)

Jesus is the first and the last. He began, He carries on, and He will complete the great work of our eternal salvation.

He is first with us in every trial, and He will never leave us nor forsake us. He is the foundation on which we build. He includes all that is good, great and glorious. The believer in Jesus has everything needed for this world and eternity.

Let us begin with Jesus, and then go on with Jesus, so shall we end with Jesus; and a blessed end it will be.

Oh, to know Him, and the mighty power that raised Him from the dead, to suffer with Him sharing in His death.

Let us look to Jesus as our Alpha and Omega from day to day.

"Christ is my hope, my strength, my guide,
For me He groaned, and bled, and died;
Christ is the source of all my bliss,
My wisdom, and my righteousness;
My Saviour, Brother, faithful Friend,
On Him alone I now depend."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 09 มิถุนายน


"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า" (สดุดี 130:7)

บทความสอนใจประจำวัน 09 มิถุนายน

"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ทีองค์พระผู้เป็นเจ้า" (สดุดี 130:7 TNCV)

คำว่า "อิสราเอล" หมายถึง ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมด คำนี้บ่งชี้ถึงความมีเกียรติ เพราะพวกเขาคือเจ้าชาย คำนี้บ่งชี้ถึงประสบการณ์ของพวกเขา เพราะพวกเขาปล้ำสู้กับพระเจ้าในคำอธิษฐาน และพวกเขามีชัยชนะ

พระเจ้าของเราเป็น "พระเจ้าแห่งความหวัง" และเราควรจะฝากความหวังไว้ในพระองค์

อิสราเอลควรฝากความหวังไว้ในพระเมตตาของพระองค์ ในความอดทนอดกลั้นของพระองค์ ในการจัดเตรียมของพระองค์ ในการไถ่อันล้ำค่าของพระองค์ พวกเขาควรมีความหวังที่จะพบแสงสว่างในความมืด พบกำลังในความอ่อนแอ พบการนำทางในความสับสนอลหม่าน พบการช่วยกู้ในอันตราย พบชัยชนะในความขัดแย้ง และพบการเฉลิมฉลองแห่งชัยชนะในความตาย

พวกเขาควรฝากความหวังไว้ในพระเจ้าด้วยความมั่นใจเพราะพระองค์ได้สัญญาไว้ ด้วยใจอธิษฐานเพราะพระองค์ปรารถนาที่จะฟังจากเรา ด้วยความเชื่อฟังเพราะคำสั่งของพระองค์ก็ชัดเจน และด้วยความสม่ำเสมอเพราะพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง

จงฝากความหวังไว้ในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะความรักมั่นคงอยู่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า
การไถ่อันสมบูรณ์อยู่ที่พระองค์
พระองค์เองจะทรงไถ่อิสราเอล
จากบาปทั้งสิ้นของพวกเขา" (สดุดี 130:7-8 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 09

"O Israel, hope in the Lord." (Psalm 130:7)

This title refers to all the Lord's people; it sets forth their dignity- they are princes; it refers to their experience, they wrestle with God in prayer, and they prevail.

Our God is "The God of Hope": and we should hope in Him.

Israel should hope in His mercy- in His patience – in His provision- in His precious redemption. They should hope for light in darkness; for strength in weakness; for direction in perplexity; for deliverance in danger; for victory in conflict; and for triumph in death.

They should hope in God with confidence, because He has promised; prayerfully, for He loves to hear from us; obediently, for His commandments are clear; and constantly, for He does not change.

Hope in the Lord, and in the Lord alone.

"O Israel, put your hope in God,
For mercy is with Him
And full redemption. From their sins
His people He'll redeem." (Psalm 130:7-8)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 08 มิถุนายน



"ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราใครเล่าจะต่อสู้เราได้?" (โรม 8:31)

บทความสอนใจประจำวัน 08 มิถุนายน

"ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราใครเล่าจะต่อสู้เราได้?" (โรม 8:31 TNCV)

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู ความสมบูรณ์แบบทั้งหมดของพระเจ้าของเราก็มีพร้อมสำหรับการปกป้องและความปลอดภัยของเรา พระองค์อยู่ฝ่ายเรา สนับสนุนเรา ต่อสู้กับศัตรูของเรา

อะไรคือสิ่งที่พระเจ้าได้สัญญาไว้? พระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งเราหรือละทิ้งเรา เราจะมีชัยชนะในพระคริสต์ แต่ชัยชนะนี้อยู่ในพระคริสต์เท่านั้น

หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว เราก็จะมีสิ่งจำเป็นทั้งหมดจัดเตรียมให้แก่เรา หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว มนุษย์หรือมารก็จะไม่มีทางมีอำนาจเหนือเรา หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว เราก็จะชนะโลกนี้ พิชิตความตาย และรับเกียรติศักดิ์ศรีเป็นมรดกชั่วนิรันดร์

พระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา แล้วใครเล่าจะทำร้ายเราได้? อะไรจะทำให้เราตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวได้? พระเจ้าเป็นของเราและเราก็เป็นของพระเจ้า นี่เป็นเกียรติยศของเรา ความสุขของเรา การโอ้อวดของเรา และเกียรติสิริของเรา

"ในพระนามพระเยซู ในพระนามพระเยซู
เราจะเป็นผู้มีชัย
ในพระนามพระเยซู ในพระนามพระเยซู
ผีร้ายจะต้องหนีไป
เมื่อเราสู้โดยนามพระเยซู
ใครสามารถต่อสู้เราได้
เมื่อเราสู้โดยนามพระเยซู
เราจะเป็นผู้มีชัย"
(เพลง "ในพระนามพระเยซู")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 08

"If God is for us, who can be against us?" (Romans 8:31)

As believers in Jesus, all the perfections of our God are available for our protection and safety. He is for us; engaged in our cause; opposed to our enemies.

What has God promised? He will never leave us, nor forsake us. We may triumph in Christ, but only in Christ.

If God is for us, then all that we need will be available. If God is for us, men or devils will never prevail against us. If God is for us, we shall overcome the world, conquer death, and eternally inherit glory.

God is for us, who then can harm us? What then shall alarm or terrify us? God is ours; we are God's. This is our honour, our happiness, our boast and our glory.

"In the name of Jesus, in the name of Jesus,
We have the victory!
In the name of Jesus, in the name of Jesus,
Demons will have to flee!
Who can tell what God can do?
Who can tell of His love for you?
In the mighty name of Jesus
We have the victory!"
(Hymn "In The Name of Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 07 มิถุนายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า 'เจ้าเป็นพยานของเรา' " (อิสยาห์ 43:12)

บทความสอนใจประจำวัน 07 มิถุนายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า 'เจ้าเป็นพยานของเรา' " (อิสยาห์ 43:12 TNCV)

พระเจ้าเรียกเราให้บอกเล่าถึงความจริงและฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า บอกเล่าถึงความดี ความบริสุทธิ์ และความสัตย์ซื่อของพระองค์ เราจะต้องบอกเล่าแก่โลกนี้ด้วยคำกล่าวยืนยันและการกระทำที่ประกอบด้วยความกล้าหาญและความรักแท้ สิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้นจากการดำเนินชีวิตประจำวันกับพระเจ้า

เรารู้จักพระเจ้าหรือไม่? เรามีประสบการณ์กับฤทธิ์อำนาจแห่งความจริงในหัวใจของเราทุกๆ วันหรือไม่? ประสบการณ์ของเราปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากความกลัว การรักโลก และฤทธิ์อำนาจของบาปหรือไม่?

เราบอกได้หรือไม่ว่า "เรารู้และเชื่อมั่นในความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา พระเจ้าเป็นความรัก" (1 ยอห์น 4:16)? เรากำลังบอกกับคนรอบข้างได้หรือไม่ว่า "เชิญชิมดูแล้วจะรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าแสนดี ความสุขมีแก่ผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์" (สดุดี 34:8)?

เราพร้อมเหมือนเปาโลผู้ที่กล่าวคำยืนยันต่อหน้าผู้พิพากษาและกษัตริย์ในการจองจำ และยอมแลกแม้กระทั่งชีวิตของเขาเองหรือไม่?

"ขอบพระคุณสำหรับการกำหนดเส้นทางชีวิตให้ข้าฯ
ขอบพระคุณสำหรับการรับเอาความผิดบาป ความกลัว และความดิ้นรนฟันฝ่าของข้าฯ ไป
คำอธิษฐานของข้าฯ คือที่จะรู้จักพระองค์มากขึ้นในแต่ละวัน
และที่จะแบ่งปันพระองค์ให้กับผู้ที่ยังไม่พบหนทางชีวิตของเขา
"
(Bonnie Mendell - อดีตผู้ติดเฮโรอีน)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 07

" 'You are My witnesses,' says the Lord." (Isaiah 43:12)

We are called to witness to the truth and the power of God; to His goodness, holiness and faithfulness. We are to witness to the world by our testimony and conduct with courage and love. It should arise from our daily walk with God.

Do we know God? Do we daily experience the power of truth in our hearts? Does it free us from fear, the love of the world and the power of sin?

Can we say, "We have known and believed the love which God has for us – God is love" (1 John 4:16)? Are we saying to those around us, "O taste and see that the Lord is good; there is no lack to those who fear Him" (Psalm 34:8)?

Are we ready like Paul, to witness before judges and kings, in prison or at the cost of our very lives?

"Thank You for setting a course for my life;
Thank You for taking my guilt, fear and strife.
My prayer is to learn more about You each day,
And to share You with those who have not found their way."
(Bonnie Mendell- former heroin addict)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 06 มิถุนายน


"ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น" (มาระโก 7:37)

บทความสอนใจประจำวัน 06 มิถุนายน

"ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น" (มาระโก 7:37 THSV2011)

นี่เป็นการตัดสินของฝูงชนที่เห็นการอัศจรรย์ของพระเยซู เราเห็นด้วยกับพวกเขาอย่างจริงจ พระองค์เรียกเราโดยพระคุณของพระองค์ และเราชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อเรา

พระองค์ได้ทดสอบเราเป็นครั้งคราว แต่เมื่อเราคิดถึงพระเมตตาของพระองค์และการที่พระองค์ช่วยให้เราผ่านพ้นได้ เราก็ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย

เรามองย้อนดูการตายบนไม้กางเขนของพระเยซูเพื่อนำเราสู่ความหลุดพ้น การคืนชีวิตจากความตายของพระองค์ การส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นผู้ปลอบใจเรา และเราก็โห่ร้องสรรเสริญว่า "ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น"

เมื่อเราไปถึงสวรรค์ เราก็จะสรรเสริญพระองค์ชั่วนิรันดร์สำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำด้วยใจขอบพระคุณและด้วยความรั

"ความรักของพระองค์ที่มีต่อคนบาปอย่างข้าฯ
ทั้งสิ้นช่างยิ่งใหญ่ ยอดเยี่ยม และไม่คิดมูลค่า
พระองค์คว้าข้าฯ ขึ้นมาจากนรก!
พระเยซูของข้าฯ ทำทุกย่างล้วนดีทั้งนั้น"
(Samuel Medley)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 06

"He has done all things well." (Mark 7:37)

This was the verdict of the crowd who saw the miracles of Jesus. We heartily agree. He called us by His grace and we rejoice in all He has done for us.

We have been tried and tested from time to time, but when we think of His mercies and His deliverances we give thanks that He has never failed us.

We look back to the death of Jesus on the cross to procure our salvation, to His rising again from the dead, to His sending the Holy Spirit as our Comforter and we acclaim, "He has done all things well."

When we reach heaven, with what thanksgiving and love, we shall praise Him eternally for all He has done.

"How sovereign, wonderful, and free,
Is all His love to sinful me,
He plucked me as a brand from hell!
My Jesus has done all things well."
(Samuel Medley)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 05 มิถุนายน



"พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร" (กิจการ 9:6)

บทความสอนใจประจำวัน 05 มิถุนายน

"พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร" (กิจการ 9:6 TKJV)

ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดควรทำงานเพื่อถวายเกียรติสิริแด่พระเจ้า มีบางสิ่งให้เราทำในวันนี้ พระเยซูเป็นเจ้านายของเราและมีสิทธิที่จะได้รับการรับใช้จากเรา เราควรเชื่อฟังพระองค์เป็นประจำด้วยความเต็มใจและความยินดี

เราเป็นของพระองค์หรือไม่? เราแสดงออกได้ด้วยการเชื่อฟังพระองค์

เรามีความเชื่อ ความหวัง ความรัก ความถ่อมใจ สันติสุข และใจสำนึกในพระคุณหรือไม่? เมื่อนั้นเราควรทำงานเพื่อพระองค์ ทำงานตลอดเวลา และทำงานราวกับว่าทุกวันเป็นวันสุดท้ายของเรา พร้อมด้วยมีใจขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระพรทั้งสิ้นที่เราได้รับ

คุณกำลังรับใช้พระเยซูด้วยพระวิญญาณของพระองค์หรือไม่? จงระวัง อย่าให้การรับใช้ของคุณมาแทนที่พระเยซู ทำทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้ และวางทุกสิ่งไว้ที่เท้าของพระองค์ เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการชำระล้าง!

"พระเจ้าได้เรียกคุณให้ออกจากความมืด
เข้าสู่ความสว่างอันล้ำเลิศที่สุดของพระองค์
พระองค์ได้นำความจริงของพระองค์สู่ชีวิตภายในคุณ
ทำให้คุณซึ่งตาบอดได้มองเห็น
ขอที่แสงสว่างของคุณจะส่องประกาย
เพื่อพระนามของพระเจ้าจะได้รับเกียรติสิริ
และทุกคนก็จะได้พบความหวังและวัตถุประสงค์ที่สดใหม่
ในพระเยซูคริสต์ผู้ได้สละพระชนม์เพื่อเราทั้งหลาย"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 05

"Lord, what so You want me to do?" (Acts 9:6)

All the Lord's people should be working for the Lord's glory. There is something for us to do to-day. Jesus is our Master, and has a right to our service. We should obey Him willingly, cheerfully, habitually.

Are we His? We show it by obeying Him.

Have we faith, hope, love, humility, peace and thankfulness? We ought then in thankfulness for all these blessings to be working for Him, always working, and working as if every day were our last.

Are you serving Jesus in the spirit of Jesus? Beware not to put your service in the place of Jesus.

Do all you can, and then lay all you do at His feet, it will need washing!

"God has called you out of darkness
Into His most marvellous light;
Brought His truth to life within you,
Turned your blindness into sight.
Let your light so shine around you
That God's name is glorified
And all find fresh hope and purpose
In Christ Jesus crucified."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie