วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 30 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 30 มิถุนายน

"ข้าพระองค์เป็นของพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด" (สดุดี 119:94 THSV2011)

หากเราเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว เราก็ไม่ได้เป็นของตัวเราเองหรือของโลกนี้ เราไม่ได้เป็นผู้รับใช้ของความาปอีกต่อไป

เราได้มอบชีวิตเราไว้ให้อยู่ในมืของพระเจ้าแล้ว เพื่อที่เราจะได้หลุดพ้นด้วยพระคุณ อุทิศตนเพื่อการรับใช้พระองค์ และดำรงชีวิตเพื่อเกียรติสิริของพระองค์

ราเป็นลูกของพระองค์ ผู้รับใช้ของพระองค์ ทหารของพระองค์ และผู้ร่วมงานของพระองค์ด้วยความรักแท้และการเป็นหนึ่งเดียวกัน

เพราะเราเป็นของพระองค์ ราจึงสามารถพึ่งพาการช่วยเหลือจากพระองค์ในทุกปัญหา พระองค์จะช่วยชีวิตเรา นำเราให้รอดพ้นจากปัญหา

ขอให้เราดำเนินชีวิตให้สมกับที่เป็นบุตรที่รักของพระเจ้า และคาดหวังที่พระองค์จะ "ประทานพรทุกอย่างแก่เราทั้งหลายอย่างเหลือล้น เพื่อว่าเมื่อมีทุกอย่างเพียงพออยู่เสมอ เรายังจะมีเหลือล้นสำหรับการดีทุกอย่างด้วย" (2 โครินธ์ 9:8)

"เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ใหญ่ยิ่งถึงฟ้าสวรรค์ ความซื่อสัตย์ของพระองค์สูงถึงเมฆ" (สดุดี 57:10 THSV2011)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 30

"I am Yours, save me." (Psalm 119:94)

If we are the Lord's, we do not belong to ourselves or to the world. We are no longer servants to sin.

We have given ourselves into God's hands, to be saved by His grace, devoted to His service, and to live for His glory.

We are His children, His servants, His soldiers, His partners by love and union.

Being His, we can depend on His help in every trouble. He will save and deliver us.

Let us walk worthy of God as His dear children, and expect Him "to make all grace abound towards us, that we having all sufficiency in all things, may abound in every good work." (2 Corinthians 9:8)

"For your unfailing love is as high as the heavens.
Your faithfulness reaches to the clouds." (Psalm 57:10 NLT)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 29 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 29 มิถุนายน

"ลูกเอ๋ย ขอใจของเจ้าให้ข้าเถอะ" (สุภาษิต 23:26 THSV2011)

พระเจ้าของคุณขอใจของคุณ พระองค์สร้างใจของคุณขึ้นมาด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ พระองค์ต้องการครอบครองมันด้วยพระคุณของพระองค์ ขอให้เรายอมจำนนมอบใจของเราให้กับพระองค์ในเช้าวันนี้และในทุกๆ เช้า ขอให้เราร้องขอให้พระองค์ชำระใจของเราให้บริสุทธิ์ เติมใจของเราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพิทักษ์รักษาใจของเราด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์

หากเรามอบใจของเราให้กับพระเจ้า ชีวิตของเราจะสอดคล้องกับพระคำของพระองค์ หากพระองค์ครอบครองชีวิตของเรา เราก็จะดำรงชีวิตเหมือนกับพระเยซู

"ผู้ที่กล่าวว่า 'ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์' แต่ไม่ได้ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ คนนั้นเป็นคนพูดมุสาและสัจจะไม่ได้อยู่ในเขาเลย" (1 ยอห์น 2:4 THSV2011) จะแย่สักเพียงใดหากเราคิดว่าเราเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ยังคงมีใจที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของบาป ซาตาน และโลกนี้!

พระเยซูบอกว่า "ขอใจของเจ้าให้เราเถิด" ขอให้คำตอบของเราจะเป็น "องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์นำใจของข้าพระองค์ไป และครอบครองมันไว้ตลอดไป"

"สู่จิตใจข้าฯ สู่จิตใจข้าฯ
ขอทรงเสด็จมา พระเยซูเจ้า
ขอทรงเสด็จมาในวันนี้ ขอทรงสถิตอยู่ด้วย
ขอทรงเสด็จมา พระเยซูเจ้า"
(Harry Dudley Clarke, เพลง "Come Into My Heart, O Lord Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 29

"My son, give Me your heart." (Proverbs 23:26)

Your God asks for your heart. He made it by His power, He wants to rule it by His grace. Let us surrender our hearts to Him this morning, and every morning. Let us ask Him to make them holy, to fill them with the Holy Spirit, and to keep them by His power.

If the heart is given to God, the life will be according to His word. If He rules in us, we shall live as Jesus lived.

"He who says ,'I know Him,' but does not keep His commandments, is a liar, and the truth is not in him." (1 John 2:4) How awful, to think that we are the Lord's, and yet to have the heart under the influence of sin, Satan and the world!

Jesus says, "Give me your heart." Let our reply be, "Lord, take it and rule in it for ever."

"Into my heart, into my heart,
Come into my heart, Lord Jesus!
Come in to-day;come in to stay.
come into my heart, Lord Jesus." 
(Harry Dudley Clarke, hymn "Come Into My Heart, O Lord Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 28 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 28 มิถุนายน

"แต่พระเยโฮวาห์จะทรงเป็นความหวังแห่งประชาชนของพระองค์" (โยเอล 3:16 TKJV)

อาจมีการทดลองที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่พระเจ้าของเราเป็นความหวังของเราเราจะได้รับความช่วยเหลือในพระองค์ผู้เป็นที่ลี้ภัยของเรา คำสัญญา ลักษณะ และการตายบนไม้กางเขนของพระเยซูเป็นรากฐานของความวางใจของเรา พระคัมภีร์สอนให้เราวางใจในทุกเวลาและสำหรับทุกสิ่ง เราไม่มีเหตุที่จะต้องกลัวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามพระเจ้าของเราเป็นที่ลี้ภัยของเรา

ขอพระเจ้าแห่งความหวังใจจะเติมชีวิตเราด้วยความชื่นบานและสันติสุขในความเชื่อ เพื่อที่เราจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังใจโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอให้เราตั้งตารอคอยความหวังใจที่เป็นพรนั้น รอคอยวันที่พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระผู้ช่วยและพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของเราจะปรากกายด้วยเกียรติสิริ

เพราะพระเยซูเป็นความหวังใจของเรา ขอให้เกียรติสิริของพระองค์เป็นเป้าหมายของเราและการรับใช้พระองค์เป็นความปีติยินดีของเรา

"พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก 
ฉะนั้นเราจะไม่กลัว แม้ว่าแผ่นดินโลกจะเปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าภูเขาทั้งหลายจะโคลงเคลงลงสู่สะดือทะเล" (สดุดี 46:1 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 28

"The Lord will be the hope of His people." (Joel 3:16)

Many unexpected trials may occur; but our God is our hope. He is the refuge in whom we find help. His promises, character, and the precious death of Jesus for our sins are the foundation of our trust. The Bible teaches us to trust at all times, and for all things. No matter what happens, we have no cause to fear, our God is our refuge.

May the God of hope fill us with all joy and peace in believing, that we may abound in hope by the Holy Spirit. Let us look for that blessed hope even the glorious appearing of our great God, even our Saviour, Jesus Christ.

As Jesus is our hope, let His glory be our aim, and His service our delight.

"God is our refuge and our strength, 
our ever present aid; 
And therefore though the earth gives way, 
We will not be afraid." (Psalm 46:1)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 27 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 27 มิถุนายน

"จงระลึกถึงภรรยาของโลทเถิด" (ลูกา 17:32 THSV2011)

ภรรยาของโลทได้ต้อนรับทูตสวรรค์ และคอยปรนนิบัติพวกเขา เธอเชื่อในข้อความที่ได้รับจากพวกเขา และได้ทำตาม และได้ออกจากเมืองโสโดม เธอละจากบรรดาผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า และร่วมเดินทางกับบรรดาธรรมิกชน แต่เธอต้องเสียชีวิตเพราะไม่เชื่อฟังพระเจ้า

เป็นสิ่งอันตรายที่จะขัดขืนคำสั่งของพระเจ้า พระองค์จะให้เกียรติการเชื่อฟังของพวกเรา

หัวใจของคุณได้ถูกแยกออกจากโลกนี้หรือไม่? จงอย่าหยิ่งผยอง แต่จงยำเกรงพระเจ้า จงระลึกถึงภรรยาของโลทเถิด

"เชื่อและฟังคำ ไม่มีทางอื่นเที่ยงธรรม
พระเยซูโปรดให้ความสุข แก่ผู้เชื่อและฟังคำ"
(John Henry Sammis, เพลง "เชื่อและฟังคำ")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 27

"Remember Lot's wife." (Luke 17:32)

She received the angels, and hospitably entertained them; she believed their message, and acted upon it; and left Sodom. She left the ungodly, and went in the company of the saints; yet her heart was left in the city, and she looked back. She died because she disobeyed God.

It is dangerous to disobey God's commands. God will be honoured by our obedience.

Are our hearts detached from the world? Be not high-minded, but fear. Remember lot's wife.

"Trust and obey, for there's no other way,
To be happy in Jesus, but to trust and obey."
(John Henry Sammis, Hymn "Trust and Obey")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 26 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 26 มิถุนายน

"พระคุณของเราเพียงพอสำหรับเจ้า" (2 โครินธ์ 12:9 TNCV)

อย่าพึ่งพาความช่วยเหลือจากที่อื่นใด พระเยซูยืนยันให้คุณมั่นใจว่าพระคุณของพระองค์คือทั้งหมดที่คุณจำเป็นต้องมี

พระองค์ยินดีและสนับสนุนให้คุณรับพระคุณจากพระองค์ เพื่อคุณจะเข้มแข็งในพระคุณซึ่งพบได้ในพระเยซู พระคุณเพียงพอที่จะช่วยคุณให้ผ่านพ้นทุกความยากลำบาก ให้กำลังแก่คุณสำหรับทุกภาระหน้าที่ ให้ชัยชนะแก่คุณเหนือทุกการทดลอง และเติมชีวิตคุณด้วยความชื่นบานและสันติสุขในการเชื่อวางใจพระองค์ พระคุณของพระองค์มีอำนาจไม่จำกัด ให้แก่คุณเปล่าๆ ดำรงอยู่เสมอ และนำคุณสู่ความหลุดพ้น

จงเข้ามาใกล้พระบัลลังก์แห่งพระคุณในเช้าวันนี้เพื่อคุณจะได้รับพระคุณสำหรับวันนี้ จงเข้ามาทุกวันและทุกคราวที่คุณรู้สึกอ่อนแอ หวาดกลัว หรือเสียใจ

เปาโลร่วมกับคนชอบธรรมและผู้ที่ยอมตายเพื่อความเชื่อทั้งหมดพบว่าพระคุณของพระองค์เพียงพอ และคุณก็จะพบเช่นเดียวกัน

ท่านบอกว่า "ฉะนั้นขอให้เราเข้ามาใกล้พระบัลลังก์แห่งพระคุณด้วยความมั่นใจ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตาและจะพบพระคุณที่จะช่วยเหลือเราเมื่อถึงคราวจำเป็น" (ฮีบรู 4:16 TNCV)

"พระนามอันล้ำค่า พระศิลาที่ข้าฯ ก่อชีวิตขึ้นมา
โล่และที่ซ่อนภัยของข้าฯ
แหล่งขุมทรัพย์ที่ไม่เคยทำให้ข้าฯ ผิดหวัง
อันเต็มเปี่ยมไปด้วยพระคุณอันไร้ขีดจำกัด"
(
J. Newton)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 26

"My grace is sufficient for you." (2 Corinthians 12:9)

Don't look anywhere else for help. Jesus assures you that His grace is all you need.

You are welcome to it. You are encouraged to have it- to be strong in the grace which is in Jesus. It is enough to help you over every difficulty, to strengthen you for every duty, to give you victory over every temptation, and to fill you with all joy and peace in believing. His grace is almighty- it is free- it is lasting- it brings salvation.

Go to His throne of grace this morning to receive grace for to-day; go every day; and whenever you feel weak, fearful or sad.

Paul, and all the saints and martyrs, found His grace sufficient, and so will you. He says "Come boldly to the throne of our gracious God. There we will receive His mercy, and we will find grace to help when we need it." (Hebrews 4:16)

"Dear name, the Rock on which I build,
My shield and hiding place;
My never-failing treasury filled
With boundless stores of grace." 
(J. Newton)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 25 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 25 มิถุนายน

"ท่านควรจะเป็นคนแบบไหน?" (2 เปโตร 3:11 THSV2011)

คนที่บอกว่าเป็นผู้เชื่อในพระเยซูและมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเขาควรแตกต่างจากคนทั่วไป เราเชื่อว่าโลกปัจจุบันนี้จะล่วงไป เราคาดหวังสวรรค์ใหม่และโลกใหม่ที่ซึ่งจะไม่มีบาปอีกต่อไป

เราเป็นคนแปลกถิ่นในโลกนี้และควรดำรงชีวิตเช่นนั้นด้วยการจดจ่อกับสิ่งที่เป็นนิรันดร์ เราควรตั้งตารอคอย หมั่นอธิษฐาน มีใจขอบพระคุณ มีชีวิตที่บริสุทธิ์ และอดทน เราควรพอใจในสิ่งที่มีอยู่ด้วยารตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเหมือนพระเยซู ดำรงชีวิตดั่งเช่นอาจารย์เปาโล คือตายต่อตัวเองทุกๆ วัน

เราเชื่อจริงๆ หรือไม่ว่าโลกปัจจุบันนี้จะเสื่อมสลายไป? ถ้าเชื่อเช่นนั้น เราดำรงชีวิตตามที่เราเชื่อหรือไม่? เรากำลังสะสมสมบัติในสวรรค์หรือไม่? เรามั่งมีในการดีทั้งปวงหรือไม่? เราพร้อมสำหรับการกลับมาของพระเยซูหรือไม่?

"จงใช้เวลาที่จะบริสุทธิ์ โลกนี้เคลื่อนหน้าไปอย่างรวดเร็
จงใช้เวลาในที่ลับ อยู่กับพระเยซูเป็นการส่วนตัว
คุณจะเป็นเหมือนพระเยซู ด้วยการเพ่งมองไปที่พระองค์
แล้วเพื่อนของคุณก็จะเห็นลักษณะของพระองค์ในการกระทำของคุณ"
(William D. Longstaff, เพลง "Take time to be holy")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 25

"What kind of people should you be?" (2 Peter 3:11)

Those who say that they believe in Jesus, and have the Holy Spirit in them, ought to be different from others. We believe that this present world will pass away. We expect a new heaven and new earth where there will be no sin.

We are strangers in this world and should live as such, concentrating on eternal things. We ought to be watchful, prayerful, thankful, holy and patient. We ought to be content with what we have aiming to be like Jesus; to live as Paul lived, dying daily to self.

Do we really believe that this present world will be dissolved? If so, are we living accordingly? Are we laying up treasure in heaven? Are we rich in good works? Are we ready for the coming of Jesus?

"Take time to be holy, the world rushes on;
Spend much time in secret with Jesus alone-
By looking to Jesus, like Him you shall be;
Your friends in your conduct His likeness shall see." 
(William D. Longstaff, hymn "Take time to be holy")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 24 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 24 มิถุนายน

"พวกท่านเป็นพงศ์พันธุ์ที่ทรงเลือกสรร" (1 เปโตร 2:9 THSV2011)

พระเจ้าได้เลือกผู้เชื่อทุกคนไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะสร้างโลก การเลือกนี้หลั่งไหลมาจากความรักแท้และสิทธิอำนาจของพระเจ้า สิ่งนี้ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่ได้ทำให้คนเหลือคณานับได้รับความมั่นใจในความหลุดพ้น และเป็นเพื่อเกียรติสิริของพระเจ้า

พระองค์เลือกเราในพระเยซูผู้นำเราสู่ความหลุดพ้น การเลือกนี้เป็นจากพระคุณอันบริสุทธิ์และนำสู่ความบริสุทธิ์ เราได้รับการเลือกให้ได้รับการไถ่จากความตาย ให้ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์จากความบาป ให้แยกตัวออกจากโลกนี้ ให้อุทิศชีวิตเพื่อพระเจ้า และให้เติบโตเข้าสู่สภาพแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้า และเมื่อพระเจ้าเลือกเราแล้ว เราจึงเลือกพระเจ้าตอ พระองค์เลือกเราให้เป็นเจ้าสาวของพระเยซู และเราเลือกพระเยซูให้เป็นเจ้าบ่าที่รักของเรา

สหายที่รัก หากเราเป็นคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ เราก็บริสุทธิ์ เราเห็นพ้องต้องกันกับพระเยซู อให้เราสำแดงสิ่งนี้ด้วยชีวิตของเราและเพลิดเพลินกับสิ่งนี้ จงระลึกด้วยเช่นกันว่าคำเชิญชวนของพระเจ้ามีมาถึงทุกคน และทุกคนที่แสวงหาพระองค์ก็จะพบพระองค์

"จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน" (มัทธิว 7:7 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 24

"You are a chosen generation." (1 Peter 2:9)

Every believer has been chosen by God from before the foundation of the world. Election flows from God's love and authority. It injures none but ensures salvation for countless millions and for God's glory.

He chose us in Christ Jesus as our Saviour; it was of pure grace and leads to holiness. We were chosen to be redeemed from death; purified from sin; separated from the world; devoted to God; and raised to a state of oneness with God. Being chosen by God, we choose God in return. He chose us to be the Bride of Jesus, and we choose Jesus to be our beloved Bridegroom.

Dear friends, if we are God's elect we are holy; we are in unison with Jesus. Let us show by our lives, and enjoy this. Remember too that God's invitation is to all, and all who seek Him will find Him.

"Ask, and it shall be given unto you, 
Seek, and you shall find, 
Knock, and the door shall be opened unto you 
Hallelu, Hallelujah!"

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 23 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 23 มิถุนายน

"พวกฮีบรูเหล่านี้มาทำอะไร?" (1 ซามูเอล 29:3 THSV2011)

กองทัพของดาวิดได้เคลื่อนทัพไปร่วมกับกองทัพของฟิลิสเตีย นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเป็นสิ่งผิดเมื่อประชากรของพระเจ้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกนี้ ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่พระคัมภีร์สอนไว้

เราอาจถามว่า "พวกคริสเตียนเหล่านี้มาทำอะไรที่นี่? เหตุใดคุณถึงร่วมเป็นพวกเดียวกันกับโลก? เจ้านายของคุณกล่าวว่า 'จงออกมาและแยกตัวออกต่างหาก' การอยู่ที่นี่ของคุณเป็นการสนับสนุนบาปหรือไม่? พระองค์ได้บอกไว้ว่า 'จงบริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์' คุณกำลังทำอะไรในดินแดนของซาตาน? หรือในยศตำแหน่งของข้าศึก?"

สหายที่รัก คุณควรที่จะอยู่ใกล้ชิดกับพระเยซูเหนือสิ่งอื่นใด จงเป็นสหายกับคนของพระองค์ และรักษาชีวิตของคุณไว้ไม่ให้ด่างพร้อยด้วยทางของโลก

"จงนำโลกนี้ไป และให้พระเยซูแก่ข้าฯ
ความวางใจของข้าฯ อยู่ที่กางเขนของพระองค์
จนกว่าจะได้เห็นนิมิตที่ชัดและสว่างจ้ามากขึ้น
เมื่อข้าฯ ได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าฯ ต่อหน้า"
(Fanny J. Crosby, เพลง "Take the World, But Give Me Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 23

"What are these Hebrews doing here?" (1 Samuel 29:3)

David's army were marching along with the Philistine army; this was decidedly wrong; and it is as wrong when God's people unite with the world contrary to the teaching of the Bible.

We may ask "What are these Christians doing here? Why are you joining with the world? Your Master has said, 'Come out and be separate.' Do you by your presence sanction sin? He has said, 'Be holy, for I am holy.' What are you doing on Satan's ground? In the enemy's ranks?"

Dear friends, you should above all keep close to Jesus; be friends with His people, and keep yourselves unspotted from the world.

"Take the world, but give me Jesus,
In His cross my trust shall be,
Till with clearer, brighter vision,
Face to face my Lord I see." 
(Fanny J. Crosby, hymn "Take the World, But Give Me Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 22 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 22 มิถุนายน

"พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ" (1 โครินธ์ 10:13 TKJV)

นี่เป็นที่ยึดเหนี่ยวของผู้เชื่อ หลายครั้งหลายคราที่เราสั่นคลอนเพราะความไม่เชื่อ เราอาจไม่รู้สึกถึงการอยู่ด้วย ฤทธิ์อำนาจ และการปลอบโยนจิตใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์เลย เราอาจไม่ค่อยชื่นชอบที่จะอธิษฐาน เราอาจถูกทดลองโดยซาตาน และอาจอารมณ์เสียจากความคิดที่คอยรบกวน แต่พระเจ้าไม่มีวันทำให้เราผิดหวัง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พระองค์ทำให้สันติสุขและความชื่นบานของเรากลับสู่สภาพดี

ช่วงเวลาที่ยากลำบากของเรามักจะตามมาด้วยความชื่นบานพิเศษ คำสัญญาจากพระคัมภีร์สามารถนำมาใช้ได้กับจิตใจของเรา และเราก็เต็มไปด้วยการปลอบโยนจิตใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อนั้นจิตใจของเราจะละลายไปต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และเราจะสามารถทำได้เพียงแต่สรรเสริญพระเจ้าสำหรับความบริบูรณ์แห่งพระคุณที่มีอำนาจสูงสุดที่เราได้รับเปล่าๆ

สหายที่รัก ในคืนที่มืดมิดที่สุด จงระลึกว่า "พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ" (1 โครินธ์ 10:13 TKJV)

"พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ให้ได้รับเกียรติยศ 
นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีผู้ใดในฟ้าสวรรค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ประสงค์สิ่งใดในโลก 
ร่างกายและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจและเป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์" (สดุดี 73:24-26 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 22

"God is faithful." (1 Corinthians 10:13)

This is the believer's anchor. We may, at times, be shaken by unbelief. We may feel nothing of the presence, power, or comforts of the Holy Spirit. We may have little inclination to pray. We are tempted by Satan, and may be upset with disturbing thoughts. But God never fails us; again and again He restores us to peace and joy.

Our most trying times are often followed by special joys. The promises of the Bible are applied to our souls, and we are filled with the comforts of the Holy Spirit. Then our souls melt before the Lord, and we can only praise God for the riches of His free and sovereign grace.

Dear friends, in the darkest night , remember "God is faithful." (1 Corinthians 10:13)

"To Your glory you will bring me
With Your counsel as my guide.
I have none but You in heaven;
All on earth I lay aside.
Flesh and heart may fail, but ever
God my portion will abide." (Psalm 73:24-26)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 21 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 21 มิถุนายน

"ทำไมพวกเจ้ากลัว? พวกเจ้าไม่มีความเชื่อหรือ?" (มาระโก 4:40 THSV2011)

ที่ไหนที่มีความเชื่อน้อยนิด ที่นั่นก็มีความกลัวมากมาย เหล่าสาวกเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก และพระเยซูพูดกับพวกเขาว่า "ทำไมพวกเจ้ากลัว? พวกเจ้าไม่มีความเชื่อหรือ?" (มาระโก 4:40 THSV2011)

แน่ทีเดียว พระบิดาในสวรรค์อาจจะกำลังถามเราด้วยคำถามเดียวกัน "ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อคำของเรา? ทำไมเจ้าถึงไม่วางใจในการอยู่ด้วย ฤทธิ์อำนาจ และความรักแท้ของเรา? ทำไมเจ้าไม่มองดูเราเพื่อที่เราจะได้ให้สิ่งจำเป็นแก่เจ้า? เราไม่ได้สัญญาไว้กับเจ้าอย่างชัดเจนหรอกหรือ? เราไม่ได้ทำตามคำสัญญาของเราครั้งแล้วครั้งเล่าหรอกหรือ? เราไม่ได้สัญญาว่าจะให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของเราแก่เจ้าหรอกหรือ? เราไม่ได้ให้พระบุตรของเราเพื่อเจ้าและแก่เจ้าหรอกหรือ? เราไม่ได้อยู่กับเจ้าในทุกความยากลำบากหรอกหรือ? เหตุใดเจ้าจึงไม่มีความเชื่อ?"

สหายที่รัก ขอให้เราถ่อมใจลงต่อหน้าพระเจ้า ขอให้เราสารภาพว่าเราขาดความเชื่อและอธิษฐานขอความเชื่อ ขอให้เราแสวงหาพระเจ้าในทุกที่และในทุกสิ่ง

"พระองค์ทรงเป็นที่กำบังของข้าพระองค์ พระองค์ทรงปกป้องข้าพระองค์จากความยากลำบาก พระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์ไว้ด้วยเพลงฉลองการช่วยกู้" (สดุดี 32:7 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 21

"How is it that you have no faith?" (Mark 4:40)

Where there is little faith there are many fears. The disciples were filled with alarm, and Jesus asked them "How is it that you have no faith?" (Mark 4:40)

Our Heavenly Father may well ask us the same question. "Why do you not believe My Word? Why do you not trust My presence, power, and love? Why do you not look to Me to supply your need? Have I not made very clear promises? Have I not fulfilled My promises again and again? Have I not promised you My Holy Spirit? Have I not given My Son for you and to you? Have I not been with you in every difficulty? How is it then that you have no faith?"

Dear friends, let us humble ourselves before God; let us confess our lack of faith, and pray for faith. Let us look for God in every place and in every thing.

"You are my hiding – place, O Lord,
My true security.
You keep me safe in troubled days;
You circle me with joyful praise
When You have set me free." (Psalm 32:7)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 20 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 20 มิถุนายน

"พระเจ้าทรงถือว่าพวกเขาเป็นคนชอบธรรมแล้ว" (โรม 8:33 THSV2011)

การถือว่าเป็นคนชอบธรรม คือ การประกาศว่าพ้นผิดและประกาศว่าชอบธรรม มีการยกโทษอย่างสมบูรณ์สำหรับทุกคนที่เชื่อวางใจในพระเยซู

"เมื่อคนผิดที่ชั่วร้ายที่สุดได้เชื่อวางใจอย่างแท้จริง เขาก็ได้รับการยกโทษบาปผิดจากพระเยซู" ไม่มีการลงโทษอีกต่อไป เราได้รับการยอมรับในพระเยซูคริสต์ ความบาปทั้งสิ้นได้รับการยกโทษเปล่าๆ และถูกลืมชั่วนิรันดร์ พระเจ้าได้ทิ้งความบาปทั้งสิ้นของเราและไม่จดจำอีกต่อไป และขณะนี้พระองค์ก็ประกาศว่าเราสะอาดบริสุทธิ์

"ใครจะฟ้องคนที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้? พระเจ้าทรงถือว่าพวกเขาเป็นคนชอบธรรมแล้ว ใครจะเป็นผู้ลงโทษอีก? พระเยซูคริสต์หรือ? ผู้สิ้นพระชนม์แล้ว และยิ่งกว่านั้นอีกพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์สถิต ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า และทรงอธิษฐานขอเพื่อเราด้วย" (โรม 8:33-34 THSV2011)

"พระเยซู นามเหนือนามทั้งปวง
พระผู้ช่วยผู้งดงาม องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณ
องค์อิมมานูเอล พระเจ้าผู้ทรงสถิตกับเรา
พระผู้ไถ่ผู้ได้รับการสรรเสริญ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่"

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 20

"It is God who justifies." (Romans 8:33)

To be justified is to be acquitted, and pronounced righteous. There is complete forgiveness for all who believe in Jesus.

"The vilest offender who truly believes, that moment from Jesus a pardon receives." There is no more condemnation; we are accepted in Christ Jesus. All sins are freely forgiven and eternally forgotten. God has cast all our sins "behind His back", and now He pronounces us clean.

"Who dares accuse us whom God has chosen for His own? No one- for God Himself has given us right standing with Himself. Who then will condemn us? No one- for Christ Jesus died for us and was raised to life for us, and He is sitting in the place of honour at God's right hand pleading for us." (Romans 8:33-34)

"Jesus, Name above all names,
Beautiful Saviour, Glorious Lord. 
Emmanuel, God is with us ,
Blessed Redeemer, Living Word."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 19 มิถุนายน

บทความสอนใจประจำวัน 19 มิถุนายน

"วิสุทธิชนทั้งสิ้นของพระองค์ก็อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์" (เฉลยธรรมบัญญัติ 33:3 THSV2011)

ผู้เชื่อทุกคนเป็นคนของพระเจ้า (วิสุทธิชน) ซึ่งได้รับการแยกไว้โดยวัตถุประสงค์ของพระเจ้า ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้รับการแยกไว้ต่างหากเพื่อพระเจ้า และได้อุทิศชีวิตเพื่อรับใช้พระองค์

คนของพระเจ้าทุกคนอยู่ในมือของพระเยซู อยู่ในมือแห่งพระเมตตาของพระองค์ ในมือแห่งฤทธิ์อำนาจของพระองค์ และในมือแห่งการจัดเตรียมของพระองค์ โลหิตอันล้ำค่าของพระองค์ได้ซื้อชีวิตเราไว้ พระบิดาได้มอบชีวิตเราไว้กับพระองค์ เราอยู่ภายใต้การปกป้องดูแลของพระองค์ เพื่อที่จะได้รับารดูแลให้พ้นจากซาตาน ความตาย และนรก เพื่อที่จะได้รับการนำทางผ่านโลกอันกันดารนี้ไปสู่บ้านที่อยู่เบื้องบนของพระบิดาของเรา เพื่อที่จะได้รับการปรับเปลี่ยนชีวิตโดยความเชี่ยวชาญของพระองค์และเป็นเหมือนพระเยซูมากขึ้นทุกวัน เพื่อที่จะได้รับการปกป้องคุ้มภัยจากพายุ เพื่อที่จะถูกใช้เพื่อถวายคำสรรเสริญแด่พระองค์และได้รับการยกชูสู่บัลลังก์แห่งนิรันดร์ของพระองค์

พวกเขาเป็นคนของพระองค์ พระองค์ได้เลือกพวกเขาไว้ให้เป็นเจ้าสาวของพระองค์ พระองค์ช่วยชีวิตพวกเขาไว้จากศัตรู พระองค์ให้ความชอบธรรมของพระองค์แก่พวกเขา พระองค์ได้ทำให้พวกเขาเป็นอย่างที่พวกเขาเป็นอยู่ขณะนี้และพระองค์จะให้เกียรติสิริแก่พวกเขาตลอดไป

"พระเยซูคริสต์ กษัตริย์ผู้ทรงเกียรติสิริ
พระบุตรนิรันดร์ของพระเจ้า
ถ่อมพระทัยมาประสูติโดยมารดาพรหมจารีย์ของพระองค์
หนทางอันต่ำต้อยที่พระองค์ก้าวไปช่างยากลำบาก
บาปถูกพิชิตโดยกางเขนของพระองค์
นรกได้รับการเผชิญหน้า
สวรรค์เปิดให้กับผู้เชื่อทั้งหลาย
คนบาปชอบธรรมได้โดยความเชื่อ"
(Christopher Martin Idle, เพลง "God, we praise you. God we bless you.")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 19

"All His saints are in Your Hand." (Deuteronomy 33:3)

Every believer is a saint, separated by the purpose of God; sanctified by the Holy Spirit; set apart for God, and devoted to His service.

Every saint is in the hand of Jesus- in the hand of His mercy- in the hand of His power- and in the hand of His providence. We have been bought by His precious blood; committed to Him by the Father; under His protection, to be kept from Satan, death, and hell; to be guided through this desert world to our Father's house above; to be shaped by His skill, and to become more and more like Jesus; to be sheltered from the storm; to be used for His praise, and lifted up to His eternal throne.

They are His saints; He chose them for His bride; He rescued them from the enemy; He claims them as His right; He made them what they are; and He will glorify them for ever.

"Jesus Christ, the King of glory,
Everlasting Son of God,
Humble was Your virgin mother,
Hard the lowly path you trod;
By Your cross is sin defeated,
Hell confronted face to face,
Heaven opened to believers, 
Sinners justified by grace."
(Christopher Martin Idle, hymn "God, we praise you. God we bless you.")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 18 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 18 มิถุนายน

"เราจะไม่ละทิ้งพวกท่านไว้ให้เป็นลูกกำพร้า" (ยอห์น 14:18 THSV2011)

ผู้เชื่ออาจพบกับวันที่มืดมนละกลัวว่าพระเยซูได้ทอดทิ้งเขาแล้ว นี่เป็นธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สิ่งที่พระคัมภีร์ได้สอนไว้ เพราะพระองค์ได้สัญญาไว้ว่า "เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย" (ฮีบรู 13:5)

ความรักแท้ของพระองค์ทำให้เรามั่นใจว่าพระองค์อยู่กับเราเสมอ พระองค์จะไม่มีวันละทิ้งเราไว้ให้เป็นลูกกำพร้า เราพึ่งพาพระองค์อย่างสิ้นเชิง พระองค์เป็นแหล่งของการปลอบใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับประชากรของพระองค์

พระองค์อาจยับยั้งการให้การปลอบใจของพระองค์และการรับรู้ถึงการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์จากราในบางเวลาเพื่อตักเตือนและแก้ไขชีวิตของเรา แต่เราสามารถคาดหวังว่าพระองค์จะให้สิ่งนั้นแก่เราอีกครั้ง เพราะพระสัญญาของพระองค์ชัดเจน อีกทั้งธรรมชาติและความรักแท้ของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

เราควรเชื่อมั่น อธิษฐานใคร่ครวญ และวางใจอย่างมั่นคงในพระคำแห่งพระสัญญาอันล้ำค่าของพระองค์ เราจะไม่มีวันเป็นลูกกำพร้า เพราะพระบิดาของเราดำรงชีวิตอยู่ บ้านของเราพร้อมแล้วสำหรับเรา และความหวังของเราไม่มีวันพังทลาย

"จิตใจที่พบที่พักสงบอยู่ในพระเยซู
พระองค์จะไม่ และไม่สามารถหนีไปให้จิตใจนั้นผขิญกับศัตรู
แม้นรกทั้งสิ้นจะพยายามบั่นทอนจิตใจดวงนี้
พระองค์จะไม่มีวัน ไม่มีวัน ไม่มีวันทอดทิ้งเลย!"
(John Keith, เพลง "How Firm A Foundation")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 18

"I will not leave you as orphans." (John 14:18)

Believers may experience darkness, and fear that Jesus has forsaken them; this is natural; but it is unscriptural; for He has promised, "I will never leave you, I will never forsake you." (Hebrews 13:5)

His love ensures that His presence is always with us. He will not leave us as orphans. We are absolutely dependant on Him. He is the great source of comfort to His people.

He may withhold His comfort and the awareness of His presence from us for a time to reprove, or correct us; but we may expect their return, for His promise is clear and His nature and love never change.

His precious word of promise should be believed, prayed over and firmly trusted. We shall never be orphans, for our Father ever lives; our home awaits us; and our hope is imperishable.

"The soul that in Jesus has found its repose*, (*rest)
He will not, He cannot, desert to its foes;
That soul, though all hell shall endeavour to shake,
He'll never, no never, no never forsake!"
(John Keith, hymn "How Firm A Foundation")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 17 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 17 มิถุนายน

"ความรอดนั้นมาจากพระยาห์เวห์" (โยนาห์ 2:9 THSV2011)

พระเจ้าพระบิดาคิดค้นแผนการแห่งความหลุดพ้น พระเยซูพระบุตรชำระค่าไถ่ และพระวิญญาณบริสุทธิ์นำเราให้ได้ครอบครองความหลุดพ้นนี้ นี่เป็นพระคุณของพระเจ้า ซึ่งเกิดขึ้นผ่านทางความเชื่อ

ความรอดพ้นจากอันตรายมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ช่วยชีวิตโยนาห์ให้รอดพ้นจากอันตรายเมื่อเขาร้องขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าแม้ว่าโยนาห์จะเป็นผู้ที่ดื้อดึงและขัดสน และพระองค์ก็จะช่วยให้เรารอดพ้นเช่นกัน

พระเจ้าถามว่า "มีสิ่งใดที่ยากเกินไปสำหรับเราหรือ?" (เยเรมีย์ 32:27 THSV2011)

"มีพระผู้ช่วยองค์หนึ่ง คือพระเยซู พระบุตรของพระเจ้า
ผู้ซึ่งเป็นแกะอันล้ำค่าของพระเจ้า พระเมสสิยาห์ และองค์บริสุทธิ์
ขอบคุณพระองค์ โอพระบิดาของข้าฯ ที่ได้ประทานพระบุตรของพระองค์แก่ข้าฯ
และได้ประทานพระวิญญาณ 'จนกว่าการงานบนโลกนี้จะสำเร็จ' "
(Keith Green, เพลง "There is a Redeemer")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 17

"Salvation is of the Lord." (Jonah 2:9)

God, the Father devised the plan of salvation; Jesus, the Son, paid the ransom; and the Holy Spirit puts us in possession of salvation. It is of God's grace. It is through faith.

Deliverance from danger is from the Lord. He delivered Jonah when he cried to the Lord although Jonah was a poor obstinate creature; and He will deliver us.

God asks, "Is anything too hard for Me?" (Jeremiah 32:27)

"There is a Redeemer- Jesus, God's own Son,
Precious Lamb of God, Messiah, Holy One.
Thank you, O my Father, for giving us Your Son,
And leaving the Spirit, 'til the work on earth is done.' " 
(Keith Green, hymn "There is a Redeemer")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 16 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 16 มิถุนายน

"เรากำลังไปเตรียมที่ให้ท่าน" (ยอห์น 14:2 THSV2011)

พระเยซูทำทุกสิ่งที่พระองค์ทำได้เพื่อเราในขณะที่พระองค์อยู่บนโลกนี้ และขณะนี้พระองค์กำลังเตรียมสวรรค์อันดีเยี่ยมไว้สำหรับเรา ที่นั่นจะเหมาะสมกับเราอย่างสมบูรณ์แบบ!

"ที่พำนักของท่านจะรุ่งโรจน์" (อิสยาห์ 11:10 THSV1971) ที่นั่นจะไม่มีความบาความเจ็บป่วย หรือการทนทุกข์อีกต่อไป พระองค์กำลังเตรียมชีวิตเราให้เหมาะสมกับที่นั่นพร้อมกับเตรียมที่นั่นให้เหมาะสมกับเรา!

ด้วยเหตุผลนี้ เรามีการทดลองที่ยังต้องฟันฝ่า แต่ "ความยากลำบากชั่วคราวและเล็กน้อยของเรา จะทำให้เรามีศักดิ์ศรีนิรันดร์มากมายอย่างไม่มีที่เปรียบ" (2 โครินธ์ 4:17 THSV2011)

ขอให้เราคิดถึงความตายว่าเป็นการเข้าครอบครองที่ซึ่งพระองค์ได้เตรียมไว้เพื่อเรา จงระลึกด้วยว่าพระเยซูจะกลับมาอีกและรับเราไปอยู่กับพระองค์ เพื่อว่าพระองค์อยู่ที่ไหน พวกเราจะได้อยู่ที่นั่นด้วย ช่างเป็นสิทธิพิเศษที่เต็มด้วยเกียรติสิริ! ช่างเป็นพระพรที่ไม่สามารถพรรณนาได้!

"สวรรค์เป็นที่ที่สวยงาม
เต็มด้วยเกียรติสิริและพระคุณ!
ข้าฯ ต้องการเห็นพระพักตร์ของพระผู้ช่วยของข้าฯ
สวรรค์เป็นที่ที่สวยงาม!"

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 16

"I go to prepare a place for you." (John 14:2)

Jesus did all He could for us here on earth, and now He is preparing a wonderful heaven for us. It will just suit us perfectly!

"His rest will be glorious." (Isaiah 11:10) There will be no more sin, sickness or suffering. He is preparing us for it, as well as it for us!

For this reason we have trials to endure- but "our light afflictions which are but for a moment, are working out for us a far more exceeding and eternal weight of glory" (2 Corinthians 4:17).

Let us think of death as our going to take possession of the place that He has prepared for us. Remember too that Jesus will come again, and receive us to Himself, that where He is, we may be also. Glorious privilege! Unspeakable blessing!

"Heaven is a beautiful place,
full of glory and grace!
I want to see my Saviour's face-
heaven is a beautiful place."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 15 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 15 มิถุนายน

"อย่าให้ใจของพวกท่านเป็นทุกข์เลย" (ยอห์น 14:1 THSV2011)

พระเยซูต้องการให้เรามีความสุขและมีชีวิตที่บริสุทธิ์ และไม่วิตกกังวลหรืออารมณ์เสีย พระองค์ห้ามไม่ให้คุณกลัว พระองค์สั่งให้คุณมีความเชื่อ คุณควรละทิ้งความวิตกกังวลทั้งหลายของคุณไว้กับพระองค์

เราจะทำเช่นนี้สำเร็จได้อย่างไร? จงระลึกถึงสิ่งที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ พระองค์จะไม่มีวันทำให้คุณผิดหวัง พระองค์เฝ้าดูแลคุณอยู่ และพระองค์จะรอคอยโอกาสที่จะทำดีต่อคุณ พระองค์จะไม่อนุญาตให้สิ่งใดมาทำร้ายคุณ

พระองค์จะปกป้องรักษาคนเหล่านั้นไว้ในสันติสุขที่สมบูรณ์แบบ คือคนที่มีความคิดจดจ่ออยู่ที่พระองค์ เพราะพวกเขาวางใจในพระองค์ เพราะกำลังอันนิรันดร์อยู่ในองค์พระผู้เป็นเจ้า

"พระเจ้าเป็นความเมตตากรุณา และจะไม่ทอดทิ้งคุณ 
เมื่อคุณจำเป็นที่จะต้องได้รับพระกรุณาของพระองค์อย่างมากที่สุด 
พระเจ้าทรงสัตย์จริง พระองค์ไม่สามารถหลอกลวงคุณได้ 
แม้ความเชื่อของคุณจะอ่อนแอถึงที่สุด"

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 15

"Don't let your heart be troubled." (John 14:1)

Jesus wants us to be happy and holy, and not worried and upset. He forbids your fear; He commands your faith. You should leave all your worries with Him.

How can we achieve this? Remember what God has promised by covenant. He will never fail you. He watches over you, and He waits for an opportunity to do you good. He will not allow anything to hurt you.

He will keep them in perfect peace, whose minds are stayed on Him, because they trust in Him. In the Lord is everlasting strength.

"God is love, and will not leave you, 
When you most His kindness need; 
God is true, nor can deceive you, 
Though your faith be weak indeed."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 14 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 14 มิถุนายน

"ขอให้กำลังของท่านคงอยู่ตลอดวันคืนของท่าน" (เฉลยธรรมบัญญัติ 33:25 THSV2011)

ไม่มีใครสามารถบอกอนาคตได้ มีเพียงแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้อนาคต และพระองค์ได้สัญญาไว้ว่าประชากรของพระองค์จะได้รับกำลังเพียงพอสำหรับการทดลองที่พวกเขาจะเผชิญ

เราไม่ควรวิตกกังวล เพราะกำลังจะมาพร้อมกับการทดลอ การทดลองของเราจะมีปริมาณเท่ากับพระเมตตาที่พระเจ้าให้แก่เรา เราได้เห็นเสมอว่าพระเจ้าสัตย์ซื่อ พระองค์ให้กำลังเพียงพอสำหรับแต่ละวันเสมอ แล้วเหตุใดเราจึงควรสงสัยเล่า?

"ข้าพเจ้าจะวางใจและไม่กลัว เพราะพระยาห์เวห์ คือพระยาห์เวห์เองทรงเป็นกำลังและบทเพลงของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้าแล้ว" (อิสยาห์ 12:2 THSV2011)

เราก้าวจากกำลังสู่กำลังที่มากยิ่งขึ้น และผู้เชื่อแท้ทุกคนก็จะปรากฏต่อหน้าพระเจ้าในศิโยน พระองค์จะทำให้ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเราสมบูรณ์แบบ

เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอให้เราคาดหวังที่พระเจ้าจะให้สิ่งจำเป็นทั้งสิ้นแก่เรา ขอให้เราเชื่อว่ากำลังของเราจะพียงพอสำหรับภาระของเรา

"วางใจเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป วางใจเมื่อวันเวลาผ่านไป 
วางใจพระองค์ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงแค่วางใจในพระเยซู" 
(Edgar Page Stites, เพลง "Simply Trusting Every Day")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 14

"As your days, so shall your strength be." (Deuteronomy 33:25)

No one can possibly tell the future; but our God knows, and He has promised His people strength equal to their trials.

We should not be anxious, for with the trial comes the strength. Our trials are to be numbered among our mercies. We have always found our God faithful; He always gives strength according to the day; and why should we ever doubt?

"I will trust and not be afraid, for the Lord is my strength and my song; He also is become my salvation." (Isaiah 12:2)

We go from strength to strength, and every true believer shall appear before God in Zion. He will perfect that which concerns us.

Let us then expect God to give us all we need. Let us believe that our strength will be equal to the burden.

"Trusting as the days go by; 
Trusting as the moments fly; 
Trusting Him whate're befall, 
Trusting Jesus – that is all." 
(Edgar Page Stites, hymn "Simply Trusting Every Day")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บทความสอนใจประจำวัน 13 มิถุนายน


บทความสอนใจประจำวัน 13 มิถุนายน

"ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ก็ยืนอยู่" (เศคาริยาห์ 3:5 THSV2011)

เมื่อซาตานกล่าวหาโยชูวา เมื่อเสื้อผ้าอันสกปรกได้เป็นพยานแจ้งความผิดแก่ท่าน และท่านถูกเรียกตัวให้เข้าพบพระเจ้า พระเยซูก็ยืนอยู่ที่นั่นพร้อมที่จะช่วยเหลือท่าน

พระเยซูองค์เดียวกันนี้แหละ ที่ก็ได้ยืนอยู่เคียงข้างประชากรของพระองค์ทุกคนพระองค์ยืนอยู่ฝ่ายเราในการอธิษฐาน ในความยากลำบาก ในการทดลอง และในความพยายามทั้งสิ้นของเราที่จะถวายเกียรติสิริแด่พระเจ้า พระองค์ยืนอยู่เคียงข้างเราเพื่อสอนเราถึงพระประสงค์ของพระเจ้าและเพื่อช่วยเราในการรับใช้พระเจ้า

สายตาของเราควรจับจ้องไปที่พระเยซูเสมอ พระองค์จะไม่มีวันละทิ้งเราไปเลย พระเยซูเห็นทุกการกระทำของเรา วามจริงนี้ควรที่จะทำให้เราระมัดระวัง สำนึกในพระคุณ และมีความกล้าหาญอย่างยิ่ง

ขอให้เราระลึกเสมอว่าพระเยซูอยู่เคียงข้างเราเพื่อช่วยเรา

"ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ตั้งค่ายอยู่โดยรอบผู้ที่ยำเกรงพระองค์ พระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นภัย" (สดุดี 34:7 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 13

"The Angel of the Lord stood by." (Zechariah 3:5)

When Satan accused Joshua, when his filthy clothes witnessed against him, and he was summoned to appear before God, it was Jesus who stood ready to help him.

The same Jesus stands by all His people. He stands on our side in prayer- in trouble- in temptation-in all our efforts to glorify God. He stands by to instruct us in the will of God; to help us in the work of God.

Our eyes should always be fixed on Jesus; He will never leave us. Jesus sees our every action. That should make us very careful, thankful and courageous.

May we always remember that Jesus stands by us to help us.

"The Angel of the Lord surrounds
And guards continually
All those who fear and honour Him;
He sets his people free." (Psalm 34:7)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie