วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 31 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 31 ตุลาคม

"และจงร้องทูลเราในยามทุกข์ร้อน" (สดุดี 50:15 TNCV)

พระเจ้าพร้อมรับฟังและพร้อมช่วยเราเสมอ จงพึ่งพาพระองค์ พระองค์สามารถเปลี่ยนความทุกข์ากที่สาหัสที่สุดให้กลายเป็นพระพร และเพิ่มเติมเหตุผลที่คุณจะสรรเสริญพระองค์ในเวลานี้และตลอดชั่วนิรันดร์

พระเจ้าเป็นความรักแท้ พระคำของพระองค์เชื่อถือได้ พระองค์จะไม่ทำให้คุณผิดหวังหรือละทิ้งคุณเลย

สหายที่รัก หากคุณกำลังทุกข์ร้อนในเช้าวันนี้ พระเจ้าบอกว่า "และจงร้องทูลเราในยามทุกข์ร้อน เราจะช่วยกู้เจ้าและเจ้าจะให้เกียรติเรา" (สดุดี 50:15 TNCV)

"มีสหายเลิศคือพระเยซู 
ผู้ได้แบกบาปทุกข์ของเรา 
มีอะไรรบกวนให้โศกเศร้า
จงรีบเร่งนำมาเข้าเฝ้า"
(Joseph M Scriven, เพลง "What a Friend We Have in Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 31

"Call on Me when you are in trouble." (Psalm 50:15)

God is always ready to hear and to help us. Look to Him. He can turn your greatest troubles into blessings, and give you added reason to praise Him now and throughout Eternity.

God is love. His Word is trustworthy. He will never fail you nor forsake you.

Dear friend, are you in trouble this morning. God says, "Call upon Me in the time of trouble. I will deliver you, and you shall glorify Me." (Psalm 50:15)

"What a friend we have in Jesus,
All our sins and griefs to bear.
What a privilege to carry
Everything to God in prayer."
(Joseph M Scriven, Hymn "What a Friend We Have in Jesus" )

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 30 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 30 ตุลาคม

"จงระวังให้ดี! จงระวังตนจากความโลภทุกชนิด" (ลูกา 12:15)

พระเยซูผู้ซึ่งรู้ทุกความอ่อนแอของเราได้เตือนเรา เราไม่จำเป็นต้องมีสิ่งใดมากนักในที่นี้ เพราะว่าเราไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก! เราอยู่ในทางของเรา มุ่งสู่ดินแดนแห่งความบริบูรณ์ การหยุดพัก และความชื่นชมยินดี เพียงแค่พระพรเพียงเล็กน้อยจากพระเจ้าก็เพียงพอแล้ว

หากเราดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า พระองค์รับประกันว่าเราจะมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับเรา

ทุกคนมีแนวโน้มที่จะโลภ และมันเป็นบาปที่น่ากลัว มันเป็นการนับถือรูปเคารพ มันขโมยหัวใจของเราไปจากพระเจ้า และทำให้เรามุ่งคิดถึงแต่สิ่งที่ไม่มีค่าอันถาวร คนโลภเป็นคนที่ไม่มีความสุข

องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรากล่าวว่า "จงระวังให้ดี" และ "แต่ให้เราใฝ่หาของประทานที่ดีที่สุด" (1 โครินธ์ 12:31 TKJV) นั่นคือพระพรฝ่ายวิญญาณซึ่งพระองค์พร้อมที่จะให้แก่เราเสมอ

"บัดนี้ ไม่มีผู้ใดนอกจากพระคริสต์ ที่ทำให้อิ่มใจ!
ไม่มีนามอื่ใดสำหรับข้า
สำหรับความรัก ชีวิต และความชื่นชมยินดีอันถาวร
ข้าฯ สามารถพบได้ในพระองค์ พระเยซูเจ้าข้า"
(เพลง "None but Christ", ไม่ทราบผู้แต่ง)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 30

"Beware! Guard against every kind of greed." (Luke 12:15)

Jesus, who knows our every weakness, warns us. We don't need much here, for we shall not be here long! We're on our way to the land of plenty, rest and joy. A little with the Lord's blessing is enough.

If we are living by faith in the Lord Jesus He guarantees us all that we need.

Everyone has a tendency to covetousness and it is a fearful sin. It is idolatry. It steals our hearts from God, and sets our thoughts on things of no lasting value. A covetous person is an unhappy person.

Our Lord says, "Beware" and "Covet only the best gifts" (1 Corinthians 12:31) that is the spiritual blessings which He is ever ready to give us.

"Now none but Christ can satisfy!
No other name for me.
There's love, and life, and lasting joy
Lord Jesus, found in Thee."
(Hymn "None but Christ", unknown author)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 29 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 29 ตุลาคม

"ความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา" (1 ยอห์น 4:16 TNCV)

ใครเล่าสามารถพรรณนาความรักแท้นี้ได้? ความรักนี้ไม่สิ้นสุดและดำรงอยู่นิรันดร์ มีเพียงพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถสำแดงความรักแท้นี้แก่เราได้ พระวิญญาณบริสุทธิ์นำให้เราเชื่

ขอให้เราอธิษฐานทุกวัน เพื่อที่จะรู้จักและเพลิดเพลินกับความรัแท้ของพระเจ้าที่มีต่อเราเพื่อนของเราเปลี่ยนแปลง แต่ความรักแท้ของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้

ใครหรือสิ่งใดเล่าที่จะสามารถแยกเราออกจากความรักแท้ของพระเจ้าได้?

พระเยซูได้บอกกับเราว่าเราจะไม่มีวันพินาศ และไม่มีใครที่จะแย่งชิงเราจากมือของพระบิดาของเราได้ (ยอห์น 10:29)

ความรักแท้ของพระเจ้าของเราเป็นแหล่งของความสุขของเรา และเป็นหตุแห่งความปลอดภัยของเรา

โอ ขอที่ข้าพระองค์จะได้รู้จักและเชื่อในความรักแท้นี้ที่พรองค์มีต่อข้าพระองค์

"ความรักพระเจ้า กว้างใหญ่ไพศาล
เกินคำรำพัน บรรยายกล่าวขา
รักนั้นสูงเหนือ ดาวเดือนตะวัน
รักนั้นลึกกว่า นรกโลกันตร์
บาปบรรพชน เกรงว่าต้องตาย
ประทานพระบุตรมาไถ่
แม้ใครกลับใจ พระองค์รับไว้
ความบาปทั้งมวล ยกไป"
(Frederick Lehman, เพลง "ความรักพระเจ้า")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 29

"The love that God has for us." (1 John 4:16)

Who can describe it? It is infinite; It is eternal; Only the Holy Spirit can reveal it to us. The Holy Spirit enables us to believe.

Let us pray daily to know and enjoy God's love for us. Our friends change but the love of God is unchangeable.

Who, or what can separate us from the love of God?

Jesus has told us that we shall never perish, and that no one can pluck us out of God's hand. (John 10:29)

The love of our God is the source of our happiness, and the cause of our safety.

O, to know and believe the love that God has for us.

"The love of God is greater far
Than tongue or pen can ever tell.
It goes beyond the highest star
And reaches to the lowest hell.
The guilty pair, bowed down with care
God gave His Son to win;
The erring child He reconciled,
And pardoned from his sin."
(Frederick Lehman, hymn "The Love of God")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 28 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 28 ตุลาคม

"ลูกเอ๋ย วันนี้จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด" (มัทธิว 21:28 TNCV)

ผู้เชื่อเพลิดเพลินกับการเกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระเจ้าก็รับเราเข้าสู่ครอบครัวของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ตั้งใจให้เราขี้เกียจ พระองค์สั่งเราด้วยความรักแท้และด้วยสิทธิอำนาจ "ลูกเอ๋ย จงไปทำงานเถิด"

เราจะต้องทำงานเพื่อเกียรติสิริของพระเจ้า เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น และเพื่อสะสมสมบัติของเราเองไว้ในสวรรค์ ช่างเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่เราได้ทำงานเพื่อพระเจ้า และก็มีงานสำหรับทุกคน การเชิญชวนก็คือให้ทำงานวันนี้ ในขณะที่คุณกำลังมีความสว่าง มีกำลัง และมีโอกาส

คุณกำลังยืนอยู่เฉยๆ ตลอดทั้งวันหรือไม่? จงไปที่ "สวนองุ่นของพระองค์"

คุณกำลังท้อใจหรือไม่? จงทำสิ่งที่คุณสามารถทำได้ ขณะที่คุณพึ่งพาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะให้ความสามาร โอกาส ละมงกุฎ พร้อมด้วยความสำเร็จ

"ข้าฯ อยากรู้จักพระเยซูมากขึ้น
ข้าฯ อยากสำแดงมากขึ้นถึงพระคุณของพระองค์ให้ผู้อื่นได้เห็น
ข้าฯ อยากเข้าใจมากขึ้นถึงความบริบูรณ์ของพระองค์ในการนำข้าฯ สู่ความหลุดพ้น
ข้าฯ อยากสัมผัสมากขึ้นถึงความรักแท้ของพระองค์ผู้สิ้นพระชนม์เพื่อข้าฯ"
(Eliza E. Hewitt, เพลง "More About Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 28

"Son, go work today in My vineyard." (Matthew 21:28)

Believers enjoy spiritual rebirth by the Holy Spirit, and are adopted by God into His Family. He does not intend us to be idle. He commands us with love and authority, "Son, go work."

We are to work for God's glory, for the good of others, and to store up for ourselves treasure in heaven. It is a great honour to work for God, and there is work for all. The invitation is to work today - while you have lightstrengthand opportunity.

Are you standing idle all the day? Go into "His vineyard."

Are you discouraged? Do what you can. As you look to the Lord, He will giveabilityopportunity and crown with success.

"More about Jesus would I know,
More of His grace to others show;
More of his saving fullness see,
More of His love who died for me."
(Eliza E. Hewitt, hymn "More About Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 27 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 27 ตุลาคม

"องค์พระผู้เป็นเจ้า ประทานพระคุณและเกียรติ" (สดุดี 84:11 TNCV)

นี่เป็นข่าวใหญ่!

เราต้องพึ่งพาพระคุณของพระเจ้า 100% ในการที่จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ และหากปราศจากพระคุณนี้ เราไม่สามารถได้รับเกียรติได้เลย

นี่เป็นของขวัญที่พระเจ้าให้แก่เราเปล่าๆ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ให้พระคุณแก่คนเป็นล้าน พระองค์ได้ให้พระคุณแก่เรา พระองค์จะให้พระคุณแก่เรามากขึ้อีก อันเป็นพระคุณที่จะทำให้เราพร้อมสำหรับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย พระคุณที่จะช่วยค้ำชูเราในยามทุกข์ยาก พระคุณที่จะชำระเราให้บริสุทธิ์ และพระองค์จะให้พระคุณแก่เราในความสมบูรณ์แบบ นั่นคือเกียรติ

พระเจ้าของเรายินดีที่จะช่วยเรา ขอให้เราสารภาพบาปของเราต่อพระองค์ แสวงหาพระคุณจากพระองค์ และรอคอยที่จะได้รับเกียรติในพระองค์

ทั้งหมดของเราอยู่ในพระเจ้า ทั้งหมดของเราจะต้องมาจากพระเจ้า และเกียรติทั้งหมดควรถวายแด่พระเจ้าทุกๆ วัน

เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการพระคุณ จงขอจากพระเจ้า พระองค์ให้แก่เราอย่างมากมาย

ขอให้คำอธิษฐานของเราในวันนี้ คือ "ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงประทานพระคุณให้แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในวันนี้ พระคุณที่จะนำให้ข้าพระองค์ทุ่มเทในการรับใช้พระองค์ และขอทรงเติมข้าพระองค์ด้วยความรักแท้อันบริสุทธิ์"

โอ ขอพระองค์ประทานพระคุณมากขึ้น เพื่อที่ข้าพระองค์จะถวายเกียรติแด่พระเจ้ามากยิ่งขึ้น!

"เพราะพระเจ้าพระยาห์เวห์ทรงเป็นดวงตะวันและโล่กำบัง
องค์พระผู้เป็นเจ้า ประทานพระคุณและเกียรติ
ไม่มีสิ่งดีอันใดที่ทรงหน่วงเหนี่ยวไว้
จากผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ที่ติ" (สดุดี 84:11 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 27

"The Lord will give grace and glory." (Psalm 84:11)

This is great news!

We are 100% dependant on the Lord's grace to be sanctified, and without His grace we will not be glorified.

It is all God's free gift. The Lord has given grace to millions. He has given us grace; He will give us more grace; grace to fit us for duty; grace to support us in troubles; grace to sanctify us; and He will give us grace in perfection which is Glory.

Our God delights to help us. Let us confess our sins before Him, seek grace from Him, and wait to be glorified in Him.

Our all is in God; our all must come from God; and all the glory should be daily given to God.

Whenever we want grace, ask God for it. He gives liberally.

Let our prayer be this day, "Lord, give us more grace this day ; grace to devote us to Your service, and fill us with holy love."

O for more grace, so that we may give God more glory!

"For God the Lord's a sun and shield:
He'll grace and glory give;
And will withhold no good from them
That uprightly do live." (Psalm 84:11)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 26 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 26 ตุลาคม

"ฉันอยู่ในฐานะพระเจ้าหรือ?" (ปฐมกาล 30:2 TNCV)

ความเมตตาทั้งสิ้นที่เรามีล้วนมาจากพระเจ้า และความทุกข์ระทมก็มาจากตัวเราเอง

เรามักออกห่างจากพระเจ้าและให้เพื่อนของเรามาอยู่ในที่ของพระองค์ ทั้งตัวของเราเองและเพื่อนของเราล้วนไม่เพียงพอ ไม่มีใครแทนที่พระเจ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือเพื่อนที่ร่ำรวยที่สุด ฉลาดที่สุด ใจดีที่สุด หรือใกล้ชิดที่สุดก็ตาม!

พระเจ้าของเราสามารถเป็นทุกสิ่งสำหรับเรา พระองค์สามารถแทนที่พ่อ สามี ลู ความมั่งมี และสุขภาพที่ดี

ขณะที่คุณพึ่งพาพระองค์ พระองค์จะไม่มีวันทำให้คุณผิดหวังและจะไม่ทอดทิ้งคุณเลย อย่าให้ผู้ใดมาแทนที่พระเจ้าในชีวิตของคุณเป็นอันขาด

"พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์
และภายหลังพระองค์จะทรงรับข้าพระองค์เข้าสู่เกียรติสิริ
นอกจากพระองค์แล้วข้าพระองค์มีผู้ใดอื่นในฟ้าสวรรค์หรือ ?
และในโลกนี้ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากพระองค์
กายใจของข้าพระองค์อาจจะเสื่อมถอย
แต่พระเจ้าทรงเป็นพลังใจและเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์ตลอดไป" (สดุดี 73:24-26 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 26

"Am I in God's place?" (Genesis 30:2)

All our mercies are from God, and our miseries are from ourselves.

We often depart from God, or put friends in His place. Both ourselves and our friends are insufficient. No one can take God's place - not the richest, the wisest, the kindest, nor the nearest relative or friend!

Our God can take the place of all. He can be instead of father, husband, child, wealth and health.

As you look to Him, He will never fail you nor forsake you. Never, never put anyone in God's place.

"To Your Glory You will bring me
With Your counsel as my guide.
I have none but You in heaven:
All on earth I lay aside.
Flesh and heart may fail, but ever
God my portion will abide."
(Sing Psalms 73:24-26)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 25 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 25 ตุลาคม

"จงขอบพระคุณในทุกสถานการณ์" (1 เธสะโลนิกา 5:18 TNCV)

พระบิดาในสวรรค์ผู้รักเราได้ให้ความสามารถ พรสวรรค์ และโอกาส เพื่อเราจะได้เพลิดเพลินกับชีวิตนี้ ให้สิ่งทรงสร้างอันดีเยี่ยมของพระองค์ และให้ความหลุดพ้นอันน่าอัศจรรย์ของพระองค์ การขอบพระคุณเป็นวิธีที่เราจะแสดงออกถึงการยอมรับความดีและพระเมตตาของพระองค์ การขอบพระคุณเหมาะสมกับทุกสถานการณ์ เรามีเรื่องราวมากมายที่จะสรรเสริญพระเจ้า!

เราได้รับพระพรทั้งสิ้นผ่านทางพระเยซู และเราต้องยกชูคำสรรเสริญทั้งสิ้นผ่านทางพระองค์เพราะพระบิดาของเราจะยอมรับสิ่งที่เรามอบแด่พระองค์ผ่านทางพระนามของพระบุตรที่รักของพระองค์เท่านั้น

"ทางพระเจ้าพร้อมด้วยความพอใจในสิ่งที่ตนมีย่อมเป็นกำไรงาม" (1 ทิโมธี 6:6 TNCV)

นักประพันธ์เพลงชีวิตคริสเตียนที่ชื่อ Fanny Crosby ตาบอดแต่กำเนิด ขณะที่เธอมีอายุได้ 8 ขวบ เธอเขียนข้อนี้ขึ้นมา

"โอ จิตใจข้าฯ ช่างสุขเสียจริง
แม้ว่าข้าฯ จะมองไม่เห็น
ข้าฯ ตัดสินใจแล้วว่าในชีวิตนี้
ข้าฯ จะพึงพอใจในสิ่งที่มี!
พระพรมากมายเพียงไรที่ข้าฯ เพลิดเพลิน
ที่คนอื่นๆ มิได้เพลิดเพลินด้วย
ส่วนการที่จะร้องห้คร่ำครวญเพราะข้าฯ ตาบอดหรือ
ข้าฯ ไม่สามารถทำเช่นนั้น และจะไม่ทำเช่นนั้น"
(Fanny Crosby)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 25

"In everything give thanks." (1 Thessalonians 5:18)

Our Loving Heavenly Father gives the abilities, talents and opportunities to enjoy life, His wonderful creation and His amazing salvation. Thanksgiving is the way we have of acknowledging His goodness and mercy. Thanksgiving is never out of place-we have so much to praise God for!

All our blessings come through Jesus, and all our praises must ascend through Him, for our Father only accepts what is presented in the name of His Beloved son.

"Godliness with contentment gives great gain." (1 Timothy 6:6)

Fanny Crosby, the great hymn writer, was born blind. When she was only eight she wrote the following verse:

"O what a happy soul I am
Although I cannot see.
I am resolved that in this life
Contented I shall be!
How many blessings I enjoy
Which other people don't;
To weep and moan because I'm blind
I cannot, and I won't."
(Fanny Crosby)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 24 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 24 ตุลาคม

"เราคือเยซู" (กิจการ 9:5 TNCV)

ในพระเยซู เรามีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับเรา

คุณกำลังแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่หรือไม่? พระองค์คือพรเยซู พระผู้ช่วยผู้ซึ่งเต็มใจช่วยเรา มีฤทธิ์อำนาจ และเปี่ยมด้วยพระคุณ พระองค์สำแดงพระบิดาอย่างสมบูรณ์

คุณกังวลใจหรือซึมเศร้าหรือไม่? พระองค์คือพระเยซู สหายผู้ที่ไม่เปลี่ยนแปลง พระองค์อยู่ใกล้เรายิ่งกว่าพี่น้อง และเข้าใจทุกความจำเป็นของเรา

คุณเพิ่งกลับมาจากการหลงหายจากทางของพระเจ้าหรือไม่? พระองค์คือพระเยซู และพระองค์บอกว่า "เราจะรับเจ้า เราจะรักษาและทำให้เจ้ากับสู่สภาพดี เราจะปีติยินดีดั่งผู้เลี้ยงแกะเมื่อได้พบกับแกะที่หลงหาย"

เราทุกคนเปลี่ยนแปลง แต่พระเยซูไม่เคยเปลี่ยนแปลง! พระองค์สามารถและยินดีช่วยเรา พระองค์เต็มเปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจแก่ทุกคนที่ร้องเรียกพระนามของพระองค์

"เรายืนอยู่บนพระคริสต์ ผู้ซึ่งเป็นศิลาที่มั่นคง
รากฐานอื่นใดล้วนเป็นดั่งทราย"
(Keith W. Wardเพลง "The Solid Rock")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 24

"I am Jesus." (Acts 9:5)

In Jesus all our needs are met.

Are you seeking the Lord? He is Jesus, the gracious, powerful, willing Saviour who perfectly reveals God the Father.

Are you worried or depressed? He is Jesus, the unchanging Friend who stays closer than a brother, and understands your every need.

Are you a returning backslider? He is Jesus, and He says, "I will receive you; I will heal and restore you; I will rejoice over you as the shepherd did over the sheep he had lost."

We all change, but Jesus never changes! He is able and willing to help us. He is full of compassion for all who call on Him.

"On Christ, the Solid Rock I stand,
All other ground is sinking sand."
(Keith W. Ward, hymn "The Solid Rock")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie



วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 23 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 23 ตุลาคม

"เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยอย่างนั้น" (โรม 6:4 TKJV)

เมื่อคุณได้เชื่อวางใจในพระเยซูอย่างแท้จริง คุณก็มีธรรมชาติใหม่ คุณดำเนินชีวิตด้วยแนวทางการดำเนินชีวิตใหม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ดำรงชีวิตอยู่ในตัวคุณเปลี่ยนแปลงคุณ

คุณได้รับการนำทางด้วยกฎใหม่ ไม่ได้ทำตามอย่างโลกนี้อีกต่อไป คุณดำเนินชีวิตตามพระคำของพระองค์และแบบอย่างของพระเยซู คุณจดจำ "หลักคำสอน" ของพระองค์ ที่จะปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นเดียวกับที่คุณอยากให้คนอื่นปฏิบัติต่อคุณ

ความรักของพระเจ้าและความร้อนรนเพื่อเกียรติสิริของพระองค์เป็นแรงจูงใจหลักของคุณ คุณกำลังเพลิดเพลินกับชีวิตใหม่ในพระเยซู และคุณปรารถนาให้ผู้อื่นได้มารู้จักพระองค์ เพื่อที่เขาจะได้รับชีวิตนิรันดร์

"ขอความคิดของพระคริสต์ พระผู้ช่วยของข้าฯ 
ดำรงอยู่ในข้าฯ ทุกวันเวลา 
โดยความรักและฤทธิ์อำนาจของพระองค์ 
ขอทรงควบคุมทุกการกระทำและวาจาของข้าฯ" 
(Katie Barclay Wilkinson, เพลง "May the mind of Christ my Savior")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 23

"We should walk in newness of life." (Romans 6:4)

When you truly believe in Jesus you have a new nature. You live by new guidelines. The Holy Spirit living in you changes you.

You are guided by new rules, no longer imitating "the world." You live according to God's Word and the example of Jesus. You remember His"golden rule"- to treat others as you would like to be treated.

The love of God and zeal for His Glory are your chief motives. You are enjoying new life in Jesus and you long for others to know Him-whom to know is Life Eternal.

"May the mind of Christ my Saviour,
Dwell in me from day to day.
By His love and power controlling
All I do and say."
(Katie Barclay Wilkinson, hymn "May the mind of Christ my Savior")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 22 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 22 ตุลาคม

"ดังนั้นหลังจากอดทนรอคอยอับราฮัมจึงได้รับตามที่ทรงสัญญาไว้" (ฮีบรู 6:15 TNCV)

ความอดทนของอับราฮัมได้รับการทดสอบอย่างหนัก แต่ในที่สุดท่านก็ได้รับการตอบแทนอย่างมากมาย

ท่านต้องคอยถึง 25 ปีสำหรับลูกที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ ท่านต้องอดทนกับการทดลองของซาตาน ท่านไม่ได้สงสัยความสัตย์ซื่อของพระเจ้าหรือความจำกัดของฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ท่านเผชิญหน้ากับความล่าช้าอย่างเงียบสงบด้วยรอคอยเวลาของพระเจ้า และเมื่อท่านได้อดทนรอคอยแล้ว ท่านก็ได้รับตามพระสัญญา

พระสัญญาของพระเจ้าไม่เคยล้มเหลว! ตัวอย่างของอับราฮัมสอนเราให้ยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างสงบ และรอคอยด้วยความคาดหวังที่จะได้รับรางวัลจากพระเจ้า

"ข้าพเจ้ายังคงเชื่อมั่นในข้อนี้
คือข้าพเจ้าจะได้เห็นความดีขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ในดินแดนของผู้มีชีวิต
จงรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า เถิด
จงเข้มแข็งและกล้าหาญ" (สดุดี 27:13-14 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 22

"Abraham waited patiently and so received what God had promised." (Hebrews 6:15)

Abraham's patience was severely tested –but he was eventually richly rewarded.

He had to wait twenty five years for the promised son. He endured Satan's temptations. He did not question God's faithfulness nor limit His power. He faced delays with silence, waiting for God's timing, and so having patiently endured he obtained the promise.

God's promises cannot fail! Abraham's example teaches us to be quietly submissive to God's will and await with expectation God's reward.

"Yet I am sure that in this life
God's goodness I will see.
Wait for the Lord; be strong, take heart.
For Him wait patiently! (Psalm 27:13-14)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 21 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 21 ตุลาคม

"พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์" (สดุดี 73:24 TNCV)

ทุกคนที่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าผ่านทางความเชื่อในงค์พระเยซูเจ้าก็รู้จักพระเจ้าและวางใจในพระองค์

ผู้เขียนสดุดีบทนี้ได้ยอมจำนนต่อพระเจ้าอย่างเต็มที่ ให้พระองค์นำไปในที่ที่พระองค์พอใจการยอมจำนนเช่นนี้เกิดขึ้นผ่านทางความเชื่อในพระสัญญาต่างๆ ในพระคัมภีร์

ทุกคนที่มีพระเจ้านำทางก็ได้รับการปกป้องจากพระองค์ ทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับเขาก็ได้รับการจัดหาให้ และพระองค์รับเราแต่ละคน พระองค์ต้อนรับเราขณะที่เราอธิษฐานในเวลานี้ และพระองค์จะต้อนรับเราเข้าสู่สวรรค์

คุณได้ยอมจำนนต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วหรือยัง? คุณได้ยอมจำนนในแต่ละวันหรือไม่? คุณสามารถทูลต่อพระองค์ได้หรือไม่ว่า "พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์ และภายหลังพระองค์จะทรงรับข้าพระองค์เข้าสู่เกียรติสิริ" (สดุดี 73:24 TNCV)?

"เมื่อข้าฯ ได้รับเกียรติสิริ
ข้าฯ จะเห็นพระพักตร์พระองค์
แล้วที่นั่นข้าฯ จะได้รับใช้องค์กษัตริย์ของข้าฯ ตลอดกาล
ในสถานบริสุทธิ์แห่งนั้น
ขอบพระคุณองค์พระบิดา
ที่ได้ประทานพระบุตรแก่ข้าฯ
และได้มอบองค์พระวิญญาณ
จนกว่างานบนโลกนี้จะสิ้นสุดลง"

(Keith Green, เพลง "There Is A Redeemer")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 21

"You guide me with Your counsel." (Psalm 73:24)

All who have a personal relationship with God through faith in the Lord Jesus, know God and trust Him.

The writer of this psalm has surrendered fully to God, to be led where He pleases. Such surrender comes through faith in the promises of the Bible.

All who are guided by God are protected by Him; their every need is supplied; and He receives each one. He receives us now as we pray, and He will receive us in heaven.

Have you surrendered to the Lord? Are you daily surrendering? Can you say to the Lord, "You guide me with Your counsel, leading me to a glorious destiny" (Psalm 73:24)?

"When I stand in glory,
I will see His face,
And there I'll serve my King forever,
In that holy place.
Thank You, O my Father,
For giving us Your Son,
And leaving Your Spirit,
'til the work on earth is done."
(Keith Green, hymn "There Is A Redeemer")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 20 ตุลาคม

บทความสอนใจประจำวัน 20 ตุลาคม

"ดูเถิด ความรอดของเจ้ามา" (อิสยาห์ 62:11 TKJV)

ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าอาจพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากบ่อยครั้ง และอาจรู้สึกงุนงงสงสัย แต่ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาเลร้ายที่สุดที่พวกเขาจะเผชิญ พวกเขารีบเร่งให้วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นวันแห่งการช่วยกู้สำหรับพวกเขา ความหลุดพ้นของพวกเขากำลังจะมา พวกเขากำลังจะได้รับการปลดปล่อยจากความเจ็บป่วยทั้งสิ้น จากความบาปทั้งสิ้น จากผู้คนทั้งสิ้นที่ทำให้พวกเขาพบกับความลำบาก และจากความวิตกกังวลทั้งสิ้นของโลกนี้

ท่านที่รัก เหตุใดท่านจึงกลัวนัก? ความรอดของท่านกำลังจะมา รางวัลของพระองค์ก็อยู่กับพระองค์ เวลาของการช่วยกู้ใกล้จะถึงแล้ว ปีแห่งการปลดปล่อยก็ใกล้ ท่านจะได้ยินเสียงแตรแห่งปีจูบิลีเร็วๆ นี้ พระผู้ช่วยของพวกเราจะมาเพื่อนำเราไปยังที่อยู่มากมายของพระบิดาของเรา ซึ่งพระองค์ได้จัดเตรียมสำหรับพวกเรา และเราจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไป

จงปลอบใจกันและกันด้วยคำเหล่านี้ "ดูเถิด เจ้าบ่าวมาแล้ว จงออกมารับท่านเถิด" (มัทธิว 25:6)

ขอที่ข้าพระองค์จะพร้อมสำหรับการมาของพระองค์ และได้มีส่วนร่วมในเกียรติสิริองพระองค์

"ข้าฯ ยินดีวางใจพระเยซู
พระผู้ช่วยประเสริฐเหลือหลาย
ข้าฯ เชื่อว่าพระองค์สถิตอยู่
และทรงอยู่ด้วยจนสุดปลาย"
(Louisa M. R. Stead, เพลง "แสนชื่นใจที่เชื่อพระเยซู")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 20

"Surely your salvation is coming." (Isaiah 62:11)

The Lord's people may have to face many difficult situations, and be utterly perplexed; but the present is the worst state they will ever be in; they are hastening to the Day of the Lord, which is for them the Day of Deliverance. Their salvation is coming; they will soon be free from all sickness, from all sin, from all who trouble them, and from all the cares of this world.

Beloved, why are you so fearful? Your salvation is coming; His reward is with Him. The time of deliverance is at hand, the year of release is near, the trumpet of the Jubilee will soon be heard. Our Saviour will arrive to lead us to our Father's many mansions which He has prepared for us, and so shall we ever be with the Lord.

Comfort one another with these words, "Behold, the Bridegroom comes, go out to meet Him." (Matthew 25:6)

O to be ready for His coming, and to share in His Glory.

"I'm so glad I learned to trust You,
Precious Jesus, Saviour, Friend;
And I know that You are with me,
Will be with me to the end."
(Louisa M. R. Stead, hymn "Tis so sweet to trust in Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 19 ตุลาคม

บทความสอนใจประจำวัน 19 ตุลาคม

"ในยามเดือดร้อน ข้าพระองค์จะร้องทูลพระองค์ เพราะพระองค์จะทรงตอบข้าพระองค์" (สดุดี 86:7 TNCV)

ดาวิดมั่นใจเต็มที่ว่าพระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของเขา

เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าพระองค์จะตอบเรา?

เราจะต้องสารภาพบาปทั้งสิ้น และละทิ้งบาปเหล่านั้น เพราะหากเราเก็บบาปไว้ในจิตใจของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ยอมรับคำอธิษฐานของเรา

คำอธิษฐานของเราจะต้องจริงใจและเฉพาะเจาะจง

เราจะต้องอธิษฐานด้วยการยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระองค์: "อย่าให้เป็นไปตามใจของข้าพระองค์ แต่ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์" (มัทธิว 26:39)

แรงจูงใจของเราจะต้องบริสุทธิ์ เพื่อที่พระเจ้าจะได้รับเกียรติ

เราจะต้องอธิษฐานด้วยความบากบั่

เราจะต้องถวายคำอธิษฐานทั้งสิ้นของเราในพระนามของพระเยซู

เราจะต้องอธิษฐานด้วยความเชื่อ

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 19

"In the day of my trouble, I will call upon You, for You will answer me." (Psalm 86:7)

David was absolutely sure that God would answer his prayer.

How can we be sure that He will answer us?

All sin must be confessed and forsaken; for if we keep sin in our hearts, the Lord will not accept our prayers.

Our prayers must be sincere and specific.

We must pray in submission to the will of God: "Not my will but Yours , O Lord." (Matthew 26:39)

Our motives must be pure so that God is glorified.

We must pray with perseverance.

We must offer all our prayers in the name of Jesus.

We must pray in faith.

"Hear my earnest prayer, O Lord;
Listen to my troubled cry.
In distress I'll call on You,
For in mercy You'll reply." (Sing Psalms 86:7)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 18 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 18 ตุลาคม

พระบิดาในสวรรค์ผู้ซึ่งเปี่ยมด้วยความรักแท้ของเราคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเราเสมอ

หากเราพึ่งพามนุษย์ เราก็จะผิดหวัง เราไม่สามารถทำสิ่งใดได้ดีไปกว่าการพึ่งพาองค์พระผู้เป็นเจ้า ให้พระองค์เป็นองค์เจ้านายของเราผู้นำทางชีวิตเรา ให้พระองค์เป็นพระบิดาของเราผู้จัดเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อเรา ให้พระองค์เป็นพระเจ้าของเราผู้ปกป้องและปลอบใจเรา พระนามของพระองค์ "เป็นป้อมปราการมั่นคง คนชอบธรรมวิ่งไปหลบอย่างปลอดภัย" (สุภาษิต 18:10)

การพึ่งพาพระเยซูจะรักษาเราไว้จากกับดักนับพัน และเตรียมชีวิตเราสู่ความทุกข์ยากในฐานะคริสเตียน และสู่ชัยชนะในฐานะผู้พิชิต

สายตาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเฝ้ามองดูเราเสมอ ขอให้สายตาของเรามองไปที่พระองค์

ขอให้เราพึ่งพาพระองค์ สำหรับสิ่งจำเป็นทั้งหมด จากความกลัวทั้งหมด และผ่านทางอุปสรรคขัดขวางในชีวิตของเราทั้งหมด และดังนี้จง "รุดหน้าไปสู่หลักชัยเพื่อคว้ารางวัลซึ่งพระเจ้าได้ทรงเรียกราจากสวรรค์ผ่านทางพระเยซูคริสต์ให้ไปรับ" (ฟิลิปปี 3:14)

"บรรดาผู้ที่หวังพึ่งพระองค์ก็ผ่องใส
ใบหน้าของพวกเขาไม่เคยมีความอดสู
คนทุกข์ยากคนนี้ได้ร้องทูล และองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงฟังเขา
พระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นจากความทุกข์ร้อนทั้งปวง" (สดุดี 34:5-6 TNCV)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 18

Our loving Heavenly Father has our best interests at heart at all times.

If we look to man we will be disappointed. We cannot do better than look to the Lord, as our Master to direct; as our Father to provide; as our God to defend and comfort. His name is "a strong tower, the righteous run into it and are safe(Proverb 18:10).

Looking to Jesus will preserve us from a thousand snares, and prepare us to suffer as Christians and triumph as conquerors.

The eyes of the Lord are always upon us; may our eyes be looking to Him.

Let us look to Him for all that we need; from all we fear; through all that hinders us; and so "press on to reach the end of the race and receive the heavenly prize which God, through Christ Jesus, is calling us."(Philippians 3:14)

"They look to Him, and shine with joy;
They are not put to shame.
This suffering man cried to the Lord;
From Him deliverance came.
" (Sing Psalms 34:5-6)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 17 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 17 ตุลาคม

"พระคุณของเราเพียงพอสำหรับเจ้า เพื่อว่าฤทธิ์อำนาจของเราจะได้ปรากฏเต็มที่ในความอ่อนแอ" (2 โครินธ์ 12:9 TNCV)

ยิ่งคริสเตียนรู้สึกว่าเขาอ่อนแอมากเท่าไร เขาก็ยิ่งควรที่จะคาดหวังให้พระผู้ช่วยมาช่วยและให้กำลังแก่เขามากขึ้นเท่านั้น เราได้รับ เห็น และเพลิดเพลินใจกับฤทธิ์อำนาจของพระเยซู ผ่านทางความทุกข์ยากอันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเรา

ไม่มีช่วงเวลาใดเลยในชีวิตของอับราฮัมที่จะเข้มแข็งได้มากเท่ากับเมื่อเขามอบถวายอิสอัค บุตรที่เขารัก ไม่มีช่วงเวลาใดเลยที่คนทั้งหลายซึ่งสละชีวิตเพราะความเชื่อจะเข้มแข็งได้มากเท่ากับเมื่อพวกเขาอยู่ในคุกและร้องขอกำลังจากพระเยซู และในขณะที่พวกเขาหวังพึ่งความสัตย์ซื่อและความรักแท้ของพระองค์ พวกเขาสละทุกสิ่งและเผชิญความตายอย่างมีชัยชนะ

ขอให้เราดำเนินชีวิตโดยความเชื่

เมื่อเรารู้สึกอ่อนแอที่สุด ฤทธิ์อำนาจของพระองค์ก็อยู่ใกล้ที่สุด

พระองค์สำแดงพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ด้วยการให้ฤทธิ์อำนาจแก่ผู้ที่อ่อนกำลัง และเสริมกำลังแก่ผู้ที่อ่อนแอ

ขอให้เราพึ่งพาพระองค์ เพราะว่า "เราทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า" (ฟิลิปปี 4:13 TNCV) พระเจ้าเป็นกำลังของเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมเสมอในยามทุกข์ร้อน (สดุดี 46:1)

"ข้าฯ จะไปในความเชื่อ ด้วยรู้สึกถึงความอ่อนแอที่ยิ่งใหญ่ของข้าฯ
และด้วยต้องการพระคุณของพระองค์มากขึ้นในแต่ละวัน
แม้กระนั้น บทเพลงแห่งชัยชนะก็ดังกึกก้องจากหัวใจของข้าฯ 
ข้าฯ พักสงบในพระองค์ และจะไปในนามของพระองค์"
(Edith G. Cherry, เพลง "We rest on Thee")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 17

"My strength is made perfect in weakness." (2 Corinthians 12:9)

The more a Christian feels his weakness, the more he should expect his Saviour to help and strengthen him. The strength of Jesus is given, enjoyed and displayed in our greatest troubles.

Never was Abraham so strong, as when offering up his much loved Isaac; never were the martyrs so strong as when in prison they cried out to Jesus for strength; and depending on His faithfulness and love, they left all and faced death triumphantly.

Let us live by faith.

When we feel weakest the strength of Jesus is nearest.

He shows His great mercy by giving power to the faint, and increasing the strength of the weak.

Let us depend on Him, for "we can do all things through Christ who strengthens us." (Philippians 4:13) He is our strength, a very present help in trouble. (Psalm 46:1)

'We go in faith, our own great weakness feeling,
And needing more each day Thy grace to know,
Yet from our hearts a song of triumph pealing,
We rest on Thee, and in Thy Name we go.'

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 16 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 16 ตุลาคม

"พระยาห์เวห์จะเป็นความไว้วางใจของเจ้า" (สุภาษิต 3:26 THSV2011)

ความสุขของเราหลั่งไหลมาจากการรู้จักและการเชื่อวางใจพระเจ้า หากเรารู้พระลักษณะที่แท้จริงของพระองค์ เราก็จะเชื่อในพระคำอันล้ำค่าของพระองค์ และหากเราเชื่อในพระคำของพระองค์ เราก็จะเพลิดเพลินกับสันติสุขและความพึงพอใจ พระองค์สามารถและตั้งใจที่จะทำให้เราบริสุทธิ์และมีความสุ

เราสามารถบอกกับพระองค์ถึงทุกสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ใจ เราสามารถได้รับทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราจากพระองค์ เราสามารถดำเนินชีวิตและเพลิดเพลินกับสันติสุขร่วมกับพระองค์ เราสามารถวางใจพระเจ้าได้อย่างเต็มที่เพราะพระองค์มีฤทธิ์อำนาจ ความรักแท้ และความสัตย์ซื่อ พระองค์จะไม่มีวันหันหนีไปจากเรา แต่พระองค์ปีติยินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยเรา

จงวางใจในพระองค์ เชื่อในพระคำของพระองค์ อธิษฐานตลอดเวลา และแสวงหาเกียรติสิริของพระองค์ในทุกสิ่ง

คุณกำลังทุกข์ใจ กลัว หรือซึมเศร้าหรือไม่? จงยอมจำนนต่อพระเจ้า แล้วคุณจะพบกับสันติสุข "บรรดาผู้ที่วางใจในพระยาห์เวห์ก็เหมือนภูเขาศิโยน ซึ่งไม่หวั่นไหว แต่ดำรงอยู่เป็นนิตย์" (สดุดี 125:1 THSV2011) ขอให้เรายึดเอาความเชื่อมั่นที่เรามีตั้งแต่เริ่มแรก!

"จงเข้มแข็ง และให้ใจของพวกท่านกล้าหาญเถิด ท่านทุกคนผู้รอคอยพระยาห์เวห์" (สดุดี 31:24 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 16

"The Lord will be your confidence." (Proverbs 3:26)

Our happiness flows from knowing and believing God. If we know His true character, we believe His precious Word; and if we believe His Word, we enjoy peace and satisfaction. He is able and willing to make us holy and happy.

We may tell Him all that troubles us; from Him we may receive all that we need; with Him we may walk and enjoy peace. We may trust fully in God, for He has power, love and faithfulness. He will never turn away from us; but will delight to help us.

Trust in Him, believe His Word, pray always and seek His Glory in all things.

Are you troubled, fearful and depressed? Submit to God, and you will have peace. "Those who trust in the Lord shall be as Mount Zion which cannot be moved." (Psalm 125:1) Let us hold fast the confidence we had at the beginning!

"Be of good courage and He strength
Unto your heart shall send,
All you whose hope and confidence 
Does on the Lord depend." (Psalm31:24)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บทความสอนใจประจำวัน 15 ตุลาคม


บทความสอนใจประจำวัน 15 ตุลาคม

"พระองค์ประหลาดพระทัยที่พวกเขาไม่มีความเชื่อ" (มาระโก 6:6 THSV2011)

ขอเพียงแค่คิดถึงสิ่งที่พระเจ้าได้ทำในชีวิตของเราเพื่อกำจัดความสงสัย

พระองค์ได้แสดงให้เราได้เห็นถึงลักษณะของพระองค์ว่า "พระเจ้าเป็นความรักแท้" พระองค์ประกาศว่า "ขณะนี้เป็นเวลาแห่งความโปรดปราน ดูเถิด ขณะนี้เป็นวันแห่งความหลุดพ้น" พระองค์ได้เชิญชวนเราว่า "จงหันมาหาเราและรับการช่วยให้หลุดพ้น" พระองค์ได้ร้องขอเราว่า "จงกลับมาหาพระเจ้า" พระองค์ได้สั่งเราว่า "นี่คือคำสั่งของพระองค์ คือ ท่านควรที่จะเชื่อในพระนามของพระเยซูคริสต์ ผู้ซึ่งเป็นพระบุตรของพระองค์" พระองค์ได้ให้พระบุตรของพระองค์เพื่อเป็นผู้ค้ำประกันให้เรา ทำให้เรามั่นใจได้ว่า "ใครก็ตามที่เชื่อวางใจในพระองค์จะไม่มีวันพินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์" เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพยานกับจิตวิญญาณของเราว่าชีวิตเราเป็นของพระองค์

ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมพระเยซูถึงได้ประหลาดใจในความไม่เชื่อของเรา! อย่าพยายามหาข้อแก้ตัวให้กับความไม่เชื่อ แต่ขอให้เราอธิษฐานต่อสู้กับมันจนกว่าเราจะมีชัยชนะ

"พระคริสต์เป็นผู้ไถ่ มิได้สงสัย
เป็นสันติสุขซึ่งพระองค์ทรงเตรียมไว้
ทรงให้ข้าเป็นบุตร พระองค์ผู้ไถ่
ฟอกโดยพระโลหิต ประเสริฐยิ่งใหญ่
ทุกวันข้าสรรเสริญ ร้องเพลงถวาย
สรรเสริญพระเยซู พระมหาไถ่"
(Fanny Crosby, เพลง "ทรงสัญญาให้พรแก่ข้าฯ")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

October 15

"He marvelled at their unbelief." (Mark 6:6)

Just think what God has done to remove doubt.

He has shown us His character, "God is love." He has proclaimed, "Now is the accepted time; behold, now is the day of salvation." He has invited us, "Look to Me, and be saved." He has appealed to us, "Come back to God." He has commanded us, "This is His commandment, that you should believe on the name of His Son, Jesus Christ." He has given His Son as a guarantee, to assure us that "whoever believes in Him shall never perish, but have Eternal Life." We have the witness of the Holy Spirit to our spirits that we are His.

No wonder Christ marvels at our unbelief! Never make excuses for unbelief, but let us pray against it until we conquer it.

"Blessed assurance, Jesus is mine!
Oh, what a foretaste of glory divine!
Heir of salvation, purchase of God,
Born of His Spirit, wash'd in His blood.
This if my story, this is my song,
Praising my Saviour all the day long."
(Fanny Crosby, hymn "Blessed Assurance")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie