วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 31 (บทความสอนใจประจำวัน 31 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 31

"A friend loves at all times." (Proverbs 17:17)

Where shall we find such a friend? Only in Jesus Christ!

He delivers from bondage to sin and welcomes each one as a genuine friend regardless of status! He provides for all our needs. He rescues us from our enemies, and guides us when we are worried. He suffered and died on the cross to provide for our eternal wellbeing. He leads us and guides us and lovingly shows us our faults. He comforts us in all our troubles.

He is ready to listen to us day or night. He is the friend who loves at all times. His friendship flows from pure love and infinite patience. We shall be with Him for ever. He will never fail us nor forsake us. (Hebrews 13:5)

"Oh, Jesus, be my Friend, Counsellor, Saviour, Lord and God , in life and in death, throughout this new year and forever."

"What a friend we have in Jesus
All our sins and griefs to bear!
What a privilege to carry
Everything to God in prayer!
Oh, what peace we often forfeit,
Oh, what needless pain we bear,
All because we do not carry
Everything to God in prayer!"
(Joseph M Scriven, Hymn "What a Friend We Have in Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 31 ธันวาคม

"เพื่อนมีความรักความหวังดีให้ทุกเวลา" (สุภาษิต 17:17)

เราพบเพื่อนเช่นนี้ได้ที่ไหน? พบได้ในพระเยซูคริสต์เท่านั้น!

พระองค์นำเราให้หลุดพ้นจากเครื่องจองจำแห่งบาป และต้อนรับเราแต่ละคนในฐานะเพื่อนแท้คนหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงฐานะ! พระองค์จัดเตรียมสิ่งจำเป็นทั้งหลายเพื่อเรา พระองค์ช่วยชีวิตเราจากศัตรู และนำทางเราเมื่อเรากังวลใจ พระองค์ทนทุกข์ทรมานและตายบนกางเขนเพื่อให้เรามีสวัสดิภาพนิรันดร์ พระองค์นำเราไปและชี้ทางให้เรา และสำแดงความผิดพลาดของเราด้วยความรักแท้

พระองค์ปลอบโยนเราเมื่อเรามีปัญหา พระองค์พร้อมรับฟังทั้งกลางวันและกลางคืน พระองค์เป็นเพื่อนที่รักตลอดเวลา มิตรภาพของพระองค์หลั่งไหลจากความรักที่บริสุทธิ์และความอดทนที่ไม่จำกัด เราจะได้อยู่กับพระองค์ตลอดกาล พระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งเรา หรือละทิ้งเราเลย (ฮีบรู 13:5)

"โอ พระเยซู ขอพระองค์เป็นเพื่อน ที่ปรึกษา ผู้ให้ความหลุดพ้น องค์พระผู้เป็นเจ้า และพระเจ้าของข้าพระองค์ ในชีวิตและในความตาย ตลอดปีใหม่นี้และตลอดไป"

"มีสหายเลิศคือพระเยซู
ผู้ได้แบกบาปทุกข์ของเรา
มีอะไรรบกวนให้โศกเศร้า
จงรีบเร่งมาเข้าเฝ้า
เหตุไฉนเราลืมพระเจ้าบ่อย
ใจเป็นทุกข์โดยไม่มีเหตุ
เพราะการไหว้วอนเราได้ท้อถอย
ไม่ได้ทูลผู้ทรงฤทธิ์เดช"
(Joseph M Scriven, เพลง "มีสหายเลิศคือพระเยซู")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 30 (บทความสอนใจประจำวัน 30 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 30

"I will never leave you nor forsake you." (Hebrews 13:5)

God has promised to be with us always. He is full of compassion and will go through the whole journey with us. He will be our God to all eternity. He will support us in every trouble; comfort and provide for us in every difficulty; deliver us in every danger; and bless us in all situations.

Let us rejoice that our God will never leave us. Friends may desert us, or we may lose them through death; troubles may come upon us; but our God will not forsake His own for His great name’s sake.

Having loved His own, He will love them to the end. (John 13:1)

"Once you were an alien people.
Strangers to God’s heart of love,
But He brought you home in mercy,
Citizens of heaven above.
Let His love flow out to others,
Let them feel the Father’s care;
That they too may know His welcome
And His countless blessings share."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 30 ธันวาคม

"เราจะไม่มีวันทอดทิ้งท่าน เราจะไม่มีวันละทิ้งท่าน" (ฮีบรู 13:5 TNCV)

พระเจ้าได้สัญญาว่าจะอยู่กับเราเสมอ พระองค์เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ และจะเดินทางไปกับเราจนถึงจุดหมาย พระองค์จะเป็นพระเจ้าของเราตลอดชั่วนิรันดร พระองค์จะช่วยเหลือเราในทุกปัญหา ปลอบโยนและจัดเตรียมสิ่งต่างๆ แก่เราในทุกความยากลำบาก ช่วยกู้เราออกจากทุกอันตราย และอวยพรเราในทุกสถานการณ์

ให้เราชื่นชมยินดีว่าพระเจ้าจะไม่มีวันทอดทิ้งเรา สหายอาจละทิ้งเรา หรือความตายอาจจะพรากสหายไปจากเรา ปัญหาอาจประดังมา แต่พระเจ้าจะไม่ละทิ้งคนของพระองค์ เพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์

พระองค์ทรงรักคนของพระองค์ พระองค์จึงทรงรักเขาจนถึงที่สุด (ยอห์น 13:1)

"ครั้งหนึ่งคุณเคยเป็นคนต่างด้าวมาก่อน
เป็นคนแปลกหน้าต่อพระทัยแห่งรักของพระเจ้า
แต่พระองค์นำคุณกลับบ้านในพระเมตตาของพระองค์
ให้เป็นประชากรแห่งสวรรค์เบื้องบน
ให้ความรักของพระองค์หลั่งไหลสู่ผู้อื่น
ให้พวกเขาได้สัมผัสความห่วงใยของพระบิดา
เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้จักการต้อนรับของพระองค์
และพระพรนับไม่ถ้วนที่พระองค์ประทานให้"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 29 (บทความสอนใจประจำวัน 29 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 29

"God causes everything to work for the good of those who love Him." (Romans 8:28)

All the Lord’s people love God! He is their Loving Heavenly Father. He has called them to follow Him. Everything is in His control. He superintends all things.

We should gain from all that occurs. We may gain wisdom- holiness- matters for prayer and praise- the testing of our faith- patience and hope. Our best interests are secured.

Everything is working for the good of those who believe; and although the road may be rough, it is the right way to our Father’s home.

"Dear Father, Thank You for the 'all things'
That together for our good do work;
The trials, disappointments, heartaches,
The many things that cause us hurt;
These draw us close to You , Lord Jesus
When meeting at the 'secret place,'
We leave them all with You, dear Saviour,
And claim You strength, Your power, Your grace."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 29 ธันวาคม

"เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า" (โรม 8:28 THSV2011)

ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดรักพระเจ้า! พระองค์เป็นพระบิดาในสวรรค์ที่เต็มไปด้วยความรักแท้ พระองค์ได้เรียกพวกเขาให้ติดตามพระองค์ ทุกสิ่งล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของพระองค์ พระองค์ดูแลจัดการทั้งหมดทุกสิ่ง

เราควรจะได้รับประโยชน์จากทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เราอาจจะได้รับสติปัญญา ความบริสุทธิ์ สิ่งที่เราจะอธิษฐานและสรรเสริญพระเจ้า การทดสอบความเชื่อของเรา ความอดทน และความหวังใจ ผลประโยชน์สูงสุดที่เราจะได้รับนั้นก็เป็นสิ่งที่แน่นอน

ทุกสิ่งล้วนร่วมกันก่อให้เกิดผลดีแก่คนที่เชื่อวางใจ และถึงแม้ว่าถนนอาจจะไม่ราบเรียบ แต่เป็นหนทางที่ถูกต้องที่จะนำเราไปสู่บ้านของพระบิดาของเรา

"พระบิดาที่รัก ขอบคุณพระองค์สำหรับ 'ทุกสิ่ง' นั้น
ที่ร่วมกันก่อให้เกิดผลดีแก่ข้าฯ
การทดลอง ความผิดหวัง ความปวดร้าวจิตใจ
และหลายสิ่งที่ทำให้ข้าฯ เจ็บปวด
สิ่งเหล่านี้นำข้าฯ ใกล้พระองค์ โอพระเยซูเจ้า
เมื่อข้าฯ เข้าพบพระองค์ใน 'ที่ลับ'
ข้าฯ ขอละสิ่งเหล่านั้นไว้กับพระองค์ พระผู้ช่วยที่รัก
และร้องขอกำลัง ฤทธิ์เดช และพระคุณจากพระองค์"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 28 (บทความสอนใจประจำวัน 28 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 28

"So let’s not get tired of doing what is good." (Galatians 6:9)

Anyone who belongs to Christ Jesus has become a new person. Let us give advice, encouragement or relief in the fear of God, and for His glory.

What is done well, is done in a spirit of love, humility and prayer; is motivated by the love of Christ, and is done by the commandment of the everlasting God and for His glory.

Sometimes we get tired of doing good. Remember, in time we shall reap if we don’t give up. God is faithful and gracious. He will not forget our labour of love. He will reward even the giving of a cup of cold water in the Lord’s name.

"Once you were an alien people,
Strangers to God’s heart of love,
But He brought you home in mercy,
Citizens of heaven above.
Let His love flow out to others,
Let them feel the Father’s care,
That they too may know His welcome
And His countless blessings share."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 28 ธันวาคม

"อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี" (กาลาเทีย 6:9 THSV2011)

ผู้ใดที่เป็นของพระคริสต์ก็ได้กลายเป็นคนใหม่แล้ว ขอให้เราให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ หรือปลอบโยนจิตใจด้วยความยำเกรงพระเจ้า และเพื่อพระเกียรติสิริของพระองค์

สิ่งใดที่เราได้ทำอย่างดี เราก็ทำด้วยวิญญาณแห่งความรัก ความถ่อมใจ และการอธิษฐาน โดยมีแรงจูงใจคือความรักแท้ของพระคริสต์ และทำตามคำสั่งของพระเจ้าองค์นิรันดร์และเพื่อพระเกียรติสิริของพระองค์

บางครั้งเราเมื่อยล้าในการทำดี จงระลึกไว้ว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร พระเจ้าสัตย์ซื่อและเปี่ยมด้วยพระคุณ พระองค์จะไม่ลืมการตรากตรำที่เราทำด้วยความรัก พระองค์จะให้รางวัลแม้กระทั่งสำหรับน้ำเย็นแก้วหนึ่งที่หยิบยื่นให้ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า

"ครั้งหนึ่งคุณเคยเป็นคนต่างด้าวมาก่อน
เป็นคนที่แปลกหน้าต่อพระทัยแห่งรักของพระเจ้า
แต่พระองค์นำคุณกลับบ้านในพระเมตตาของพระองค์
ให้เป็นประชากรแห่งสวรรค์เบื้องบน
ให้รักของพระองค์หลั่งไหลสู่ผู้อื่น
ให้พวกเขาได้สัมผัสความห่วงใยของพระบิดา
เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้จักการต้อนรับของพระองค์
และพระพรนับไม่ถ้วนที่พระองค์ประทานให้"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 27 (บทความสอนใจประจำวัน 27 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 27

"I want you to be free from the concerns of this life." (1 Corinthians 7:32)

Worry is harmful! It distracts us, hinders God’s Word, leads to distrust and destroys our peace.

We, who have put our trust in the Lord, should prayerfully leave all our concerns in His Care. All we do, we should do as to the Lord, and regard our family, our property, our business as the Lord’s.

Anxiety dishonours God. It harms our own souls. It feeds our impatience and unbelief. It hinders our usefulness and hardens our hearts.

We should pray to be without anxiety for the Almighty God cares for us.

"All your anxiety, all your care,
Take to the mercy seat*, leave it there.
Never a burden He cannot bear.
Never a friend like Jesus." (* Place of prayer)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 27 ธันวาคม

"ข้าพเจ้าอยากให้ท่านพ้นจากความพะวักพะวน" (1 โครินธ์ 7:32 TNCV)

ความกังวลเป็นภัย! มันทำให้เราไขว้เขว ขัดขวางพระคำของพระเจ้า นำเราไปสู่การไม่วางใจ และทำลายสันติสุขของเรา

เราผู้ซึ่งได้วางใจในพระเจ้าควรละความกระวนกระวายทั้งสิ้นของเราด้วยการอธิษฐานให้พระองค์ดูแล เราควรทำทุกสิ่งเช่นเดียวกับที่เราปฏิบัติต่อพระเจ้า และคำนึงถึงว่าครอบครัวของเรา ทรัพย์สินของเรา และธุรกิจของเราล้วนเป็นของพระเจ้า

ความกระวนกระวายทำให้พระเจ้าเสียเกียรติ มันทำร้ายจิตใจของเราเอง มันส่งเสริมให้เราขาดความอดทนและขาดความเชื่อ มันขัดขวางการเป็นคนใช้การได้ของเรา และทำให้ใจของเราแข็งกระด้าง

เราควรอธิษฐานเพื่อที่จะชีวิตของเราจะปลอดซึ่งความกระวนกระวาย เพราะพระเจ้าอยู่ทรงฤทธิ์ห่วงใยเรา

"ทุกความกระวนกระวายและความกังวลของคุณ
จงนำมาสู่พระที่นั่งแห่งพระคุณ* และละไว้ที่นั่น
ไม่มีภาระใดเลยที่พระองค์ไม่สามารถแบกรับ
ไม่มีใครเลยจะเป็นสหายที่ดีได้เท่าพระเยซู" (* ที่อธิษฐาน)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 26 (บทความสอนใจประจำวัน 26 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 26

"This is the glorious privilege of His faithful ones." (Psalm 149:9)

What privilege? Of being redeemed by the precious blood of Jesus. Of being born again, by the Word of God which lasts for ever. Of being acknowledged as the children of God.

"Dear friends, we are already God’s children---we know that we will be like Him, for we shall see Him as He really is." (1 John 3:2)

Jesus is not ashamed to call us brothers and sisters. (Hebrews 2:11) We are heirs of God. Since we are His children we are His heirs. In fact, together with Christ we are heirs of God’s glory. (Romans 8:17)

We have been delivered from sin to serve God in liberty and holiness –for as long as we live.

One day we shall sit in judgement with the Lord Jesus.

“Blessed assurance, Jesus is mine!
Oh, what a foretaste of glory divine!
Heir of salvation, purchase of God,
Born of His Spirit, wash’d in His blood.”
(Fanny Crosby, hymn "Blessed Assurance")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 26 ธันวาคม

"นี่คือศักดิ์ศรีของประชากรทั้งปวงของพระองค์" (สดุดี 149:9 TNCV)

ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริงๆ ที่พระโลหิตอันล้ำค่าของพระเยซูได้ไถ่เรา ที่พระคำของพระเจ้าซึ่งดำรงอยู่เป็นนิตย์ได้นำให้เราบังเกิดใหม่ ที่พระเจ้ารับเราเป็นบุตรของพระองค์

"เพื่อนที่รัก บัดนี้เราเป็นลูกของพระเจ้า ... เรารู้ว่าเมื่อพระองค์ทรงปรากฏ เราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น" (1 ยอห์น 3:2 TNCV)

พระเยซูไม่ละอายที่จะเรียกเราพี่น้อง (ฮีบรู 2:11) เราเป็นทายาทของพระเจ้า เมื่อเราเป็นบุตรของพระองค์แล้ว เราก็เป็นทายาท แท้ที่จริงแล้ว เมื่อเราร่วมในพระคริสต์ เราก็เป็นทายาทแห่งพระเกียรติสิริของพระองค์ด้วย (โรม 8:17)

เราได้รับการช่วยกู้จากบาป เพื่อที่เราจะได้รับใช้พระเจ้าในอิสรภาพและความบริสุทธิ์นานตราบที่เรามีชีวิตอยู่

วันหนึ่ง เราจะได้นั่งร่วมกับพระเยซูเจ้าในการพิพากษา

"พระคริสต์เป็นผู้ไถ่ มิได้สงสัย
เป็นสันติสุขซึ่งพระองค์ทรงเตรียมไว้
ทรงให้ข้าเป็นบุตร พระองค์ผู้ไถ่
ฟอกโดยพระโลหิต ประเสริฐยิ่งใหญ่"
(Fanny Crosby, เพลง "ทรงสัญญาให้พรแก่ข้าฯ" )

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 25 (บทความสอนใจประจำวัน 25 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 25

"I will display My glory." (Leviticus 10:3)

God created the world and preserves it that He may be glorified.

On that first Christmas an angel of the Lord stood before the shepherds and "the glory of the Lord shone around them, and they were greatly afraid. Then the angel said to them, 'Do not be afraid, for behold I bring you good tidings of great joy, which will be to all people. For there is born to you this day in the City of David a Saviour, who is Christ the Lord.-----Suddenly there was with the angel a multitude of the heavenly host praising God and saying ,’Glory to God in the highest, and on earth, peace, goodwill toward men.' " (Luke 2:9-14)

"O holy Child of Bethlehem, descend to us we pray;
Cast out our sin and enter in, be born in us today!
We hear the Christmas angels the great glad tidings tell-
O come to us, abide with us, our Lord Immanuel."
(Phillips Brooks, hymn "O Little Town of Bethlehem")

A very happy Christmas to you! May we glorify the Lord of glory this day- and always!

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 25 ธันวาคม

"คนทั้งปวงจะต้องให้เกียรติเรา" (เลวีนิติ 10:3 TNCV)

พระเจ้าสร้างโลกนี้และธำรงรักษาไว้เพื่อที่พระองค์จะได้รับเกียรติ

ในวันคริสตมาสแรก ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏกับคนเลี้ยงแกะ และ "พระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าส่องล้อมรอบพวกเขาทำให้คนเหล่านั้นตกใจกลัวยิ่งนัก แต่ทูตนั้นกล่าวแก่พวกเขาว่า 'อย่ากลัวเลย เรานำข่าวดีมา เป็นความเปรมปรีดิ์ใหญ่หลวงสำหรับคนทั้งปวง ในวันนี้ที่เมืองของดาวิดองค์พระผู้ช่วยให้รอดได้มาบังเกิดเพื่อท่าน พระองค์คือพระคริสต์ผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า' ทันใดนั้นมีชาวสวรรค์หมู่ใหญ่มาปรากฏพร้อมกับทูตสวรรค์องค์นั้นร่วมกันสรรเสริญพระเจ้าและกล่าวว่า 'ขอพระเกียรติสิริมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด และสันติสุขจงมีแก่มวลมนุษย์บนโลก ผู้ซึ่งพระองค์ทรงโปรดปราน' " (ลูกา 2:9-14 TNCV)

"พระองค์บังเกิดบ้านเบธเลเฮม วันนี้ขอน้อมวันทา
ขอพระองค์โปรดอวยพรยกโทษ สถิตในใจเหล่าข้าฯ
ขอโปรดชำระความผิดบาป ให้บริสุทธิ์ผ่องใส
ในวันบังเกิดเป็นพรล้ำเลิศ ปีติยินดีทั่วไป"
(Phillips Brooks, เพลง "มีบ้านหมู่น้อยชื่อเบธเลเฮม ")

ขอให้คุณมีความสุขในวันคริสตมาส! ขอให้เราถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระสิริในวันนี้ และตลอดไป!

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 24 (บทความสอนใจประจำวัน 24 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 24

"Stand firm against him, and be strong in your faith." (1 Peter 5:9)

Satan, our unwearied enemy, aims to destroy our faith and our usefulness. He gets access to our minds. We are called upon to resist him, steadfastly believing God’s word, faithfulness and love. We trust in the Lord Jesus – Satan’s chief enemy.

Is Satan the destroyer?- Jesus is the Saviour. Is Satan the enemy? – Jesus is the Friend. Is Satan the tempter? – Jesus is the Deliverer. Is Satan the chief liar? – Jesus is the Truth. Is Satan the accuser? Jesus is our Advocate. Is Satan the prince of darkness? – Jesus is the Light of Life. Is Satan a murderer?- Jesus is the Resurrection. Is Satan god of this world? Jesus is GOD OVER ALL.

Resist the devil in the faith and he will run from you. Be strong in the Lord.

"I need You. O, I need You!
Every hour I need You!
O, bless me now, my Saviour
I come to You!"
(Annie S. Hawks, hymn "I Need You Every Hour")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 24 ธันวาคม

"จงต่อต้านมาร ยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ" (1 เปโตร 5:9 TNCV)

ซาตานผู้ซึ่งเป็นศัตรูที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า มีเป้าหมายที่จะทำลายความเชื่อของเราและทำให้เรากลายเป็นผู้ที่พระเจ้าใช้การไม่ได้ มันเข้าถึงความคิดของเรา เราได้รับการเรียกให้ต่อต้านมัน ด้วยความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในพระคำ ความสัตย์ซื่อ และความรักของพระเจ้า เราวางใจในพระเยซูเจ้าผู้ซึ่งเป็นศัตรูสำคัญของมัน

ซาตานเป็นผู้ทำลายมิใช่หรือ? พระเยซูเป็นพระผู้ช่วย ซาตานเป็นศัตรูมิใช่หรือ? พระเยซูเป็นสหาย ซาตานเป็นผู้ล่อลวงมิใช่หรือ? พระเยซูเป็นผู้ที่กู้เราให้พ้นภยันตราย ซาตานเป็นจอมหลอกลวงตัวฉกาจมิใช่หรือ? พระเยซูเป็นความจริง ซาตานเป็นผู้กล่าวโทษมิใช่หรือ? พระเยซูเป็นผู้สนับสนุนเรา ซาตานเป็นเจ้าชายแห่งความมืดมิใช่หรือ? พระเยซูเป็นแสงสว่างแห่งชีวิต ซาตานเป็นผู้ฆ่ามิใช่หรือ? พระเยซูเป็นผู้ที่ทำให้คนเป็นขึ้นจากตาย ซาตานเป็นเจ้าของโลกนี้มิใช่หรือ? พระเยซูเป็นพระเจ้าเหนือสรรพสิ่ง

จงต่อต้านมารในความเชื่อ แล้วมันจะหนีไปจากคุณ จงยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ

"ข้าฯ ต้องการพระองค์ โอ้ ข้าฯ ต้องการพระองค์!
ข้าฯ ต้องการพระองค์ ในทุกโมงยาม!
โอ ขอทรงอวยพรข้าฯ พระผู้ช่วยของข้าฯ
ข้าฯ ขอเข้าเฝ้าพระองค์!"
(Annie S. Hawks, เพลง "I Need You Every Hour")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 23 (บทความสอนใจประจำวัน 23 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 23

"His soul shall live at ease." (Psalm 25:13)

Believers honour God and trust His Word. They love God, and want to please Him in all things. They are looking for the coming again of the Lord Jesus.

Does this describe you? It is said of such "His soul shall live in goodness." They are free from fear and anxieties, living in a state of contentment and peace.

Why so? God is their God- the precious promises are their security- a complete salvation shields them from harm- Christ is their Advocate, Captain and Shepherd. They have daily fellowship with God, and heaven is their final home. God will supply every need- silence every fear- and finally exalt them to peace and honour.

Don’t be worried about anything. Cast every care upon God, and live at ease!

"Once the world was all my treasure,
Then the world my heart possessed;
Now I taste heavenly pleasure,
Since the Lord has made me blest;
I can witness,
Jesus gives His people rest."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 23 ธันวาคม

"จิตวิญญาณเขาเองจะอาศัยอยู่อย่างสงบ" (สดุดี 25:13 TKJV)

ผู้เชื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าและวางใจในพระคำของพระองค์ พวกเขารักพระเจ้า และต้องการที่จะให้พระเจ้าพอใจในทุกสิ่ง พวกเขารอคอยการกลับมาอีกครั้งของพระเยซูเจ้า

คำอธิบายดังกล่าวเข้าได้กับตัวคุณหรือไม่? สำหรับบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าว "จิตวิญญาณเขาเองจะอาศัยอยู่อย่างสงบ" พวกเขาเป็นอิสระจากความกลัวและความวิตกกังวล ดำเนินชีวิตอยู่ในสภาพของความพึงพอใจในสิ่งที่มีและสันติสุข

เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? พระเจ้าเป็นพระเจ้าของเขา คำสัญญาอันล้ำค่าเป็นความปลอดภัยของเขาและเป็นโล่ห์กำบังให้เขารอดพ้นจากภยันตราย พระคริสต์เป็นผู้ช่วยเหลือ เป็นกัปตัน และเป็นพระผู้เลี้ยง เขามีความสนิทสนมกับพระเจ้าทุกวัน และสวรรค์เป็นบ้านสุดท้ายของเขา พระเจ้าจะจัดเตรียมสิ่งจำเป็นทุกอย่าง จะทำให้ความกลัวทุกอย่างนิ่งเงียบ และท้ายที่สุด จะยกชูพวกเขาสู่สันติสุขและเกียรติ

อย่ากังวลในสิ่งใดเลย จงละความกระวนกระวายไว้กับพระเจ้า และอาศัยอยู่อย่างสงบ!

"ครั้นเมื่อโลกเป็นทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าฯ
เมื่อนั้นโลกก็ครอบงำจิตใจของข้าฯ
บัดนี้ข้าฯ ได้ลิ้มรสความพึงพอใจแห่งสวรรค์
เมื่อพระเจ้าได้เปลี่ยนข้าฯ ให้เป็นสุข
ข้าฯ สามารถเล่าข่าวดีเกี่ยวกับพระองค์
พระเยซูประทานการพักสงบให้แก่ประชากรของพระองค์"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 22 (บทความสอนใจประจำวัน 22 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 22

"They shall not be ashamed who wait for Me." (Isaiah 49:23)
This precious promise guarantees that the person who waits on God in prayer will not be disappointed or put to shame. It assures us that the Lord will answer and bless in His own time and in His own way.
Are you tempted and tried?- wait for the Lord. Are you sick?- wait upon God. He will not let you be ashamed.
Abraham waited for a child, and received the promise when he was very old. Joseph waited in prison, and was promoted to great honour. David waited as a shepherd, and became the king.
"They that wait upon the Lord, shall renew their strength;
They shall mount up with wings as eagles.
They shall run and not be weary; they shall walk and not faint.
Teach me, Lord. Teach me ,Lord, to wait."
(Stuart Hamblen, hymn "Teach Me, Lord, To Wait")
Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

บทความสอนใจประจำวัน 22 ธันวาคม

"บรรดาผู้รอคอยเราจะไม่อับอาย" (อิสยาห์ 49:23 THSV2011)
พระสัญญาอันล้ำค่านี้รับประกันว่าบุคคลผู้รอคอยพระเจ้าจะไม่ผิดหวังหรืออับอาย พระสัญญานี้ให้ความมั่นใจแก่เราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะตอบและอวยพรในเวลาของพระองค์เอง และในหนทางของพระองค์เอง
คุณถูกทดลองและทดสอบหรือ? จงรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า คุณเจ็บป่วยหรือ? จงรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะไม่ปล่อยให้คุณอับอาย
อับราฮัมรอคอยบุตร และได้รับพระสัญญาเมื่ออายุมากแล้ว โยเซฟรอคอยในคุก และก็ได้รับการยกชูสู่เกียรติอันยิ่งใหญ่ ดาวิดรอคอยในฐานะคนเลี้ยงแกะ และได้กลายเป็นกษัตริย์
"เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระยาห์เวห์จะได้รับกำลังใหม่
เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี
เขาจะวิ่งและไม่อ่อนเปลี้ย
เขาจะเดินและไม่เหน็ดเหนื่อย"
(อิสยาห์ 40:31 THSV2011)
Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 21 (บทความสอนใจประจำวัน 21 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 21

"Oh, keep my soul and deliver me." (Psalm 25:20)

True prayer is to God the Father, in the precious name of Jesus.

As we read the Bible we find many examples of effective prayer. Let us pray as "those who are moved by the Holy Spirit." (2 Peter 1:21)

Today, let us pray: "Lord, keep my soul- from sin, and from Satan. Keep me in Your Way, by Your Word and by Your Spirit. Deliver me from guilt, fear and shame. Let me be clothed in Your righteousness, cleansed by the precious blood of Jesus and led by the Holy Spirit."

"In shadow of Your wings
Hide me in times of strife;
And as the apple of Your eye
Preserve and guard my life." (Psalm 17:8)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 21 ธันวาคม

"ขอทรงคุ้มครองและช่วยชีวิตข้าพระองค์" (สดุดี 25:20 TNCV)

การอธิษฐานที่แท้เป็นการอธิษฐานต่อพระเจ้าพระบิดา ในพระนามอันล้ำค่าของพระเยซู

ขณะที่เราอ่านพระคัมภีร์ เราพบตัวอย่างมากมายของคำอธิษฐานที่มีประสิทธิภาพ ขอที่เราจะอธิษฐานดั่งผู้ที่ "พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจ" (2 เปโตร 1:21)

วันนี้ ให้เราอธิษฐาน "ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรักษาจิตใจของข้าฯ จากบาปและจากซาตาน รักษาข้าฯ ในทางของพระองค์ โดยพระคำของพระองค์ และโดยพระวิญญาณของพระองค์ ขอทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์จากความรู้สึกผิด ความกลัว และความอับอาย ขอความชอบธรรมของพระองค์ปกคลุมข้าฯ ไว้ ขอพระโลหิตอันล้ำค่าของพระเยซูชำระข้าฯ และขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำข้าฯ"

"ขอทรงปกป้องข้าพระองค์ดั่งแก้วพระเนตรของพระองค์
ขอทรงซ่อนข้าพระองค์ไว้ใต้ร่มปีกของพระองค์" (สดุดี 17:8 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 20 (บทความสอนใจประจำวัน 20 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 20

"I will give you the blessings I promised to David." (Acts 13:34)

These blessings are exactly what the sinner needs- for all our physical and spiritual needs for time and eternity.

They are covenant blessings. God, who cannot lie, has promised them in response to the sufferings and death of the Lord Jesus; and the Holy Spirit enables us to receive them.

They are promised to us in the Bible, and freely given out of the fullness of Jesus.

These mercies are given unconditionally to all who come with simple faith.

The invitation is "Come and receive freely."

"The soul that in Jesus has found its repose,
He will not, He cannot desert to its foes;
That soul, though all hell shall endeavour to shake,
He’ll never, no never, no never forsake."
(Hymn "How Firm A Foundation")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 20 ธันวาคม

"เราจะให้พรอันบริสุทธิ์และแน่นอนแก่เจ้าตามที่ได้สัญญาไว้กับดาวิด" (กิจการ 13:34 TNCV)

พระพรเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนบาปจำเป็นต้องได้รับ สำหรับความจำเป็นฝ่ายร่างกายและฝ่ายวิญญาณของเรา สำหรับเวลาและตลอดนิรันดร์

พระพรเหล่านี้เป็นพระพรแห่งพระสัญญา พระเจ้าผู้ที่ไม่สามารถโกหกได้สัญญากับพวกเขาเพื่อเป็นการตอบสนองต่อการทนทุกข์และการสละชีวิตของพระเยซูเจ้า และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ช่วยให้เราสามารถรับพระพรเหล่านี้

พระเจ้าได้สัญญาว่าจะให้พระพรเหล่านี้แก่เราในพระคัมภีร์ และให้จากความบริบูรณ์ของพระคริสต์โดยไม่คิดมูลค่า

พระเจ้าได้ให้พระเมตตาเหล่านี้โดยไม่มีเงื่อนไข แก่ทุกคนที่มาหาพระองค์ด้วยความเชื่อที่เรียบง่าย

คำเชิญคือ "เชิญมา และรับอย่างฟรีๆ"

"จิตใจที่อยู่ในพระเยซูก็พบที่พักสงบ
พระองค์จะไม่ และไม่สามารถทอดทิ้งจิตใจดวงนั้นให้เผขิญกับศัตรู
แม้นรกทั้งสิ้นจะพยายามที่จะบั่นทอนจิตใจ
พระองค์จะไม่มีวัน ไม่มีวัน ไม่มีวันที่จะละทิ้ง!"
(เพลง "How Firm A Foundation")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 18 (บทความสอนใจประจำวัน 18 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 18

"They are the enemies of the cross of Christ" (Phillipians 3:18)

The Christian glories in the cross of Christ. The cross is central to our salvation; this is the foundation of our faith and the place where the Lord displays all the perfection of His character. It is the key to heaven.

Let us so live that we never bring dishonour on the Lord who died on the cross that we might live for evermore.

"As for me, may I never boast about anything except the cross of our Lord Jesus. Because of that cross, my interest in this world has been crucified, and the world’s interest in me has also died." (Galatians 6:14)

"Be still my soul; the Lord is on your side;
Bear patiently the cross of grief or pain;
Leave to your God to order and provide;
In every change He faithful will remain.
Be still, my soul; your best, your heavenly Friend
Through thorny ways leads to a joyful end."
(K.V.Schlegel, hymn "Be Still, My Soul")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 18 ธันวาคม

"มีหลายคนที่ใช้ชีวิตอย่างเป็นศัตรูต่อไม้กางเขนของพระคริสต์" (ฟิลิปปี 3:18 TNCV)

คริสเตียนมีความยินดีในกางเขนของพระคริสต์ กางเขนเป็นศูนย์กลางของความหลุดพ้น (=ความรอด) ของเรา เป็นรากฐานของความเชื่อของเรา และเป็นสถานที่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าสำแดงความสมบูรณ์แบบทั้งสิ้นของพระลักษณะของพระองค์ กางเขนเป็นกุญแจสู่สวรรค์

ขอให้เราดำเนินชีวิตที่จะไม่นำความเสี่ยมเสียมาสู่พระเกียรติขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ตายบนกางเขนเพื่อที่เราจะมีชีวิตนิรันดร์

"ขออย่าให้ข้าพเจ้าอวดอะไรเว้นแต่ไม้กางเขนขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา โดยไม้กางเขนนั้น โลกถูกตรึงไว้จากข้าพเจ้าแล้วและข้าพเจ้าถูกตรึงไว้จากโลกแล้ว" (กาลาเทีย 6:14 TNCV)

"จงนิ่งเสีย จิตใจของข้าฯ พระเจ้าอยู่เคียงข้างคุณ
จงรับกางเขนแห่งความทุกข์หรือความเจ็บปวด และแบกไว้ด้วยความอดทน
จงวางใจให้พระเจ้าบัญชาและจัดเตรียม
พระองค์ยังคงสัตย์ซื่อในทุการเปลี่ยนแปลง
จงนิ่งเสีย จิตใจของข้าฯ พระองค์เป็นสหายรัก สหายแห่งสวรรค์
หนทางขวากหนามนี้ จะนำไปสู่จุดหมายแห่งความชื่นชมยินดี"
(K.V.Schlegel, เพลง "Be Still, My Soul")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 17 (บทความสอนใจประจำวัน 17 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 17

"Let the message about Christ, in all its richness, fill your lives." (Colossians 3:16)

Believer, the Bible is the Word of your best Friend, loving Saviour, and final Judge. Let it rule and feed your soul.

As a result, you will know how to pray; you will make wise judgements; your desires will be pleasing to God; your conscience will be pure; you will be able to resist and overcome Satan; and you will be able to encourage others.

Day by day, take your direction from God’s Word. "Let the Word of Christ dwell in you richly in all wisdom." (Colossians 3:16)

"Your Word’s a lamp that shines before my feet;
It is a light that guides me on my way.
The oath that I have taken I’ve confirmed
That all Your righteous laws I will obey." (Psalm 119:105-106)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 17 ธันวาคม

"จงให้พระวจนะของพระคริสต์เปี่ยมล้นอยู่ในท่าน" (โคโลสี 3:16 TNCV)

ผู้เชื่อที่รัก พระคัมภีร์เป็นคำของเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ พระผู้ช่วยที่รักคุณ และผู้พิพากษาสูงสุด ให้พระคำพระเจ้าควบคุมชีวิตคุณ และเลี้ยงดูจิตวิญญาณของคุณ

ผลที่ตามมาก็คือ คุณจะรู้ว่าอธิษฐานอย่างไร คุณจะตัดสินใจอย่างชาญฉลาด คุณจะปรารถนาที่จะทำให้พระเจ้าพอพระทัย จิตสำนึกผิดชอบของคุณจะบริสุทธิ์ คุณจะสามารถต่อต้านและมีชัยชนะเหนือซาตาน และคุณจะสามารถให้กำลังใจผู้อื่น

วันต่อวัน จงรับเอาการชี้ทางจากพระคำของพระเจ้า "ให้พระวจนะของพระคริสต์เปี่ยมล้นอยู่ในท่านด้วยปัญญาทั้งสิ้น" (โคโลสี 3:16 TNCV)

"พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับย่างก้าวของข้าพระองค์
เป็นแสงสว่างส่องทางของข้าพระองค์
ข้าพระองค์ได้ปฏิญาณและยืนยันไว้
ว่าข้าพระองค์จะปฏิบัติตามบทบัญญัติอันชอบธรรมของพระองค์" (สดุดี 119:105-106 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 16 (บทความสอนใจประจำวัน 16 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 16

"The righteous will hold to his way." (Job 17:9)

The way to heaven is difficult, and we may be weak. If we are justified by God’s grace, and sanctified by the Spirit of truth, and keep steadily on the Way, there is no doubt but that we’ll arrive in heaven; for "the righteous will hold to his way, and he who has clean hands will be stronger and stronger." (Job 17:9)

The true believer holds on, for he is secure in God’s promise; he is supplied from the fullness of our Lord Jesus and taught by the Holy Spirit.

Let us live near to Jesus and walk with Him. God will give "grace and glory." (Psalm 84:11)

"The righteous will hold to his way." (Job 17:9) They go from strength to strength, everyone of them appears before God in Zion.

"Saviour, since of Zion’s city
I through grace a member am,
Let the world deride or pity,
I will glory in Your name;
Fading are the world’s best pleasures,
All its boasted pomp and show;
Solid joys and lasting treasures
None but Zion’s children know."
(John Newton, hymn "Glorious things of thee are spoken")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 16 ธันวาคม

"แต่คนชอบธรรมจะยึดมั่นอยู่ในวิถีของตน" (โยบ 17:9 TNCV)

หนทางสู่สวรรค์นั้นยาก และเราอาจอ่อนแอเกิน หากพระคุณของพระเจ้าได้ตัดสินว่าเราชอบธรรมแล้ว และหากพระวิญญาณแห่งความจริงได้ชำระเราให้บริสุทธิ์แล้ว และเราได้รักษาชีวิตของเราให้ดำเนินอยู่ใน "ทางนั้น" ก็ไม่มีข้อสงสัย เพราะเราจะไปถึงสวรรค์แน่นอน เพระว่า "คนชอบธรรมจะยึดมั่นอยู่ในวิถีของตน ผู้ที่มือสะอาดจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ" (โยบ 17:9 TNCV)

ผู้เชื่อแท้จะยึดมั่น เขาจะรู้สึกปลอดภัยในพระสัญญาของพระเจ้า ความบริบูรณ์ของพระเยซูเจ้าของเราจะจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้เขา และพระวิญญาณจะสอนเขา

ให้เราดำเนินชีวิตอยู่ใกล้พระเยซู และเดินกับพระองค์ พระเจ้าจะประทาน "พระคุณและเกียรติ" (สดุดี 84:11)

"แต่คนชอบธรรมจะยึดมั่นอยู่ในวิถีของตน" (โยบ 17:9 TNCV) เขาจะมีชีวิตที่เข้มแข็งมากขึ้น พวกเขาทุกคนจะปรากฎต่อพระพักตร์พระเจ้าในศิโยน

"พระผู้ช่วย ครั้นเวลาแห่งเมืองศิโยน (สวรรค์)
ซึ่งข้าเป็นสมาชิก ผ่านทางพระคุณ
ยอมให้โลกหัวเราะเยาะและสงสาร
ข้าพระองค์จะถวายเกียรติพระนามพระองค์
ความพึงพอใจสูงสุดของโลกนี้ก็จืดจาง
รวมถึงทุกสิ่งที่โลกนี้โอ้อวดและแสดงออก
แต่ไม่มีใครเลย ยกเว้นบุตรของศิโยนเท่านั้น
ที่รู้จักกับความชื่นชมยินดีที่มั่นคงและทรัพย์สมบัติอันถาวร"
(John Newton, เพลง "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 14 (บทความสอนใจประจำวัน 14 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 14

"Jesus, the author and finisher of our faith." (Hebrews 12:2)

All true Christians have faith, but some have only a little faith.

He who gave us what we have can increase it; and He will if we pray for it earnestly.

We need more faith, to enable us to escape the many dangers that are in our path; to do and suffer the Lord’s will with patience; to hold fast to the faithful Word; to grow in grace and holiness; to forgive those who harm us; and to honour God by believing His promises and serving Him.

We are encouraged to ask for more faith by God’s promises; by the examples of great faith set forth in the Bible; and by the character of God who is "more ready to give than we are to receive."

Praise God, He is also the "finisher of our faith."

"I do not know how many days
Of life are mine to spend;
But One who knows and cares for me
Will keep me to the end."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 14 ธันวาคม

"พระเยซูผู้ทรงลิขิตความเชื่อและทรงทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์" (ฮีบรู 12:2 TNCV)

คริสเตียนที่แท้ทุกคนมีความเชื่อ แต่บางคนอาจมีความเชื่อน้อย

พระองค์ผู้ที่ได้ให้สิ่งต่างๆ ที่เรามีแก่เราสามารถเพิ่มเติมสิ่งเหล่านั้นได้ และพระองค์จะเพิ่มเติมให้หากเราอธิษฐานขออย่างจริงจัง

เราจำเป็นต้องมีความเชื่อที่มากขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้เราหนีพ้นจากภยันตรายมากมายที่อยู่ในหนทางของเรา เพื่อที่จะทำตามพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าและฟันผ่าด้วยความอดทน เพื่อที่จะยึดมั่นในพระคำอันสัตย์ซื่อ เพื่อที่จะเติบโตในพระคุณและความบริสุทธิ์ เพื่อที่จะให้อภัยผู้ที่ทำร้ายเรา และเพื่อที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการเชื่อในพระสัญญาของพระองค์และรับใช้พระองค์

พระสัญญาของพระเจ้า แบบอย่างของความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ในพระคัมภีร์ และพระลักษณะของพระเจ้าผู้ซึ่ง "พร้อมที่จะให้มากกว่าที่เราพร้อมที่จะรับ" ล้วนสนับสนุนให้เราขอความเชื่อที่มากขึ้น

สรรเสริญพระเจ้า พระองค์เป็น "ผู้ที่ทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์" ด้วยเช่นกัน

"ข้าฯ ไม่รู้ว่าวันเวลาในชีวิตข้าฯ เหลืออยู่นานสักเท่าไร
แต่พระองค์ผู้ทรงทราบและทรงห่วงใยข้าฯ จะรักษาข้าฯ ไว้จนสุดปลาย"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 13 (บทความสอนใจประจำวัน 13 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 13

"God said, 'What do you want? Ask, and I shall give it to you!' " (1 Kings 3:5)

God has boundless resources, and is constantly calling upon us ask and receive.

What do you want today? Is it more holiness? We want our understanding enlightened, our will brought into conformity to the will of God, and our affections fixed on heavenly things.

Let us ask as Solomon did for wisdom to guide our hearts and direct our ways. It will lead us to do God’s will and enable us to escape the traps of the devil.

Jesus asks us "What shall I give you?" In Him are all the treasures of wisdom and knowledge, and everyone that asks receives.

"O Jesus, give me Yourself."

"More about Jesus let me learn,
More of His holy will discern;
Spirit of God, my teacher be,
Showing the things of Christ to me." (Eliza E. Hewitt, hymn "More About Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 13 ธันวาคม

"พระเจ้าตรัสว่า 'จงขอสิ่งที่เจ้าต้องการเถิด แล้วเราจะให้เจ้า' " (1 พงศ์กษัตริย์ 3:5 TNCV)

พระเจ้ามีแหล่งทรัพยากรที่ไม่จำกัด และเรียกเราอย่างต่อเนื่องให้ขอ แล้วเราจะได้รับ

คุณต้องการอะไรในวันนี้? อยากที่จะบริสุทธิ์มากขึ้นหรือ? เราต้องการความเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง ต้องการให้ความปรารถนาของเราสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเจ้า และต้องการให้ความรักของเราอยู่ที่สิ่งที่เป็นของสวรรค์

เช่นเดียวกับซาโลมอน ให้เราขอสติปัญญา เพื่อจะนำทางให้กับจิตใจของเรา และชี้ทางในการดำเนินชีวิตให้แก่เรา สติปัญญาจะนำให้เราทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า และช่วยให้เราสามารถหนีพ้นจากกับดักของมาร

พระเยซูถามเรา "เจ้าต้องการให้เราทำสิ่งใดให้กับเจ้า?" ทรัพย์สมบัติแห่งปัญญาและความรู้ทั้งสิ้นอยู่ในพระองค์ และทุกคนที่ขอก็จะได้รับ

"โอ พระเยซู ขอประทานพระองค์เองแก่ข้าฯ"

"ขอที่ข้าฯ เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับพระเยซู
ขอที่ข้าฯ จะแยกแยะพระประสงค์อันบริสุทธิ์ของพระองค์ได้ดีขึ้น
พระวิญญาณแห่งพระเจ้า ผู้เป็นครูของข้าฯ
ขอสำแดงสิ่งที่เป็นของพระคริสต์แก่ข้าฯ"
(Eliza E. Hewitt, เพลง "More About Jesus")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 12 (บทความสอนใจประจำวัน 12 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 12

"He is the Saviour of His body, the church." (Ephesians 5:23)

The church is the body of Christ Jesus and His people are one. They are His chosen ones. They are His delight and glory; in whom He rejoices.

He saves them by substitution- He took their place and died for their sins.

He saves them by giving the Holy Spirit and grace with every spiritual blessing.

He saves them by instruction; for they are all taught by God.

He saves them by separation, bringing them out of, and delivering them from this present evil world.

He saves them by taking them out of the kingdom of Satan and into His kingdom of grace; and finally out of this present world and into heaven.

All who are saved display His glory and love and are part of His body, the church. Salvation is all of God! Hallelujah!

"When He come, our glorious King,
All His ransomed home to bring,
Then anew this song we’ll sing,
Hallelujah! What a Saviour!"
(P. Bliss, hymn "Hallelujah, What a Savior")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 12 ธันวาคม

"พระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักรซึ่งเป็นพระกายของพระองค์ ทั้งพระองค์ยังทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคริสตจักรด้วย" (เอเฟซัส 5:23 TNCV)

คริสตจักรเป็นร่างกายของพระเยซูคริสต์ และประชากรของพระองค์ก็เป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขาเป็นผู้ที่พระองค์เลือกไว้ พวกเขาเป็นความโปรดปรานและเป็นเกียรติของพระองค์ พระองค์ชื่นชมยินดีในพวกเขา

พระองค์ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้น (=รอด) ด้วยการแทนที่ พระองค์รับเอาตำแหน่งของพวกเขา และตายเพื่อบาปของพวกเขา

พระองค์ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นด้วยการให้พระวิญญาณบริสุทธิ์และพระคุณ พร้อมด้วยพระพรฝ่ายวิญญาณทุกอย่าง

พระองค์ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นด้วยการชี้ทาง เพราะพระองค์สอนพวกเขาหมดทุกคน

พระองค์ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นด้วยการแยกพวกเขาออกมาจาก นำพวกเขาออกจาก และช่วยกู้พวกเขาจากโลกนี้ที่เต็มด้วยความชั่วร้าย

พระองค์ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นด้วยการนำพวกเขาออกจากอาณาจักรของซาตาน และนำพวกเขาไปสู่อาณาจักรแห่งพระคุณ และสุดท้ายก็คือ นำพวกเขาออกจากโลกปัจจุบันนี้ ไปสู่สวรรค์

ผู้ที่ได้รับการช่วยให้หลุดพ้นทั้งหมดสำแดงพระเกียรติสิริและความรักแท้ของพระองค์ และเป็นส่วนของร่างกายของพระองค์ นั่นคือคริสตจักร ความหลุดพ้นทั้งสิ้นเป็นของพระเจ้า! สรรเสริญพระเจ้า!

"เมื่อองค์กษัตริย์ผู้ทรงพระสง่าราศีเสด็จมา
เพื่อนำผู้ที่พระองค์ไถ่ไว้กลับบ้าน
เมื่อนั้นเราจะร้องบทเพลงบทใหม่
สรรเสริญพระเจ้า! องค์พระผู้ไถ่!"
(P. Bliss, เพลง "Hallelujah, What a Savior")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 11 (บทความสอนใจประจำวัน 11 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 11

"Why are you bringing a charge against Him?" (Job 33:13)

A believer bringing a charge against God? Yes, it may happen, but it shouldn’t!

Remember God is infinitely wise. His love is unchangeable. His ways are right. His methods may be mysterious and perplexing to us. He will not be called to account by the proud. His purposes are always good and gracious. He is our Loving Heavenly Father and it is our privilege to believe and trust in every situation. One day He will make all clear to us, and then we shall know and be perfectly satisfied.

He says, "Be still, and know that I am God." (Psalm 46:10)

"When through the deep waters He calls you to go,
You will not be drowned in the rivers of woe;
For He will be with you in trouble, to bless
And work for your good in your deepest distress.
The soul that in Jesus has found its repose,
He will not, He cannot, desert to its foes:
That soul, though all hell shall endeavour to shake,
He’ll never, no never, no never forsake!"
(John Keith, hymn "How Firm A Foundation")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 11 ธันวาคม

"ทำไมท่านบ่นต่อว่าพระองค์" (โยบ 33:13 TNCV)

ผู้เชื่อบ่นว่าพระเจ้าหรือ? ใช่แล้ว มันอาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น!

จงระลึกว่าพระปัญญาของพระเจ้าไม่มีขีดจำกัด ความรักของพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง หนทางของพระองค์ถูกต้อง วิธีการของพระองค์อาจจะล้ำลึกและน่าฉงนสำหรับเรา คนที่หยิ่งผยองจะไม่สามารถท้าทายพระองค์ แผนการของพระองค์ดีและเปี่ยมด้วยพระคุณเสมอ พระองค์เป็นพระบิดาแห่งสวรรค์ผู้ที่เต็มไปด้วยความรักแท้ และเป็นสิทธิพิเศษของเราที่เชื่อและวางใจพระองค์ในทุกสถานการณ์ วันหนึ่งพระองค์จะทำให้ทุกอย่างกระจ่างแจ้งแก่เรา และเมื่อนั้น เราจะรู้ และจะพึงพอใจอย่างสมบูรณ์แบบ

พระองค์ตรัส "จงนิ่งสงบและรู้ว่าเราเป็นพระเจ้า" (สดุดี 46:10 TNCV)

"เมื่อพระองค์เรียกให้คุณเดินผ่านน้ำลึก
คุณจะไม่จมในแม่น้ำแห่งศัตรู
เพราะพระองค์จะอยู่กับคุณในปัญหา
เพื่ออวยพรและทำให้ผลดีเกิดขึ้นท่ามกลางความยุ่งยาก
จิตใจที่อยู่ในพระเยซู ก็พบที่พักสงบ
พระองค์จะไม่ และไม่สามารถทอดทิ้งจิตใจดวงนั้นให้เผขิญกับศัตรู
แม้นรกทั้งสิ้นจะพยายามที่จะบั่นทอนจิตใจ
พระองค์จะไม่มีวัน ไม่มีวัน ไม่มีวันที่จะละทิ้ง!"
(
John Keith, เพลง "How Firm A Foundation")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 10 (บทความสอนใจประจำวัน 10 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 10

"I am praying not only for these disciples, but also for all those who will ever believe in Me--." (John 17:20)

Jesus prayed that we would be one with Himself; one with His church; as members of the same body; children of the same family and heirs of the same inheritance. He prayed that we may be one even as He is one with the Father; that we may have the same love influencing us; the same aim to glorify God.

What glorious privileges our Saviour here prays that we may enjoy. Think of being of one mind with our gracious Lord!

Hasten on the time when this prayer will be fully answered. Let us daily pray for this blessing- nothing can be greater, sweeter or more important.

"For me He prayed in the garden
And bowed to the will divine;
He had no tears for His own griefs,
But sweat drops of blood for mine
How marvellous! How wonderful!
This my song shall ever be:
How marvellous! How wonderful
Is my Saviour’s love for me."
(Charles H. Gabriel, hymn "I stand amazed in the presence")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 10 ธันวาคม

"ข้าพระองค์ไม่ได้อธิษฐานเพื่อพวกเขาเท่านั้น แต่ข้าพระองค์อธิษฐานเพื่อบรรดาผู้ที่จะเชื่อในข้าพระองค์ผ่านทางถ้อยคำของพวกเขาด้วย" (ยอห์น 17:20 TNCV)

พระเยซูอธิษฐานเพื่อที่เราจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์เอง เป็นหนึ่งเดียวกันกับคริสตจักรของพระองค์ เป็นส่วนของกายเดียวกัน บุตรในครอบครัวเดียวกัน และทายาทผู้รับมรดกร่วมกัน พระองค์อธิษฐานให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังเช่นที่พระองค์เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระบิดา อธิษฐานให้เรามีความรักที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตเราเหมือนกัน และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้า

สิ่งที่พระผู้ช่วยของเราอธิษฐานเพื่อเราช่างเป็นสิทธิพิเศษที่เต็มไปด้วยเกียรติที่เราจะได้เพลิดเพลิน ลองคิดถึงการมีความคิดเดียวกันกับองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสง่าราศีดูสิ!

จงเร่งเร้าให้เวลาที่สิ่งที่อยู่ในคำอธิษฐานนี้จะได้รับการตอบอย่างสมบูรณ์ ขอที่เราจะอธิษฐานในแต่ละวันสำหรับพระพรนี้ ด้วยว่าไม่มีสิ่งใดอีกแล้วที่จะยิ่งใหญ่กว่า หวานชื่นกว่า และสำคัญกว่า ...

"พระองค์อธิษฐานในสวนเพื่อข้าฯ
และยอมให้กับพระประสงค์ของพระบิดา
ปราศจากซึ่งน้ำตาแห่งความทุกข์โศกของพระองค์เอง
หากแต่เป็นหยาดหยดอันหวานชื่นของพระโลหิตเพื่อข้าฯ
บทเพลงนี้ ช่างมหัศจรรย์และดีเยี่ยมเสียจริง!
ความรักของพระผู้ช่วยของข้าฯ ช่างมหัศจรรย์และดีเยี่ยมเสียจริง!
(Charles H. Gabriel, เพลง "I stand amazed in the presence")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 09 (บทความสอนใจประจำวัน 09 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 09

"Walk in love." (Ephesians 5:2)

God is love. His love is given to believers to transform them. We are to let our love shine forth and "walk in love." (Ephesians 5:2) The "golden rule" is "do to others as you wish them to do to you." (Luke 6:31)

May it be that we allow no envy, malice or ill will to take root in our hearts.

Love should influence all our actions. The Holy Spirit is the Spirit of love, and love is the proof that we are true believers.

Let us walk in love and so be seen to be happy and genuine Christians.

"Love is of God, and the one who loves is born of God, and knows God." (1 John 4:7)

"May the love of Jesus fill me
As the waters fill the sea.
Him exalting, self abasing-
This is victory!"

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 09 ธันวาคม

"จงดำเนินชีวิตในความรัก" (เอเฟซัส 5:2 TNCV)

พระเจ้าเป็นความรักแท้ (=ความเมตตากรุณา) ผู้เชื่อได้รับความรักของพระองค์เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา เราจะต้องให้ความรักของเราส่องสว่างออกไป และ "ดำเนินชีวิตในความรัก" (เอเฟซัส 5:2 TNCV) "หลักสำคัญ" คือ "จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน" (ลูกา 6:31 TNCV)

ขอที่เราจะไม่อนุญาตให้ความอิจฉาริษยา ความมุ่งร้าย และความชั่วร้ายมาฝังรากในจิตใจของเรา

ความรักจะส่งผลต่อทุกการกระทำของเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นวิญญาณแห่งความรัก และความรักเป็นข้อพิสูจน์ว่าเราเป็นผู้เชื่อที่แท้จริง

ขอให้เราดำเนินชีวิตในความรัก และดังนี้ก็จะได้รับการพบเห็นว่าเป็นคริสเตียนที่ความสุขและเป็นคริสเตียนแท้

"ความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็เกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า" (1 ยอห์น 4:7)

"ขอความรักของพระเยซูเติมข้าฯ
ดังน้ำที่เติมทะเล
การที่ข้าฯ ย่องพระองค์ และถ่อมตนเองลง
นี่แหละคือชัยชนะ!"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, December 08 (บทความสอนใจประจำวัน 08 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 08

"I rejoice in Your salvation." (1 Samuel 2:1)

God’s salvation is deliverance from the most awful situation – hell - to the glories of heaven, and all by His free grace. He saves the poor and needy, the guilty and distressed, who call upon Him and believe in Him. We, who have experienced His mercy, should along with Hannah, rejoice in our salvation.

Some rejoice in property, power, and earthly prospects; let us rejoice in our salvation- in sickness and health, in poverty and plenty, in life and in death.

"Even though the fig trees have no blossoms, and there are no grapes on the vines; even though the olive crop fails, and the fields lie empty and barren; even though the flocks die in the fields, and the cattle barns are empty; yet I will rejoice in the Lord! I will be joyful in the God of my salvation!" (Habakkuk 3:17-18)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 08 ธันวาคม

"ข้าพเจ้ายินดีในความรอดของพระองค์" (1 ซามูเอล 2:1 THSV2011)

ความหลุดพ้น (=ความรอด) ที่มาจากพระเจ้า คือการช่วยกู้จากสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือนรก ไปสู่เกียรติสิริแห่งสวรรค์ และทั้งสิ้นนี้ก็เกิดขึ้นโดยพระคุณที่ไม่คิดมูลค่าของพระองค์ พระองค์ช่วยทั้งคนจนและขัดสน คนที่มีความผิดและคนที่ทุกข์ใจ ผู้ซึ่งร้องเรียกหาพระองค์และเชื่อในพระองค์ เราทั้งหลายผู้ซึ่งได้มีประสบการณ์กับพระเมตตาของพระองค์ควรที่จะชื่นชมยินดีร่วมกับนางฮันนาห์ในความหลุดพ้นที่เราได้รับ

บางคนอาจจะชื่นชมยินดีในทรัพย์สิน อำนาจ และสิ่งที่มองเห็นในโลกนี้ แต่ขอให้เราชื่นชมยินดีในความหลุดพ้นของเรา แม้ในยามเจ็บป่วยและในยามแข็งแรง ในยามยากจนและในยามมั่งมี ในชีวิตและในความตาย

"แม้ต้นมะเดื่อไม่ผลิดอก
และเถาองุ่นไม่มีผล
แม้ต้นมะกอกไม่ให้ผล
และท้องทุ่งไม่ให้พืชพันธุ์ธัญญาหาร
แม้ไม่มีแกะในคอก
และไม่มีวัวในโรง
กระนั้นข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า
ข้าพเจ้าจะเบิกบานใจในพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า" (ฮาบากุก 3:17-18 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, December 07 (บทความสอนใจประจำวัน 07 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 07

"Do not throw away your confident trust in the Lord." (Hebrews 10:35)

All true believers are confident that Jesus Christ is the promised Messiah sent by God; that He is the only Saviour and Eternal God; that heaven is being prepared for all who believe. Our trust is in God’s Word and we find courage and boldness to share the truth.

As we read the Bible the Holy Spirit teaches us to commit all to God, to part with all that hinders our progress and to rest fully on the truth of the Lord Jesus.

Our faith will be tested and tried- but we must stand firm for, if we hold fast to the end, we are made partakers of Christ’s glory. There is great reward in this life, and in the world to come Everlasting Life.

"O Jesus, I have promised
To serve Thee to the end;
Be Thou for ever near me,
My Master and my Friend:
I shall not fear the battle
If Thou art by my side,
Nor wander from the pathway
If thou wilt be my Guide."
(John E. Bode, hymn "O Jesus, I Have Promised")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 07 ธันวาคม

"ฉะนั้นอย่าทิ้งความมั่นใจของท่าน" (ฮีบรู 10:35 TNCV)

ผู้เชื่อที่แท้จริงทั้งหมดมั่นใจว่าพระเยซูคริสต์คือพระเมสสิยาห์ (พระคริสต์ หรือผู้ที่พระเจ้าได้เจิมไว้) ที่พระเจ้าได้ส่งมา มั่นใจว่าพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดองค์เดียว และเป็นพระเจ้านิรันดร์ มั่นใจว่าสวรรค์ได้รับการเตรียมสำหรับทุกคนที่เชื่อ ความเชื่อของเราอยู่ในพระคำของพระเจ้า และเราพบความกล้าหาญที่จะแบ่งปันความจริง

ขณะที่เราอ่านพระคัมภีร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็สอนให้เราอุทิศทุกสิ่งให้กับพระเจ้า ตัดขาดจากทุกสิ่งที่ขัดขวางความก้าวหน้า (ฝ่ายวิญญาณ) ของเรา และพักสงบอย่างเต็มที่ในความจริงแห่งองค์พระเยซูเจ้า

ความเชื่อของเราจะได้รับการทดสอบและพิสูจน์ แต่เราจะต้องยืนหยัด เพราะหากเรายึดมั่นจนถึงสุดปลาย เราจะได้เข้าส่วนในพระเกียรติสิริของพระคริสต์ จะมีรางวัลที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตนี้ และชีวิตนิรันดร์สำหรับโลกหน้า

"โอพระเยซู ข้าได้สัญญา
ที่จะรับใช้พระองค์จนที่สุดปลาย
ขอทรงอยู่ใกล้ข้าฯ เสมอไป
เจ้านายและสหายของข้าฯ
ข้าฯ จะไม่กลัวการต่อสู้
หากพระองค์อยู่ฝ่ายเดียวกับข้าฯ
ข้าฯ จะไม่ออกไปจากมรรคา
หากพระองค์จะเป็นผู้ชี้ทางของข้าฯ"
(John E. Bode, เพลง "O Jesus, I Have Promised")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, December 06 (บทความสอนใจประจำวัน 06 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 06

"God--delivered righteous Lot." (2 Peter 2:7)

Lot was a true believer in God; but a weak one. He chose to live in wealthy –but sinful-Sodom. He aimed at making a fortune! He was upset by the sinfulness of his neighbours.

As a result of his wrong choices his family missed out on God’s blessing. All, but two daughters, perished in Sodom. His wife died as they fled from Sodom.

Lot escaped without anything of importance and had to live in a cave. God, in His love, disciplined him.

"O Lord, reveal to me Your ways,
And all Your paths help me to know.
Direct and guide me in Your truth;
Instruct me in the way to go." (Sing Psalms 25:4-5)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 06 ธันวาคม

"พระองค์ได้ทรงช่วยโลทผู้ชอบธรรม" (2 เปโตร 2:7 TNCV)

โลทเป็นผู้เชื่อที่แท้ในพระเจ้า แต่เป็นผู้เชื่อที่อ่อนแอ เขาเลือกที่จะอาศัยอยู่ในเมืองโสดมที่มั่งคั่งแต่เต็มด้วยบาป เขาตั้งเป้าที่จะมีอนาคตที่ดี! การเต็มไปด้วยบาปของเพื่อนบ้านของเขาก็ทำให้เขาผิดหวัง

ผลของทางเลือกที่ผิดพลาดก็คือ ครอบครัวของเขาต้องพลาดไปจากพระพรของพระเจ้า คนในครอบครัว ยกเว้นลูกสาว 2 คนของเขาก็พินาศในเมืองโสดม ภรรยาของเขาก็เสียชีวิตขณะที่หนีออกจากเมืองโสดม

โลทหลบหนีโดยปราศจากซึ่งความสำคัญ และต้องอาศัยในถ้ำ พระเจ้าได้ตีสอนเขาในรักของพระองค์

"ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงสำแดงหนทางของพระองค์แก่ข้าพระองค์
ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าพระองค์
ขอทรงนำข้าพระองค์ไปในความจริงของพระองค์และสอนข้าพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์
และความหวังของข้าพระองค์อยู่ในพระองค์วันยังค่ำ" (สดุดี 25:4-5 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, December 05 (บทความสอนใจประจำวัน 05 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 05

"Create in me a clean heart, O Lord." (Psalm 51:10)

This is the prayer of every Christian. Let us pray this morning, "Cleanse me by Your word, by the blood of Jesus, and the power of the Holy Spirit."

Purity of heart can only be produced by God. A true Christian hates sin. We are called to live holy lives. We are the temple of the Holy Spirit.

God says, "Be holy, for I am holy;" (1 Peter 1:16) and we pray, "Create in me a clean heart, O Lord." (Psalm 51:10)

Let us be holy in all our conversation, looking for the coming of the Lord Jesus.

"Cleanse me from my sin, Lord
Put Your power within, Lord.
Take me as I am ,Lord;
And make me all Your own.
Keep me day by day, Lord
Underneath Your sway ,Lord.
Make my heart Your palace
And Your royal throne."
(R Hudson Pope; hymn "Cleanse me from my sin, Lord")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 05 ธันวาคม

"ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสร้างจิตใจที่บริสุทธิ์ในข้าพระองค์" (สดุดี 51:10 TNCV)

นี่คือคำอธิษฐานของคริสเตียนทุกคน ขอที่เราอธิษฐานเช้าวันนี้ "ขอชำระข้าพระองค์ด้วยพระคำของพระองค์ ด้วยพระโลหิตของพระเยซู และด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์"

พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถสร้างใจที่บริสุทธิ์ได้ คริสเตียนแท้เกลียดชังบาป เราได้รับการเรียกให้ดำรงชีวิตที่บริสุทธิ์ เราเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์

พระเจ้าตรัส "จงบริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์" (1 เปโตร 1:16 TNCV) และเราอธิษฐาน "ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสร้างจิตใจที่บริสุทธิ์ในข้าพระองค์" (สดุดี 51:10 TNCV)

ขอที่เราจะบริสุทธิ์ในทุกคำสนทนา ด้วยตั้งตารอคอยการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า

"ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงชำระข้าฯ จากบาปของข้าฯ
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงประทานฤทธิ์อำนาจให้ข้าฯ
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรับข้าฯ ดังที่ข้าฯ เป็น
และขอทรงทำให้ทั้งสิ้นของข้าฯ เป็นของพระองค์
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรักษาข้าพระองค์ไว้ในแต่ละวัน
ข้าแต่พระเจ้า ให้อยู่ภายใต้อำนาจของพระองค์
ขอทรงสร้างใจของข้าพระองค์ให้เป็นพระราชวังของพระองค์
และให้เป็นราชบัลลังก์ของพระองค์"
(R Hudson Pope; เพลง "Cleanse me from my sin, Lord")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, December 04 (บทความสอนใจประจำวัน 04 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 04

"I will go in the strength of the Lord God." (Psalm 71:16)

We don’t have to go in weakness because God’s strength is offered to us.

In His light we see, and in His strength we work. It is promised to us, and if we ask for it we will receive it.

Let us never attempt anything in our own strength. If we do we shall surely fail. But let us pray for God’s strength, and then we are sure of success and victory.

"His strength is made perfect in weakness." (2 Corinthians 12:9)

He gives courage to the faint, to those who have no might He gives strength.

"We go in faith, our own great weakness feeling,
And needing more each day Thy grace to know,
Yet from our hearts a song of triumph pealing,
We rest on Thee, and in Thy Name we go."
(Edith G. Cher­ry, hymn "We rest on Thee")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 04 ธันวาคม

"ข้าพระองค์จะไปด้วยพระกำลังขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า" (สดุดี 71:16 TKJV)

เราไม่จำเป็นต้องไปด้วยความอ่อนแอ เพราะพระเจ้าให้พระกำลังของพระองค์แก่เรา

เรามองเห็นในแสงสว่างของพระองค์ และเราทำงานในพระกำลังของพระองค์ นี่เป็นพระสัญญาที่มีต่อเรา และหากเราทูลขอ เราก็จะได้รับ

อย่าพยายามทำสิ่งใดด้วยกำลังของเราเองเป็นอันขาด หากเราทำเช่นนั้น เราก็จะล้มเหลวแน่นอน แต่ขอที่เราจะอธิษฐานขอพระกำลังของพระเจ้า และเมื่อนั้นเราก็จะมั่นใจได้ว่าจะได้รับความสำเร็จและชัยชนะ

"ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าปรากฏเต็มที่ในความอ่อนแอ" (2 โครินธ์ 12:9)

พระองค์ให้ความกล้าหาญแก่ผู้ที่ขลาดกลัว และให้กำลังแก่ผู้ที่ขาดกำลัง

"ข้าฯ จะไปในความเชื่อ ด้วยรู้สึกถึงความอ่อนแอที่ยิ่งใหญ่ของข้าฯ
และด้วยต้องการพระคุณของพระองค์มากขึ้นในแต่ละวัน
แม้กระนั้น บทเพลงแห่งชัยชนะก็ดังกึกก้องจากหัวใจของข้าฯ
ข้าฯ พักสงบในพระองค์ และจะไปในนามของพระองค์"
(Edith G. Cher­ry, เพลง "We rest on Thee")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, December 03 (บทความสอนใจประจำวัน 03 ธันวาคม)

The Believer's Daily Remembrancer

December 03

"Believe in the Lord your God." (2 Chronicles 20:20)

God is gracious to all who believe in the Lord Jesus. He is ever present with us, ready to help us and take pleasure in us. He is our all sufficient covenant keeping God.

Believe in His Word, which is true and faithful; in His presence, for He will never leave us; in His power for nothing is too hard for Him; in His character, which will never be dishonoured; and in His faithfulness, which, like the great mountains, is steadfast and sure.

Believe in God, even though people turn against us; though Satan distresses us; though fears arise within us. Believe in God for strength to do our duty, and for deliverance from every difficulty. Faith is a gift from God which He is ready to give.

If Jesus were to return today would He find faith in our hearts?

"Christ, the Lord, will come again,
None shall wait for Him in vain,
I shall then His glory see;
Christ will come and call for Me!"
(Joseph Swain, Hymn "Christ the Lord will come again")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 03 ธันวาคม

"จงเชื่อในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน" (2 พงศาวดาร 20:20 TNCV)

พระเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยพระคุณต่อทุกคนที่เชื่อวางใจในพระเยซูเจ้า พระองค์อยู่กับเราเสมอ พร้อมที่จะช่วยเรา และพึงพอใจในเรา พระองค์เป็นพระเจ้าผู้รักษาพระสัญญาและมีพร้อมทุกอย่างสำหรับเรา

จงเชื่อในพระคำของพระองค์ซึ่งเป็นจริงและเชื่อถือได้ จงเชื่อในการสถิตอยู่ของพระองค์ ด้วยว่าพระองค์เคยทอดทิ้งเรา จงเชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ด้วยว่าไม่มีสิ่งใดยากสำหรับพระองค์ จงเชื่อในพระลักษณะของพระองค์ ซึ่งจะไม่มีวันที่จะเสียเกียรติ และจงเชื่อในความสัตย์ซื่อของพระองค์ ซึ่งมั่นคงและแน่นอนดั่งภูเขาใหญ่

จงเชื่อในพระเจ้า แม้ว่าผู้คนจะต่อต้านเรา แม้ว่าซาตานจะทำให้เราเจ็บปวด แม้ว่าความกลัวจะประดั่งเข้ามา จงเชื่อในพระเจ้าว่าพระองค์จะให้กำลังแก่เราในการทำหน้าที่ของเรา และจะช่วยเราห้รอดพ้นจากทุกความยากลำบาก ความเชื่อเป็นของขวัญจากพระเจ้าซึ่งพระองค์พร้อมที่จะมอบให้

หากพระเยซูเสด็จกลับมาในวันนี้ พระองค์จะพบความเชื่อในหัวใจของเราหรือไม่?

"พระคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า จะเสด็จมาอีกครั้ง
ไม่มีใครที่รอคอยพระองค์อย่างสูญเปล่า
ในเวลานั้น ข้าฯจะได้เห็นเกียรติสิริของพระองค์
พระคริสต์จะเสด็จมา และเรียกหาข้าฯ!"
(Joseph Swain, เพลง "Christ the Lord will come again")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, November 30 (บทความสอนใจประจำวัน 30 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 30

"Return to your rest, O my soul." (Psalm 116:7)

When Christians live near to Jesus and trust Him, they are at rest.

If we wander from Him we become weak, lose courage, and doubts may fill our minds. But Jesus invites us to return- and we must do so to enjoy peace.

"O Jesus! We come to You! Receive Your wandering sheep. Restore to us the joy of our salvation and let us find rest at Your Cross."

Rest on God’s faithful Word with His faithful people! Rest in His boundless love and be free from fear, worldly cares and worries.

Return, O my soul, and rest in Jesus, my faithful friend and Saviour.

Sweet assurance- He will receive us graciously.

"Rest, O my soul, God has been good to you-
For You, O Lord, have saved my soul from death,
My feet from stumbling, and my eyes from tears,
That I may live for You while I have breath." (Sing Psalms 116:7-9)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 30 พฤศจิกายน

"จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงพักสงบอีกครั้งเถิด" (Psalm 116:7 TNCV)

เมื่อคริสเตียนดำเนินชีวิตใกล้ชิดกับพระเยซู และวางใจในพระองค์ พวกเขาก็ได้พักสงบ

หากเราออกห่างจากพระองค์ไป เราก็จะอ่อนแอ เสียความกล้าหาญ และความสงสัยอาจเข้ามาในความคิดของเรา แต่พระเยซูเชิญเราให้กลับมา แล้วเราจะต้องกลับมาเพื่อที่จะได้เพลิดเพลินไปกับสันติสุข

"โอ พระเยซู! ข้าพระองค์มาหาพระองค์! ขอพระองค์รับแกะของพระองค์ผู้นี้ที่ได้หลงไปจากทางของพระองค์ ขอพระองค์ทำให้ความชื่นชมยินดีแห่งความหลุดพ้น (=ความรอด) ของข้าพระองค์กลับคืนสู่สภาพดี และขอพระองค์อนุญาตให้ข้าพระองค์ได้พบกับการพักสงบที่กางเขนของพระองค์"

จงพักสงบบนพระคำที่สัตย์ซื่อของพระเจ้าร่วมกับประชากรที่สัตย์ซื่อของพระองค์! จงพักสงบในความรักแท้ที่ไร้ขีดจำกัด และเป็นอิสระจากความกลัว ความเป็นห่วงในทางโลก และความวิตกกังวล

จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย จงกลับมา และพักสงบในพระเยซู พระสหายผู้สัตย์ซื่อและพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า

นี่คือความเชื่อมั่นอันหวานชื่น "พระองค์จะรับเราด้วยพระคุณ"

"จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงพักสงบอีกครั้งเถิด
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดีต่อเจ้าเสมอมา
เพราะพระองค์ได้ทรงปลดปล่อยจิตวิญญาณของข้าพระองค์จากความตาย
ทรงปกป้องดวงตาของข้าพระองค์จากหยาดน้ำตา
ทรงปกป้องเท้าของข้าพระองค์ไม่ให้สะดุดล้ม
เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
ในดินแดนของผู้มีชีวิตอยู่" (สดุดี 116:7-9 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, November 29 (บทความสอนใจประจำวัน 29 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 29

"I will tell of the loving kindness of the Lord." (Isaiah 63:7)

This is the very best topic to meditate on, and to talk about! Tell of the Lord’s goodness in His promises to all believers, and His answering of our prayers.

Let us tell of His loving kindness to those who are seeking Him, to encourage them; to those who are complaining to silence them; to those who are tempted, to support them; to those who have backslidden, perhaps it will restore them.

Let us thank God for His loving kindness daily. Let us speak to our fellow Christians to comfort and strengthen. It will bring us peace and joy.

"We’ll speak of all He did, and said,
And suffered for us here below;
The path He marked for us to tread,
And what He’s doing for us now;
Discarding every worldly theme,
Our conversation filled with Him."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 29 พฤศจิกายน

"ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงพระกรุณาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" (อิสยาห์ 63:7 TNCV)

นี่เป็นประเด็นที่ดีที่สุดที่จะใคร่ครวญและกล่าวถึง! จงกล่าวถึงความดีของพระเจ้าในพระสัญญาต่างๆ ของพระองค์ที่มีต่อผู้เชื่อทั้งสิ้น และการที่พระองค์ตอบคำอธิษฐานของเราทั้งหลาย

ขอที่เราจะกล่าวถึงพระกรุณาของพระองค์แก่ผู้ซึ่งกำลังแสวงหาพระองค์ เพื่อหนุนใจพวกเขา แก่ผู้ที่กำลังบ่น เพื่อทำให้เขาเงียบลง แก่ผู้ที่กำลังถูกทดลอง เพื่อสนับสนุนเขา แก่ผู้ที่กำลังหันหลังกลับ บางทีสิ่งนี้จะทำให้เขากลับคืนสู่สภาพดี

ขอที่เราจะขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระกรุณาของพระองค์ทุกวัน ขอที่เราจะกล่าวแก่พี่น้องคริสเตียนเพื่อเล้าโลมและเสริมกำลังแก่พวกเขา มันจะนำสันติสุขและความชื่นชมยินดีให้แก่เรา

"เรากล่าวว่า เราจะพูดถึงสิ่งที่พระองค์ทำ
และที่พระองค์ทนทุกข์เพื่อเราในโลกนี้
หนทางที่พระองค์กำลังทำเพื่อเราขณะนี้
ได้ทำลายทุกแผนการของโลกนี้
ขอที่บทสนทนาของเราจะเต็มด้วยเรื่องของพระองค์"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

The Believer's Daily Remembrancer by J. Smith, November 28 (บทความสอนใจประจำวัน 28 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 28

"The Day shall declare it." (1 Corinthians 3:13)

"The day of the Lord" will come when Jesus will be seen coming from heaven in flaming fire, when the dead will be raised again and the Judgement commences. On that day every secret will be exposed. Our motives will be revealed. Hypocrisy will be condemned.

Are we sincere? –The day will declare it!

Are we aiming at God’s glory or self- exaltation?- The day will declare it!

Are we conducting our business on Christian or worldly principles? –The day will declare it!

Oh may that day declare that we, by God’s grace, are humble, holy, watchful, sincere disciples of the Lord Jesus. Let us daily live expecting that day, it will come on many suddenly.

"Search out in me what causes You offence.
And lead me in the everlasting way." (Sing Psalms 139:24)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 28 พฤศจิกายน

"วันนั้นสิ่งนี้จะถูกทำให้เป็นที่ประจักษ์" (1 โครินธ์ 3:13 TNCV)

"วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า" จะมาถึง เมื่อผู้คนจะได้เห็นพระองค์ลงมาจากสรรค์ในเปลวเพลิง เมื่อคนที่ตายแล้วจะได้รับการชุบชีวิตขึ้นอีกครั้ง และการพิพากษาจะเริ่มต้น ในวันนั้นความลับทั้งสิ้นจะถูกเปิดเผย แรงจูงใจต่างๆ ของเราจะถูกสำแดง ความหน้าซื่อใจคดจะถูกประณาม

เราจริงใจหรือไม่? วันนั้นสิ่งนี้จะถูกทำให้เป็นที่ประจักษ์!

เรามีเป้าหมายเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า หรือเพื่อยกย่องตนเอง? วันนั้นสิ่งนี้จะถูกทำให้เป็นที่ประจักษ์!

เรากำลังดำเนินงานต่างๆ ตามหลักการของคริสเตียน หรือของโลกนี้? วันนั้นสิ่งนี้จะถูกทำให้เป็นที่ประจักษ์!

โอ โดยพระคุณพระเจ้า ขอที่วันนั้นจะสำแดงว่าเราเป็นสาวกของพระเยซูเจ้าที่ได้ถ่อมใจ บริสุทธิ์ เฝ้าระวัง และจริงใจ ขอที่เราจะดำเนินชีวิตด้วยคาดหวังวันนั้น เพราะวันนั้นจะมาถึงหลายคนอย่างกระทันหัน

โปรดดูว่ามีสิ่งใดบ้างในตัวของข้าพระองค์ซึ่งไม่เป็นที่พอพระทัย
และขอทรงนำข้าพระองค์ไปตามวิถีนิรันดร์ (สดุดี 139:24 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Daily Remembrancer by J. Smith, November 26 (บทความสอนใจประจำวัน 26 พฤศจิกายน)

The Believer's Daily Remembrancer

November 26

"God has made you His heir, through Christ." (Galatians 4:7)

Through faith in Jesus Christ, God exalts us to the highest honour and happiness. All our mercies flow through Jesus. He is the way of access to God.

If we are one with Jesus, we are heirs of God. He has willed all the riches of grace, and all the riches of glory. All is secured by the promise of God, and the precious blood of our dear Saviour.

What an honour to be heirs of God! To possess and enjoy throughout Eternity all that God can impart! We have enough given to us while on earth; but we shall be given full possession at the Resurrection!

Be sure that you are God’s child through faith in Jesus, that you daily walk with God- with expectation and preparation for the glorious "Day of the Lord!"

"And if our fellowship below
With Jesus be so sweet,
What height of rapture shall we know,
When round His throne we meet!"
(Charles Wesley, hymn "All praise to our redeeming Lord")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 26 พฤศจิกายน

"ท่านก็เป็นทายาทของพระเจ้าโดยทางพระคริสต์" (กาลาเทีย 4:7 TKJV)

พระเจ้ายกชูเราขึ้นสู่เกียรติและความสุขอันสูงสุดผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระเมตตาทั้งสิ้นหลั่งไหลมาสู่เราผ่านทางพระเยซู พระองค์เป็นหนทางที่เราเข้าหาพระเจ้า

หากเราเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเยซู เราก็เป็นทายาทของพระเจ้า พระองค์ได้ปรารถนาที่จะให้เราได้รับความบริบูรณ์แห่งพระคุณและความบริบูรณ์แห่งเกียรติสิริ ทั้งหมดนี้ก็ได้รับการยืนยันแน่นอนโดยพระสัญญาของพระเจ้าและพระโลหิตอันล้ำค่าของพระผู้ช่วยที่รักของเรา

ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้เป็นทายาทของพระเจ้า! ขอที่เราจะได้รับและเพลิดเพลินกับทุกสิ่งที่พระเจ้าสามารถให้กับเราได้ตราบจนชั่วนิรันดร์! เราได้รับอย่างเพียงพอขณะที่อยู่บนโลกนี้ แต่เราจะได้รับสิ่งต่างๆ อย่างสมบูรณ์เมื่อเราได้ฟื้นคืนชีวิตอีกครั้งหนึง!

จงแน่ใจว่าคุณเป็นบุตรของพระเจ้าผ่านทางความเชื่อในพระเยซู ว่าคุณดำเนินชีวิตกับพระเจ้าในแต่ละวันด้วยความคาดหวังและการเตรียมตัวสำหรับ "วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า" ซึ่งเต็มไปด้วยเกียรติสิริ!

"และหากความสนิทสนมของเรา
กับพระเยซูเจ้าช่างแสนหวาน
การถูกรับสู่สวรรค์นั้นจะสูงส่งเพียงใด
เมื่อเราได้พบที่บัลลังก์ของพระองค์"
(Charles Wesley, เพลง "All praise to our redeeming Lord")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie