วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 09 มิถุนายน


"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า" (สดุดี 130:7)

บทความสอนใจประจำวัน 09 มิถุนายน

"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ทีองค์พระผู้เป็นเจ้า" (สดุดี 130:7 TNCV)

คำว่า "อิสราเอล" หมายถึง ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมด คำนี้บ่งชี้ถึงความมีเกียรติ เพราะพวกเขาคือเจ้าชาย คำนี้บ่งชี้ถึงประสบการณ์ของพวกเขา เพราะพวกเขาปล้ำสู้กับพระเจ้าในคำอธิษฐาน และพวกเขามีชัยชนะ

พระเจ้าของเราเป็น "พระเจ้าแห่งความหวัง" และเราควรจะฝากความหวังไว้ในพระองค์

อิสราเอลควรฝากความหวังไว้ในพระเมตตาของพระองค์ ในความอดทนอดกลั้นของพระองค์ ในการจัดเตรียมของพระองค์ ในการไถ่อันล้ำค่าของพระองค์ พวกเขาควรมีความหวังที่จะพบแสงสว่างในความมืด พบกำลังในความอ่อนแอ พบการนำทางในความสับสนอลหม่าน พบการช่วยกู้ในอันตราย พบชัยชนะในความขัดแย้ง และพบการเฉลิมฉลองแห่งชัยชนะในความตาย

พวกเขาควรฝากความหวังไว้ในพระเจ้าด้วยความมั่นใจเพราะพระองค์ได้สัญญาไว้ ด้วยใจอธิษฐานเพราะพระองค์ปรารถนาที่จะฟังจากเรา ด้วยความเชื่อฟังเพราะคำสั่งของพระองค์ก็ชัดเจน และด้วยความสม่ำเสมอเพราะพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง

จงฝากความหวังไว้ในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

"อิสราเอลเอ๋ย จงฝากความหวังไว้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะความรักมั่นคงอยู่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า
การไถ่อันสมบูรณ์อยู่ที่พระองค์
พระองค์เองจะทรงไถ่อิสราเอล
จากบาปทั้งสิ้นของพวกเขา" (สดุดี 130:7-8 TNCV)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 09

"O Israel, hope in the Lord." (Psalm 130:7)

This title refers to all the Lord's people; it sets forth their dignity- they are princes; it refers to their experience, they wrestle with God in prayer, and they prevail.

Our God is "The God of Hope": and we should hope in Him.

Israel should hope in His mercy- in His patience – in His provision- in His precious redemption. They should hope for light in darkness; for strength in weakness; for direction in perplexity; for deliverance in danger; for victory in conflict; and for triumph in death.

They should hope in God with confidence, because He has promised; prayerfully, for He loves to hear from us; obediently, for His commandments are clear; and constantly, for He does not change.

Hope in the Lord, and in the Lord alone.

"O Israel, put your hope in God,
For mercy is with Him
And full redemption. From their sins
His people He'll redeem." (Psalm 130:7-8)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 08 มิถุนายน



"ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราใครเล่าจะต่อสู้เราได้?" (โรม 8:31)

บทความสอนใจประจำวัน 08 มิถุนายน

"ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราใครเล่าจะต่อสู้เราได้?" (โรม 8:31 TNCV)

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู ความสมบูรณ์แบบทั้งหมดของพระเจ้าของเราก็มีพร้อมสำหรับการปกป้องและความปลอดภัยของเรา พระองค์อยู่ฝ่ายเรา สนับสนุนเรา ต่อสู้กับศัตรูของเรา

อะไรคือสิ่งที่พระเจ้าได้สัญญาไว้? พระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งเราหรือละทิ้งเรา เราจะมีชัยชนะในพระคริสต์ แต่ชัยชนะนี้อยู่ในพระคริสต์เท่านั้น

หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว เราก็จะมีสิ่งจำเป็นทั้งหมดจัดเตรียมให้แก่เรา หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว มนุษย์หรือมารก็จะไม่มีทางมีอำนาจเหนือเรา หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเราแล้ว เราก็จะชนะโลกนี้ พิชิตความตาย และรับเกียรติศักดิ์ศรีเป็นมรดกชั่วนิรันดร์

พระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา แล้วใครเล่าจะทำร้ายเราได้? อะไรจะทำให้เราตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวได้? พระเจ้าเป็นของเราและเราก็เป็นของพระเจ้า นี่เป็นเกียรติยศของเรา ความสุขของเรา การโอ้อวดของเรา และเกียรติสิริของเรา

"ในพระนามพระเยซู ในพระนามพระเยซู
เราจะเป็นผู้มีชัย
ในพระนามพระเยซู ในพระนามพระเยซู
ผีร้ายจะต้องหนีไป
เมื่อเราสู้โดยนามพระเยซู
ใครสามารถต่อสู้เราได้
เมื่อเราสู้โดยนามพระเยซู
เราจะเป็นผู้มีชัย"
(เพลง "ในพระนามพระเยซู")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 08

"If God is for us, who can be against us?" (Romans 8:31)

As believers in Jesus, all the perfections of our God are available for our protection and safety. He is for us; engaged in our cause; opposed to our enemies.

What has God promised? He will never leave us, nor forsake us. We may triumph in Christ, but only in Christ.

If God is for us, then all that we need will be available. If God is for us, men or devils will never prevail against us. If God is for us, we shall overcome the world, conquer death, and eternally inherit glory.

God is for us, who then can harm us? What then shall alarm or terrify us? God is ours; we are God's. This is our honour, our happiness, our boast and our glory.

"In the name of Jesus, in the name of Jesus,
We have the victory!
In the name of Jesus, in the name of Jesus,
Demons will have to flee!
Who can tell what God can do?
Who can tell of His love for you?
In the mighty name of Jesus
We have the victory!"
(Hymn "In The Name of Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 07 มิถุนายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า 'เจ้าเป็นพยานของเรา' " (อิสยาห์ 43:12)

บทความสอนใจประจำวัน 07 มิถุนายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า 'เจ้าเป็นพยานของเรา' " (อิสยาห์ 43:12 TNCV)

พระเจ้าเรียกเราให้บอกเล่าถึงความจริงและฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า บอกเล่าถึงความดี ความบริสุทธิ์ และความสัตย์ซื่อของพระองค์ เราจะต้องบอกเล่าแก่โลกนี้ด้วยคำกล่าวยืนยันและการกระทำที่ประกอบด้วยความกล้าหาญและความรักแท้ สิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้นจากการดำเนินชีวิตประจำวันกับพระเจ้า

เรารู้จักพระเจ้าหรือไม่? เรามีประสบการณ์กับฤทธิ์อำนาจแห่งความจริงในหัวใจของเราทุกๆ วันหรือไม่? ประสบการณ์ของเราปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากความกลัว การรักโลก และฤทธิ์อำนาจของบาปหรือไม่?

เราบอกได้หรือไม่ว่า "เรารู้และเชื่อมั่นในความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา พระเจ้าเป็นความรัก" (1 ยอห์น 4:16)? เรากำลังบอกกับคนรอบข้างได้หรือไม่ว่า "เชิญชิมดูแล้วจะรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าแสนดี ความสุขมีแก่ผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์" (สดุดี 34:8)?

เราพร้อมเหมือนเปาโลผู้ที่กล่าวคำยืนยันต่อหน้าผู้พิพากษาและกษัตริย์ในการจองจำ และยอมแลกแม้กระทั่งชีวิตของเขาเองหรือไม่?

"ขอบพระคุณสำหรับการกำหนดเส้นทางชีวิตให้ข้าฯ
ขอบพระคุณสำหรับการรับเอาความผิดบาป ความกลัว และความดิ้นรนฟันฝ่าของข้าฯ ไป
คำอธิษฐานของข้าฯ คือที่จะรู้จักพระองค์มากขึ้นในแต่ละวัน
และที่จะแบ่งปันพระองค์ให้กับผู้ที่ยังไม่พบหนทางชีวิตของเขา
"
(Bonnie Mendell - อดีตผู้ติดเฮโรอีน)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 07

" 'You are My witnesses,' says the Lord." (Isaiah 43:12)

We are called to witness to the truth and the power of God; to His goodness, holiness and faithfulness. We are to witness to the world by our testimony and conduct with courage and love. It should arise from our daily walk with God.

Do we know God? Do we daily experience the power of truth in our hearts? Does it free us from fear, the love of the world and the power of sin?

Can we say, "We have known and believed the love which God has for us – God is love" (1 John 4:16)? Are we saying to those around us, "O taste and see that the Lord is good; there is no lack to those who fear Him" (Psalm 34:8)?

Are we ready like Paul, to witness before judges and kings, in prison or at the cost of our very lives?

"Thank You for setting a course for my life;
Thank You for taking my guilt, fear and strife.
My prayer is to learn more about You each day,
And to share You with those who have not found their way."
(Bonnie Mendell- former heroin addict)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 06 มิถุนายน


"ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น" (มาระโก 7:37)

บทความสอนใจประจำวัน 06 มิถุนายน

"ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น" (มาระโก 7:37 THSV2011)

นี่เป็นการตัดสินของฝูงชนที่เห็นการอัศจรรย์ของพระเยซู เราเห็นด้วยกับพวกเขาอย่างจริงจ พระองค์เรียกเราโดยพระคุณของพระองค์ และเราชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อเรา

พระองค์ได้ทดสอบเราเป็นครั้งคราว แต่เมื่อเราคิดถึงพระเมตตาของพระองค์และการที่พระองค์ช่วยให้เราผ่านพ้นได้ เราก็ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย

เรามองย้อนดูการตายบนไม้กางเขนของพระเยซูเพื่อนำเราสู่ความหลุดพ้น การคืนชีวิตจากความตายของพระองค์ การส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นผู้ปลอบใจเรา และเราก็โห่ร้องสรรเสริญว่า "ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น"

เมื่อเราไปถึงสวรรค์ เราก็จะสรรเสริญพระองค์ชั่วนิรันดร์สำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำด้วยใจขอบพระคุณและด้วยความรั

"ความรักของพระองค์ที่มีต่อคนบาปอย่างข้าฯ
ทั้งสิ้นช่างยิ่งใหญ่ ยอดเยี่ยม และไม่คิดมูลค่า
พระองค์คว้าข้าฯ ขึ้นมาจากนรก!
พระเยซูของข้าฯ ทำทุกย่างล้วนดีทั้งนั้น"
(Samuel Medley)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 06

"He has done all things well." (Mark 7:37)

This was the verdict of the crowd who saw the miracles of Jesus. We heartily agree. He called us by His grace and we rejoice in all He has done for us.

We have been tried and tested from time to time, but when we think of His mercies and His deliverances we give thanks that He has never failed us.

We look back to the death of Jesus on the cross to procure our salvation, to His rising again from the dead, to His sending the Holy Spirit as our Comforter and we acclaim, "He has done all things well."

When we reach heaven, with what thanksgiving and love, we shall praise Him eternally for all He has done.

"How sovereign, wonderful, and free,
Is all His love to sinful me,
He plucked me as a brand from hell!
My Jesus has done all things well."
(Samuel Medley)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 05 มิถุนายน



"พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร" (กิจการ 9:6)

บทความสอนใจประจำวัน 05 มิถุนายน

"พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร" (กิจการ 9:6 TKJV)

ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดควรทำงานเพื่อถวายเกียรติสิริแด่พระเจ้า มีบางสิ่งให้เราทำในวันนี้ พระเยซูเป็นเจ้านายของเราและมีสิทธิที่จะได้รับการรับใช้จากเรา เราควรเชื่อฟังพระองค์เป็นประจำด้วยความเต็มใจและความยินดี

เราเป็นของพระองค์หรือไม่? เราแสดงออกได้ด้วยการเชื่อฟังพระองค์

เรามีความเชื่อ ความหวัง ความรัก ความถ่อมใจ สันติสุข และใจสำนึกในพระคุณหรือไม่? เมื่อนั้นเราควรทำงานเพื่อพระองค์ ทำงานตลอดเวลา และทำงานราวกับว่าทุกวันเป็นวันสุดท้ายของเรา พร้อมด้วยมีใจขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระพรทั้งสิ้นที่เราได้รับ

คุณกำลังรับใช้พระเยซูด้วยพระวิญญาณของพระองค์หรือไม่? จงระวัง อย่าให้การรับใช้ของคุณมาแทนที่พระเยซู ทำทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้ และวางทุกสิ่งไว้ที่เท้าของพระองค์ เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการชำระล้าง!

"พระเจ้าได้เรียกคุณให้ออกจากความมืด
เข้าสู่ความสว่างอันล้ำเลิศที่สุดของพระองค์
พระองค์ได้นำความจริงของพระองค์สู่ชีวิตภายในคุณ
ทำให้คุณซึ่งตาบอดได้มองเห็น
ขอที่แสงสว่างของคุณจะส่องประกาย
เพื่อพระนามของพระเจ้าจะได้รับเกียรติสิริ
และทุกคนก็จะได้พบความหวังและวัตถุประสงค์ที่สดใหม่
ในพระเยซูคริสต์ผู้ได้สละพระชนม์เพื่อเราทั้งหลาย"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 05

"Lord, what so You want me to do?" (Acts 9:6)

All the Lord's people should be working for the Lord's glory. There is something for us to do to-day. Jesus is our Master, and has a right to our service. We should obey Him willingly, cheerfully, habitually.

Are we His? We show it by obeying Him.

Have we faith, hope, love, humility, peace and thankfulness? We ought then in thankfulness for all these blessings to be working for Him, always working, and working as if every day were our last.

Are you serving Jesus in the spirit of Jesus? Beware not to put your service in the place of Jesus.

Do all you can, and then lay all you do at His feet, it will need washing!

"God has called you out of darkness
Into His most marvellous light;
Brought His truth to life within you,
Turned your blindness into sight.
Let your light so shine around you
That God's name is glorified
And all find fresh hope and purpose
In Christ Jesus crucified."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 03 มิถุนายน


"พระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์" (เอเฟซัส 2:7)

บทความสอนใจประจำวัน 03 มิถุนายน

"พระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์" (เอเฟซัส 2:7 THSV2011)

องค์พระผู้เป็นเจ้าปีติยินดีในพระคุณของพระองค์ พระคุณเป็นความอุดมหรือความมั่งมีของพระองค์ และพระคุณบริบูรณ์พร้อมในพระเยซู เพื่อที่เราจะได้รับพระคุณนี้ผ่านทางพระองค์ พระคุณของพระองค์มีมากเกินกว่าที่ความคิด ความคาดหวัง และรวมถึงความเชื่อของเราจะหยั่งถึง

พระเยซูเป็นของขวัญแห่งพระคุณเช่นเดียวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์และพระพรฝ่ายวิญญาณทั้งสิ้น พระคุณได้รวมถึงพระพรทั้งสิ้นที่คริสตจักรได้รับแล้ว กำลังได้รับ และจะได้รับจวบจนชั่วนิจนิรันดร์

โอ ขอพระองค์ประทานความเชื่อ เพื่อที่ข้าพระองค์จะเชื่อวางใจในพระสัญญาของพระเจ้า

มีพระคุณอันอุดมเพื่อเรา เพื่อเราในเช้าวันนี้ เพื่อเราในทุกเวลาที่เราขอ ด้วยเหตุนี้ ขอให้เรารับเอาพระคุณ เพื่อที่ผ่านทางพระคุณนี้ เราจะได้รับใช้พระเจ้าอย่างที่พระองค์พอใจด้วยความเคารพยำเกรงพระองค์

"พระคุณพระเจ้านั้นแสนชื่นใจ
ช่วยได้คนชั่วอย่างฉัน
ครั้งนั้นฉันหลงพระองค์ตามหา
ตาบอดแต่ฉันเห็นแล้ว"
(John Newton, เพลง "พระคุณพระเจ้า")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 03

"The exceeding riches of His grace." (Ephesians 2:7)

The Lord glories in His grace. It is His riches- His wealth. It is all treasured up in Jesus to be received by us. His grace exceeds our thoughts and expectations - and our faith.

Jesus is the gift of grace, as is the Holy Spirit and also all spiritual blessings. Grace includes all the blessings the church has received, is receiving and will receive throughout eternity.

Oh, for faith to believe the promises of God.

There is an abundance of grace, and it is for us; for us this morning, for us whenever we ask. Let us therefore have grace, by which we may serve God acceptably with reverence and godly fear.

"Amazing grace! How sweet the sound;
That saved a wretch like me!
I once was lost, but now am found;
Was blind, but now I see."
(John Newton, hymn "Amazing Grace")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564

บทความสอนใจประจำวัน 02 มิถุนายน


"เราจะทำดีแก่เจ้า" (ปฐมกาล 32:9)

บทความสอนใจประจำวัน 02 มิถุนายน

"เราจะทำดีแก่เจ้า" (ปฐมกาล 32:9 THSV2011)

ดังเช่นที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาไว้กับยาโคบ รวมถึงพระสัญญาที่พระองค์ได้ให้แก่บรรพบุรุษของเรา พระองค์จะทำตามคำสัญญานั้นเพื่อเรา พระสัญญาดังกล่าวมิได้ตัดปัญหาประเภทต่างๆ ออกไป และพระเจ้าจะยังคงดูแลเราอย่างดี

พระสัญญายืนยันว่าสิ่งดีจะเกิดขึ้นผ่านทางการทดสอบที่เราเผชิญ และพระองค์จะให้พระคุณแก่เราเพื่อเสริมกำลังแก่เรา และเราจะได้รับสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นสำหรับเรา

ช่างเป็นคำปลอบใจที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ที่พระเจ้าจะปฏิบัติต่อเราด้วยความกรุณาในยามที่เราแข็งแรงดีและในยามเจ็บป่วย ในชีวิตและในความตาย ในกาลเวลาและจวบจนนิรันดร์กาล เรามีเหตุผลที่ดีที่จะเปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจ ความพอใจ และใจที่สำนึกในพระคุณ!

แม้ยาโคบเผชิญการทดสอบมากมาย ท่านได้พบว่าพระเจ้าสัตย์ซื่อ และก็จะเป็นเช่นนั้นสำหรับเรา

ขอให้เราชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าได้กล่าวว่า "เราจะทำดีแก่เจ้า เราจะช่วยให้เจ้าหลุดพ้นด้วยความหลุดพ้นนิรันดร์ เราจะเป็นพระเจ้าของเจ้าและเกียรติสิริของเจ้า"

"จงนิ่งเสีย จิตใจของข้าฯ พระเจ้าอยู่เคียงข้างคุณ
จงรับกางเขนแห่งความทุกข์หรือความเจ็บปวด และแบกไว้ด้วยความอดทน
จงวางใจให้พระเจ้าบัญชาและจัดเตรียม
พระองค์ยังคงสัตย์ซื่อในทุการเปลี่ยนแปลง
จงนิ่งเสีย จิตใจของข้าฯ พระองค์เป็นสหายรัก สหายแห่งสวรรค์
หนทางขวากหนามนี้ จะนำไปสู่จุดหมายแห่งความชื่นชมยินดี"
(K.V. Schlegel, เพลง "Be Still, My Soul")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

June 02

"I will treat you kindly." (Genesis 32:9)

So the Lord promised Jacob; and the promise made to our fathers, He will fulfil for us. Such a promise does not exclude troubles of all kinds, and still the Lord deals well with us.

The promise guarantees that good will come through our trials; that grace will be given to strengthen us, and all our needs will be met.

What a comfort to know that God treats us kindly in health and in sickness, in life and in death; in time and through eternity. We have good reason to be filled with confidence, contentment and thanksgiving!

Jacob, though tried, found the Lord faithful, and so shall we.

Let us rejoice that God has said "I will treat you well. I will save you with an everlasting salvation. I will be your God and your glory."

"Be still my soul: the Lord is on your side;
Bear patiently the cross of grief or pain;
Leave to your God to order and provide;
In every change He faithful will remain.
Be still, my soul: your best, your heavenly Friend
Through thorny ways leads to a joyful end."
(K.V. Schlegel, hymn "Be Still, My Soul")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie