Five Assertions in 1 John 1:1–4
4. Therefore John makes the proclamation of Christ the basis of his fellowship with other believers. (2)
There are so many lessons for us here. Let me mention three.
First, the great danger of the charismatic movement around the world today (with all the good I see in it) is that it often attempts to preserve fellowship among believers on the basis of a shared experience rather than on the basis of shared theology. This is not the biblical way, and will result eventually in the petering out of poorly founded experience or in the development of heretical theology to smooth over the differences.
Second, surely this text implies that no Christian should marry an unbeliever. Deep fellowship in the things that count most is not possible where we don't share the same understanding and affection for Christ.
Third, it is a great and sad irony that as a Conference, professing to cherish the Bible, we have the reputation of trying to preserve the unity of fellowship not by exalting the great doctrines of Scripture, but by avoiding them. When John wanted to cultivate and preserve the fellowship of his readers, he got theological. When the Conference wants to cultivate and preserve the fellowship, it gets a-theological. We are paying the price for this in many ways. And it is a great sadness.
God willing, we will set a different pace at Bethlehem. We will be explicitly theological and always lay our cards on the table. The last thing I want to do is attract or keep members by concealing the very distinctives that fill us with us with passion and zeal for the glory of God. To water down biblical theology to the lowest common denominator of acceptability is the death knell of worship and orthodoxy and missions and morality and growth. And the BGC is in trouble in everyone of those areas.
Let's be like John. Verse 3: "What we have seen, what we have heard, we proclaim to you, so that you may have fellowship with us." Here is what we believe of Christ! Do you cherish what we cherish? (Cf. 4:6.)
By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org
การยืนยัน 5 ประการใน 1 ยอห์น 1:1-4
4. ดังนี้ ยอห์นได้ให้การกล่าวประกาศพระคริสต์เป็นพื้นฐานของสามัคคีธรรมของท่านกับผู้เชื่อคนอื่น ๆ (2)
บทเรียน 3 บท
มีบทเรียนมากมายสำหรับพวกเราในที่นี่ ขอที่ข้าพเจ้าจะกล่าวถึง 3 บทเรียน
บทเรียนแรก อันตรายที่ยิ่งใหญ่ของการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เน้นของประทาน (charismatic movement) ทั่วโลกในทุกวันนี้ (ร่วมกับสิ่งดีทั้งปวงที่ข้าพเจ้าเห็นในการเคลื่อนไหวนี้) ก็คือว่า การเคลื่อนไหวนี้มักจะพยายามที่จะธำรงรักษาสามัคคีธรรมท่ามกลางผู้เชื่อบนพื้นฐานแห่งการมีประสบการณ์ร่วมกัน มากกว่าการที่มีพื้นฐานแห่งศาสนศาสตร์ร่วมกัน นี่ไม่ใส่หนทางแห่งพระคัมภีร์ และในที่สุดจะส่งผลให้เกิดการหมดแรงแห่งประสบการณ์ที่มีพื้นฐานไม่มั่นคง หรือเกิดการพัฒนาศาสนศาสตร์นอกรีตเพื่อที่จะบรรเทาความแตกต่างทั้งหลาย
บทเรียนที่สอง แน่นอน พระคำตอนนี้ชี้นำว่าไม่มีคริสเตียนคนใดที่ควรจะแต่งงานกับผู้ที่ไม่เชื่อ สามัคคีธรรมที่ลึกซึ้งในสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดนั้นเป็นไปไม่ได้เมื่อเราไม่ได้มีความเข้าใจและความรักสำหรับพระคริสต์ที่เหมือนกันร่วมกัน
บทเรียนที่สาม เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเป็นคำเปรียบเปรยที่น่าเศร้าว่า ในการสัมมนาหนึ่ง ที่อ้างว่ารักพระคัมภีร์ เรามีชื่อเสียงของการพยายามธำรงรักษาความเป็นหนึ่งเดียวกันแห่งสามัคคีธรรม มิได้ด้วยการยกย่องหลักข้อเชื่อที่ยิ่งใหญ่แห่งพระวจนะ แต่ด้วยการหลีกเลี่ยงหลักข้อเชื่อเหล่านั้น เมื่อยอห์นต้องการที่จะพัฒนาและธำรงรักษาสามัคคีธรรมของผู้อ่านของท่าน ท่านใช้ศาสนศาสตร์ เมื่อการสัมมนาต้องการที่จะพัฒนาและธำรงรักษาสามัคคีธรรม กลับใช้สิ่งซึ่งใช่ใช่ศาสนศาสตร์ เรากำลังจะจ่ายราคาสำหรับสิ่งนี้ในหลายหนทาง และนี่เป็นสิ่งที่น่าเศร้าที่ยิ่งใหญ่
หากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เราจะจัดตั้งก้าวที่แตกต่างที่เบธเลเฮม เราจะใช้ศาสนศาสตร์อย่างชัดเจน และวางไพ่ของพวกเราไว้บนโต๊ะเสมอ สิ่งสุดท้ายที่ข้าพเจ้าต้องการที่จะทำก็คือการดึงดูดหรือรักษาสมาชิกโดยการปกปิดสิ่งชัดเจนทั้งหลายที่จะเติมเราด้วยความรักและร้อนรนเพื่อพระสิริของพระเจ้า
การทำให้ศาสนศาสตร์แห่งพระคัมภีร์เจือจางลงจนถึงจุดต่ำสุดที่ทุกคนสามารถรับได้ เป็นลางร้ายแห่งความตายของการนมัสการและหลักข้อเชื่อและมิชชันและศีลธรรมและการเติบโต
ขอที่เราจะเป็นเหมือนยอห์น
สิ่งที่เราได้เห็นและได้ยินนั้น เราก็ประกาศให้พวกท่านรู้ด้วย เพื่อท่านจะได้มีสามัคคีธรรมกับเรา และเราก็มีสามัคคีธรรมกับพระบิดา และกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ (1 ยอห์น 1:3 THSV2011)
นี่คือสิ่งที่เราเชื่อในพระคริสต์! คุณรักในสิ่งที่เรารักหรือไม่?
ส่วนเราอยู่ฝ่ายพระเจ้า ผู้ที่รู้จักพระเจ้าก็ฟังเรา และผู้ที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายพระเจ้าก็ไม่ฟังเรา ดังนั้นเราจึงรู้จักวิญญาณของความจริง และวิญญาณของความเท็จ (1 ยอห์น 4:6 THSV2011)
ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์
คำเทศนาในชุด "ให้เราดำเนินในความสว่าง (1 ยอห์น)"
หัวข้อ "ชีวิตนิรันดร์ได้ปรากฎในพระคริสต์ (1 ยอห์น 1:1-4)"
เมื่อวันที่ 03/05/2009
By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org
For original passage, including audio or video files, please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/eternal-life-has-appeared-in-christ
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น