วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 21 พฤศจิกายน



บทความสอนใจประจำวัน 21 พฤศจิกายน

"เรามอบสันติสุขแก่พวกท่าน" (ยอห์น 14:27 TNCV)

ผู้เชื่อเท่านั้นที่รู้จักกับความหวานชื่นของสันติสุขที่พระเยซูให้ สันติสุขกับพระเจ้าป็นไปได้เพราะผลจากการสละชีวิตององค์พระเยซูและการงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในหัวใจของแต่ละคน มันเป็นจุดเริ่มต้นของสวรรค์ในจิตใจ ซึ่งก็คือมโนธรรมที่เปี่ยมด้วยสันติสุข เรามักจะได้รับสันติสุขนี้ในท่ามกลางความทุกข์ยาก และมันทำให้ภาระหนักทั้งสิ้นเบาลง และทำให้คนบาปได้มีความสุขในทุกสถานการณ์

โอ พระเยซู ขอประทานสันติสุขของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์ในเช้าวันนี้

ผู้เชื่อเอ๋ย จงพึ่งพาพระเยซูเท่านั้นเพื่อจะได้รับสันติสุข "เพราะพระองค์เองทรงเป็นสันติสุขของเรา" (เอเฟซัส 2:14 TNCV) จงเชื่อในพระคำของพระองค์ จงรับเอาการยกโทษของพระองค์ จงวางใจในการงานอันสมบูรณ์แบบของพระองค์ จงตั้งเป้าที่จะถวายสรรเสริญแด่พระองค์ "แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจจะปกป้องความคิดจิตใจของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์" (ฟิลิปปี 4:7 TNCV)

"จงหันจากความชั่วร้ายและทำความดี
จงใฝ่หาสันติภาพและมุ่งมั่นเพื่อให้ได้มา" (สดุดี 34:14 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 21

"My peace I give to you." (John 14:27)

Only believers know the sweetness of the peace Jesus gives. Peace with God is made possible as a result of the sacrificial death of the Lord Jesus and the working of the Holy Spirit in the individual's heart. It is the beginning of heaven in the soul; a peaceful conscience. It is often given in the midst of trouble; and it lightens every burden and the sinner happy in every situation.

O Jesus, give us Your peace this morning.

Believer, look only to Jesus for peace, for "He is our peace." (Ephesians 2:14) Believe His Word, receive His forgiveness, trust in His perfect work, aim to show forth His praise, and "the peace which passes all understanding shall fill your mind." (Philippians 4:17)

"Depart and turn from evil paths
And practise what is right.
Desire to know the way of peace;
Pursue it with your might." (Sing Psalms 34:14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie






วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 20 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 20 พฤศจิกายน

"พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่" (มัทธิว 17:4)

นี่คือสิ่งที่เปโตรได้ร้องอุทานออกมาเมื่อท่านได้มีประสบการณ์อันดีเยี่ยมในการได้เห็นพระสง่าราศีของพระเจ้า ดีจริงที่เราดำเนินชีวิตด้วยความสนิทสนมกับพระเจ้า ดีจริงที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในประชากรของพระเจ้าและได้อยู่ในคริสตจักร ดีจริงที่เราได้อยู่ในโลกปัจจุบันนี้ และมีโอกาสรับใช้พระเยซู

พระเยซูได้รับเกียรติจากความอดทนของเราในความเจ็บป่วยหรือไม่? เมื่อนั้นเราควรกล่าวว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่"

พระเจ้าได้รับเกียรติจากการงานของเราในแต่ละวัน และคำพยานถึงฤทธิ์อำนาจและพระคุณของพระเยซู ไม่ว่าเราจะเล็กน้อยเพียงใดหรือไม่? เมื่อนั้นเราอาจกล่าวว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่"

ใช่แล้ว คริสเตียน ดีจริงที่เราได้อยู่ในที่ใดๆ เพื่อพระเยซูจะได้รับเกียรติสิริ!

จงตั้งเป้าหมายที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้าเสมอ และเมื่อนั้นเราก็จะสามารถกล่าวได้ในทุกที่ว่า "พระองค์เจ้าข้า ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่" แต่หากการอยู่ที่นี่นั้นดีจริง แล้วในสวรรค์เล่าจะดีเยี่ยมมากกว่านี้เพียงไร!

"พระองค์คือเยซู ผู้ต้นและผู้ปลาย
พระวิญญาณของพระองค์จะนำเรากลับบ้านอย่างปลอดภัย!
เราจะสรรเสริญพระองค์สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านพ้นไป
และวางใจพระองค์สำหรับสิ่งที่กำลังมา"
(Joseph Hart, เพลง "How good is the God we adore")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 20

"Lord, It is good for us to be here." (Matthew 17:4)

This is what Peter exclaimed when he had a wonderful experience of the Glory of God. It is good to live and walk in communion with God. It is good to be numbered with God's people and be in church. It is good to be in the present world, and have opportunities of service for Jesus.

Is Jesus honoured by our patience in sickness? Then we should say, "Lord, it is good to be here."

Is God glorified by our daily work and testimony to the power and grace of Jesus, no matter how humble? Then we may say, "Lord, it is good to be here."

Yes, Christian, it is good to be anywhere so that Jesus is glorified!

Aim always to honour God, and then we can say everywhere, "Lord it is good to be here!" But if it is good to be here, how much more wonderful it will be in heaven!

"Tis Jesus the First and the Last
Whose Spirit shall guide us safe home!
We'll praise Him for all that is past,
And trust Him for all that's to come."
(Joseph Hart, hymn "How good is the God we adore")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 19 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 19 พฤศจิกายน

"พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่าเวลาก็เหลือน้อยแล้ว" (1 โครินธ์ 7:29 TNCV)

เวลาของความทุกข์ยากก็เหลือน้อย เพราะมันถูกจำกัดอยู่แค่ในโลกปัจจุบันนี้เท่านั้น

โอกาสของเราที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้าก็เหลือน้อย ดังนี้เราจึงควรใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

ความมั่งมีของคนชั่วก็เหลือน้อย ขอให้เราหมั่นอธิษฐาน อดทน และบากบั่น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้มาแล้ว เราจะได้เห็นพระเยซูเร็วๆ นี้ ได้เพลิดเพลินกับสวรรค์ และได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดร์

เวลาก็เหลือน้อย แต่นิรันดร์กาลนั้นยาวนาน ดังนั้นขอให้เราสะสมทรัพย์สมบัติของเราไว้ในสวรรค์ ที่ซึ่งแมลงหรือสนิมกัดกินไม่ได้ ขอให้เราเตรียมพร้อมทุกวันสำหรับวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า

เวลาก็เหลือน้อย มันผ่านไปอย่างรวดเร็ว! ขอให้เราใช้เวลาที่มีอย่างระมัดระวังและเพื่อเกียรติสิริของพระเจ้า

"พระคริสต์ทรงสถิตที่เบื้องพระหัตถ์ขวาของพระเจ้าด้วยชัยชนะ
พระองค์จะพิพากษาโลกที่ทรงสร้าง
องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ ในพระเมตตาของพระองค์
ผู้ซึ่งมีเสรีภาพที่พระองค์ได้ชำระให้
ขอทรงยกชูข้า จากบาปในวันนี้
กษัตริย์ผู้ทรงครองบัลลังก์เหนือคำสรรเสริญทั้งปวง
พระเจ้า ข้าอธิษฐาน ขอทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอด"
(C. Hubert H. Parry, เพลง "God, We Praise You")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 19

"Brothers and sisters, the time that remains is short." (1 Corinthians 7:29)

Our sufferings must be short, for they are confined to this present world.

Our opportunities to glorify God must be short; therefore we ought to make full use of them.

The prospering of the wicked must be short; let us be prayerful, patient and diligent for the coming of the Lord draws near. We shall soon see Jesus, enjoy heaven and be for ever with the Lord.

Time is short but Eternity is long; therefore let us be laying up for ourselves treasure in heaven where neither moth nor rust can harm them. Let us daily prepare for The Day of the Lord.

Time is short, it flies away! Let us use the time we have carefully and for God's glory.

"Christ, at God's right hand victorious,
You will judge the world You made;
Lord, in mercy help Your servants
For whose freedom You have paid;
Raise us up from dust to glory,
Guard us from all sin today;
King enthroned above all praises,
Save Your people, God, we pray."
(C. Hubert H. Parry, hymn "God, We Praise You")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 18 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 18 พฤศจิกายน

"เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรมให้อิสราเอล" (โฮเชยา 14:5 TNCV)

หัวใจของเราโดยธรรมชาติเป็นเหมือนดินที่แห้งแล้ง ปราศจากพืชผล เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีชีวิตฝ่ายวิญญาณ ความสวยงาม หรือผล หากปราศจากพระคุณของพระเจ้า แม้หลังจากที่เราได้เป็นผู้เชื่อในพระคริสต์แล้ว เรายังคงต้องการพระคุณของพระเจ้า ดังดินที่ต้องการน้ำค้าง "ไม่มีพระคุณ ก็ไม่มีผล"

พระเจ้าสัญญา "เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างพร่างพรม เพื่อที่จะทำให้เจ้ากลับมามีชีวิตชีวาด้วยความรักแท้ของเรา" พระเจ้าจะทำให้หัวใจอันแข็งกระด้างของเราอ่อนนุ่มลง พระองค์จะเตรียมหัวใจของเราให้รับเมล็ดพันธุ์แห่งพระคำของพระองค์ และทำให้เราเติบโตและเกิดผล

"จงเรียนรู้ โอจิตใจของข้า ถึงสิ่งที่พระเจ้าบัญชา
ว่ามิใช่ความเชื่อดั่งทรายที่แห้งแล้ง
หากแต่เป็นผลแห่งสีสันของสวรรค์
ด้วยสิ่งนี้ เราพิสูจน์ได้ว่าพระคริสต์ที่เรารู้จักนั้นเป็นจริง
หากในย่างก้าวอันบริสุทธิ์ของพระองค์ที่เราดำเนินไป
ความเชื่อของเราก็สำแดงออกด้วยวามรัก"
(R. M. McCheyne)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 18

"I will be like the dew to Israel." (Hosea 14:5)

Our hearts, by nature, are like the dry barren earth. There can be neither spiritual life, beauty nor fruit without God's grace. Even after we have become believers in Jesus, we need God's grace as the earth needs dew. "No grace-no fruit."

God promises, "I will be like the dew to refresh you with My love." God will soften our hard hearts. He will prepare our hearts to receive the seed of His Word and cause us to grow and be fruitful.

"Learn, O my soul, what God demands
Is not a faith like barren sands,
But fruit of heavenly hue.
By this we prove that Christ we know,
If in His holy steps we go;
Faith works by love, if true."
(R. M. McCheyne)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie






วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 17 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 17 พฤศจิกายน

"ให้คืนดีกับพระเจ้า" (โครินธ์ 5:20 THSV2011)

พระเจ้าเป็นความรักแท้ พระองค์เกลียดชังความบาป ในความรักแท้ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์สำหรับเรานั้น พระองค์ให้พระเยซูซึ่งเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาตายเพื่อบาปของเราและนำเราให้คืนดีกับพระเจ้า

เมื่อเราสารภาพบาปของเราและยอมรับว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยของเรา เราก็ได้คืนดีกับพระเจ้า

ผ่านทางความเชื่อในพระเยซู เราก็ได้รับการยกโทษบาปทั้งหมด ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ซึ่งปลอบใจเราและสอนเรา ได้รับพระสัญญาแห่งนิรันดร์กาลในสวรรค์ และได้รับพระพรมากมายเหลือคณานัตามหนทางสู่สวรรค์นั้น!

เราพอใจที่จะดำเนินชีวิตห่างจากพระเจ้าหรือไม่? พระคำของพระองค์ที่มีต่อเราในเช้าวันนี้ คือ "จงกลับมาหาพระเจ้า"

"มีหนทางกลับสู่พระเจ้า
จากทางเดินอันมืดมิดแห่งบาป
มีประตูที่เปิดออก
และคุณอาจเปิดเข้าไปได้
ที่กางเขนบนภูเขานั้นคือที่ที่คุณจะเริ่มต้น
เมื่อคุณมาหาพระเยซูในฐานะคนบาปคนหนึ่ง"
(Eric Hubert Swinstead
เพลง "There's A Way Back To God")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 17

"Be reconciled to God." (2 Corinthians 5:20)

God is love. He hates sin. In His great love for us He gave His only begotten Son, Jesus, to die for our sins and reconcile us to God.

When we confess our sins and accept Jesus as our Lord and Saviour, we are reconciled to God.

Through faith in Jesus we have forgiveness of all sin, the Holy Spirit to comfort and teach us, the promise of Eternity in heaven, and countless blessings along the Way!

Are we content to walk at a distance from God? His Word to us this morning is"Come back to God."

"There's a way back to God
From the dark paths of sin.
There's a door that is open
And you may go in.
At Calvary's Cross is where you begin
When you come as a sinner to Jesus."
(Eric Hubert Swinstead, hymn "There's A Way Back To God")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 16 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 16 พฤศจิกายน

"ลุกขึ้น ไปให้พ้น! เพราะนี่ไม่ใช่ที่พักของพวกเจ้า" (มีคาห์ 2:10 TNCV)

ไม่มีที่พักอันถาวรสำหรับผู้เชื่ที่นี่ เรากำลังเดินทางผ่านเขตแดนของศัตรูไปสู่สวรรค์ เสียงหนึ่งที่ดังก้องในหูของเราทุกวัน คือ "ลุกขึ้น ไปให้พ้น"

ในแต่ละวัน เราควรมีความก้าวหน้า อย่าสะสมทรัพย์สมบัติในโลกนี้ ต่สะสมทรัพย์ไว้ในสวรรค์!

หากคุณกำลังมีความก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณที่ดี คุณสามารถคาดหวังว่าจะเจอความทุกข์ยากจาก "โลก"

ดาวิด ผู้ซึ่งทำนายการทนทุกข์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขียนว่า "เหล่าสุนัขรายล้อมข้าพระองค์ ... พวกเขาทิ่มแทงมือและเท้าของข้าพระองค์" (สดุดี 22:16)

จงจำไว้ว่า "ถ้าเราอดทน เราก็จะได้ครองร่วมกับพระองค์ด้วย" (2 ทิโมธี 2:12)

"พระผู้ช่วย ครั้นเวลาแห่งเมืองศิโยน (สวรรค์)
ซึ่งข้าฯ เป็นสมาชิก ผ่านทางพระคุณ 
ยอมให้โลกหัวเราะเยาะและสงสาร
ข้าฯ จะถวายเกียรติพระนามพระองค์
ความพึงพอใจสูงสุดของโลกนี้ก็จืดจาง
รวมถึงทุกสิ่งที่โลกนี้โอ้อวดและแสดงออก
แต่ไม่มีใครเลย ยกเว้นบุตรของศิโยนเท่านั้น
ที่รู้จักกับความชื่นชมยินดีที่มั่นคงและทรัพย์สมบัติอันถาวร"
(John Newton, เพลง "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 16

"Arise and depart, for this is not your rest." (Micah 2:10)

There is no permanent home for the believer here- we are on a journey through enemy territory to heaven. A voice is daily sounding in our ears, "Arise and depart."

Each day we should be making progress. Don't lay up treasures on earth- but lay them up in heaven!

If you are making good spiritual progress you can expect trouble from the "world".

David, in foretelling the Lord's sufferings wrote "My enemies surround Me like a pack of dogs-----they have pierced My hands and feet." (Psalm 22:16)

Remember "if we suffer with Him, we shall also reign with Him." (2 Timothy 2:12)

"Saviour, since of Zion's city* (*heaven)
I through grace a member am,
Let the world deride or pity,
I will glory in Your Name.
Fading are the world's best pleasures,
All it's boasted pomp and show;
Solid joys and lasting treasures
None but Zion's children know."
(John Newton, hymn "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 15 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 15 พฤศจิกายน

"พระองค์จะทรงเปี่ยมด้วยพระคุณยิ่งนัก!" (อิสยาห์ 30:19 TNCV)

บางครั้งพระเจ้าอนุญาตให้เราเห็นความขัดสนฝ่ายวิญญาณที่ใหญ่ยิ่งของเรา เราตระหนักว่าเราตกมาตรฐานของพระองค์อย่างมาก

"พระองค์จะทรงเปี่ยมด้วยพระคุณยิ่งนักเมื่อท่านร้องขอความช่วยเหลือ!" (อิสยาห์ 30:19 TNCV) พระองค์สัญญา "ก่อนที่เขาร้องเรียก เราจะตอบ ขณะที่เขาพูดอยู่ เราจะฟัง" (อิสยาห์ 65:24 TNCV) โอ นี่คือพระคุณอันอัศจรรย์ของพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณ!

ขอให้สิ่งนี้เป็นกำลังใจของเรามื่อเราผิดหวังในตัวของเราเอง และเป็นคำปลอบใจของเราในยามยากลำบาก อให้เราสรรเสริญพระเจ้าของเราผู้ "เปี่ยมด้วยพระคุณยิ่งนัก" พระองค์เป็นผู้ฟังและผู้ตอบคำอธิษฐานของเรา และพระองค์จะไม่มีทางทำให้เราผิดหวังเลย

"มีสงครามที่ต้องต่อสู้
มีการแข่งขันที่ต้องเข้าร่วมคว้าชัย
มีอันตรายที่จะต้องเผชิญบนหนทาง
แต่พระเจ้าเป็นแสงสว่างและชีวิตของข้า
และพระเจ้าเป็นกำลังและที่พักพิงของข้า
ข้าฯ พึ่งอาศัยในพระคำของพระองค์
พระองค์เป็นพระผู้ช่วยและสหายของข้าฯ 
และพระองค์เรียกให้ข้าฯ เชื่อวางใจและเชื่อฟัง
เพราะพระเจ้าเป็นแสงสว่างและชีวิตของข้า
และพระเจ้าเป็นกำลังและที่พักพิงของข้า!"
(Naomi Pope, เพลง "There's a fight to be fought")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 15

"He will be very gracious." (Isaiah 30:19)

Sometimes God allows us to see our very great spiritual need. We realize that we come far short of His standards.

"He will be very gracious if you ask for help." (Isaiah 30:19) He has promised, "Before they call, I will answer; and while they are yet speaking I will hear." (Isaiah 65:24) O, the amazing grace of our gracious God!

Let this be our encouragement when we are disappointed in ourselves, and our comfort in every difficulty. Let us praise our God for being "very gracious." He is the hearer and answerer of our prayers and He will never fail us.

"There's a fight to be fought,
And a race to be run.
There are dangers to meet on the way.
But the Lord is my Light, and the Lord is my Life
And the Lord is my strength and stay
On His Word I depend
He's my Saviour and Friend
And He tells me to trust and obey.
For the Lord is my Light, and the Lord is my Life,
And the Lord is my strength and stay!"
(Naomi Pope, Hymn "There's a fight to be fought")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 14 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 14 พฤศจิกายน

"จงคิดใคร่ครวญถึงสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อท่าน" (1 ซามูเอล 12:24 TNCV)

เรามีแนวโน้มที่จะจดจ่ออยู่กับวามทุกข์ยากของเรา และลืมพระเมตตาอันมากมายของพระเจ้า

พระเจ้าให้พระบุตรของพระองค์เพื่เป็นพระผู้ช่วยของเรา พระองค์ได้ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อเป็นผู้นำทางและผู้เล้าโลมใจของเรา และให้พระคำของพระองค์เพื่อเป็นเครื่องชี้ทางแก่เรา พระองค์ได้เรียกเราโดยพระคุณของพระองค์ เมื่อเรากำลังจะมุ่งหน้าไปยังนรก พระองค์ให้หัวใจใหม่แก่เราและยกโทษบาปของเรา พระองค์ได้ให้ความเชื่อเพื่อเราจะวางใจในพระสัญญาของพระองค์ พระองค์ได้จัดหาสิ่งจำเป็นต่างๆ ให้แก่เรา แก้ไขความผิดพลาดของเรา และไม่มีสิ่งดีสิ่งใดที่พระองค์จะหวงไว้จากเรา

พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งความหลุดพ้น จงคิดถึงความดีทั้งสิ้นของพระองค์ และถวายเกียรติสิริแด่พระองค์ทุวัน พระองค์จะยังคงทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านี้เพื่อเรา และเราจะถวายเกียรติสิริแด่พระองค์ตลอดชั่วนิรันดร์

"เมื่อเราได้ไปอยู่เมืองสวรรค์ ช้านานนับหลายพันปี
ยังมีเวลาร้องเพลงสรรเสริญ เท่ากันกับเมื่อเริ่มต้น"
(John Newton, เพลง "Amazing Grace")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 14

"Think of all the wonderful things He has done for You." (1 Samuel 12:24)

We have a tendency to concentrate on our miseries and forget God's many mercies.

God gave His Son to be our Saviour. He has given the Holy Spirit to be our Guide and Comforter and His Word to give us direction. He called us by His Grace when we were heading to hell. He gave us new hearts and pardoned our sins. He has given us faith to trust His promises. He has supplied all our needs, corrected our mistakes, and no good thing has He kept from us.

Our God is the God of Salvation. Think of all His goodness and glorify Him daily. He will yet do even greater things for us and we shall glorify Him throughout Eternity.

"When we've been there ten thousand years
Bright shining as the sun.
We've no less days to sing God's praise 
Than when we first begun."
(John Newton, hymn "Amazing Grace")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 13 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 13 พฤศจิกายน

"ไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร" (ทิตัส 3:2 TNCV)

พระผู้ช่วยของเราสั่งให้เรารักศัตรูของเรา ทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังเราและทำร้ายเรา อธิษฐานเผื่อพวกเขา และหาหนทางที่พวกเขาจะได้รับความหลุดพ้น

หากเราใส่ร้ายป้ายสีใคร เราก็ทำให้พระเจ้าเสียเกียรติ นำความผิดมาสู่ตัวเราเอง และทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่พอใจ

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู เราไม่ใช่เจ้าของตัวเราเอง พระองค์ได้จ่ายราคาสูงเพื่อความหลุดพ้นของเราบนกางเขนนั้น เราเป็นของพระองค์ รวมถึงลิ้นของเราด้วย!

จงอย่ายอมให้ตัวคุณเองคิดไม่ดีต่ผู้อื่น อิจฉาผู้อื่น รู้สึกโกรธและขื่นขม หรือหาทางแก้แค้น จงนำสิ่งนั้นมาเข้าเฝ้าพระเจ้าในการอธิษฐาน และฝากไว้กับพระองค์ พระองค์จะแก้ไขสิ่งที่ผิดทุกอย่างในเวลาของพระองค์

"ขอให้วาจาที่ออกจากปากและการใคร่ครวญในใจของข้าพระองค์นั้น 
เป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์ 
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า 
พระศิลาและพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์" (สดุดี 19:14 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 13

"Speak evil of no one." (Titus 3:2)

We are commanded by our Saviour to love our enemies; to do good to those who hate us, and hurt us; to pray for them and seek their salvation.

If we speak evil of anyone we dishonour God; bring guilt upon ourselves and displease the Holy Spirit.

As believers in Jesus we are not our own. He has paid the price for our salvation by His death on the Cross. We are His- including our tongues!

Never allow yourself to think evil of others; to be jealous of others; to feel angry and bitter, or seek revenge. Take it to God in prayer, and leave it with Him. He will right every wrong in His time.

"Lord, let the words I speak
Be pleasing in Your sight,
And may my inmost thoughts
Be in Your judgement right.
O Lord, You are a Rock to me;
You have redeemed and set me free." (Sing Psalms 19:14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 12 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 12 พฤศจิกายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า" (ฮีบรู 13:6 THSV2011)

ช่างเป็นคำให้กำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนที่เชื่อในพระเยซูจริงๆ!

เราเป็น "ยิ่งกว่าผู้พิชิต" ตัวเราเองไม่สามารถทำอะไรได้เลยหากไม่มีพระเจ้า แต่ "เราสามารถทำทุกสิ่งได้ผ่านทางพระคริสต์ผู้ให้กำลังแก่เรา" พระองค์จะช่วยเราในทุกความทุกข์ร้อนและความยากลำบาก นำเราออกจากทุกปัญหา และนำทางเราไปยังบ้านแห่งสวรรค์ พระองค์ได้สัญญาทั้งหมดนี้กับทุกคนที่วางใจในพระองค์ รอคอยในพระองค์ ดำเนินชีวิตกับพระองค์ และมีเป้าหมายที่จะถวายเกียรติสิริแด่พระองค์

ขอให้เราอยู่ใกล้พระเยซู (ด้วยการอ่านพระคัมภีร์และการอธิษฐาน) มีมโนธรรมที่บริสุทธิ์ และฝึกฝนความเชื่อที่เรียบง่ายในพระเจ้าของเรา เมื่อนั้นเราจะได้กล่าวอย่างกล้าหาญว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่กลัว ใครจะทำอะไรกับข้าพเจ้าได้เล่า?"

หากพระเจ้าช่วยเราแล้ว ไม่มีอำนาจใดจะมาชนะเราได้!

"เราทุกคนต้องเผชิญปัญหาและการทดลอง
แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เคียงข้างและไม่ปล่อยให้เราล้มลง
พระองค์จะอุ้มชูเราให้ผ่านพ้น และให้พระคุณแก่เรามากขึ้น
ขณะที่เราอ่านพระคำของพระองค์ และเพ่งมองดูพระพักตร์ของพระองค์"
(G. F.)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 12

"The Lord is my helper." (Hebrews 13:6)

What a great encouragement to those who believe in Jesus!

We are "more than conquerors." We ourselves can do nothing right apart from God; but "we can do all things through Christ who strengthens us."He will help us in every distress and difficulty, bring us out of every trouble and lead us to our heavenly home. All this is promised to everyone who trusts in Him, waits for Him, walks with Him and aims to glorify Him.

Let us keep close to Jesus (by reading the Bible and prayer); have a clear conscience; and exercise simple faith in our God. Then we may boldly say, "The Lord is my helper, I will not fear. What can man do to me?"

If God helps us, no power can overcome us!

"Troubles and trials are sent to us all,
But our Lord is beside us and won't let us fall;
He'll carry us through, and give us more grace,
As we look in His Word, and gaze on His face."
(G. F.)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 11 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 11 พฤศจิกายน

"สิ่งที่เราบอกกับท่านเราก็บอกกับทุกๆ คนว่า 'จงเฝ้าระวัง!' " (มาระโก 13:37)

เราไม่รู้ว่าเราจะจากโลกนี้ไปเมื่อไร เราไม่รู้เช่นกันว่าพระเยซูจะกลับมาเมื่อไร ดังนั้นพระองค์จึงสั่งให้เราพร้อมเสมอ

เราควรปรารถนาและอธิษฐานขอการกลับมาของพระองค์ทุกวั การกลับมาของพระองค์แน่นอนและจะเป็นไปอย่างเฉียบพลัน พระเจ้าไม่บอกเราถึงเวลาของการมานี้อย่างมีวัตถุประสงค์ในพระปัญญาและพระเมตตาของพระองค์

เราควรเฝ้าดูหมายสำคัญของการกลับมาของพระองค์ (มัทธิว 24, ลูกา 21)

เราควรดำรงชีวิตดังเช่นที่เราอยากให้พระองค์มาพบเรา

คุณปรารถนาให้พระองค์พบเราขณะที่เรากำลังใช้เวลาอย่างสูญเปล่า บ่นคร่ำครวญ หรือทำบาปอยู่หรือไม่?

จงเฝ้าระวังบาปทุกอย่าง จงทำทุกสิ่งที่คุณทำได้เพื่อช่วยให้ผู้อื่นได้รู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า

"เมื่อกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริของข้าฯ เสด็จมา
เพื่อนำผู้ที่พระองค์ไถ่ไว้กลับบ้าน
เมื่อนั้นเราจะร้องบทเพลงบทใหม่
สรรเสริญพระเจ้า! องค์พระผู้ไถ่!"
(P. Bliss, เพลง "Hallelujah, What a Savior")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 11

"I say to you, what I say to everyone, 'Watch for Him.' " (Mark 13:37)

We don't know when we'll die, nor do we know when Jesus will return, so we are commanded to be always ready.

We should be daily longing for and praying for His coming. It is certain and will be sudden. God in His wisdom and mercy has purposely not told us when it will be.

We should watch for the signs of His coming (Matthew 24, Luke 21).

We should live as we would like Jesus to find us.

Would you wish to be found wasting time – grumbling- sinning?

Watch against every sin. Do all you can to help others to know the Lord.

"When He comes, our glorious King, 
All His ransomed home to bring, 
Then anew this song we'll sing, 
Hallelujah! What a Saviour!" 
(Philip P. Bliss, hymn "Hallelujah! What a Savior!")
*Matthew24 & Luke 21

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 10 พฤศจิกายน

บทความสอนใจประจำวัน 10 พฤศจิกายน

"จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า!" (ยอห์น 1:36)

ประชากรของพระเจ้าในสมัยพันธสัญญาเดิมจำเป็นต้องถวายแกะตัวที่ดีที่สุดในฝูงเพื่อเป็นเครื่องบูชา และบาปของเขาก็ได้รับการอภัยผ่านทางความเชื่อในพระเจ้า เครื่องบูชาเหล่านี้เล็งไปถึงวันที่พระองค์ผู้ที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ว่าจะมอบชีวิตของพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาล้างบาป

ขณะที่กำลังเดินอยู่กับเหล่าสาวก ยอห์นก็ได้ระบุว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์ (ผู้ที่พระเจ้าได้เจิมไว้) ที่พระเจ้าได้สัญญาไว้

เรามองย้อนกลับไปยังเวลาที่พระเยซูตายบนไม้กางเขน และผ่านทางความเชื่อ เราชื่นชมยินดีในการยกโทษบาปและสันติสุขกับพระเจ้า

จงพึ่งพาพระองค์ทุกวัน และรู้จักกับสันติสุขและความชื่นบานแห่งพระเจ้า

"ไม่มีสิ่งอื่นใดที่มีค่าพอ
ที่จะจ่ายชำระเพื่อบาป
พระองค์ผู้เดียวที่เปิดประตู
แห่งสวรรค์ และให้เราเข้าไป"
(Cecil F. Alexander, เพลง "There is a green hill far away")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 10

"Look! There is the Lamb of God." (John 1:36)

God's people in Old Testament times were required to sacrifice the best lamb in their flocks. Through faith in God their sins were forgiven. These sacrifices pointed to the day when God's promised One would provide full atonement for sin.

John, walking along with his disciples, identified Jesus as the promised Messiah.

We look back to the time that Jesus died on the cross, and through faith we rejoice in forgiveness of sin and peace with God.

Look to Him daily and know God's peace and joy.

"There was no other good enough
To pay the price of sin.
He only could unlock the gate
Of heaven, and let us in."
(Cecil F. Alexander, hymn "There is a green hill far away")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 09 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 09 พฤศจิกายน

"ข้าแต่พระเจ้า ตั้งแต่เยาว์วัยพระองค์ทรงสอนข้าพระองค์" (สดุดี 71:17 TNCV)

ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริงๆ ที่เราได้รับการสอนโดยพระเจ้า! ขณะที่เราอ่านพระคัมภีร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์สอนให้เรารู้ว่าเราเป็นคนบาป พระองค์สอนเราถึงพระบัญญัติของพระเจ้า รวมถึงความบริสุทธิ์ คำกล่าว และโทษของบัญญัติเหล่านั้น พระองค์สอนเราถึงข่าวดีแห่งความหลุดพ้นที่สมบูรณ์แบบและนำมาซึ่งอิสรภาพ พระองค์สอนเราให้รู้จักพระเจ้าผู้เป็นพ่อในสวรรค์ของเรา คำสอนของพระองค์ประกอบด้วยฤทธานุภาพและสิทธิอำนาจ

คุณได้รับการสอนโดยพระเจ้าหรือไม่? เราสามารถพิจารณาได้จากผล

คำสอนของพระเจ้าก่อให้เกิดความถ่อมใจเสมอ เรารู้ว่าเราอ่อนแอและต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้ามากเพียงไร เรารักพระเจ้าและเกลียดชังความบาป เราชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่พระเยซูได้ทำเพื่อเราในฐานะพระผู้ช่วยของเรา คำสอนของพระเจ้าปกป้องเราจากอันตรายและคำหลอกลวงของซาตาน

หากเราเชื่อฟังคำสอนของพระเจ้า เราก็ถวายเกียรติแด่พระองค์ และเราก็จะตั้งตารอคอยที่จะอยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดร์

พระเจ้าของเราตรัสว่า "เราจะสอนเจ้า"

โอพระเจ้า ขอทรงสอนข้าพระองค์ และทำให้หมดทั้งชีวิตของข้าพระองค์เป็นของพระองค์

"ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงสำแดงหนทางของพระองค์แก่ข้าพระองค์
ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าพระองค์
ขอทรงนำข้าพระองค์ไปในความจริงของพระองค์และสอนข้าพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์" (สดุดี 25:4-5 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 09

"O God, You have taught me from my earliest childhood." (Psalm 71:17)

What a privilege to be taught by God! As we read the Bible the Holy Spirit teaches us to recognise our sinfulness. He teaches us God's laws- their purity, claims and penalties. He teaches us the Good News of Salvation in all its fullness and freedom. He teaches us to know God as our Heavenly Father. His teaching is with power and authority.

Are you taught by God? We can judge by the results.

God's teaching always produces humility –we know how weak we are and how much we need God's help. We love God and hate sin. We rejoice in all that Jesus has done for us as our Saviour. God's teaching protects us from dangers and Satan's lies.

If we obey God's teaching we glorify God; and look forward to being with Him for Eternity.

Our God says "I will teach you." Lord, teach me, and make me entirely Yours.

"O Lord, reveal to me Your ways,
And all Your paths help me to know.
Direct and guide me in Your truth;
Instruct me in the way to go." (Sing psalms 25:4-5)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 08 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 08 พฤศจิกายน

"ไม่มีอะไรแต่ก็ยังเป็นเจ้าของทุกสิ่ง" (2 โครินธ์ 6:10 TNCV)

ครอบครัวขององค์พระผู้เป็นเจ้ามักยากจน ผู้คนอาจจะมองพวกเขาอย่างไร้ค่าหรือไร้ความสำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาเป็นเจ้าของทุกสิ่ง เพราะพวกเขามีพระเจ้า!

พระเจ้าของเราได้กล่าวไว้ว่า "เราเป็นมรดกของเขา" (เอเสเคียล 44:28) และเราทูลพระองค์ว่า "พระองค์เป็นของข้าพระองค์ โอ พระเจ้า"

นิรันดร์กาลของพระองค์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเรา พระลักษณะที่ไม่เปลี่ยนแปลงของพระองค์เป็นความมั่นใจของเรา พระเมตตาของพระองค์เป็นการจัดเตรียมที่หลั่งไหลมาเพื่อเรา พระปัญญาของพระองค์เป็นสิ่งที่นำชีวิตของเรา ความเที่ยงตรงของพระองค์เป็นเครื่องป้องกันของเรา การสถิตทุกแห่งของพระองค์เป็นการร่วมเดินทางอันหวานชื่นของเรา ความบริสุทธิ์ของพระองค์เป็นน้ำพุนำพาให้ชีวิตเราบริสุทธิ์สิ่งเหล่านี้เป็นพระพรที่เราเพลิดเพลิน!

เรามีพระเจ้าเป็นพระเจ้าของเรา! ขอให้เรารักและถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า!

"ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์
ข้าพระองค์สัญญาว่าจะเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์"
(สดุดี 119:57 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 08

"As having nothing, and yet possessing all things." (2 Corinthians 6:10)

The Lord's family are often poor; people may look at them as having nothing of value, or of importance; but in reality they possess all things, because they have God!

Our God has said, "I am their inheritance," (Ezekiel 44:28) and we say,"You are mine, O Lord."

His eternity is the duration of our happiness –His unchanging character is our confidence- His mercies are our overflowing provision- His wisdom is our guidance- His justice is our defence- His omnipresence is our sweet company – His holiness is the fountain through which we become holy. These are the blessings we enjoy!

We have God for our God! Let us love and glorify the Lord!

"You, O Lord, are everything I've longed for;
I have promised to obey Your Word.
With my whole heart I have sought Your favour;
As You promised, grant me grace, O Lord."
(Sing Psalms 119:57)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 07 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 07 พฤศจิกายน

"จงเคลื่อนไปข้างหน้าเถิด" (อพยพ 14:15)

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู ไม่มีการยืนอยู่กับที่ หากเราไม่เคลื่อนไปข้างหน้า เราก็กำลังถอยหลัง คำสั่งของกัปตันของเราคือ "จงเคลื่อนไปข้างหน้า"

จงเคลื่อนไปข้างหน้าในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า สู่อาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า

จงเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยการพึ่งพาสติปัญญา ฤทธิ์อำนาจ และความรักแท้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

จงเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเป็หนึ่งเดียวกันกับประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะถวายเกียติแด่พระองค์ จนกว่าพระองค์จะเรียกเราให้ไปเข้าเฝ้าต่อหน้าพระองค์

จงเคลื่อนไปข้างหน้าแม้จะต้องเผชิญความยากลำบาก ความกลัว และความท้อใจ

พระเจ้าได้สัญญาว่าจะเดินทางไปด้วยกับคุณ พระองค์จะสวมมงกุฎให้คุณที่จุดหมายปลายทางของการเดินทาง ขอให้เรารอคอยและเร่งเร้า "วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า" ไม่มีสิ่งใดที่อยู่เบื้องหลังเรามีค่าพอที่เราจะคิดถึง เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ให้กับเราที่เบื้องหน้า

ขอที่คำขวัญประจำวันของเราจะเป็น "ไปข้างหน้า ไปข้างหน้า"

"ท่ามกลางความเสียใจอย่างหนัก และความทุกข์ใจบ่อยๆ
จงเคลื่อนไปข้างหน้าเถิดคริสเตียน
อย่าห่อเหี่ยวใจ อย่ากลัว อย่ายอมแพ้
อย่าออกจากสนามรบ
จงฟันฝ่าไปข้างหน้า เพื่อคว้ารางวัล
และเมื่อนั้นเราก็จะพบกับเกียรติสิรินิรันดร์"
(Henry Kirke Whiteเพลง "Much in Sorrow, Oft in Woe")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 07

"Go forward." (Exodus 14:15)

As believers in Jesus, there is no standing still; we are either going forward or going back. Our Captain's command is "Go forward."

Go forward in the Lord's way; in the Lord's work; to the Lord's kingdom.

Go forward relying on the Lord's wisdom and His power and love.

Go forward in union with the Lord's people with zeal for His glory; until summoned into His presence.

Go forward even in the face of difficulties, fears and discouragements.

God has promised to go with you. He will crown your journey's end. Let us look for, and hasten the "day of the Lord." There is nothing behind us worth a thought, if compared with what is set before us by the Lord.

May our daily motto be "Forward! Forward."

"Much in sorrow, oft in woe*, (*often in distress.)
Onward, Christian, onward go;
Shrink not, fear not, dare not yield,
Never quit the battle field;
Forward press and win the prize,
Then to endless glory rise."
(Henry Kirke White, hymn "Much in Sorrow, Oft in Woe")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 06 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 06 พฤศจิกายน

"ฉะนั้นท่านจึงไม่เป็นทาสอีกต่อไป แต่เป็นบุตร" (กาลาเทีย 4:7 TNCV)

ในความรักแท้และความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า พระองค์ได้รับทุกคนที่เชื่อในพระเยซูเข้าสู่ครอบครัวของพระองค์ พระองค์เป็นพ่อในสวรรค์ของเรา เราเป็นลูกของพระองค์ และพระองค์เรียกเราให้ดำเนินชีวิตสมกับเป็นลูก

เราควรรัก เชื่อฟัง และปีติยินดีในพระเจ้า

พระเจ้าได้ปลดปล่อยเราจากเครื่องพันธนาการ นำเราเข้าสู่ความสัมพันธ์อันนิรันดร์กับพระเจ้า และให้พระสัญญาแห่งชีวิตนิรันดร์แก่เรา เราจึงมีเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ที่จะชื่นชมยินดี

พระเจ้าบริสุทธิ์ (ปราศจากบาปทั้งปวง) เราควรอธิษฐานขอพระคุณเพื่อที่ราจะบริสุทธิ์เช่นเดียวกัน

ขอให้เราขอบคุณพระองค์วันนี้ที่เราเป็นของพระองค์ และตั้งเป้าหมายที่จะถวายเกียรติแด่พระองค์ในทุกสิ่ง!

"สรรเสริญ สรรเสริญ แด่พระเจ้าด้วยยินดี 
สรรเสริญแด่พระเจ้า จงให้ชาวโลกยินดี
เชิญมาเฝ้าพระเจ้าโดยพระนามพระเยซู 
ถวายเกียรติพระองค์ผู้ทรงเมตตาเอ็นดู"
(Fanny J. Crosby, เพลง "สรรเสริญแด่พระเจ้า")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 06

"You are no longer a slave but God's own child." (Galatians 4:7)

God, in His great love and mercy, has adopted all who believe in Jesus into His family. He is our Heavenly Father. We are His children, and He asks us to behave as such.

We should love, obey, and delight in God.

We have been delivered from bondage, brought into an everlasting relationship with God, have the promise of Eternal Life, and have great reason to rejoice.

God is holy (separate from all sin). We should pray for grace to be holy also.

Let's thank God today that we are His, and aim to glorify Him in all things!

"Praise the Lord! Praise the Lord!
Let the earth hear His voice.
Praise the Lord! Praise the Lord!
Let the people rejoice.
O come to the Father
Through Jesus, the Son;
And give Him the Glory
Great things He has done!"
(Fanny J. Crosby, Hymn "To God Be The Glory"
)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

บทความสอนใจประจำวัน 05 พฤศจิกายน


บทความสอนใจประจำวัน 05 พฤศจิกายน

"แต่จงเจริญขึ้นในพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเราและรู้จักพระองค์มากขึ้น" (2 เปโตร 3:18 TNCV)

"จงอ่านพระคัมภีร์ของคุณ อธิษฐานทุกวัน แล้วคุณจะเติบโต เติบโต เติบโต" คำกล่าวจากเพลงสำหรับเด็กนี้ได้บอกเราอย่างชัดเจนถึงวิธีที่เราจะสามารถ "เติบโตในพระคุณและความรู้"

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู เราจะต้องเติบโตในพระคุณทุกประการ ในความเชื่อ ความรู้ ความรักแท้ ความหวัง และความซื่อสัตย์

พระเยซูสนับสนุนให้เราขอ แล้วเราจะได้รับ

"ข้าแต่พระบิดาในสวรรค์ ขอทรงให้ข้าพระองค์บริบูรณ์ด้วยความชื่นชมยินดีและสันติสุขทั้งปวงเมื่อข้าพระองค์วางใจในพระองค์ เพื่อว่าข้าพระองค์จะเปี่ยมล้นด้วยความหวังโดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอที่ข้าพระองค์จะบริบูรณ์ด้วยความดี และสามารถช่วยผู้อื่นได้ (โรม 15:13-14) โอ ขอที่ข้าพระองค์จะเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และด้วยฤทธิ์เดช ในพระนามพระเยซู อาเมน"

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

November 05

"Grow in grace and the knowledge of our Lord and Saviour, Jesus Christ." (2 Peter 3:18)

"Read your Bible, pray every day, and you'll grow, grow, grow." The words of this children's song tell us clearly how we can "grow in grace and knowledge."

As believers in Jesus we are to grow in every grace, in faith, knowledge, love, hope and faithfulness.

Jesus encourages us to ask and we will receive.

"Heavenly Father, fill us with all joy and peace in believing, that we may abound in hope by the Holy Spirit. May we be full of goodness and able to help others. (Romans 15:13-14) O to be filled with the Holy Spirit and with power. In Jesus' name. Amen."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie