วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

Danger, Despair, Death & Deliverance (3)

4 ภาพในสดุดี 107 ประกอบไปด้วย ถิ่นทุรกันดาร การถูกโซ่ตรวน การเจ็บป่วย และพายุ แต่ละคนในเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนสิ้นหวัง

หิว​โหย​และ​กระ​หาย จิต​ใจ​พวก​เขา​ก็​อ่อน​ระอา​อยู่​ภาย​ใน (สดุดี 107:5 THSV2011)

พระ​องค์​ทรง​ทำ​ให้​ใจ​ของ​เขา​ทั้ง​หลาย​ถ่อม​ลง​ด้วย​งาน​หนัก เขา​สะ​ดุด​และ​ไม่​มี​ใคร​ช่วย (สดุดี 107:12 THSV2011)

เขา​ทั้ง​หลาย​รัง​เกียจ​อา​หาร​ทุก​ชนิด และ​เข้า​ไป​ใกล้​ประ​ตู​ความ​ตาย (สดุดี 107:18 THSV2011)

คน​เหล่า​นั้น​ถูก​ซัด​ขึ้น​ไป​สู่​ท้อง​ฟ้า และ​ลง​ไป​สู่​ที่​ลึก จิต​ใจ​ของ​เขา​ฝ่อ​ไป​ใน​เหตุ​ร้าย​ของ​เขา (สดุดี 107:26 THSV2011)

ไม่มีใครที่จะช่วยพวกเขา ไม่มีใครที่พวกเขาจะหันไปหาได้ เหล่านี้เป็น 4 ภาพของความสิ้นหวัง

แล้วเราก็ได้พบท่อนสร้อยที่กล่าวซ้ำทุกครั้ง ว่า

ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​ยาห์​เวห์ เพราะ​ความ​รัก​มั่นคง​ของ​พระ​องค์ เพราะ​การ​อัศ​จรรย์​ต่างๆ ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ต่อ​มนุษย์​ทั้ง​หลาย (สดุดี 107:8,13,19,28 THSV2011)

ผู้คนเหล่านี้ล้วนสิ้นหวัง ไม่มีความหวัง พวกเขาหันไปหาพระเจ้า แล้วทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป ความเศร้าโศกก็เปลี่ยนเป็นความชื่นชมยินดี ความหวังก็เข้ามาในเหตุการณ์

คุณอาจจะไม่ได้อยู่ในความทุกข์ใจในขณะนี้

บางที คุณอาจจะไม่ใช่คริสเตียน วันหนึ่งคุณอาจจะมาถึงจุดของชีวิตที่ไร้ซึ่งความหวัง หมดหนทาง คุณอาจจะกำลังแสวงหาว่ามีพระเจ้าผู้ทรงห่วงใย ทรงรับฟัง และทรงตอบอยู่หรือไม่

บางทีคุณอาจจะเป็นคริสเตียนที่กำลังพบกับความยากลำบากที่ดูเหมือนจะเกินการควบคุม

สดุดีบทนี้มีบางสิ่งที่จะบอกกับคุณในวันนี้

 

Dr. Euan Dodds

Sunday Morning Service, St George's Tron Church

25/09/2011

 

หมายเหตุ:

- ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

- สำหรับภาษาอังกฤษ สามารถอ่านได้ที่นี่ครับ Danger, Despair, Death & Deliverance (English)

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

Danger, Despair, Death & Deliverance (2)

ผู้เขียนสดุดีบทนี้ ได้กล่าวถึงสิ่งนี้ถึง 4 ครั้ง

ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​ยาห์​เวห์ เพราะ​ความ​รัก​มั่นคง​ของ​พระ​องค์ เพราะ​การ​อัศ​จรรย์​ต่างๆ ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ต่อ​มนุษย์​ทั้ง​หลาย (สดุดี 107:8,13,19,28 THSV2011)

และท่านยังได้กล่าวในข้อ 2 ว่า

ให้​ผู้​ที่​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ไถ่​ไว้​แล้ว​กล่าว​ดัง​นั้น​เถิด คือ​ผู้​ที่​ทรง​ไถ่​ไว้​จาก​มือ​ของ​คู่​อริ (สดุดี 107:2 THSV2011)

พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรักแห่งพันธสัญญา และพระองค์ทรงช่วยกู้ผู้ที่อยู่ในความทุกข์ใจ

 

ในพระธรรมสดุดีบทนี้ มีสถานการณ์อยู่ 4 อย่าง ได้แก่

1. ฉากที่ 1

4 บ้าง​ก็​พเน​จร​อยู่​ใน​ถิ่น​ทุร​กัน​ดาร​ใน​ที่​แห้ง​แล้ง หา​ไม่​พบ​ทาง​ที่​จะ​เข้า​นคร​ซึ่ง​พอ​จะ​อาศัย​ได้
5 หิว​โหย​และ​กระ​หาย จิต​ใจ​พวก​เขา​ก็​อ่อน​ระอา​อยู่​ภาย​ใน
6 เมื่อ​มี​ความทุกข์​ลำ​บาก เขา​ทั้ง​หลาย​ได้​ร้อง​ทูล​พระ​ยาห์​เวห์ แล้ว​พระ​องค์​ทรง​ช่วย​กู้​เขา​ให้​พ้น​จาก​ความ​ทุกข์​ใจ
7 พระ​องค์​ทรง​นำ​เขา​ทั้ง​หลาย​ไป​ใน​ทาง​ตรง จน​เขา​มา​ถึง​นคร​ซึ่ง​พอ​จะ​อา​ศัย​ได้
8 ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​ยาห์​เวห์ เพราะ​ความ​รัก​มั่นคง​ของ​พระ​องค์ เพราะ​การ​อัศ​จรรย์​ต่างๆ ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ต่อ​มนุษย์​ทั้ง​หลาย
9 เพราะ​พระ​องค์​ทรง​ให้​ผู้​ที่​กระ​หาย​ได้​อิ่ม​เอม และ​ผู้​ที่​หิว พระ​องค์​ทรง​ให้​เขา​หนำ​ใจ​ด้วย​ของ​ดี (สดุดี 107:4-9 THSV2011)

2. ฉากที่ 2

10 บ้าง​ก็​นั่ง​อยู่​ใน​ความ​มืด​และ​เงา​มัจ​จุ​ราช ถูก​ขัง​อยู่​ด้วย​ความ​ทุกข์​ยาก​และ​ติด​ตรวน
11 เพราะ​พวก​เขา​กบฏ​ต่อ​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า และ​หยาม​คำ​ปรึก​ษา​ของ​องค์​ผู้​สูง​สุด
12 พระ​องค์​ทรง​ทำ​ให้​ใจ​ของ​เขา​ทั้ง​หลาย​ถ่อม​ลง​ด้วย​งาน​หนัก เขา​สะ​ดุด​และ​ไม่​มี​ใคร​ช่วย
13 เมื่อ​มี​ความ​ทุกข์​ลำ​บาก เขา​ทั้ง​หลาย​ได้​ร้อง​ทูล​พระ​ยาห์​เวห์ แล้ว​พระ​องค์​ทรง​ช่วย​เขา​ให้​พ้น​จาก​ความ​ทุกข์​ใจ
14 พระ​องค์​ทรง​นำ​เขา​ทั้ง​หลาย​ออก​มา​จาก​ความ​มืด​และ​เงา​มัจ​จุ​ราช และ​ทรง​หัก​โซ่​ตรวน​ที่​ล่าม​ตัว​เขา​ให้​ขาด​สะบั้น
15 ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​ยาห์​เวห์ เพราะ​ความ​รัก​มั่น​คง​ของ​พระ​องค์ เพราะ​การ​อัศ​จรรย์​ต่างๆ ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ต่อ​มนุษย์​ทั้ง​หลาย
16 เพราะ​พระ​องค์​ทรง​พัง​ประ​ตู​ทอง​สัม​ฤทธิ์ และ​ทรง​ตัด​ซี่​ลูก​กรง​เหล็ก​เสีย (สดุดี 107:10-16 THSV2011)

3. ฉากที่ 3

17 บ้าง​ก็​เป็น​คน​โง่ เพราะ​ทาง​แห่ง​การ​ละ​เมิด​ของ​พวก​เขา และ​เพราะ​ความ​ชั่ว​ของ​พวก​เขา พวก​เขา​ต้อง​ทน​ทุกข์
18 เขา​ทั้ง​หลาย​รัง​เกียจ​อา​หาร​ทุก​ชนิด และ​เข้า​ไป​ใกล้​ประ​ตู​ความ​ตาย
19 เมื่อ​มี​ความ​ทุกข์​ลำ​บาก เขา​ทั้ง​หลายได้​ร้อง​ทูล​พระ​ยาห์​เวห์ แล้ว​พระ​องค์​ทรง​ช่วย​เขา​ให้​พ้น​จาก​ความ​ทุกข์​ใจ
20 พระ​องค์​ทรง​ใช้​พระ​วจนะ​ของ​พระ​องค์​ไป​รัก​ษา​เขา​ทั้ง​หลาย และ​ทรง​ช่วย​กู้​เขา​จาก​หลุม​มรณา
21 ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​ยาห์​เวห์​เพราะ​ความ​รัก​มั่น​คง​ของ​พระ​องค์ เพราะ​การ​อัศ​จรรย์​ต่างๆ ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ต่อ​มนุษย์​ทั้ง​หลาย
22 และ​ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ขอบ​พระ​คุณ และ​เล่า​พระ​ราช​กิจ​ของ​พระ​องค์​ด้วย​การ​ร้อง​เพลง​อย่าง​ชื่น​บาน (สดุดี 107:17-22 THSV2011)

4. ฉากที่ 4

23 บ้าง​ก็​ลง​เรือ​ไป​ใน​ทะเล ทำ​อา​ชีพ​อยู่​บน​น้ำ​กว้าง​ใหญ่
24 เขา​ทั้ง​หลาย​ได้​เห็น​พระ​ราช​กิจ​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ คือ​การ​อัศ​จรรย์​ต่างๆ ใน​ที่​น้ำ​ลึก
25 เพราะ​พระ​องค์​ทรง​บัญ​ชา​ให้​เกิด​ลมพายุ ซึ่ง​โหม​ให้​คลื่น​ทะเล​กำ​เริบ
26 คน​เหล่า​นั้น​ถูก​ซัด​ขึ้น​ไป​สู่​ท้อง​ฟ้า และ​ลง​ไป​สู่​ที่​ลึก จิต​ใจ​ของ​เขา​ฝ่อ​ไป​ใน​เหตุ​ร้าย​ของ​เขา
27 เขา​ทั้ง​หลาย​ถลา​และ​โซ​เซ​ไป​อย่าง​คน​เมา และ​หมด​ปัญ​ญา
28 เมื่อ​มี​ความ​ทุกข์​ลำ​บาก เขา​ทั้ง​หลาย​ได้​ร้อง​ทูล​พระ​ยาห์​เวห์ แล้ว​พระ​องค์​ทรง​นำ​เขา​ออก​จาก​ความ​ทุกข์​ใจ
29 พระ​องค์​ทรง​ทำ​ให้​พายุ​สงบ​ลง และ​คลื่น​ทะเล​ก็​นิ่ง
30 แล้ว​เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​ยินดี​เพราะ​มี​ความ​สงบ และ​พระ​องค์​ทรง​นำ​เขา​มา​ถึง​เมือง​ท่า​ที่​เขา​ปรารถ​นา
31 ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​ยาห์​เวห์ เพราะ​ความ​รัก​มั่น​คง​ของ​พระ​องค์ เพราะ​การ​อัศ​จรรย์​ต่างๆ ของ​พระ​องค์​ที่​มี​ต่อ​มนุษย์​ทั้ง​หลาย
32 ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ยก​ย่อง​พระ​องค์​ใน​การ​ชุม​นุม​ของ​ประ​ชา​ชน และ​สรร​เสริญ​พระ​องค์​ใน​ที่​ประ​ชุม​ของ​ผู้อาวุ​โส (สดุดี 107:23-32 THSV2011)


Dr. Euan Dodds

Sunday Morning Service, St George's Tron Church

25/09/2011

 

หมายเหตุ:

- ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

- สำหรับภาษาอังกฤษ สามารถอ่านได้ที่นี่ครับ Danger, Despair, Death & Deliverance (English)

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

Danger, Despair, Death & Deliverance (1)

หนังสือเล่มหนึ่งที่ข้าพเจ้าอยากแนะนำให้อ่าน คือ หนังสือที่ชื่อ "War and Grace" หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้กล่าวถึงชายคนหนึ่งที่ชื่อ Rupert Lonsdale ชายผู้นี้เป็นที่สุภาพ ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของเรือใต้น้ำคนหนึ่ง

ในภาระกิจสุดท้ายของท่าน ท่านได้ถูกส่งไปยังที่ที่อันตรายแห่งหนึ่งในยุโรป ในระหว่างทางกลับ เรือก็ถูกทุ่นระเบิด เรือก็ได้รับความเสียหาย และจมลงอยู่ใต้โคลนตมใต้ทะเล ท่านและลูกเรือของท่านพยายามทำทุกสิ่ง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ความหวังเหมือนจะสูญสิ้น

ท่านได้บอกกับลูกเรือว่า "เราคงจะไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว และเวลานี้เป็นเวลาที่เราจะต้องอธิษฐาน" 2 คนใน 58 คนปฏิเสธที่จะร่วมอธิษฐาน แต่ที่เหลืออีก 56 คนตกลงที่จะอธิษฐานร่วมกัน

หลังจากอธิษฐานจบ ก็มีแนวทางการแก้ปัญหาเข้ามาในความคิดของท่าน และทุก ๆ คนในเรือลำนั้นก็สามารถออกมาจากใต้ท้องทะเลได้ เรือดำน้ำก็เป็นอิสระ

สดุดีบทที่ 107 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้ประชากรของพระองค์จากความทุกข์ใจ พระองค์ทรงฤทธิ์อาจ สามารถช่วยกู้ประชากรของพระองค์ได้

ผู้เขียนพระธรรมสดุดี ต้องการที่จะสอนเราเกี่ยวกับความรักของพระเจ้า ที่เป็นความรักแห่งพันธสัญญา ท่านได้เริ่มด้วยพระคัมภีร์ข้อที่ 1

จง​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​ยาห์​เวห์ เพราะ​พระ​องค์​ประเสริฐ เพราะ​ความ​รัก​มั่น​คง​ของ​พระ​องค์​ดำ​รง​เป็น​นิตย์ (สดุดี 107:1 THSV2011)

และผู้เขียนได้จบสดุดีบทนี้ด้วยพระคัมภีร์ข้อที่ 43

ผู้​ใด​มี​ปัญญา​ก็​ให้​เขา​ฟัง​สิ่ง​เหล่า​นี้ ให้​เขา​พิจาร​ณา​ถึง​ความ​รัก​มั่น​คง​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ (สดุดี 107:43 THSV2011)

สดุดีบทนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า เกี่ยวกับความรักที่สัตย์ซื่อ ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่สูญสิ้นของพระองค์

 

Dr. Euan Dodds

Sunday Morning Service, St George's Tron Church

25/09/2011

 

หมายเหตุ:

- ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

- สำหรับภาษาอังกฤษ สามารถอ่านได้ที่นี่ครับ Danger, Despair, Death & Deliverance (English)

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

การศึกษาเปลี่ยนชีวิต (6/6)

อิสราเอลเป็นชนชาติหนึ่ง ซึ่งพบในพระคัมภีร์ และการศึกษามีผลเป็นอย่างมากต่อชนชาตินี้

ชาวปากีสถานท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความมั่นคงของปากีสถาน ท่านเป็นคนที่มีอิทธิพล เป็นนักคิด เป็นผู้นำ ท่านเริ่มต้นด้วยคำถามว่า "ทำไมยิวจึงเป็นชนชาติที่มีอิทธิพลที่สุดในโลก?" ในขณะที่ยิวทั่วโลกมีเพียง 14 ล้านคนคนเท่านั้น แต่คนมุสลิมมีทั้งหมด 1,400 ล้านคน คือมากกว่ายิวถึงร้อยเท่า

  • Benjamin Rubin เป็นคนคิดเข็มฉีดยา
  • Jonas Salk เป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการคิดค้นวัคซีนโปลิโอ
  • Baruch Blumberg คิดค้นวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี
  • Sigmund Freud เป็นนักจิตวิทยาที่เป็นที่รู้จัก
  • Willem Kolff คิดเครื่องล้างไต
  • Gertrude Elion คิดค้นยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • นอกจากนี้ คนที่ได้รับ Noble prize ทั้งหลาย ซึ่งเป็นคนที่คิดค้นสิ่งต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงคนที่คิดค้น Levi, Polo, Starbucks, Google และรัฐบุรุษทั้งหลาย ล้วนเป็นชาวยิวทั้งสิ้น

จากการสำรวจทางการศึกษา พบว่า

  • คนที่ IQ สูงเกิน 140 เป็นยิวมากกว่าชาติอื่น 6 เท่า
  • คนที่ได้รับรางวัลโนบล เป็นยิวถึง 1 ใน 3
  • ผู้นำทางด้านวรรณกรรม ดนตรี ศิลปะ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ จิตวิทยา ศาสนศาสตร์ และปรัชญาก็เป็นยิวมาก

ปี 1954 สำรวจในนิวยอร์ค พบว่า ในเด็ก 28 คนที่มี IQ มากกว่า 170 เป็นยิวเสีย 24 คน

ถามว่าทำไมคนยิวจึงมีศักยภาพสูงเพียงนี้? คำตอบของนักการศึกษา ก็คือ เพราะการศึกษา แต่คำตอบของนักศาสนศาสตร์ ก็คือ การศึกษา ที่มีพระเจ้าแทรกซึมอยู่ในวัฒนธรรมที่แข็งแรง พื้นฐานการศึกษาของคนยิว คือ ธรรมบัญญัติ พระวจนะของพระเจ้า

เรามาสำรวจคำสอนของจีนกันบ้าง

หลายท่านเคยเรียนคัมภีร์ 3 อักษร (3-character classic) ซึ่งมีคำแปลสวยงามมาก ทางยูเนสโกรับว่าเป็นสื่อการสอนที่ดีที่สุดอันหนึ่ง

คำสอนหนึ่ง คือ แรก ๆ คนเราเกิดมา ธรรมชาติเป็นคนที่ดี มีคุณธรรม และเมื่อคนเราเกิดมาก็มีธรรมชาติคล้าย ๆ กัน เมื่อเราเรียนรู้ไป เราก็ยิ่งห่างกันมากขึ้น

เกิดมาเหมือนกัน แต่เมื่อผ่านการศึกษาที่ไม่เหมือนกัน ก็ทำให้คนไม่เหมือนกัน

อีกตอนหนึ่ง กล่าวว่า

To feed without teaching is the father's fault.
To teach without severity is the teacher's laziness.

ถ้าหากว่าเลี้ยงอย่างเดี๋ยวแล้วไม่สอน ความผิดอยู่ที่พ่อแม่ ลูกหลานไม่มาโบสถ์ ความผิดอยู่ที่พ่อแม่ คริสเตียนไม่ประกาศ ความผิดอยู่ที่คริสตจักร ลูกหลานไม่ประสบความสำเร็จ ความผิดอยู่ที่โรงเรียน เพราะเกิดจากการสอนที่ปราศจากความเข้มงวด ซึ่งเกิดจากความผิดของครูทั้งหลาย

นี่คือปรัชญาของคนจีน

คนไทยเรา มีคำว่า “บ.ว.ร.” นั่นคือ บ้าน วัด และโรงเรียน แต่คริสเตียนจะต้องเป็น บบร นั่นคือ บ้าน โบสถ์ โรงเรียน

เราจะต้องคิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพราะเราเชื่อว่าการศึกษานำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงชีวิต

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน


ศจ.ดร. ศึกษา เทพอารีย์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 28/08/2011

เรื่อง การศึกษาเปลี่ยนชีวิต

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

การศึกษาเปลี่ยนชีวิต (5/6)

วิธีแก้

วิธีแก้ ได้แก่ การเรียนรู้พระวจนะของพระเจ้า ให้พระวจนะของพระเจ้าเป็นหลักในชีวิต พระวจนะจะเป็นภูมิคุ้มกันให้ลูกหลานปลอดภัยในสังคมโลก พระวจนะเป็นความจริง เป็นชีวิต เป็นที่พึ่งและเป็นที่ไว้วางใจของเราได้ เพราะอะไร? เพราะพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของพระวจนะทรงพระชนม์อยู่ ทรงรับฟังเรา และทรงมีพระสัญญาว่าจะทรงตอบคำอธิษฐานของเรา

การเรียนรู้พระวจนะของพระเจ้าอย่างมีหลัก ก็จะทำให้ชีวิตของเราไม่ตกอยู่ภายใต้การประนีประนอมที่ไม่เหมาะสม ไม่สมควร

​ดา​เนียล​ตั้ง​ใจ​ว่า​จะ​ไม่​ทำ​ให้​ตัว​เป็น​มล​ทิน​ด้วย​อา​หาร​ชั้น​สูง​ของ​กษัตริย์ หรือ​ด้วย​เหล้า​องุ่น​ซึ่ง​พระ​องค์​เสวย ท่าน​จึง​ขอ​หัว​หน้า​ขันที​ให้​อนุ​ญาต​เพื่อ​ท่าน​จะ​ไม่​ทำ​ตัว​เอง​เป็น​มล​ทิน (ดาเนียล 1:8 THSV2011)

นี่คือลักษณะของดาเนียลที่สำคัญมากลักษณะหนึ่ง ดาเนียลตั้งใจหรือตั้งปณิธาน มีเป้าหมายชัดเจน มีการตัดสินใจที่ถูกต้องชัดเจน มีการให้เหตุผลเพื่อจะไปถึงเป้าหมายอย่างชัดเจน

คนคนหนึ่งทำอย่างไรจึงจะมีปณิธานเช่นนั้นได้? เพราะการศึกษา

คนยิวมีการศึกษาที่ดีมาก นับแต่โบราณ ทำให้อนุชนตั้งแต่เด็กได้เติบโตภายใต้คำสอน เมื่อเกิดการทดลองก็สามารถตัดสินใจ และตั้งปณิธานที่อยู่ในภาวะที่เที่ยงตรงได้ เพราะเขาตั้งใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า เขามั่นใจในคำสั่งสอนที่ได้รับจากคุณพ่อคุณแม่

การที่คนคนหนึ่งตั้งปณิธานได้อย่างแน่วแน่ ก็เพราะได้เห็นแบบอย่างของบรรพชน และการตั้งใจเหล่านั้นก็ทำให้เขาต้องกลับมาสำรวจอัตลักษณ์ของตัวเองด้วย คำสอนจากบรรพบุรุษและพระวจนะ ทำให้ดาเนียลได้ตั้งปณิธานว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตของท่านเอง ท่านกำลังตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนอัตลักษณ์ของตนเองเป็น Babylonian Citizen หรือไม่? จะรับตำแหน่งสูงในการรับใช้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์หรือไม่? เมื่อถึงจุดที่ท่านตั้งปณิธาน พระคัมภีร์ก็กล่าวว่า ท่านตั้งใจที่จะไม่เปลี่ยนอัตลักษณ์ของตน เพราะอัตลักษณ์ของท่านตั้งอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง นั่นคือ จากบรรพบุรุษ และจากพระวจนะของพระเจ้า

ชีวิตของเรา และโรงเรียนของเราจะต้องไม่เปลี่ยนอัตลักษณ์ของตนเอง จะต้องอยู่บนพื้นฐานของพระวจนะ เพราะคุณธรรมสามารถสร้างชีวิตของนักเรียนในประเทศไทยได้

สิ่งที่เกิดขึ้นกับดาเนียลและเพื่อน ๆ ก็คือ เขาทั้งหลายปฏิเสธของสูงของพระราชา รับประทานผักและน้ำ และพระเจ้าก็ทรงประทานสติปัญญาและความเชี่ยวชาญในสรรพวิทยาทั้งหลาย ในบรรดาอนุชนในสมัยนั้นก็ไม่มีสักคนที่เหมือนดาเนียลและเพื่อนทั้งสามของท่าน

นี่คือสิ่งท้าทายเราในทุกวันนี้


ศจ.ดร. ศึกษา เทพอารีย์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 28/08/2011

เรื่อง การศึกษาเปลี่ยนชีวิต

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

การศึกษาเปลี่ยนชีวิต (4/6)

วิธีการของเนบูคัดเนสซาร์ (3)

3. เปลี่ยนพฤติกรรม

ถ้าอ่านพระธรรมดาเนียลทั้งเล่ม จะพบว่า ดาเนียลได้ไปอยู่ในถ้ำสิงโต เพราะว่าไม่ยอมกราบไหว้รูปเคารพ

รูปเคารพเข้ามาในปัจจุบัน 2 ลักษณะ

  • ลักษณะรูปธรรม เห็นเป็นรูปเคารพจริง ๆ
  • ลักษณะนามธรรม เป็นลัทธิความเชื่อความศรัทธาทั้งหลาย

ความหมายของรูปเคารพ คือ อะไรก็ตามที่แย่งความเป็นที่หนึ่งในชีวิตของเราไป

แท้จริงชีวิตของเรา บุคคลแรกในชีวิต คือองค์พระผู้เป็นเจ้า ดังนั้น ใครก็ตาม หรือสิ่งใดก็ตามที่แย่งความเป็นที่หนึ่งไปจากชีวิตของเรา นั่นคือรูปเคารพ

ทุกวันนี้ โลกของเราอยู่ใต้อำนาจของบริโภคนิยม ต้องซื้อ ต้องใช้ ต้องบริโภคสิ่งที่หลาย ๆ คนหยิบยื่นให้

บริโภคนิยมเข้าไปอยู่ในบรรดานักศึกษาที่กำลังจะจบ และผู้ที่เพิ่งทำงานใหม่ เขาจะเปลี่ยนไปจากคนสมัยก่อน คือ ชอบงานเบา ๆ และเงินหนัก ๆ เราตกเป็นเหยื่อของความสะดวกสบาย หรือความรวดเร็ว และสิ่งอื่น ๆ ที่ผู้ขายพยายามจะสื่อว่าจำเป็น ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลย

หลายคนจึงพาลูกไปเรียนพิเศษในอาทิตย์เช้า แทนที่จะพามาโบสถ์ หลายคนทำงานวันอาทิตย์เพื่อได้รายได้มากขึ้น หลายคนประนีประนอมกับความถูกต้อง คือการใช้เงิน เป็นเครื่องมือหล่อลื่นในการดำเนินการต่าง ๆ ทุกสิ่งเริ่มต้นจากการประนีประนอม และเมื่อประนีประนอมก็จะสูญเสียอัตลักษณ์ แล้วในที่สุดความประพฤติก็จะตกต่ำลงจนสู่ความบาป จนนับถือรูปเคารพ


ศจ.ดร. ศึกษา เทพอารีย์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 28/08/2011

เรื่อง การศึกษาเปลี่ยนชีวิต

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

การศึกษาเปลี่ยนชีวิต (3/6)

วิธีการของเนบูคัดเนสซาร์ (2)

2. ทำให้ชาวยิวสูญเสียอัตลักษณ์ของตัวเอง

อัตลักษณ์ คือ สัญลักษณ์ตัวบุคคล ทุกโรงเรียนก็ต้องมีอัตลักษณ์ของตนเอง ต้องรู้จุดเด่นจุดด้อยคืออะไร รู้ว่าภาวะคุกคามเกิดขึ้นเพราะอะไร นี่คืออัตลักษณ์ของเรา ถ้าใครสามารถทำลายหรือเปลี่ยนอัตลักษณ์ได้ก็หมายความว่าเปลี่ยนทั้งคน ทั้งความคิดได้

6 ใน​บรร​ดา​คน​เหล่า​นั้น มี​คน​เผ่า​ยู​ดาห์​คือ​ดา​เนียล ฮา​นัน​ยาห์ มิ​ชา​เอล และ​อา​ซา​ริ​ยาห์
7 และ​หัว​หน้า​ขันที​ตั้ง​ชื่อ​ให้​ใหม่ ดา​เนียล​นั้น​เรียก​ว่า​เบล​เท​ชัส​ซาร์ ฮา​นัน​ยาห์​เรียก​ว่า​ชัด​รัค มิ​ชา​เอล​เรียก​ว่า​เม​ชาค และ​อา​ซา​ริ​ยาห์​เรียก​ว่า​อา​เบด​เน​โก (ดาเนียล 1:6-7 THSV2011)

สิ่งหนึ่งที่ trainer ทำ ก็คือ การเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นการเปลี่ยนอัตลักษณ์ใหม่

โรงเรียนไทยคริสเตียนเพิ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อ ซึ่งก็เป็นการเปลี่ยนอัตลักษณ์ของตัวเอง เมื่อเปลี่ยนชื่อ

หลายคนเดินทางไปที่เขตเพื่อเปลี่ยนชื่อ เพื่อเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างที่เป็นตัวตนของตนเอง

ทำไมกษัตรยิ์เนบูคัดเนสซาร์จึงสามารถเปลี่ยนอัตลักษณ์ด้วยการเปลี่ยนชื่อ?

ดาเนียล แปลว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษา เขาก็เลยตั้งชื่อใหม่ เป็น เบลเทชัสซาร์ แปลว่า พระบาอัลคุ้มครองเขา

ฮานันยาห์ แปลว่า พระเจ้าทรงพระกรุณา ชื่อใหม่ คือ ชัดรัค แปลว่า ผู้รับใช้เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์

มิชาเอล แปลว่า ใครจะเทียบเคียงพระเจ้าได้ ชื่อใหม่ คือ เมชาค แปลว่า เงาหรือผู้รับใช้ของเจ้านาย เจ้านายอยู่ไหน เงาก็ตามไป

อาซาริยาห์ แปลว่า พระยาเวห์เป็นผู้ช่วยเหลือ ชื่อใหม่ คือ อาเบดเนโก แปลว่า ผู้รับใช้แห่งดาวประจำรุ่ง หรือเทพเจ้า

การเปลี่ยนชื่อเป็นการเปลี่ยนอัตลักษณ์ นี่คือการเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิตของคนเลยทีเดียว เป็นการล้างสมองด้วการเปลี่ยนชื่อ และไม่เพียงเท่านั้น เปลี่ยนภาษาด้วย

การเปลี่ยนภาษาทำให้คนเราเปลี่ยนความคิดได้ เช่น คนไทยมักจะใช้คำว่า "ไม่เป็นไร" ซึ่งก็แปลว่า "ไม่เป็นไร" ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรหรือทำอะไรก็พูด ไม่ทำสิ่งที่ควรทำก็พูด

นอกจากนี้ มีคำหนึ่ง คือ "เกรงใจ" ซึ่งไม่มีภาษาอังกฤษ เพราะว่าเขาไม่มีความคิดเช่นนั้น

เช่นเดียวกัน คนไทยก็ไม่มีคำว่า "commitment" ถ้าจะแปลก็คือ การปวารณาตัว ซึ่งแปลยากมาก เพราะคนไทยไม่ค่อยรู้

อีกคำหนึ่ง คือ submissive แปลว่า การอยู่ใต้บังคับบัญชา การจงรักภักดี

เมื่อเปลี่ยนภาษาก็จะเปลี่ยนความคิด


ศจ.ดร. ศึกษา เทพอารีย์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 28/08/2011

เรื่อง การศึกษาเปลี่ยนชีวิต

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

การศึกษาเปลี่ยนชีวิต (2/6)

วิธีการของเนบูคัดเนสซาร์ (1)

1. สร้างความประนีประนอม

การประนีประนอม เป็นสิ่งที่ทำให้คนเริ่มรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลง ประนีประนอมในหลักการอันเป็นอุดมคติหรือหลักคำสอน ด้วยอาหาร การกินหรือการลิ้มรสชาด การสร้างความรู้สึกที่ดี ทำให้เกิดการประนีประนอมได้

การอำนวยความสะดวกด้านร่างกาย ก็ทำให้คนเกิดการเปลี่ยนแปลงความคิด ทุกวันนี้สังคมโลกก็สอนให้ลูกหลานเรา หรือตัวเราเอง รักความสะดวกสบาย เรามีคำสอนที่ทำให้ประนีประนอมเพื่อให้คนที่มีความคิดต่าง ๆ กันนั้นอยู่ด้วยกันได้

ฟังแล้วอาจดูเหมือนดี หลายศาสนาสอนว่าเราสามารถไปสู่สวรรค์ได้ทั้งสิ้น ในขณะที่พระเยซูคริสต์ตรัสสอนชัดเจนว่า ไม่มีผู้ใดหาพระบิดาได้ยกเว้นจะมาทางพระองค์

ถ้าประนีประนอม เราก็ไม่ต้องเถียงกัน เราก็ไม่ต้องยืนหยัดในจุดยืนของเรา

กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์เริ่มให้ดาเนียลและพวกประนีประนอมเรื่องการกินก่อน


ศจ.ดร. ศึกษา เทพอารีย์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 28/08/2011

เรื่อง การศึกษาเปลี่ยนชีวิต

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

การศึกษาเปลี่ยนชีวิต (1/6)


3 แล้ว​กษัตริย์​นั้น​ทรง​บัญ​ชา​อัช​เป​นัส​หัว​หน้า​ขันที​ของ​ท่าน​ไป​นำ​คน​อิส​รา​เอล​บาง​คน ทั้ง​เชื้อ​พระ​วงศ์​และ​เชื้อ​สาย​ขุน​นาง
4 พวก​หนุ่มๆ ที่​ปราศ​จาก​ตำ​หนิ มี​รูป​ร่าง​หน้า​ตา​ดี เชี่ยว​ชาญ​ใน​สรรพ​ปัญ​ญา มี​ความ​รู้ ความ​เข้า​ใจ และ​ความ​สา​มารถ​ที่​จะ​รับ​ใช้​ใน​วัง​กษัตริย์ และ​ทรง​ให้​สอน​วรรณ​คดี​และ​ภา​ษา​ของ​คน​เคล​เดีย ​แก่​พวก​เขา
5 กษัตริย์​ทรง​กำ​หนด​อา​หาร​ชั้น​สูง​และ​เหล้า​องุ่น​ซึ่ง​กษัตริย์​เสวย​แก่​เขา​เหล่า​นั้น​ทุก​วัน พวก​เขา​รับ​การ​เลี้ยง​ดู​อยู่​สาม​ปี เมื่อ​ครบ​กำ​หนด​เวลา​นั้น​แล้ว พวก​เขา​ก็​เข้า​รับ​ราช​การ
6 ใน​บรร​ดา​คน​เหล่า​นั้น มี​คน​เผ่า​ยู​ดาห์​คือ​ดา​เนียล ฮา​นัน​ยาห์ มิ​ชา​เอล และ​อา​ซา​ริ​ยาห์
7 และ​หัว​หน้า​ขันที​ตั้ง​ชื่อ​ให้​ใหม่ ดา​เนียล​นั้น​เรียก​ว่า​เบล​เท​ชัส​ซาร์ ฮา​นัน​ยาห์​เรียก​ว่า​ชัด​รัค มิ​ชา​เอล​เรียก​ว่า​เม​ชาค และ​อา​ซา​ริ​ยาห์​เรียก​ว่า​อา​เบด​เน​โก (ดาเนียล 1:3-7 THSV2011)


ทุกสิ่งในปัจจุบัน ล้วนอยู่บนพื้นฐานของความรู้ ผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้อาวุโสก็สามารถเล่น Facebook ได้ ข้าพเจ้ารู้จักผู้ปกครองท่านหนึ่ง ท่านอายุ 80 ปี ก็ยังเล่น Facebook อยู่

โลกเคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และการศึกษาเป็นฐานสำคัญในการสร้างพลเมืองของโลก ไม่เพียงเท่านั้น เรายังมี WORLD-CLASS EDUCATION มาตรฐานสากล ซึ่งคริสตจักรจะต้องพัฒนาก้าวหน้าตามให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาษาอังกฤษ หรือการยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ได้มาตรฐาน การจัดกระบวนการการเรียนรู้ต่าง ๆ การพัฒนาบุคลากร ครู ผู้บริหาร การพัฒนาระบบเครือข่ายหรือภาคี นี่คือสิ่งท้าทายที่อยู่เบื้องหน้าเรา ในฐานะที่เป็นโรงเรียนคริสเตียน

ไม่เพียงเท่านั้น ในคริสตจักรก็มีระบบการเรียนรวีวารศึกษา

เราจะเข้าสู่ World-class education ทั้งในด้านวิชาการ และด้านพระวจนะของพระเจ้าได้อย่างไร?

ดาเนียลได้ให้ตัวอย่างที่ดี

หลังจากที่ที่เนบูคัดเนสซาร์ทำสงครามชนะอิสราเอล และเผาทำลายเยรูซาเล็ม ท่านได้นำคนที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด กลับไปยังบาบิโลน เพื่อนำคนเก่ง ๆ ของประเทศที่แพ้สงคราม กลับมารับราชการในบาบิโลน นั่นคือ ทำการดูดสมองเข้าสู่ประเทศ

พวก​หนุ่มๆ ที่​ปราศ​จาก​ตำ​หนิ มี​รูป​ร่าง​หน้า​ตา​ดี เชี่ยว​ชาญ​ใน​สรรพ​ปัญ​ญา มี​ความ​รู้ ความ​เข้า​ใจ และ​ความ​สา​มารถ​ที่​จะ​รับ​ใช้​ใน​วัง​กษัตริย์ และ​ทรง​ให้​สอน​วรรณ​คดี​และ​ภา​ษา​ของ​คน​เคล​เดีย ​แก่​พวก​เขา (ดาเนียล 1:4 THSV2011)

กระบวนการนี้ เรียกว่ากระบวนการ re-education พวกเขาได้รับการศึกษาแบบยิวมาแล้ว จะทำอย่างไรให้เขามีความจงรักภักดีต่ออาณาจักรใหม่? นั่นคือทำการล้างสมอง

กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เป็นกษัตริย์ที่มีความสามารถ และบทเรียนในวันนี้ก็จะเป็นบทเรียนของเราเช่นกัน


ศจ.ดร. ศึกษา เทพอารีย์

คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 28/08/2011

เรื่อง การศึกษาเปลี่ยนชีวิต

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

การแบ่งเวลาอย่างคริสเตียน (6/6)

การทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน

"สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด ไม่ควรหลีกทางให้กับสิ่งที่มีความสำคัญน้อยกว่า" เกอเธ่

"คนที่ประสบความสำเร็จ จะทำในสิ่งที่ผู้ล้มเหลวไม่ชอบทำ ถึงแม้ว่าพวกเขาก็ไม่ชอบทำเรื่องแบบนั้นเหมือนกัน แต่ความไม่ชอบของพวกเขา จะพ่ายแพ้ และเป็นรองให้กับเป้าหมายอันทรงพลังของพวกเขา" อี.เอ็ม.เกรย์

 

สี่ยุคของการบริหารเวลา

  • ยุคแรก เป็นการจดบันทึกและจัดทำรายการ พยายามบันทึกสิ่งต่าง ๆ ที่เรียกว่าเวลาและแรงงานของเรา
  • ยุคที่สอง ใช้ปฏิทิน และสมุดบันทึกการนัดหมาย พยายามมองไปข้างหน้า จัดเวลาให้กับเหตุการณ์ต่าง ๆ
  • ยุคที่สาม เป็นการบริหารเวลาในยุคปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับการจัดลำดับความสำคัญ
  • ยุคที่สี่ เป็น "การบริหารตนเอง" ความพึงพอใจเป็นเรื่องของความคาดหวังและการรับรู้ ไม่ใช่การบริหารเวลา

 

ตารางการบริหารเวลา

 

เร่งด่วน

ไม่เร่งด่วน

สำคัญ

I

วิกฤติการณ์

ปัญหาที่กดดัน

โครงการที่ถึงกำหนดเส้นตาย

II

การป้องกัน

การสร้างความสัมพันธ์

การวางแผน

การพักผ่อนหย่อนใจ

ไม่สำคัญ

III

ขัดจังหวะ 

มีคนโทรศัพท์เข้ามา

จดหมาย  รายงานการประชุม

สิ่งกดดันใกล้ตัว

กิจกรรมที่นิยมชมชอบต่าง ๆ

IV

สิ่งละอันพันละน้อย

ตอบจดหมาย

รับโทรศัพท์

กิจกรรมฆ่าเวลา  บันเทิงใจ

คนที่มีประสิทธิผล จะอยู่ให้ไกลจากกิจกรรมในพื้นที่ III และ IV เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีความสำคัญ และจะทำให้ขนาดของพื้นที่ I ลดลง โดยใช้เวลาส่วนมากไปกับกิจกรรมในพื้นที่ II

 

เป็นผู้บริหารตัวเองในพื้นที่ II

  1. กำหนดบทบาทให้ชัดเจน
  2. เลือกเป้าหมาย
  3. กำหนดตารางเวลา (เป็นสัปดาห์)
  4. ปรับเป้าหมายในแต่ละวัน

เรียบเรียง-สรุป โดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


เอกสารอ้างอิง

  1. ธวัช เย็นใจ. ใน: ธวัช เย็นใจ, บรรณาธิการ. เวลาเพื่อชีวิต, พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ; กนกบรรณสาร, 1999: 1-14.
  2. สงกรานต์ จิตสุทธิภากร. อุปนิสัยที่ 3 ทำสิ่งที่สำคัญก่อน หลักการของการบริหารส่วนบุคคล. ใน: PacRim Leadership Center, eds. 7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง. กรุงเทพฯ; ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2548: 181-223.
  3. Pastor Jose B. Cabajar. Christian Time Management. http://www.ilaganbaptist.org/sermon_outlines66.htm
     
     
    .
  4. Working By Priorities and Not Activities. http://www.inspiredchristian.org/cyber/111300jf.html
     
     
    .
  5. Jerry Shirley and Grace Notes Ministries. It's About Time. http://gbcdecatur.org/sermons/AboutTime.html
     
     
    .

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

การแบ่งเวลาอย่างคริสเตียน (5/6)

การจัดลำดับความสำคัญ

ชีวิตของเราจะต้องทำสิ่งใดตามลำดับความสำคัญ ไม่ใช่ตามความเร่งด่วน หรือตามกิจกรรมต่าง ๆ เราจะต้องเป็นเจ้าของชีวิตของเรา อย่าให้สิ่งอื่นมาควบคุมเราได้

พระเจ้าทรงให้สติปัญญาแก่เราแล้ว ดังนั้น เราจะต้องดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นลูกของพระเจ้า

การจัดลำดับความสำคัญ ซึ่งพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ ได้แก่

  1. Your personal relationship with God
  2. Your family
  3. Your Christian ministry (Church)
  4. Your job

ดังนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องระลึกถึงลำดับความสำคัญนี้ให้ดี เพื่อที่เราจะเป็นผู้ที่สามารถควบคุมตนเองได้ ไม่ใช่ให้สิ่งอื่นมาควบคุมเรา

ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า ต้องมาก่อนเสมอ เนื่องจากพระคัมภีร์ได้กล่าวชัดเจน ให้เราแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อนสิ่งอื่นใด และให้รักพระเจ้าด้วยสุดใจ สุดจิต สุดความคิด สุดกำลังของเรา

ส่วนอันดับสองนั้น เราจะต้องเชื่อฟังบิดามารดา ดูแลท่านให้ดี โดยดูได้จากบัญญัติ 10 ประการ ในส่วนของการรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเองนั้น พระเจ้าได้ให้เราเชื่อฟังบิดามารดาเป็นข้อแรก และยังมีพระสัญญาไว้ด้วยอีกต่างหาก

การรับใช้ที่คริสตจักรนั้น ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจาก พระเจ้าได้ทรงสร้างเราให้เป็นส่วนหนึ่งของพระกายของพระองค์ เป็นอวัยวะต่าง ๆ กัน ร่วมกันรับใช้ โดยทรงให้ของประทานแต่ละคนต่าง ๆ กัน

ส่วนธุรกิจ การงาน การเรียนของเรานั้น จะต้องมาเป็นอันดับสุดท้าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าให้เรารับใช้จนเสียการเรียน เนื่องจาก ชีวิตของเราจะต้องเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเพื่อให้ผู้อื่นสรรเสริญพระเจ้า เราจึงต้องมีการเรียนที่ดี และเราก็มั่นใจว่า ถ้าเราแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อนแล้ว พระองค์จะเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้ให้อย่างแน่นอน

ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญมาก โดยเฉพาะในวัยเรียน เนื่องจากการสอบ รายงานต่าง ๆ ทำให้บางครั้งเราตัดสินใจที่จะขาดการประชุมในวันอาทิตย์ ซึ่งพี่คิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก

ในประเด็นนี้ ข้าพเจ้าก็อยากเป็นพยานแก่พี่น้องนะครับ สมัยที่ข้าพเจ้าเรียนแพทย์นั้น ข้าพเจ้าจะพยายามที่จะมานมัสการทุกอาทิตย์ ยกเว้นวันที่ติดเวร (หรือช่วงที่ห่างจากพระเจ้า) ซึ่งปกติวันอาทิตย์จะเป็นวันที่มีเวลาอ่านหนังสือมาก ดังนั้น การมาโบสถ์ จึงเป็นการทำให้ต้องเสียเวลาอ่านหนังสือไป 1 วัน แต่ข้าพเจ้ากลับได้เห็นพระพรจากพระเจ้าอย่างมากมายผ่านทางผลการเรียนของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้ามั่นใจว่าข้าพเจ้าไม่สามารถทำได้เองอยู่แล้ว แล้วพระเจ้าก็ได้อวยพรข้าพเจ้าอีกหลาย ๆ เรื่อง ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ไปต่างประเทศ ได้ชนะเลิศการทำวิจัย ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ไม่มีใครอยากทำ ข้าพเจ้าจึงอยากให้พี่น้องสัตย์ซื่อต่อวันสะบาโต ที่พระเจ้าทรงกำหนดให้เป็นวันที่ให้เราได้พัก เป็นคำสั่งอีกต่างหากในบัญญัติ 10 ประการ (ข้อที่ 4) ขอที่เราจะมีความเชื่อ แล้วเราก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้านะครับ

มีผู้ที่ได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้เวลาได้ดีมาก ดังนี้

  1. All men are created equal with respect to time.
  2. We will always have enough time to do God’s will.
  3. Time is lost on the smaller things first (gaps between activities).
  4. Relaxation is not wasted time (Sabbath).
  5. Time management is a measure of knowing God’s will

ในคริสตจักรของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าก็ได้เห็นถึงแบบอย่างที่ดีของพี่น้องหลาย ๆ ท่าน  ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะเรียนยุ่ง งานหนักเพียงไร แต่วันอาทิตย์เขาก็มาคริสตจักรอย่างสม่ำเสมอ และให้เวลากับพระเจ้าอย่างเต็มที่ด้วย  แล้วก็ได้เห็นถึงพระพรมากมายซึ่งพระเจ้าทรงประทานแก่เขาเหล่านั้นด้วย  จึงยิ่งได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผ่านทางพระพรเหล่านั้นด้วยครับ


เรียบเรียง-สรุป โดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


เอกสารอ้างอิง

  1. ธวัช เย็นใจ. ใน: ธวัช เย็นใจ, บรรณาธิการ. เวลาเพื่อชีวิต, พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ; กนกบรรณสาร, 1999: 1-14.
  2. สงกรานต์ จิตสุทธิภากร. อุปนิสัยที่ 3 ทำสิ่งที่สำคัญก่อน หลักการของการบริหารส่วนบุคคล. ใน: PacRim Leadership Center, eds. 7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง. กรุงเทพฯ; ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2548: 181-223.
  3. Pastor Jose B. Cabajar. Christian Time Management. http://www.ilaganbaptist.org/sermon_outlines66.htm
     
    .
  4. Working By Priorities and Not Activities. http://www.inspiredchristian.org/cyber/111300jf.html
     
    .
  5. Jerry Shirley and Grace Notes Ministries. It's About Time. http://gbcdecatur.org/sermons/AboutTime.html
     
    .

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

การแบ่งเวลาอย่างคริสเตียน (4/6)

หลักการแบ่งเวลาอย่างคริสเตียน (2)

TIME

มีผู้ให้หลักการของการจัดการเวลา โดยใช้ตัวอักษรย่อของ TIME นั่นคือ Treasure, Invest, Manage และ Enjoy

อายุ​ขัย​ของ​ข้า​พระ​องค์​ทั้ง​หลาย​คือ​เจ็ด​สิบ หรือ​หาก​แข็ง​แรง​ก็​ถึง​แปด​สิบ แต่​ช่วง​ชีวิต​นั้น​มี​แต่​ความ​ลำ​บาก​และ​ความ​เศร้า​โศก ไม่​ช้า​ก็​สูญ​ไป​และ​พวก​ข้า​พระ​องค์​ก็​จาก​ไป (สดุดี 90:10 THSV2011)

ขอ​ทรง​สอน​ข้า​พระ​องค์​ทั้ง​หลาย​ให้​นับ​วัน​ของ​ตน เพื่อ​พวก​ข้า​พระ​องค์​จะ​มี​จิต​ใจ​ที่​มี​ปัญ​ญา (สดุดี 90:12 THSV2011)

 

1. TREASURE

เวลาทุกวินาทีมีค่า พระเจ้าจึงทรงสอนให้เราทั้งหลายนับวันของตน เพื่อเราจะเป็นคนที่มีปัญญา

มีคำเปรียบเทียบได้อย่างเห็นภาพ ว่า

ถ้าอยากรู้คุณค่าของ หนึ่งปี ให้ไปถามนักเรียนที่สอบตกและต้องเรียนซ้ำชั้น

ถ้าอยากรู้คุณค่าของ หนึ่งเดือน ให้ไปถามคุณแม่ที่คลอดลูกก่อนกำหนด

ถ้าอยากรู้คุณค่าของ หนึ่งชั่วโมง ให้ไปถามนักธุรกิจ ที่ต้องพบกับเที่ยวบินที่เลื่อนกำหนด จนต้องพลาดนัดสำคัญ

ถ้าอยากรู้คุณค่าของ หนึ่งนาที ให้ไปถามคนที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ที่ได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์อย่างทันท่วงที

ถ้าอยากรู้คุณค่าของ หนึ่งวินาที ให้ถามคนที่ชะโงกหน้าออกไปนอกรถ แล้วเกือบโดนรถที่สวนมาชน

ถ้าอยากรู้คุณค่าของ หนึ่งเสี้ยววินาที ให้ไปถามนักว่ายน้ำโอลิมปิก ที่พ่ายแพ้ต่อคู่แข่งเพียงเสี้ยววินาที

ขอที่เราจะให้คุณค่ากับเวลาของเราที่ผ่านไป

ข้าพเจ้าได้เคยดูการ์ตูนเรื่องกังฟูแพนด้า และชอบประโยคที่กล่าวว่า "Yesterday is history. Tomorrow is a mystery. Today is a gift.... That's why it's called the 'present!' " ใช่แล้ว ปัจจุบันที่เรามี คือของขวัญที่พระเจ้าทรงประทานให้ ขอที่เราจะเห็นคุณค่าของของขวัญชิ้นนี้

 

2. INVEST

เราอาจจะเคยได้ยินกลุ่มคำต่าง ๆ ซึ่งติดปาก แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นไปไม่ได้ เช่น ซื้อเวลา ประหยัดเวลา หรือทำเวลา

1. You can't save time - you can only invest it

เราไม่สามารถประหยัดเวลาได้ เราทำได้แค่เพียงลงทุนกับมัน

เวลาไม่เหมือนกับเงินที่จะสามารถประหยัด เก็บออมได้ เพราะหากคุณไม่ใช้เวลา คุณก็จะสูญเสียมันไป

2. Where you invest your time reveals what is most important to you

เราลงทุนเวลาไปกับสิ่งใด บ่งบอกว่าสิ่งใดสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ

มีบางคนถึงขนาดกล่าวไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า หากเราใช้เวลากับสิ่งใดมากกว่าที่เราใช้เวลากับพระเจ้า สิ่งนั้นถือเป็นรูปเคารพในชีวิตของคุณ

ในแต่ละวัน เราใช้เวลาไปกับสิ่งใดมากที่สุด? ขอที่เราจะมีโอกาสจัดลำดับความสำคัญในชีวิตของตนเองให้ถูกต้อง

บางคนให้เวลากับครอบครัวน้อยมาก โดยอ้างว่าไม่มีเวลา และเวลาที่ให้ ก็เป็นเวลาที่มีคุณภาพ แต่สิ่งนี้เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะว่าสำหรับคนที่สำคัญกับคุณ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าปริมาณเวลาที่คุณให้กับเขา และเวลาทุกนาทีก็มีค่าเท่ากัน

 

3. MANAGE

เวลาที่เรามี เป็นของพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงสร้างขึ้นมา และเราก็มีหน้าที่เป็นเพียงผู้จัดการ หรือผู้อารักขาเท่านั้นเอง

มีผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเวลา ได้สอนในสัมมนาครั้งหนึ่ง ท่านได้วางเหยือกที่มีฝาเปิด และได้ใส่ก้อนหินก้อนใหญ่ไป 8 ก้อน จนเต็ม และถามที่ประชุมว่า "เต็มหรือยัง?" และที่ประชุมก็ส่ายหน้า

และท่านก็ได้หยิบก้อนกรวดใส่ลงไปจนถึงปากเปิดของเหยือก และถามที่ประชุมเช่นเดิม ครั้งนี้ที่ประชุมก็ไม่ตอบ

ต่อมาท่านก็ได้ใส่ทรายลงไปจนเต็ว และถามที่ประชุมด้วยคำถามเดิม บางคนก็ส่ายหน้า ในที่สุดท่านก็ได้เติมน้ำไปจนเต็มเหยือกอีกครั้งหนึ่ง

บทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้คืออะไร? บางคนอาจจะบอกว่า "ไม่ว่าจะยุ่งเพียงไร คุณสามารถเพิ่มเติมสิ่งต่าง ๆ ลงในตารางเวลาได้อีก"

แต่นี่ไม่ใช่บทเรียนที่ได้ บทเรียนจากตัวอย่างนี้ คือ "ถ้าหากคุณไม่ใส่ก้อนหินก้อนใหญ่ลงไปก่อนเป็นอันดับแรก คุณจะไม่มีวันใส่มันไปได้"

แล้วอะไรคือหินก้อนใหญ่ในชีวิตของเราเล่า?

1. Every moment is a gift from God that must be managed wisely

ผู้เชี่ยวชาญบางท่านได้กล่าวว่า แท้จริงแล้วเราไม่สามารถบริหารเวลาได้ สิ่งที่เราทำได้ คือการบริหารชีวิตของตัวเราเองต่างหาก

พระคัมภีร์อาจไม่ได้ใช้คำว่าบริหารเวลาโดยตรง แต่จากเอเฟซัสที่ได้ศึกษากันไปแล้ว จะพบว่าพระคัมภีร์สอนให้เราดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง และให้เราฉวยโอกาส หรือใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ (ภาษาอังกฤษบางฉบับใช้คำว่า Redeeming) ทั้งนี้เนื่องจากว่าถ้าหากเวลาผ่านไปแล้ว เราก็จะย้อนเวลากลับมาไม่ได้อีกแล้ว จึงขอที่เราจะบริหารชีวิตอย่างมีสติปัญญา

2. If you don't manage your time - someone else will manage it for you

คุณไม่สามารถเก็บรักษาเวลา หรือเสียเวลาได้ เพราะคุณก็จะใช้เวลานั้นกับที่หนึ่งที่ใด และลงทุนไปกับคนหนึ่งคนใด

ถ้าคุณไม่บริหารจัดการตารางเวลาของคุณ สิ่งอื่น ๆ หรือคนอื่น ๆ ก็ยินดีที่จะบริหารให้กับคุณ

บางคนบ่นว่าไม่มีเวลาให้กับครอบครัวอย่างเพียงพอ แท้จริงแล้วคุณก็มีเวลาเท่า ๆ กับคนอื่น ๆ นั่นแหละ เพียงแต่คุณไม่บริหารตัวเองอย่างชาญฉลาดต่างหาก

 

4. ENJOY

เราไม่รู้ว่าชีวิตของเราจะอยู่อีกนานเท่าไร

แต่​ท่าน​ไม่​รู้​เรื่อง​ของ​วัน​พรุ่ง​นี้ ชีวิต​ของ​พวก​ท่าน​เป็น​เหมือน​อะไร? ก็​เป็น​เหมือน​หมอก​ที่​ปรา​กฏ​อยู่​เพียง​ชั่ว​ครู่​แล้ว​ก็​จาง​หาย​ไป (ยากอบ 4:14 THSV2011)

ดังนั้นขอที่เราจะดำเนินชีวิตด้วยความชื่นชมยินดี โดยขอที่เราจะแสวงหาความชื่นชมยินดีจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น


เรียบเรียง-สรุป โดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


เอกสารอ้างอิง

  1. ธวัช เย็นใจ. ใน: ธวัช เย็นใจ, บรรณาธิการ. เวลาเพื่อชีวิต, พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ; กนกบรรณสาร, 1999: 1-14.
  2. สงกรานต์ จิตสุทธิภากร. อุปนิสัยที่ 3 ทำสิ่งที่สำคัญก่อน หลักการของการบริหารส่วนบุคคล. ใน: PacRim Leadership Center, eds. 7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง. กรุงเทพฯ; ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2548: 181-223.
  3. Pastor Jose B. Cabajar. Christian Time Management. http://www.ilaganbaptist.org/sermon_outlines66.htm.
  4. Working By Priorities and Not Activities. http://www.inspiredchristian.org/cyber/111300jf.html.
  5. Jerry Shirley and Grace Notes Ministries. It's About Time. http://gbcdecatur.org/sermons/AboutTime.html.

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

การแบ่งเวลาอย่างคริสเตียน (3/6)

หลักการแบ่งเวลาอย่างคริสเตียน (1)

หัวข้อนี้ เป็นหัวข้อที่สำคัญ ข้าพเจ้าจะขอเล่าให้ฟังถึงความจำเป็นที่คริสเตียนจะต้องใช้เวลาอย่างเกิดประโยชน์ที่สุดครับ

ไม่ทราบว่าแต่ละวัน คุณใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับอะไร? เสียเวลาไปกับ social network หรือการเล่นเกมมากน้อยเพียงไร? หรือใช้เวลาพูดคุยกับเพื่อนทางโทรศัพท์วันละกี่ชั่วโมง? เราต้องนอนจนดึก ๆ เพื่อตื่นขึ้นมาด้วยความรีบเร่งเพื่อไปเรียนหรือไปทำงาน โดยต้องรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์บนรถ หรือต้องทำหลาย ๆ สิ่งพร้อมกันหรือไม่?

อยากให้ลองสังเกตชีวิตขององค์พระเยซูคริสต์ พระองค์ดูเหมือนจะไม่เคยรีบเร่งทำสิ่งใดเลย ถึงแม้ว่าพระองค์กำลังที่จะทำหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ นั่นคือการไถ่บาปมนุษย์ และพระองค์ก็มีเวลาที่จะทำพระราชกิจเพียงไม่กี่ปี พระองค์ก็ไม่เคยที่จะต้องวิ่งหรือรีบเร่ง พระองค์ทรงใช้เวลาในการชมดอกไม้และนกในอากาศ ทรงวางมืออวยพรแก่เด็กเล็ก ๆ และทรงใช้เวลากับพระสหายของพระองค์ เวลาเป็นเพื่อนกับพระองค์

พระคัมภีร์ได้ให้มุมมองว่า เวลาสามารถเป็นเพื่อน แทนที่จะเป็นศัตรูกับเราได้อย่างไร โดยขอที่เราจะมาเรียนรู้กับพระเจ้าผู้ทรงสร้างเวลา และทรงยิ่งใหญ่กว่าเวลา

 

คำแนะนำจากพระคัมภีร์เรื่องการแบ่งเวลา

15 เพราะ​ฉะนั้น จง​ระวัง​ใน​การ​ดำ​เนิน​ชีวิต​ให้​ดี อย่า​เหมือน​คน​ไร้​ปัญ​ญา แต่​ให้​เหมือน​คน​มี​ปัญ​ญา
16 จง​ใช้​โอ​กาส​ให้​เป็น​ประ​โยชน์ เพราะ​ว่า​ทุก​วัน​นี้​เป็น​ยุค​สมัย​ที่​ชั่วร้าย
17 เพราะ​เหตุ​นี้ อย่า​เป็น​คน​โง่​เขลา แต่​จง​เข้า​ใจ​ว่า​อะไร​คือ​พระ​ประ​สงค์​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า
18 และ​อย่า​เมา​เหล้า​องุ่น​ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​เสีย​คน แต่​จง​เต็ม​เปี่ยม​ด้วย​พระ​วิญ​ญาณ
19 จง​ปรา​ศรัย​กัน​ด้วย​เพลง​สดุดี เพลง​นมัส​การ และ​เพลง​ฝ่าย​จิต​วิญ​ญาณ คือ​ร้อง​เพลง​และ​สดุดี​จาก​ใจ​ของ​พวก​ท่าน​ถวาย​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า
20 จง​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​เจ้า​คือ​พระ​บิดา​อยู่​เสมอ​สำ​หรับ​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา
21 จง​ยอม​เชื่อ​ฟัง​กัน​และ​กัน​เนื่อง​ด้วย​ความ​ยำ​เกรง​พระ​คริสต์ (เอเฟซัส 5:15-21 THSV2011)

 

1. ลักษณะของปัญญา (เอเฟซัส 5:15-17)

15 เพราะ​ฉะนั้น จง​ระวัง​ใน​การ​ดำ​เนิน​ชีวิต​ให้​ดี อย่า​เหมือน​คน​ไร้​ปัญ​ญา แต่​ให้​เหมือน​คน​มี​ปัญ​ญา
16 จง​ใช้​โอ​กาส​ให้​เป็น​ประ​โยชน์ เพราะ​ว่า​ทุก​วัน​นี้​เป็น​ยุค​สมัย​ที่​ชั่วร้าย
17 เพราะ​เหตุ​นี้ อย่า​เป็น​คน​โง่​เขลา แต่​จง​เข้า​ใจ​ว่า​อะไร​คือ​พระ​ประ​สงค์​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า (เอเฟซัส 5:15-17 THSV2011)

จากข้อพระคัมภีร์ เอเฟซัส 5:16 เป็นข้อสั้น ๆ แต่ได้เน้นย้ำชัดเจนซึ่งไม่ควรมองข้ามไปนะครับ เนื่องจากคริสเตียนมากมายที่ห่างเหินจากพระเจ้า มัวแต่เสาะหาโลกียสุข ไปตามโลก ซึ่งพวกเราเป็นคริสเตียน เราจะต้องไม่เป็นเช่นนั้น เพราะว่า เรากับโลก ไม่ใช่พวกเดียวกัน ดังนั้นเราต้องไม่ใช้เวลาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะว่า "ทุกวันนี้เป็นการที่ชั่ว" ถ้าเราใช้เวลาไม่ถูกต้อง พระคัมภีร์ก็ได้กล่าวว่าเราเป็นคน "โง่เขลา"

 

2. สิ่งที่คริสเตียนจำเป็นต้องมี (เอเฟซัส 5:16)

จง​ใช้​โอ​กาส​ให้​เป็น​ประ​โยชน์ เพราะ​ว่า​ทุก​วัน​นี้​เป็น​ยุค​สมัย​ที่​ชั่วร้าย (เอเฟซัส 5:16 THSV2011)

เรามักจะใช้เวลาที่ดีที่สุดในแต่ละวัน สาละวนอยู่กับการงาน ทั้ง ๆ ที่เวลานั้น ควรจะใช้ในการเข้าเฝ้า ติดสนิทกับพระเจ้ามากกว่า ซึ่งบางคนนั้น จัดตารางชีวิตในการเรียน ในการงานดีมาก แต่เรื่องพระเจ้า การเฝ้าเดี่ยว กลับไม่มีการจัดตารางเวลาที่ดี ซึ่งก็คงจะไม่ยุติธรรมกับพระเจ้าของเราอย่างยิ่ง

เราเป็นคริสเตียน เราจะต้องเชื่อมั่นในพระเจ้าว่า ถ้าเราแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อนแล้ว พระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้อย่างแน่นอน

 

3. ละเว้นจากกิจกรรมที่ไม่มีสาระ (เอเฟซัส 5:18-21)

18 และ​อย่า​เมา​เหล้า​องุ่น​ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​เสีย​คน แต่​จง​เต็ม​เปี่ยม​ด้วย​พระ​วิญ​ญาณ
19 จง​ปรา​ศรัย​กัน​ด้วย​เพลง​สดุดี เพลง​นมัส​การ และ​เพลง​ฝ่าย​จิต​วิญ​ญาณ คือ​ร้อง​เพลง​และ​สดุดี​จาก​ใจ​ของ​พวก​ท่าน​ถวาย​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า
20 จง​ขอบ​พระ​คุณ​พระ​เจ้า​คือ​พระ​บิดา​อยู่​เสมอ​สำ​หรับ​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​เรา
21 จง​ยอม​เชื่อ​ฟัง​กัน​และ​กัน​เนื่อง​ด้วย​ความ​ยำ​เกรง​พระ​คริสต์ (เอเฟซัส 5:18-21 THSV2011)

คริสเตียนต้องระวัง ที่จะไม่โดนล่อลวงจากมาร เนื่องจากพระคัมภีร์เขียนชัดเจนว่า ให้เรารักษาใจด้วยระวังระไวรอบด้าน เพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ และ ให้เราสงบใจ ระวังระไวให้ดี เพราะศัตรูของเราคือมาร วนเวียนอยู่รอบ ๆ ดุจสิงห์คำราม เที่ยวเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ ดังนั้นเราจึงต้องไม่เป็นคนที่มันจะกัดกินได้

ดังนั้น คริสเตียนจะต้องไม่ "เมาเหล้าองุ่น"


เรียบเรียง-สรุป โดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


เอกสารอ้างอิง

  1. ธวัช เย็นใจ. ใน: ธวัช เย็นใจ, บรรณาธิการ. เวลาเพื่อชีวิต, พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ; กนกบรรณสาร, 1999: 1-14.
  2. สงกรานต์ จิตสุทธิภากร. อุปนิสัยที่ 3 ทำสิ่งที่สำคัญก่อน หลักการของการบริหารส่วนบุคคล. ใน: PacRim Leadership Center, eds. 7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง. กรุงเทพฯ; ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2548: 181-223.
  3. Pastor Jose B. Cabajar. Christian Time Management. http://www.ilaganbaptist.org/sermon_outlines66.htm.
  4. Working By Priorities and Not Activities. http://www.inspiredchristian.org/cyber/111300jf.html.
  5. Jerry Shirley and Grace Notes Ministries. It's About Time. http://gbcdecatur.org/sermons/AboutTime.html.