วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 30 (บทความสอนใจประจำวัน 30 พฤศจิกายน)

"จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงพักสงบอีกครั้งเถิด" (สดุดี 116:7)

บทความสอนใจประจำวัน 30 พฤศจิกายน

"จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงพักสงบอีกครั้งเถิด" (สดุดี 116:7 TNCV)

เมื่อคริสเตียนดำเนินชีวิตใกล้ชิดกับพระเยซูและวางใจในพระองค์ พวกเขาก็ได้พักสงบ

หากเราออกห่างจากพระองค์ไป เราก็จะอ่อนแอ เสียความกล้าหาญ และความสงสัยอาจเข้ามาในความคิดของเรา แต่พระเยซูเชิญเราให้กลับมา แล้วเราจะต้องกลับมาเพื่อที่จะได้เพลิดเพลินกับสันติสุข

"โอ พระเยซู! ข้าพระองค์มาหาพระองค์! ขอทรงรับแกะของพระองค์ตัวนี้ที่ได้ออกนอกลู่นอกทางไป ขอทรงรื้อฟื้นความชื่นชมยินดีแห่งความหลุดพ้นของข้าพระองค์ และขอทรงอนุญาตให้ข้าพระองค์ได้พบกับการพักสงบที่กางเขนของพระองค์"

จงพักสงบบนพระคำที่สัตย์ซื่อของพระเจ้าร่วมกับประชากรที่สัตย์ซื่อของพระองค์! จงพักสงบในความรักแท้อันไร้ขีดจำกัด และเป็นอิสระจากความกลัว ความเป็นห่วงในทางโลก และความวิตกกังวล

จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย จงกลับมาและพักสงบในพระเยซูผู้เป็นสหายที่สัตย์ซื่อและพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า

นี่คือความเชื่อมั่นอันหวานชื่น "พระองค์จะรับเราด้วยพระคุณ"

"จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงพักสงบอีกครั้งเถิด
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดีต่อเจ้าเสมอมา
เพราะพระองค์ได้ทรงปลดปล่อยจิตวิญญาณของข้าพระองค์จากความตาย
ทรงปกป้องดวงตาของข้าพระองค์จากหยาดน้ำตา
ทรงปกป้องเท้าของข้าพระองค์ไม่ให้สะดุดล้ม
เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
ในดินแดนของผู้มีชีวิตอยู่" (สดุดี 116:7-9 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 30

"Return to your rest, O my soul." (Psalm 116:7)

When Christians live near to Jesus and trust Him, they are at rest.

If we wander from Him we become weak, lose courage, and doubts may fill our minds. But Jesus invites us to return- and we must do so to enjoy peace.

"O Jesus! We come to You! Receive Your wandering sheep. Restore to us the joy of our salvation and let us find rest at Your Cross."

Rest on God's faithful Word with His faithful people! Rest in His boundless love and be free from fear, worldly cares and worries.

Return, O my soul, and rest in Jesus, my faithful friend and Saviour.

Sweet assurance- He will receive us graciously.

"Rest, O my soul, God has been good to you-
For You, O Lord, have saved my soul from death,
My feet from stumbling, and my eyes from tears,
That I may live for You while I have breath." (Sing Psalms 116:7-9)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 29 (บทความสอนใจประจำวัน 29 พฤศจิกายน)


"ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงพระกรุณาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" (อิสยาห์ 63:7)

บทความสอนใจประจำวัน 29 พฤศจิกายน

"ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงพระกรุณาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" (อิสยาห์ 63:7 TNCV)

นี่เป็นประเด็นที่ดีที่สุดที่จะใคร่ครวญและกล่าวถึง! จงกล่าวถึงความดีของพระเจ้าในพระสัญญาของพระองค์ที่มีต่อผู้เชื่อทั้งหมด และการที่พระองค์ตอบคำอธิษฐานของเรา

ขอให้เรากล่าวถึงพระกรุณาของพระองค์ับผู้ซึ่งกำลังแสวงหาพระองค์ เพื่อหนุนใจพวกเขา กับผู้ที่กำลังบ่น เพื่อทำให้เขาเงียบลง กับผู้ที่กำลังถูกทดลอง เพื่อสนับสนุนเขา กับผู้ที่กำลังหันหลังกลับ บางทีสิ่งนี้จะทำให้เขากลับคืนสู่สภาพดี

ขอให้เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระกรุณาของพระองค์ทุกวัน ขอให้เรากล่าวกับพี่น้องคริสเตียนเพื่อปลอบใจและให้กำลังแก่พวกเขา มันจะนำสันติสุขและความชื่นชมยินดีมาสู่เรา

"เรากล่าวถึงสิ่งที่พระองค์ทำและพูด
และทนทุกข์เพื่อเราในโลกนี้
หนทางที่พระองค์กำลังทำเพื่อเราขณะนี้
ได้ทำลายทุกแผนการของโลกนี้
บทสนทนาของเราจะเต็มด้วยเรื่องของพระองค์"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 29

"I will tell of the loving kindness of the Lord." (Isaiah 63:7)

This is the very best topic to meditate on, and to talk about! Tell of the Lord's goodness in His promises to all believers, and His answering of our prayers.

Let us tell of His loving kindness to those who are seeking Him, to encourage them; to those who are complaining to silence them; to those who are tempted, to support them; to those who have backslidden, perhaps it will restore them.

Let us thank God for His loving kindness daily. Let us speak to our fellow Christians to comfort and strengthen. It will bring us peace and joy.

"We'll speak of all He did, and said,
And suffered for us here below;
The path He marked for us to tread,
And what He's doing for us now;
Discarding every worldly theme,
Our conversation filled with Him."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



Daily Remembrancer by J. Smith, November 29 (บทความสอนใจประจำวัน 29 พฤศจิกายน)


"ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงพระกรุณาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" (อิสยาห์ 63:7)

บทความสอนใจประจำวัน 29 พฤศจิกายน

"ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงพระกรุณาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" (อิสยาห์ 63:7 TNCV)

นี่เป็นประเด็นที่ดีที่สุดที่จะใคร่ครวญและกล่าวถึง! จงกล่าวถึงความดีของพระเจ้าในพระสัญญาของพระองค์ที่มีต่อผู้เชื่อทั้งหมด และการที่พระองค์ตอบคำอธิษฐานของเรา

ขอให้เรากล่าวถึงพระกรุณาของพระองค์ับผู้ซึ่งกำลังแสวงหาพระองค์ เพื่อหนุนใจพวกเขา กับผู้ที่กำลังบ่น เพื่อทำให้เขาเงียบลง กับผู้ที่กำลังถูกทดลอง เพื่อสนับสนุนเขา กับผู้ที่กำลังหันหลังกลับ บางทีสิ่งนี้จะทำให้เขากลับคืนสู่สภาพดี

ขอให้เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระกรุณาของพระองค์ทุกวัน ขอให้เรากล่าวกับพี่น้องคริสเตียนเพื่อปลอบใจและให้กำลังแก่พวกเขา มันจะนำสันติสุขและความชื่นชมยินดีมาสู่เรา

"เรากล่าวถึงสิ่งที่พระองค์ทำและพูด
และทนทุกข์เพื่อเราในโลกนี้
หนทางที่พระองค์กำลังทำเพื่อเราขณะนี้
ได้ทำลายทุกแผนการของโลกนี้
บทสนทนาของเราจะเต็มด้วยเรื่องของพระองค์"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 29

"I will tell of the loving kindness of the Lord." (Isaiah 63:7)

This is the very best topic to meditate on, and to talk about! Tell of the Lord's goodness in His promises to all believers, and His answering of our prayers.

Let us tell of His loving kindness to those who are seeking Him, to encourage them; to those who are complaining to silence them; to those who are tempted, to support them; to those who have backslidden, perhaps it will restore them.

Let us thank God for His loving kindness daily. Let us speak to our fellow Christians to comfort and strengthen. It will bring us peace and joy.

"We'll speak of all He did, and said,
And suffered for us here below;
The path He marked for us to tread,
And what He's doing for us now;
Discarding every worldly theme,
Our conversation filled with Him."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 28 (บทความสอนใจประจำวัน 28 พฤศจิกายน)

"วันนั้นจะสำแดงให้เห็น" (1 โครินธ์ 3:13)

บทความสอนใจประจำวัน 28 พฤศจิกายน

"วันนั้นจะสำแดงให้เห็น" (1 โครินธ์ 3:13 THSV2011)

"วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า" จะมาถึง เมื่อผู้คนจะได้เห็นพระองค์ลงมาจากสรรค์ในเปลวเพลิง เมื่อคนที่ตายแล้วจะได้รับการชุบชีวิตขึ้นอีกครั้ง และการพิพากษาจะเริ่มต้น ในวันนั้นทุกความลับจะถูกเปิดเผย แรงจูงใจต่างๆ ของเราจะถูกสำแดง ความหน้าซื่อใจคดจะถูกประณาม

เราจริงใจหรือไม่? วันนั้นจะสำแดงให้เห็น!

เรามีเป้าหมายเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า หรือเพื่อยกย่องตนเอง? วันนั้นจะสำแดงให้เห็น!

เรากำลังดำเนินงานต่างๆ ตามหลักการของคริสเตียน หรือของโลกนี้? วันนั้นจะสำแดงให้เห็น!

โอ โดยพระคุณพระเจ้า ขอที่วันนั้นจะสำแดงให้เห็นว่าเราเป็นสาวกของพระเยซูเจ้าที่ถ่อมใจ บริสุทธิ์ เฝ้าระวัง และจริงใจ

ขอให้เราดำเนินชีวิตด้วยคาดหวังวันนั้น เพราะมันจะมาถึงหลายคนอย่างกะทันหัน

"โปรดดูว่ามีสิ่งใดบ้างในตัวของข้าพระองค์ซึ่งไม่เป็นที่พอพระทัย
และขอทรงนำข้าพระองค์ไปตามวิถีนิรันดร์" (สดุดี 139:24 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 28

"The Day shall declare it." (1 Corinthians 3:13)

"The day of the Lord" will come when Jesus will be seen coming from heaven in flaming fire, when the dead will be raised again and the Judgment commences. On that day every secret will be exposed. Our motives will be revealed. Hypocrisy will be condemned.

Are we sincere? –The day will declare it!

Are we aiming at God's glory or self- exaltation?- The day will declare it!

Are we conducting our business on Christian or worldly principles? –The day will declare it!

Oh may that day declare that we, by God's grace, are humble, holy, watchful, sincere disciples of the Lord Jesus. Let us daily live expecting that day, it will come on many suddenly.

"Search out in me what causes You offence.
And lead me in the everlasting way." (Sing Psalms 139:24)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

Daily Remembrancer by J. Smith, November 27 (บทความสอนใจประจำวัน 27 พฤศจิกายน)

"เราเป็นคนเลี้ยงแกะที่ดี" (ยอห์น 10:11)

บทความสอนใจประจำวัน 27 พฤศจิกายน

"เราเป็นคนเลี้ยงแกะที่ดี" (ยอห์น 10:11 TNCV)

วันนี้พระเยซูบอกเราว่า "เราเป็นคนเลี้ยงแกะที่ดี" (ยอห์น 10:11 TNCV) ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์

พระองค์รัก ปกป้อง และจัดเตรียมเพื่อแกะของพระองค์ พระองค์ให้ชีวิตของพระองค์เพื่อช่วยเขาให้หลุดพ้น พระองค์ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อช่วยเขา ปลอบใจเขา และชำระเขาให้บริสุทธิ์ พระองค์กำลังเตรียมสถานที่แห่งหนึ่งในสวรรค์ให้แก่พวกเขา พระองค์จะดำรงชีวิตอยู่กับพวกเขาและอวยพรพวกเขาตลอดชั่วนิรันดร์ ความดีของพระองค์ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ!

พระองค์บอกว่า "แกะของเราฟังเสียงของเรา เรารู้จักแกะนั้นและแกะนั้นตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้น แกะนั้นจะไม่พินาศเลย ไม่มีผู้ใดชิงแกะนั้นไปจากมือของเราได้ พระบิดาของเราผู้ประทานแกะนั้นแก่เราทรงยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งทั้งปวง ไม่มีผู้ใดแย่งชิงแกะนั้นจากพระหัตถ์พระบิดาของเราได้ เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน" (ยอห์น 10:27-30 TNCV) นี่คือความปลอดภัยที่เต็มไปด้วยพระพร!

"ข้าแต่พระผู้เลี้ยงที่ดี ขอทรงรักษาข้าพระองค์ไว้ให้อยู่ใกล้พระองค์ด้วยเถิด"

"องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดั่งเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
พระองค์ทรงให้ข้าพเจ้านอนลงในทุ่งหญ้าเขียวสด
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้ามายังริมน้ำอันสงบ
พระองค์ทรงฟื้นฟูจิตวิญญาณของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม
เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์"
(สดุดี 23:1-3 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 27

"I am the Good Shepherd." (John 10:11)

Jesus says to us today, "I am the Good Shepherd." (John 10:11) There is no other like Him.

He loves, protects and provides for His own. He gave His life to save them. He sends His Holy Spirit to help them, to comfort them and to make them holy. He is preparing a place in heaven for them. He will, for all Eternity, live with them and bless them. How great is His goodness!

He says, "My sheep hear My voice, and I know them, and they follow Me; and I give them Eternal Life; and they shall never perish, neither shall any one snatch them out of My hand. My Father, who has given them to Me, is greater than all, and no one is able to snatch them out of My Father's hand. I and My Father are one." (John 10:27-30) Blessed security!

"Good Shepherd, keep us near to Yourself."

"The Lord is my shepherd; no want shall I know.
He makes me lie down where the green pastures grow;
He leads me to rest where the calm waters flow.
My wandering steps He brings back to His way,
In straight paths of righteousness making me stay;
And this He has done His great name to display." (Sing Psalms 23:1-3)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 26 (บทความสอนใจประจำวัน 26 พฤศจิกายน)

"ท่านก็เป็นทายาทของพระเจ้าโดยทางพระคริสต์" (กาลาเทีย 4:7)

บทความสอนใจประจำวัน 26 พฤศจิกายน

"ท่านก็เป็นทายาทของพระเจ้าโดยทางพระคริสต์" (กาลาเทีย 4:7 TKJV)

พระเจ้ายกชูเราขึ้นสู่เกียรติและความสุขสูงสุดผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระเมตตาทั้งสิ้นหลั่งไหลมาสู่เราผ่านทางพระเยซู พระองค์เป็นหนทางที่เราเข้าหาพระเจ้า

หากเราเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเยซู เราก็เป็นทายาทของพระเจ้า พระองค์ได้ปรารถนาให้เราได้รับความบริบูรณ์แห่งพระคุณและความบริบูรณ์แห่งเกียรติสิริ ทั้งหมดนี้ก็ได้รับการยืนยันแน่นอนโดยพระสัญญาของพระเจ้าและพระโลหิตอันล้ำค่าของพระผู้ช่วยที่รักของเรา

ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้เป็นทายาทของพระเจ้า ได้รับและเพลิดเพลินกับทุกสิ่งที่พระเจ้าสามารถให้กับเราได้ตราบจนชั่วนิรันดร์! เราได้รับอย่างเพียงพอขณะที่อยู่บนโลกนี้ แต่เราจะได้รับสิ่งต่างๆ อย่างสมบูรณ์เมื่อเราเป็นขึ้นจากความตาย!

จงแน่ใจว่าคุณเป็นลูกของพระเจ้าผ่านทางความเชื่อในพระเยซู ว่าคุณดำเนินชีวิตกับพระเจ้าในแต่ละวันด้วยความคาดหวังและการเตรียมตัวสำหรับ "วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า" ซึ่งเต็มไปด้วยเกียรติสิริ!

"และหากความสนิทสนมของเรา
กับพระเยซูเจ้าช่างแสนหวาน
การถูกรับสู่สวรรค์นั้นจะสูงส่งเพียงใด
เมื่อเราได้พบที่บัลลังก์ของพระองค์"
(Charles Wesley, เพลง "All praise to our redeeming Lord")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 26

"God has made you His heir, through Christ." (Galatians 4:7)

Through faith in Jesus Christ, God exalts us to the highest honour and happiness. All our mercies flow through Jesus. He is the way of access to God.

If we are one with Jesus, we are heirs of God. He has willed all the riches of grace, and all the riches of glory. All is secured by the promise of God, and the precious blood of our dear Saviour.

What an honour to be heirs of God! To possess and enjoy throughout Eternity all that God can impart! We have enough given to us while on earth; but we shall be given full possession at the Resurrection!

Be sure that you are God's child through faith in Jesus, that you daily walk with God- with expectation and preparation for the glorious "Day of the Lord!"

"And if our fellowship below
With Jesus be so sweet,
What height of rapture shall we know,
When round His throne we meet!"
(Charles Wesley, hymn "All praise to our redeeming Lord")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 25 (บทความสอนใจประจำวัน 25 พฤศจิกายน)

"ข้าพระองค์วางใจในพระวจนะของพระองค์" (สดุดี 119:42)

บทความสอนใจประจำวัน 25 พฤศจิกายน

"ข้าพระองค์วางใจในพระวจนะของพระองค์" (สดุดี 119:42 TNCV)

อย่าวางใจในความรู้สึกของคุณ หรือตัดสินจากภายนอก

สิ่งที่นำทางคริสเตียน คือแหล่งของถ้อยคำเดียวที่วางใจได้ นั่นคือ พระคำของพระเจ้า พระคำเป็นจริงและเรียบง่ายในประเด็นทั้งหมดที่เราจำเป็นต้องรู้ พระคำได้รับการทดสอบและพบว่าควรค่าแก่การไว้ใจเสมอ เราควรเชื่อวางใจในพระคำและปลอบใจของเราเองด้วยพระคำ โดยเฉพาะเมื่อเราถูกรายล้อมไปด้วยความยากลำบาก

การวางใจในพระคำของพระเจ้าจะนำมาซึ่งสันติสุขของความคิด และการรอดพ้นจากปัญหาทุกอย่าง ทั้งหมดก็ปลอดภัยและปลอดภัยตลอดกาล

"โอพระเจ้า ขอทรงเพิ่มความไว้วางใจให้แก่ข้าพระองค์"

"ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์มาถึงข้าพระองค์
ขอให้การช่วยกู้มาถึงตามพระสัญญาของพระองค์
แล้วข้าพระองค์จะมีคำตอบสำหรับคนที่เย้ยหยันข้าพระองค์
เพราะข้าพระองค์วางใจในพระวจนะของพระองค์" (สดุดี 119:41-42 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 25

"I trust in Your Word." (Psalm 119:42)

Do not trust your feelings, or judge by appearances.

The Christian's guide is the only dependable word- God's Word. It is true, and on all necessary points- plain; it has been tried and always found faithful. We should believe it, and comfort ourselves with it especially when surrounded by difficulties.

Trusting in God's Word will bring peace of mind, and deliverance in every kind of trouble. All is safe, and safe for ever!

"Lord, increase my trust."

"May Your unfailing love come to me,
Your salvation as promised, O Lord.
Then I'll answer the taunts of my foe,
For I steadfastly trust in Your Word." (Sing psalms 119:41-42)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 24 (บทความสอนใจประจำวัน 24 พฤศจิกายน)

"เราจะมาหาพวกท่านอีก" (ยอห์น 16:22)

บทความสอนใจประจำวัน 24 พฤศจิกายน

"เราจะมาหาพวกท่านอีก" (ยอห์น 16:22 TNCV)

พระเจ้าสัญญาที่จะอยู่กับเราตลอดเวลา แต่บางครั้งเราก็รู้สึกได้ถึงการสถิตอยู่ของพระองค์มากขึ้น ความรู้สึกถึงการสถิตอยู่ของพระองค์นั้นเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ของเรา พระองค์สำแดงพระองค์เองแก่ผู้เชื่อ และไม่ได้สำแดงแก่ "โลก"

องค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าใจเรา พระองค์ทราบความต้องการและความอ่อนแอของเรา พระองค์ได้ให้พระสัญญาที่เปี่ยมด้วยพระคุณ "ขณะนี้คือเวลาทุกข์โศกของพวกท่านแต่เราจะมาหาพวกท่านอีกและพวกท่านจะชื่นชมยินดี และจะไม่มีใครเอาความชื่นชมยินดีของพวกท่านไปได้" (ยอห์น 16:22 TNCV)

ข้าแต่องค์พระเยซูเจ้า ผู้ซึ่งข้าพระองค์เทดทูน ขอที่ข้าพระองค์จะเพลิดเพลินกับการสถิตอยู่และความรักแท้ของพระองค์ในวันนี้ ขอเสด็จมาและอยู่กับข้าพระองค์ตลอดเวลา

"ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงกรุณาเถิด จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานสักเท่าใด?
ขอทรงเอ็นดูสงสารบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์
ขอให้ข้าพระองค์ทั้งหลายอิ่มเอมด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ในยามเช้า
เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะร้องเพลงด้วยความชื่นชมยินดีและปลื้มปีติตลอดชั่วชีวิต"
(สดุดี 90:13-14 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 24

"I will see you again." (John 16:22)

The Lord promises to be with us at all times –but sometimes we are more aware of His presence. That sense of His presence is our great happiness. He shows Himself to believers and not to "the world."

The Lord sympathises with us. He knows our needs and our weaknesses. He has given us this gracious promise : "You have sorrow now but I will see You again, and then you will rejoice. No one can rob you of that joy." (John 16:22)

"Precious Lord Jesus, may we this day enjoy Your presence and love; come and stay with us always."

"Return, O Lord! How long will You delay?
Have mercy on Your servants, Lord, we pray.
O satisfy us with Your love always,
That we may sing, rejoicing all our days." ('Sing Psalms' 90:13-14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

Daily Remembrancer by J. Smith, November 23 (บทความสอนใจประจำวัน 23 พฤศจิกายน)

"จงอ้าปากของเจ้าให้กว้าง แล้วเราจะป้อนเจ้าให้อิ่ม" (สดุดี 81:10)

บทความสอนใจประจำวัน 23 พฤศจิกายน

"จงอ้าปากของเจ้าให้กว้าง แล้วเราจะป้อนเจ้าให้อิ่ม" (สดุดี 81:10 THSV2011)

ผู้เชื่อ "ควรอธิษฐานอยู่เสมอและไม่อ่อนระอาใจ" (ลูกา 18:1 THSV2011)

เราเข้ามาหาพระเจ้าผู้เป็นพ่อในสวรรค์ของเรา และอธิษฐานขอสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นในชีวิตของเรา เราขอจากพระองค์เพราะพระองค์เชิญชวนให้เราขอ และคาดหวังที่จะได้รับเพราะพระองค์สัตย์ซื่อ พระองค์ชื่นชมยินดีในชีวิตของเราและปรารถนาที่จะให้สิ่งดีแก่เรา พระเจ้ามองดูเราในฐานะลูกที่รักของพระองค์ และสัญญาว่าจะให้ทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราหรือที่เราสามารถใช้เพื่อเกียรติสิริของพระองค์

ขอให้เราทูลขอและกล่าวอ้างพระสัญญาแห่งพระคุณของพระองค์ พร้อมด้วยอธิษฐานในพระนามของพระเยซู พระเจ้าของเราเป็น "ผู้ฟังและผู้ตอบคำอธิษฐาน"

"อให้เราเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยความกล้า เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่ช่วยเรา" (ฮีบรู 4:16 THSV2011)

"คุณกำลังเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์
คุณนำคำอ้อนวอนที่ยิ่งใหญ่มาด้วย
ร้องขอพระคุณและฤทธิ์เดชของพระองค์
ไม่มีใครเลยที่จะขอได้มากเกินไป"
(John Newton)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 23

"Open your mouth wide and I will fill it." (Psalm 81:10)

Believers "ought always to pray, and not to faint." (Luke 18:1)

We come to God as our Heavenly Father, and pray for all our needs. We ask of Him because He invites us to, and expect to receive because He is faithful. He rejoices over us to do us good. God looks upon us as His dear children, and promises to give us all we need, or can use for His glory.

Let us ask and plead His gracious promises, praying in the name of Jesus. Our God is "the hearer and answerer of prayer."

"Let us come boldly to the throne of grace, so that we may obtain mercy and find grace to help us." (Hebrew 4:16)

"You are coming to a King,
Large petitions with you bring
For His grace and power are such,
None can ever ask too much."
(John Newton)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 22 (บทความสอนใจประจำวัน 22 พฤศจิกายน)

"เราจะตีสอนเจ้าตามขนาด" (เยเรมีย์ 30:11)

บทความสอนใจประจำวัน 22 พฤศจิกายน

"เราจะตีสอนเจ้าตามขนาด" (เยเรมีย์ 30:11 THSV2011)

พ่อแม่ที่ดีทุกคนตีสอนลูกผู้ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขสิ่งผิด ความบาปจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไข และความรักแท้ก็นำมาซึ่งการแก้ไข

พ่อในสวรรค์ของเราตีสอนเราเมื่อเราทำผิด ไม่ใช่ด้วยความโกรธ แต่ด้วยความรักแท้ ไม่ใช่เพื่อทำลาย แต่เพื่อช่วยชีวิตเรา พระองค์รักเรา แต่พระองค์ไม่รักความบาปของเรา พระองค์กล่าวว่า "เรารักใครเราก็ตักเตือนและตีสอนเขา เพราะฉะนั้นจงมีความกระตือรือร้น และกลับใจใหม่" (วิวรณ์ 3:19 THSV2011)

ขอให้เราสำนึกในพระคุณสำหรับการตีสอนของพระองค์ที่ส่งมาให้เราเพื่อชำระเราให้บริสุทธิ์ พระองค์แก้ไขชีวิตของเราเพื่อผลดีแก่เรา ทำให้เราได้มีส่วนร่วมในความบริสุทธิ์และเกียรติสิริของพระองค์

"ตะวันออกไกลจากตะวันตกเท่าใด พระองค์ทรงปลดการละเมิดไปไกลจากเราเท่านั้น
บิดาสงสารบุตรของตนฉันใด พระยาห์เวห์ทรงสงสารคนที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น
เพราะพระองค์เองทรงรู้จักโครงร่างของเรา พระองค์ทรงระลึกว่าเราเป็นแต่ผงคลี" (สดุดี 103:12-14 THSV2011)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 22

"I discipline you with justice." (Jeremiah 30:11)

Every good parent disciplines the child who needs correction. Sin needs to be corrected and love sends it.

Our Heavenly Father disciplines us when we do wrong –not in anger, but in love; not to destroy, but to save. He loves us- but not our sins. He says, "As many as I love I rebuke and chasten; be zealous therefore and repent." (Revelation 3:19)

Let us be thankful for His discipline is sent to purify and cleanse us. He corrects us for our good to enable us to share in His holiness and glory.

"As far as east is from the west,
So far His love has borne away
Our many sins and trespasses
And all the guilt that on us lay.
Just as a father loves his child,
So God loves those who fear His name.
For He remembers we are dust,
And well He knows our feeble frame."
(Sing Psalms 103:12-14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 21 (บทความสอนใจประจำวัน 21 พฤศจิกายน)

"เรามอบสันติสุขแก่พวกท่าน" (ยอห์น 14:27)

บทความสอนใจประจำวัน 21 พฤศจิกายน

"เรามอบสันติสุขแก่พวกท่าน" (ยอห์น 14:27 TNCV)

ผู้เชื่อเท่านั้นที่รู้จักกับความหวานชื่นของสันติสุขที่พระเยซูให้ สันติสุขกับพระเจ้าเป็นไปได้เพราะผลจากการสละชีวิตขององค์พระเยซูและการงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในหัวใจของแต่ละคน มันเป็นจุดเริ่มต้นของสวรรค์ในจิตใจ ซึ่งก็คือมโนธรรมที่เปี่ยมด้วยสันติสุข เรามักจะได้รับสันติสุขนี้ในท่ามกลางความทุกข์ยาก และมันทำให้ภาระหนักทั้งสิ้นเบาลง และทำให้คนบาปได้มีความสุขในทุกสถานการณ์

โอ พระเยซู ขอประทานสันติสุขของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์ในเช้าวันนี้

ผู้เชื่อเอ๋ย จงพึ่งพาพระเยซูเท่านั้นเพื่อจะได้รับสันติสุข "เพราะพระองค์เองทรงเป็นสันติสุขของเรา" (เอเฟซัส 2:14 TNCV) จงเชื่อในพระคำของพระองค์ จงรับเอาการยกโทษของพระองค์ จงวางใจในการงานอันสมบูรณ์แบบของพระองค์ จงตั้งเป้าที่จะถวายสรรเสริญแด่พระองค์ "แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจจะปกป้องความคิดจิตใจของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์" (ฟิลิปปี 4:7 TNCV)

"จงหันจากความชั่วร้ายและทำความดี
จงใฝ่หาสันติภาพและมุ่งมั่นเพื่อให้ได้มา" (สดุดี 34:14 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 21

"My peace I give to you." (John 14:27)

Only believers know the sweetness of the peace Jesus gives. Peace with God is made possible as a result of the sacrificial death of the Lord Jesus and the working of the Holy Spirit in the individual's heart. It is the beginning of heaven in the soul; a peaceful conscience. It is often given in the midst of trouble; and it lightens every burden and the sinner happy in every situation.

O Jesus, give us Your peace this morning.

Believer, look only to Jesus for peace, for "He is our peace." (Ephesians 2:14) Believe His Word, receive His forgiveness, trust in His perfect work, aim to show forth His praise, and "the peace which passes all understanding shall fill your mind." (Philippians 4:17)

"Depart and turn from evil paths
And practise what is right.
Desire to know the way of peace;
Pursue it with your might." (Sing Psalms 34:14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 20 (บทความสอนใจประจำวัน 20 พฤศจิกายน)

"พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่" (มัทธิว 17:4)

บทความสอนใจประจำวัน 20 พฤศจิกายน

"พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่" (มัทธิว 17:4)

นี่คือสิ่งที่เปโตรได้ร้องอุทานออกมาเมื่อท่านได้มีประสบการณ์อันดีเยี่ยมในการได้เห็นพระสง่าราศีของพระเจ้า ดีจริงที่เราดำเนินชีวิตด้วยความสนิทสนมกับพระเจ้า ดีจริงที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในประชากรของพระเจ้าและได้อยู่ในคริสตจักร ดีจริงที่เราได้อยู่ในโลกปัจจุบันนี้ และมีโอกาสรับใช้พระเยซู

พระเยซูได้รับเกียรติจากความอดทนของเราในความเจ็บป่วยหรือไม่? เมื่อนั้นเราควรกล่าวว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่"

พระเจ้าได้รับเกียรติจากการงานของเราในแต่ละวัน และคำพยานถึงฤทธิ์อำนาจและพระคุณของพระเยซู ไม่ว่าเราจะเล็กน้อยเพียงใดหรือไม่? เมื่อนั้นเราอาจกล่าวว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่"

ใช่แล้ว คริสเตียน ดีจริงที่เราได้อยู่ในที่ใดๆ เพื่อพระเยซูจะได้รับเกียรติสิริ!

จงตั้งเป้าหมายที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้าเสมอ และเมื่อนั้นเราก็จะสามารถกล่าวได้ในทุกที่ว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่" แต่หากการอยู่ที่นี่นั้นดีจริง แล้วในสวรรค์เล่าจะดีเยี่ยมมากกว่านี้เพียงไร!

"พระองค์คือเยซู ผู้ต้นและผู้ปลาย
พระวิญญาณของพระองค์จะนำเรากลับบ้านอย่างปลอดภัย!
เราจะสรรเสริญพระองค์สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านพ้นไป
และวางใจพระองค์สำหรับสิ่งที่กำลังมา"
(Joseph Hart, เพลง "How good is the God we adore")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 20

"Lord, It is good for us to be here." (Matthew 17:4)

This is what Peter exclaimed when he had a wonderful experience of the Glory of God. It is good to live and walk in communion with God. It is good to be numbered with God's people and be in church. It is good to be in the present world, and have opportunities of service for Jesus.

Is Jesus honoured by our patience in sickness? Then we should say, "Lord, it is good to be here."

Is God glorified by our daily work and testimony to the power and grace of Jesus, no matter how humble? Then we may say, "Lord, it is good to be here."

Yes, Christian, it is good to be anywhere so that Jesus is glorified!

Aim always to honour God, and then we can say everywhere, "Lord it is good to be here!" But if it is good to be here, how much more wonderful it will be in heaven!

"Tis Jesus the First and the Last
Whose Spirit shall guide us safe home!
We'll praise Him for all that is past,
And trust Him for all that's to come."
(Joseph Hart, hymn "How good is the God we adore")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 19 (บทความสอนใจประจำวัน 19 พฤศจิกายน)

"พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่าเวลาก็เหลือน้อยแล้ว" (1 โครินธ์ 7:29)

บทความสอนใจประจำวัน 19 พฤศจิกายน

"พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่าเวลาก็เหลือน้อยแล้ว" (1 โครินธ์ 7:29 TNCV)

เวลาของความทุกข์ยากก็เหลือน้อย เพราะมันถูกจำกัดอยู่แค่ในโลกปัจจุบันนี้เท่านั้น

โอกาสของเราที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้าก็เหลือน้อย ดังนี้เราจึงควรใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

ความมั่งมีของคนชั่วก็เหลือน้อย ขอให้เราหมั่นอธิษฐาน อดทน และบากบั่น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้มาแล้ว เราจะได้เห็นพระเยซูเร็วๆ นี้ ได้เพลิดเพลินกับสวรรค์ และได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดร์

เวลาก็เหลือน้อย แต่นิรันดร์กาลนั้นยาวนาน ดังนั้นขอให้เราสะสมทรัพย์สมบัติของเราไว้ในสวรรค์ ที่ซึ่งแมลงหรือสนิมกัดกินไม่ได้ ขอให้เราเตรียมพร้อมทุกวันสำหรับวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า

เวลาก็เหลือน้อย มันผ่านไปอย่างรวดเร็ว! ขอให้เราใช้เวลาที่มีอย่างระมัดระวังและเพื่อเกียรติสิริของพระเจ้า

"พระคริสต์ทรงสถิตที่เบื้องพระหัตถ์ขวาของพระเจ้าด้วยชัยชนะ
พระองค์จะพิพากษาโลกที่ทรงสร้าง
องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ ในพระเมตตาของพระองค์
ผู้ซึ่งมีเสรีภาพที่พระองค์ได้ชำระให้
ขอทรงยกชูข้า จากบาปในวันนี้
กษัตริย์ผู้ทรงครองบัลลังก์เหนือคำสรรเสริญทั้งปวง
พระเจ้า ข้าอธิษฐาน ขอทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอด"
(C. Hubert H. Parry, เพลง "God, We Praise You")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 19

"Brothers and sisters, the time that remains is short." (1 Corinthians 7:29)

Our sufferings must be short, for they are confined to this present world.

Our opportunities to glorify God must be short; therefore we ought to make full use of them.

The prospering of the wicked must be short; let us be prayerful, patient and diligent for the coming of the Lord draws near. We shall soon see Jesus, enjoy heaven and be for ever with the Lord.

Time is short but Eternity is long; therefore let us be laying up for ourselves treasure in heaven where neither moth nor rust can harm them. Let us daily prepare for The Day of the Lord.

Time is short, it flies away! Let us use the time we have carefully and for God's glory.

"Christ, at God's right hand victorious,
You will judge the world You made;
Lord, in mercy help Your servants
For whose freedom You have paid;
Raise us up from dust to glory,
Guard us from all sin today;
King enthroned above all praises,
Save Your people, God, we pray."
(C. Hubert H. Parry, hymn "God, We Praise You")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 18 (บทความสอนใจประจำวัน 18 พฤศจิกายน)

"เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรมให้อิสราเอล" (โฮเชยา 14:5)

บทความสอนใจประจำวัน 18 พฤศจิกายน

"เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรมให้อิสราเอล" (โฮเชยา 14:5 TNCV)

หัวใจของเราโดยธรรมชาติเป็นเหมือนดินที่แห้งแล้ง ปราศจากพืชผล เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีชีวิตฝ่ายวิญญาณ ความสวยงาม หรือผล หากปราศจากพระคุณของพระเจ้า แม้หลังจากที่เราได้เป็นผู้เชื่อในพระคริสต์แล้ว เรายังคงต้องการพระคุณของพระเจ้า ดังดินที่ต้องการน้ำค้าง "ไม่มีพระคุณ ก็ไม่มีผล"

พระเจ้าสัญญา "เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรม เพื่อที่จะทำให้เจ้ากลับมามีชีวิตชีวาด้วยความรักแท้ของเรา" พระเจ้าจะทำให้หัวใจอันแข็งกระด้างของเราอ่อนนุ่มลง พระองค์จะเตรียมหัวใจของเราให้รับเมล็ดพันธุ์แห่งพระคำของพระองค์ และทำให้เราเติบโตและเกิดผล

"จงเรียนรู้ โอจิตใจของข้า ถึงสิ่งที่พระเจ้าบัญชา
ว่ามิใช่ความเชื่อดั่งทรายที่แห้งแล้ง
หากแต่เป็นผลแห่งสีสันของสวรรค์
ด้วยสิ่งนี้ เราพิสูจน์ได้ว่าพระคริสต์ที่เรารู้จักนั้นเป็นจริง
หากในย่างก้าวอันบริสุทธิ์ของพระองค์ที่เราดำเนินไป
ความเชื่อของเราก็สำแดงออกด้วยความรัก"
(R. M. McCheyne)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 18

"I will be like the dew to Israel." (Hosea 14:5)

Our hearts, by nature, are like the dry barren earth. There can be neither spiritual life, beauty nor fruit without God's grace. Even after we have become believers in Jesus, we need God's grace as the earth needs dew. "No grace-no fruit."

God promises, "I will be like the dew to refresh you with My love." God will soften our hard hearts. He will prepare our hearts to receive the seed of His Word and cause us to grow and be fruitful.

"Learn, O my soul, what God demands
Is not a faith like barren sands,
But fruit of heavenly hue.
By this we prove that Christ we know,
If in His holy steps we go;
Faith works by love, if true."
(R. M. McCheyne)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 17 (บทความสอนใจประจำวัน 17 พฤศจิกายน)

"ให้คืนดีกับพระเจ้า" (2 โครินธ์ 5:20)

บทความสอนใจประจำวัน 17 พฤศจิกายน

"ให้คืนดีกับพระเจ้า" (2 โครินธ์ 5:20 THSV2011)

พระเจ้าเป็นความรักแท้ พระองค์เกลียดชังความบาป ในความรักแท้ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์สำหรับเรานั้น พระองค์ให้พระเยซูซึ่งเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาตายเพื่อบาปของเราและนำเราให้คืนดีกับพระเจ้า

เมื่อเราสารภาพบาปของเราและยอมรับว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยของเรา เราก็ได้คืนดีกับพระเจ้า

ผ่านทางความเชื่อในพระเยซู เราก็ได้รับการยกโทษบาปทั้งหมด ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ซึ่งปลอบใจเราและสอนเรา ได้รับพระสัญญาแห่งนิรันดร์กาลในสวรรค์ และได้รับพระพรมากมายเหลือคณานับตามหนทางสู่สวรรค์นั้น!

เราพอใจที่จะดำเนินชีวิตห่างจากพระเจ้าหรือไม่? พระคำของพระองค์ที่มีต่อเราในเช้าวันนี้ คือ "จงกลับมาหาพระเจ้า"

"มีหนทางกลับสู่พระเจ้า
จากทางเดินอันมืดมิดแห่งบาป
มีประตูที่เปิดออก
และคุณอาจเปิดเข้าไปได้
ที่กางเขนบนภูเขานั้นคือที่ที่คุณจะเริ่มต้น
เมื่อคุณมาหาพระเยซูในฐานะคนบาปคนหนึ่ง"
(Eric Hubert Swinstead
, เพลง "There's A Way Back To God")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 17

"Be reconciled to God." (2 Corinthians 5:20)

God is love. He hates sin. In His great love for us He gave His only begotten Son, Jesus, to die for our sins and reconcile us to God.

When we confess our sins and accept Jesus as our Lord and Saviour, we are reconciled to God.

Through faith in Jesus we have forgiveness of all sin, the Holy Spirit to comfort and teach us, the promise of Eternity in heaven, and countless blessings along the Way!

Are we content to walk at a distance from God? His Word to us this morning is "Come back to God."

"There's a way back to God
From the dark paths of sin.
There's a door that is open
And you may go in.
At Calvary's Cross is where you begin
When you come as a sinner to Jesus."
(Eric Hubert Swinstead, hymn "There's A Way Back To God")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


Daily Remembrancer by J. Smith, November 16 (บทความสอนใจประจำวัน 16 พฤศจิกายน)

"ลุกขึ้น ไปให้พ้น! เพราะนี่ไม่ใช่ที่พักของพวกเจ้า" (มีคาห์ 2:10)

บทความสอนใจประจำวัน 16 พฤศจิกายน

"ลุกขึ้น ไปให้พ้น! เพราะนี่ไม่ใช่ที่พักของพวกเจ้า" (มีคาห์ 2:10 TNCV)

ไม่มีที่พักอันถาวรสำหรับผู้เชื่อที่นี่ เรากำลังเดินทางผ่านเขตแดนของศัตรูไปสู่สวรรค์ เสียงหนึ่งที่ดังก้องในหูของเราทุกวัน คือ "ลุกขึ้น ไปให้พ้น"

ในแต่ละวัน เราควรมีความก้าวหน้า อย่าสะสมทรัพย์สมบัติในโลกนี้ แต่สะสมทรัพย์ไว้ในสวรรค์!

หากคุณกำลังมีความก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณที่ดี คุณสามารถคาดหวังว่าจะเจอความทุกข์ยากจาก "โลก"

ดาวิด ผู้ซึ่งทำนายการทนทุกข์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขียนว่า "เหล่าสุนัขรายล้อมข้าพระองค์ ... พวกเขาทิ่มแทงมือและเท้าของข้าพระองค์" (สดุดี 22:16)

จงจำไว้ว่า "ถ้าเราอดทน เราก็จะได้ครองร่วมกับพระองค์ด้วย" (2 ทิโมธี 2:12)

"พระผู้ช่วย ครั้นเวลาแห่งเมืองศิโยน (สวรรค์)
ซึ่งข้าเป็นสมาชิก ผ่านทางพระคุณ
ยอมให้โลกหัวเราะเยาะและสงสาร
ข้าจะถวายเกียรติพระนามพระองค์
ความพึงพอใจสูงสุดของโลกนี้ก็จืดจาง
รวมถึงทุกสิ่งที่โลกนี้โอ้อวดและแสดงออก
แต่ไม่มีใครเลย ยกเว้นบุตรของศิโยนเท่านั้น
ที่รู้จักกับความชื่นชมยินดีที่มั่นคงและทรัพย์สมบัติอันถาวร"
(John Newton, เพลง "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 16

"Arise and depart, for this is not your rest." (Micah 2:10)

There is no permanent home for the believer here- we are on a journey through enemy territory to heaven. A voice is daily sounding in our ears, "Arise and depart."

Each day we should be making progress. Don't lay up treasures on earth- but lay them up in heaven!

If you are making good spiritual progress you can expect trouble from the "world".

David, in foretelling the Lord's sufferings wrote "My enemies surround Me like a pack of dogs-----they have pierced My hands and feet." (Psalm 22:16)

Remember "if we suffer with Him, we shall also reign with Him." (2 Timothy 2:12)

"Saviour, since of Zion's city* (*heaven)
I through grace a member am,
Let the world deride or pity,
I will glory in Your Name.
Fading are the world's best pleasures,
All it's boasted pomp and show;
Solid joys and lasting treasures
None but Zion's children know."
(John Newton, hymn "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 15 (บทความสอนใจประจำวัน 15 พฤศจิกายน)

"พระองค์จะทรงเปี่ยมด้วยพระคุณยิ่งนัก!" (อิสยาห์ 30:19)

บทความสอนใจประจำวัน 15 พฤศจิกายน

"พระองค์จะทรงเปี่ยมด้วยพระคุณยิ่งนัก!" (อิสยาห์ 30:19 TNCV)

บางครั้งพระเจ้าอนุญาตให้เราเห็นความขัดสนฝ่ายวิญญาณที่ใหญ่ยิ่งของเรา เราตระหนักว่าเราตกมาตรฐานของพระองค์อย่างมาก

"พระองค์จะทรงเปี่ยมด้วยพระคุณยิ่งนักเมื่อท่านร้องขอความช่วยเหลือ!" (อิสยาห์ 30:19 TNCV) พระองค์สัญญา "ก่อนที่เขาร้องเรียก เราจะตอบ ขณะที่เขาพูดอยู่ เราจะฟัง" (อิสยาห์ 65:24 TNCV) โอ นี่คือพระคุณอันอัศจรรย์ของพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณ!

ขอให้สิ่งนี้เป็นกำลังใจของเราเมื่อเราผิดหวังในตัวของเราเอง และเป็นคำปลอบใจของเราในยามยากลำบาก อให้เราสรรเสริญพระเจ้าของเราผู้ "เปี่ยมด้วยพระคุณยิ่งนัก" พระองค์เป็นผู้ฟังและผู้ตอบคำอธิษฐานของเรา และพระองค์จะไม่มีทางทำให้เราผิดหวังเลย

"มีสงครามที่ต้องต่อสู้
มีการแข่งขันที่ต้องเข้าร่วมคว้าชัย
มีอันตรายที่จะต้องเผชิญบนหนทาง
แต่พระเจ้าเป็นแสงสว่างและชีวิตของข้า
และพระเจ้าเป็นกำลังและที่พักพิงของข้า
ข้าพึ่งอาศัยในพระคำของพระองค์
พระองค์เป็นพระผู้ช่วยและสหายของข้า
และพระองค์เรียกให้ข้าเชื่อวางใจและเชื่อฟัง
เพราะพระเจ้าเป็นแสงสว่างและชีวิตของข้า
และพระเจ้าเป็นกำลังและที่พักพิงของข้า!"
(Naomi Pope, เพลง "There's a fight to be fought")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 15

"He will be very gracious." (Isaiah 30:19)

Sometimes God allows us to see our very great spiritual need. We realize that we come far short of His standards.

"He will be very gracious if you ask for help." (Isaiah 30:19) He has promised, "Before they call, I will answer; and while they are yet speaking I will hear." (Isaiah 65:24) O, the amazing grace of our gracious God!

Let this be our encouragement when we are disappointed in ourselves, and our comfort in every difficulty. Let us praise our God for being "very gracious." He is the hearer and answerer of our prayers and He will never fail us.

"There's a fight to be fought,
And a race to be run.
There are dangers to meet on the way.
But the Lord is my Light, and the Lord is my Life
And the Lord is my strength and stay
On His Word I depend
He's my Saviour and Friend
And He tells me to trust and obey.
For the Lord is my Light, and the Lord is my Life,
And the Lord is my strength and stay!"
(Naomi Pope, Hymn "There's a fight to be fought")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 14 (บทความสอนใจประจำวัน 14 พฤศจิกายน)

"จงคิดใคร่ครวญถึงสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อท่าน" (1 ซามูเอล 12:24)

บทความสอนใจประจำวัน 14 พฤศจิกายน

"จงคิดใคร่ครวญถึงสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อท่าน" (1 ซามูเอล 12:24 TNCV)

เรามีแนวโน้มที่จะจดจ่ออยู่กับความทุกข์ยากของเรา และลืมพระเมตตาอันมากมายของพระเจ้า

พระเจ้าให้พระบุตรของพระองค์เพื่อเป็นพระผู้ช่วยของเรา พระองค์ได้ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อเป็นผู้นำทางและผู้เล้าโลมใจของเรา และให้พระคำของพระองค์เพื่อเป็นเครื่องชี้ทางแก่เรา พระองค์ได้เรียกเราโดยพระคุณของพระองค์ เมื่อเรากำลังจะมุ่งหน้าไปยังนรก พระองค์ให้หัวใจใหม่แก่เราและยกโทษบาปของเรา พระองค์ได้ให้ความเชื่อเพื่อเราจะวางใจในพระสัญญาของพระองค์ พระองค์ได้จัดหาสิ่งจำเป็นต่างๆ ให้แก่เรา แก้ไขความผิดพลาดของเรา และไม่มีสิ่งดีสิ่งใดที่พระองค์จะหวงไว้จากเรา

พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งความหลุดพ้น จงคิดถึงความดีทั้งสิ้นของพระองค์ และถวายเกียรติสิริแด่พระองค์ทุกวัน พระองค์จะยังคงทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านี้เพื่อเรา และเราจะถวายเกียรติสิริแด่พระองค์ตลอดชั่วนิรันดร์

"เมื่อเราได้ไปอยู่เมืองสวรรค์ ช้านานนับหลายพันปี
ยังมีเวลาร้องเพลงสรรเสริญ เท่ากันกับเมื่อเริ่มต้น"
(John Newton, เพลง "Amazing Grace")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 14

"Think of all the wonderful things He has done for You." (1 Samuel 12:24)

We have a tendency to concentrate on our miseries and forget God's many mercies.

God gave His Son to be our Saviour. He has given the Holy Spirit to be our Guide and Comforter and His Word to give us direction. He called us by His Grace when we were heading to hell. He gave us new hearts and pardoned our sins. He has given us faith to trust His promises. He has supplied all our needs, corrected our mistakes, and no good thing has He kept from us.

Our God is the God of Salvation. Think of all His goodness and glorify Him daily. He will yet do even greater things for us and we shall glorify Him throughout Eternity.

"When we've been there ten thousand years
Bright shining as the sun.
We've no less days to sing God's praise
Than when we first begun."
(John Newton, hymn "Amazing Grace")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 13 (บทความสอนใจประจำวัน 13 พฤศจิกายน)

"ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร" (ทิตัส 3:2)

บทความสอนใจประจำวัน 13 พฤศจิกายน

"ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร" (ทิตัส 3:2 TNCV)

พระผู้ช่วยของเราสั่งให้เรารักศัตรูของเรา ทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังเราและทำร้ายเรา อธิษฐานเผื่อพวกเขา และหาหนทางที่พวกเขาจะได้รับความหลุดพ้น

หากเราใส่ร้ายป้ายสีใคร เราก็ทำให้พระเจ้าเสียเกียรติ นำความผิดมาสู่ตัวเราเอง และทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่พอใจ

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู เราไม่ใช่เจ้าของตัวเราเอง พระองค์ได้จ่ายราคาสูงเพื่อความหลุดพ้นของเราบนกางเขนนั้น เราเป็นของพระองค์ รวมถึงลิ้นของเราด้วย!

จงอย่ายอมให้ตัวคุณเองคิดไม่ดีต่อผู้อื่น อิจฉาผู้อื่น รู้สึกโกรธและขื่นขม หรือหาทางแก้แค้น จงนำสิ่งนั้นมาเข้าเฝ้าพระเจ้าในการอธิษฐาน และฝากไว้กับพระองค์ พระองค์จะแก้ไขสิ่งที่ผิดทุกอย่างในเวลาของพระองค์

"ขอให้วาจาที่ออกจากปากและการใคร่ครวญในใจของข้าพระองค์นั้น
เป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
พระศิลาและพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์" (สดุดี 19:14 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 13

"Speak evil of no one." (Titus 3:2)

We are commanded by our Saviour to love our enemies; to do good to those who hate us, and hurt us; to pray for them and seek their salvation.

If we speak evil of anyone we dishonour God; bring guilt upon ourselves and displease the Holy Spirit.

As believers in Jesus we are not our own. He has paid the price for our salvation by His death on the Cross. We are His- including our tongues!

Never allow yourself to think evil of others; to be jealous of others; to feel angry and bitter, or seek revenge. Take it to God in prayer, and leave it with Him. He will right every wrong in His time.

"Lord, let the words I speak
Be pleasing in Your sight,
And may my inmost thoughts
Be in Your judgement right.
O Lord, You are a Rock to me;
You have redeemed and set me free." (Sing Psalms 19:14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 12 (บทความสอนใจประจำวัน 12 พฤศจิกายน)

"องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า" (ฮีบรู 13:6)

บทความสอนใจประจำวัน 12 พฤศจิกายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า" (ฮีบรู 13:6 THSV2011)

ช่างเป็นคำให้กำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนที่เชื่อในพระเยซูจริงๆ!

เราเป็น "ยิ่งกว่าผู้พิชิต" ตัวเราเองไม่สามารถทำอะไรได้เลยหากไม่มีพระเจ้า แต่ "เราสามารถทำทุกสิ่งได้ผ่านทางพระคริสต์ผู้ให้กำลังแก่เรา" พระองค์จะช่วยเราในทุกความทุกข์ร้อนและความยากลำบาก นำเราออกจากทุกปัญหา และนำทางเราไปยังบ้านแห่งสวรรค์ พระองค์ได้สัญญาทั้งหมดนี้กับทุกคนที่วางใจในพระองค์ รอคอยในพระองค์ ดำเนินชีวิตกับพระองค์ และมีเป้าหมายที่จะถวายเกียรติสิริแด่พระองค์

ขอให้เราอยู่ใกล้พระเยซู (ด้วยการอ่านพระคัมภีร์และการอธิษฐาน) มีมโนธรรมที่บริสุทธิ์ และฝึกฝนความเชื่อที่เรียบง่ายในพระเจ้าของเรา เมื่อนั้นเราจะได้กล่าวอย่างกล้าหาญว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่กลัว ใครจะทำอะไรกับข้าพเจ้าได้เล่า?"

หากพระเจ้าช่วยเราแล้ว ไม่มีอำนาจใดจะมาชนะเราได้!

"เราทุกคนต้องเผชิญปัญหาและการทดลอง
แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เคียงข้างและไม่ปล่อยให้เราล้มลง
พระองค์จะอุ้มชูเราให้ผ่านพ้น และให้พระคุณแก่เรามากขึ้น
ขณะที่เราอ่านพระคำของพระองค์ และเพ่งมองดูพระพักตร์ของพระองค์"
(G. F.)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 12

"The Lord is my helper." (Hebrews 13:6)

What a great encouragement to those who believe in Jesus!

We are "more than conquerors." We ourselves can do nothing right apart from God; but "we can do all things through Christ who strengthens us." He will help us in every distress and difficulty, bring us out of every trouble and lead us to our heavenly home. All this is promised to everyone who trusts in Him, waits for Him, walks with Him and aims to glorify Him.

Let us keep close to Jesus (by reading the Bible and prayer); have a clear conscience; and exercise simple faith in our God. Then we may boldly say, "The Lord is my helper, I will not fear. What can man do to me?"

If God helps us, no power can overcome us!

"Troubles and trials are sent to us all,
But our Lord is beside us and won't let us fall;
He'll carry us through, and give us more grace,
As we look in His Word, and gaze on His face."
(G. F.)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 11 (บทความสอนใจประจำวัน 11 พฤศจิกายน)

"สิ่งที่เราบอกกับท่านเราก็บอกกับทุกๆ คนว่า 'จงเฝ้าระวัง!' " (มาระโก 13:37)

บทความสอนใจประจำวัน 11 พฤศจิกายน

"สิ่งที่เราบอกกับท่านเราก็บอกกับทุกๆ คนว่า 'จงเฝ้าระวัง!' " (มาระโก 13:37)

เราไม่รู้ว่าเราจะจากโลกนี้ไปเมื่อไร เราไม่รู้เช่นกันว่าพระเยซูจะกลับมาเมื่อไร ดังนั้นพระองค์จึงสั่งให้เราพร้อมเสมอ

เราควรปรารถนาและอธิษฐานขอการกลับมาของพระองค์ทุกวัน การกลับมาของพระองค์แน่นอนและจะเป็นไปอย่างเฉียบพลัน พระเจ้าไม่บอกเราถึงเวลาของการมานี้อย่างมีวัตถุประสงค์ในพระปัญญาและพระเมตตาของพระองค์

เราควรเฝ้าดูหมายสำคัญของการกลับมาของพระองค์ (มัทธิว 24, ลูกา 21)

เราควรดำรงชีวิตดังเช่นที่เราอยากให้พระองค์มาพบเรา

คุณปรารถนาให้พระองค์พบเราขณะที่เรากำลังใช้เวลาอย่างสูญเปล่า บ่นคร่ำครวญ หรือทำบาปอยู่หรือไม่?

จงเฝ้าระวังบาปทุกอย่าง จงทำทุกสิ่งที่คุณทำได้เพื่อช่วยให้ผู้อื่นได้รู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า

"เมื่อกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริของข้าฯ เสด็จมา
เพื่อนำผู้ที่พระองค์ไถ่ไว้กลับบ้าน
เมื่อนั้นเราจะร้องบทเพลงบทใหม่
สรรเสริญพระเจ้า! องค์พระผู้ไถ่!"
(P. Bliss, เพลง "Hallelujah, What a Savior")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 11

"I say to you, what I say to everyone, 'Watch for Him.' " (Mark 13:37)

We don't know when we'll die, nor do we know when Jesus will return, so we are commanded to be always ready.

We should be daily longing for and praying for His coming. It is certain and will be sudden. God in His wisdom and mercy has purposely not told us when it will be.

We should watch for the signs of His coming (Matthew 24, Luke 21).

We should live as we would like Jesus to find us.

Would you wish to be found wasting time – grumbling- sinning?

Watch against every sin. Do all you can to help others to know the Lord.

"When He comes, our glorious King,
All His ransomed home to bring,
Then anew this song we'll sing,
Hallelujah! What a Saviour!"
(Philip P. Bliss, hymn "Hallelujah! What a Savior!")
*Matthew24 & Luke 21

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 10 (บทความสอนใจประจำวัน 10 พฤศจิกายน)

"จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า!" (ยอห์น 1:36)

บทความสอนใจประจำวัน 10 พฤศจิกายน

"จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า!" (ยอห์น 1:36)

ประชากรของพระเจ้าในสมัยพันธสัญญาเดิมจำเป็นต้องถวายแกะตัวที่ดีที่สุดในฝูงเพื่อเป็นเครื่องบูชา และบาปของเขาก็ได้รับการอภัยผ่านทางความเชื่อในพระเจ้า เครื่องบูชาเหล่านี้เล็งไปถึงวันที่พระองค์ผู้ที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ว่าจะมอบชีวิตของพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาล้างบาป

ขณะที่กำลังเดินอยู่กับเหล่าสาวก ยอห์นก็ได้ระบุว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์ (ผู้ที่พระเจ้าได้เจิมไว้) ที่พระเจ้าได้สัญญาไว้

เรามองย้อนกลับไปยังเวลาที่พระเยซูตายบนไม้กางเขน และผ่านทางความเชื่อ เราชื่นชมยินดีในการยกโทษบาปและสันติสุขกับพระเจ้า

จงพึ่งพาพระองค์ทุกวัน และรู้จักกับสันติสุขและความชื่นบานแห่งพระเจ้า

"ไม่มีสิ่งอื่นใดที่มีค่าพอ
ที่จะจ่ายชำระเพื่อบาป
พระองค์ผู้เดียวที่เปิดประตู
แห่งสวรรค์ และให้เราเข้าไป"
(Cecil F. Alexander, เพลง "There is a green hill far away")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 10

"Look! There is the Lamb of God." (John 1:36)

God's people in Old Testament times were required to sacrifice the best lamb in their flocks. Through faith in God their sins were forgiven. These sacrifices pointed to the day when God's promised One would provide full atonement for sin.

John, walking along with his disciples, identified Jesus as the promised Messiah.

We look back to the time that Jesus died on the cross, and through faith we rejoice in forgiveness of sin and peace with God.

Look to Him daily and know God's peace and joy.

"There was no other good enough
To pay the price of sin.
He only could unlock the gate
Of heaven, and let us in."
(Cecil F. Alexander, hymn "There is a green hill far away")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 09 (บทความสอนใจประจำวัน 09 พฤศจิกายน)

"ข้าแต่พระเจ้า ตั้งแต่เยาว์วัยพระองค์ทรงสอนข้าพระองค์" (สดุดี 71:17)

บทความสอนใจประจำวัน 09 พฤศจิกายน

"ข้าแต่พระเจ้า ตั้งแต่เยาว์วัยพระองค์ทรงสอนข้าพระองค์" (สดุดี 71:17 TNCV)

ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริงๆ ที่เราได้รับการสอนโดยพระเจ้า! ขณะที่เราอ่านพระคัมภีร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์สอนให้เรารู้ว่าเราเป็นคนบาป พระองค์สอนเราถึงพระบัญญัติของพระเจ้า รวมถึงความบริสุทธิ์ คำกล่าว และโทษของบัญญัติเหล่านั้น พระองค์สอนเราถึงข่าวดีแห่งความหลุดพ้นที่สมบูรณ์แบบและนำมาซึ่งอิสรภาพ พระองค์สอนเราให้รู้จักพระเจ้าผู้เป็นพ่อในสวรรค์ของเรา คำสอนของพระองค์ประกอบด้วยฤทธานุภาพและสิทธิอำนาจ

คุณได้รับการสอนโดยพระเจ้าหรือไม่? เราสามารถพิจารณาได้จากผล

คำสอนของพระเจ้าก่อให้เกิดความถ่อมใจเสมอ เรารู้ว่าเราอ่อนแอและต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้ามากเพียงไร เรารักพระเจ้าและเกลียดชังความบาป เราชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่พระเยซูได้ทำเพื่อเราในฐานะพระผู้ช่วยของเรา คำสอนของพระเจ้าปกป้องเราจากอันตรายและคำหลอกลวงของซาตาน

หากเราเชื่อฟังคำสอนของพระเจ้า เราก็ถวายเกียรติแด่พระองค์ และเราก็จะตั้งตารอคอยที่จะอยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดร์

พระเจ้าของเราตรัสว่า "เราจะสอนเจ้า"

โอพระเจ้า ขอทรงสอนข้าพระองค์ และทำให้หมดทั้งชีวิตของข้าพระองค์เป็นของพระองค์

"ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงสำแดงหนทางของพระองค์แก่ข้าพระองค์
ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าพระองค์
ขอทรงนำข้าพระองค์ไปในความจริงของพระองค์และสอนข้าพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์" (สดุดี 25:4-5 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 09

"O God, You have taught me from my earliest childhood." (Psalm 71:17)

What a privilege to be taught by God! As we read the Bible the Holy Spirit teaches us to recognise our sinfulness. He teaches us God's laws- their purity, claims and penalties. He teaches us the Good News of Salvation in all its fullness and freedom. He teaches us to know God as our Heavenly Father. His teaching is with power and authority.

Are you taught by God? We can judge by the results.

God's teaching always produces humility –we know how weak we are and how much we need God's help. We love God and hate sin. We rejoice in all that Jesus has done for us as our Saviour. God's teaching protects us from dangers and Satan's lies.

If we obey God's teaching we glorify God; and look forward to being with Him for Eternity.

Our God says "I will teach you." Lord, teach me, and make me entirely Yours.

"O Lord, reveal to me Your ways,
And all Your paths help me to know.
Direct and guide me in Your truth;
Instruct me in the way to go." (Sing psalms 25:4-5)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 08 (บทความสอนใจประจำวัน 08 พฤศจิกายน)

"ไม่มีอะไรแต่ก็ยังเป็นเจ้าของทุกสิ่ง" (2 โครินธ์ 6:10)

บทความสอนใจประจำวัน 08 พฤศจิกายน

"ไม่มีอะไรแต่ก็ยังเป็นเจ้าของทุกสิ่ง" (2 โครินธ์ 6:10 TNCV)

ครอบครัวขององค์พระผู้เป็นเจ้ามักยากจน ผู้คนอาจจะมองพวกเขาอย่างไร้ค่าหรือไร้ความสำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาเป็นเจ้าของทุกสิ่ง เพราะพวกเขามีพระเจ้า!

พระเจ้าของเราได้กล่าวไว้ว่า "เราเป็นมรดกของเขา" (เอเสเคียล 44:28) และเราทูลพระองค์ว่า "พระองค์เป็นของข้าพระองค์ โอ พระเจ้า"

นิรันดร์กาลของพระองค์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเรา พระลักษณะที่ไม่เปลี่ยนแปลงของพระองค์เป็นความมั่นใจของเรา พระเมตตาของพระองค์เป็นการจัดเตรียมที่หลั่งไหลมาเพื่อเรา พระปัญญาของพระองค์เป็นสิ่งที่นำชีวิตของเรา ความเที่ยงตรงของพระองค์เป็นเครื่องป้องกันของเรา การสถิตทุกแห่งของพระองค์เป็นการร่วมเดินทางอันหวานชื่นของเรา ความบริสุทธิ์ของพระองค์เป็นน้ำพุนำพาให้ชีวิตเราบริสุทธิ์ สิ่งเหล่านี้เป็นพระพรที่เราเพลิดเพลิน!

เรามีพระเจ้าเป็นพระเจ้าของเรา! ขอให้เรารักและถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า!

"ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์
ข้าพระองค์สัญญาว่าจะเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์"
(สดุดี 119:57 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 08

"As having nothing, and yet possessing all things." (2 Corinthians 6:10)

The Lord's family are often poor; people may look at them as having nothing of value, or of importance; but in reality they possess all things, because they have God!

Our God has said, "I am their inheritance," (Ezekiel 44:28) and we say, "You are mine, O Lord."

His eternity is the duration of our happiness –His unchanging character is our confidence- His mercies are our overflowing provision- His wisdom is our guidance- His justice is our defence- His omnipresence is our sweet company – His holiness is the fountain through which we become holy. These are the blessings we enjoy!

We have God for our God! Let us love and glorify the Lord!

"You, O Lord, are everything I've longed for;
I have promised to obey Your Word.
With my whole heart I have sought Your favour;
As You promised, grant me grace, O Lord."
(Sing Psalms 119:57)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Daily Remembrancer by J. Smith, November 07 (บทความสอนใจประจำวัน 07 พฤศจิกายน)

"จงเคลื่อนไปข้างหน้าเถิด" (อพยพ 14:15)

บทความสอนใจประจำวัน 07 พฤศจิกายน

"จงเคลื่อนไปข้างหน้าเถิด" (อพยพ 14:15)

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู ไม่มีการยืนอยู่กับที่ หากเราไม่เคลื่อนไปข้างหน้า เราก็กำลังถอยหลัง คำสั่งของกัปตันของเราคือ "จงเคลื่อนไปข้างหน้า"

จงเคลื่อนไปข้างหน้าในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า สู่อาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า

จงเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยการพึ่งพาสติปัญญา ฤทธิ์อำนาจ และความรักแท้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

จงเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกันกับประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะถวายเกียติแด่พระองค์ จนกว่าพระองค์จะเรียกเราให้ไปเข้าเฝ้าต่อหน้าพระองค์

จงเคลื่อนไปข้างหน้าแม้จะต้องเผชิญความยากลำบาก ความกลัว และความท้อใจ

พระเจ้าได้สัญญาว่าจะเดินทางไปด้วยกับคุณ พระองค์จะสวมมงกุฎให้คุณที่จุดหมายปลายทางของการเดินทาง ขอให้เรารอคอยและเร่งเร้า "วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า" ไม่มีสิ่งใดที่อยู่เบื้องหลังเรามีค่าพอที่เราจะคิดถึง เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ให้กับเราที่เบื้องหน้า

ขอที่คำขวัญประจำวันของเราจะเป็น "ไปข้างหน้า ไปข้างหน้า"

"ท่ามกลางความเสียใจอย่างหนัก และความทุกข์ใจบ่อยๆ
จงเคลื่อนไปข้างหน้าเถิดคริสเตียน
อย่าห่อเหี่ยวใจ อย่ากลัว อย่ายอมแพ้
อย่าออกจากสนามรบ
จงฟันฝ่าไปข้างหน้า เพื่อคว้ารางวัล
และเมื่อนั้นเราก็จะพบกับเกียรติสิรินิรันดร์"
(Henry Kirke White, เพลง "Much in Sorrow, Oft in Woe")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 07

"Go forward." (Exodus 14:15)

As believers in Jesus, there is no standing still; we are either going forward or going back. Our Captain's command is "Go forward."

Go forward in the Lord's way; in the Lord's work; to the Lord's kingdom.

Go forward relying on the Lord's wisdom and His power and love.

Go forward in union with the Lord's people with zeal for His glory; until summoned into His presence.

Go forward even in the face of difficulties, fears and discouragements.

God has promised to go with you. He will crown your journey's end. Let us look for, and hasten the "day of the Lord." There is nothing behind us worth a thought, if compared with what is set before us by the Lord.

May our daily motto be "Forward! Forward."

"Much in sorrow, oft in woe*, (*often in distress.)
Onward, Christian, onward go;
Shrink not, fear not, dare not yield,
Never quit the battle field;
Forward press and win the prize,
Then to endless glory rise."
(Henry Kirke White, hymn "Much in Sorrow, Oft in Woe")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie