วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, June 07 (บทความสอนใจประจำวัน 07 มิถุนายน)

The Believer's Daily Remembrancer

June 07

" 'You are My witnesses,' says the Lord." (Isaiah 43:12)

We are called to witness to the truth and the power of God; to His goodness, holiness and faithfulness. We are to witness to the world by our testimony and conduct with courage and love. It should arise from our daily walk with God.

Do we know God? Do we daily experience the power of truth in our hearts? Does it free us from fear, the love of the world and the power of sin?

Can we say, "We have known and believed the love which God has for us – God is love" (1 John 4:16)? Are we saying to those around us, "O taste and see that the Lord is good; there is no lack to those who fear Him" (Psalm 34:8)?

Are we ready like Paul, to witness before judges and kings, in prison or at the cost of our very lives?

"Thank You for setting a course for my life;
Thank You for taking my guilt, fear and strife.
My prayer is to learn more about You each day,
And to share You with those who have not found their way."
(Bonnie Mendell- former heroin addict)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 07 มิถุนายน

"องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า 'เจ้าเป็นพยานของเรา' " (อิสยาห์ 43:12 TNCV)

เราได้รับการเรียกให้เป็นบอกเล่าความจริงและฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า บอกเล่าความดี ความบริสุทธิ์ และความสัตย์ซื่อของพระองค์ เราจะต้องบอกเล่าแก่โลกนี้ด้วยคำกล่าวยืนยันและการกระทำที่ประกอบด้วยความกล้าหาญและความรักแท้ สิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้นจากการดำเนินชีวิตประจำวันกับพระเจ้า

เรารู้จักพระเจ้าหรือไม่? เรามีประสบการณ์กับฤทธิ์อำนาจแห่งความจริงในหัวใจของเราทุกๆ วันหรือไม่? ประสบการณ์ของเราปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากความกลัว ความรักของโลก และฤทธิ์อำนาจของบาปหรือไม่?

เราบอกได้หรือไม่ว่า "เรารู้และเชื่อมั่นในความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา พระเจ้าเป็นความรัก" (1 ยอห์น 4:16)? เรากำลังบอกกับคนรอบข้างได้หรือไม่ว่า "เชิญชิมดูแล้วจะรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าแสนดี ความสุขมีแก่ผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์" (สดุดี 34:8)?

เราพร้อมเหมือนเปาโลผู้ที่กล่าวคำยืนยันต่อหน้าผู้พิพากษาและกษัตริย์ในการจองจำ และยอมแลกแม้กระทั่งชีวิตของเขาเองหรือไม่?

"ขอบพระคุณสำหรับการกำหนดเส้นทางชีวิตให้ข้าฯ
ขอบพระคุณสำหรับที่รับเอาความผิดบาป ความกลัว และความดิ้นรนฟันฝ่าของข้าฯ ไป
คำอธิษฐานของข้าฯ คือที่จะรู้จักพระองค์มากขึ้นในแต่ละวัน
และที่จะแบ่งปันพระองค์ให้กับผู้ที่ยังไม่พบหนทางชีวิตของเขา
"
(Bonnie Mendell - อดีตผู้ติดเฮโรอีน)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, June 06 (บทความสอนใจประจำวัน 06 มิถุนายน)

The Believer's Daily Remembrancer

June 06

"He has done all things well." (Mark 7:37)

This was the verdict of the crowd who saw the miracles of Jesus. We heartily agree. He called us by His grace and we rejoice in all He has done for us.

We have been tried and tested from time to time, but when we think of His mercies and His deliverances we give thanks that He has never failed us.

We look back to the death of Jesus on the cross to procure our salvation, to His rising again from the dead, to His sending the Holy Spirit as our Comforter and we acclaim, "He has done all things well."

When we reach heaven, with what thanksgiving and love, we shall praise Him eternally for all He has done.

"How sovereign, wonderful, and free,
Is all His love to sinful me,
He plucked me as a brand from hell!
My Jesus has done all things well."
(Samuel Medley)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 06 มิถุนายน

"ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น" (มาระโก 7:37 THSV2011)

นี่เป็นการตัดสินของฝูงชนที่เห็นการอัศจรรย์ของพระเยซู เราเห็นด้วยจากใจ พระองค์เรียกเราโดยพระคุณของพระองค์ และเราชื่นชมยินดีในทุกสิ่งที่พระองค์ได้กระทำเพื่อเรา

พระองค์ได้ทดสอบเราเป็นครั้งคราว แต่เมื่อเราคิดถึงพระเมตตาของพระองค์และการที่พระองค์ช่วยให้เราผ่านพ้นได้ เราก็ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย

เรามองย้อนดูการตายบนไม้กางเขนของพระเยซูเพื่อนำเราสู่ความหลุดพ้น การคืนพระชนม์จากความตายของพระองค์ การส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นผู้ปลอบโยนใจเรา และเราก็โห่ร้องสรรเสริญว่า "ท่านผู้นี้ทำทุกอย่างล้วนดีทั้งนั้น"

เมื่อเราไปถึงสวรรค์ เราก็จะสรรเสริญพระองค์ชั่วนิรันดร์ด้วยใจขอบพระคุณและด้วยความรักสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทำ

"ความรักของพระองค์ที่มีต่อคนบาปอย่างข้าฯ
ทั้งสิ้นช่างยิ่งใหญ่ ยอดเยี่ยม และไม่คิดมูลค่า
พระองค์คว้าข้าฯ ขึ้นมาจากนรก!
พระเยซูของข้าฯ ทำทุกย่างล้วนดีทั้งนั้น"
(Samuel Medley)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, June 05 (บทความสอนใจประจำวัน 05 มิถุนายน)

The Believer's Daily Remembrancer

June 05

"Lord, what so You want me to do?" (Acts 9:6)

All the Lord's people should be working for the Lord's glory. There is something for us to do to-day. Jesus is our Master, and has a right to our service. We should obey Him willingly, cheerfully, habitually.

Are we His? We show it by obeying Him.

Have we faith, hope, love, humility, peace and thankfulness? We ought then in thankfulness for all these blessings to be working for Him, always working, and working as if every day were our last.

Are you serving Jesus in the spirit of Jesus? Beware not to put your service in the place of Jesus.

Do all you can, and then lay all you do at His feet, it will need washing!

"God has called you out of darkness
Into His most marvellous light;
Brought His truth to life within you,
Turned your blindness into sight.
Let your light so shine around you
That God's name is glorified
And all find fresh hope and purpose
In Christ Jesus crucified."

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 05 มิถุนายน

"พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร" (กิจการ 9:6 TKJV)

ประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดควรทำงานเพื่อถวายเกียรติสิริแด่พระเจ้า มีบางสิ่งให้เราทำในวันนี้ พระเยซูเป็นเจ้านายของเราและมีสิทธิที่จะได้รับการรับใช้จากเรา เราควรเชื่อฟังพระองค์เป็นประจำด้วยความเต็มใจและความยินดี

เราเป็นของพระองค์หรือไม่? เราแสดงออกได้ด้วยการเชื่อฟังพระองค์

เรามีความเชื่อ ความหวัง ความรัก ความถ่อมใจ สันติสุข และใจสำนึกในพระคุณหรือไม่? เมื่อนั้นเราควรทำงานเพื่อพระองค์ ทำงานตลอดเวลา และทำงานราวกับว่าทุกวันเป็นวันสุดท้ายของเรา พร้อมด้วยมีใจขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระพรทั้งสิ้นที่เราได้รับ

คุณกำลังรับใช้พระเยซูด้วยพระวิญญาณของพระองค์หรือไม่? จงระวัง อย่าให้การรับใช้ของคุณมาแทนที่พระเยซู ทำทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้ และวางทุกสิ่งไว้ที่เท้าของพระองค์ เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการชำระล้าง!

"พระเจ้าได้เรียกคุณให้ออกจากความมืด
เข้าสู่ความสว่างอันล้ำเลิศที่สุดของพระองค์
พระองค์ได้นำความจริงของพระองค์สู่ชีวิตภายในคุณ
ทำให้คุณซึ่งตาบอดได้มองเห็น
ขอที่แสงสว่างของคุณจะส่องประกาย
เพื่อพระนามของพระเจ้าจะได้รับเกียรติสิริ
และทุกคนก็จะได้พบความหวังและวัตถุประสงค์ที่สดใหม่
ในพระเยซูคริสต์ผู้ได้สละพระชนม์เพื่อเราทั้งหลาย"

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, June 04 (บทความสอนใจประจำวัน 04 มิถุนายน)

The Believer's Daily Remembrancer

June 04

"His kindness to us." (Ephesians 2:7)

Let us praise God for His great kindness to us in every aspect of our lives- but especially in our spiritual rebirth.

How many, born in the same place, and educated in the same school, have lived their lives without a realization of the great kindness of God? Why have we been so privileged? We have been called by grace!

Our many sins have been forgiven, and we are kept by the power of God! We are blessed by the promises of God, and enabled to walk with God. We are looking for the coming again of Jesus. We have the promise of everlasting life! We can say, "All things are mine, for I am Christ's, and Christ is God's!"

"More of Yourself, O show me hour by hour,
More of Your glory, O my God and Lord;
More of Yourself, in all Your grace and power,
More of Your love and truth, Incarnate Word!"
(H. Bonar)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 04 มิถุนายน

"พระกรุณาที่มีต่อเรา" (เอเฟซัส 2:7 THSV2011)

ขอให้เราสรรเสริญพระเจ้าสำหรับพระกรุณาที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อเราในทุกส่วนของชีวิตของเรา แต่เน้นเป็นพิเศษสำหรับการเกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณของเรา

มีคนมากมายเพียงไรที่เกิดที่เดียวกับเราและเรียนที่โรงเรียนเดียวกันกับเรา แล้วได้ดำรงชีวิตโดยปราศจากการรับรู้ถึงพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า? เหตุใดเราจึงได้รับสิทธิพิเศษมากเช่นนี้? พระคุณได้เรียกเรา!

ความบาปมากมายของเราได้รับการยกโทษ และเราก็ได้รับการพิทักษ์รักษาไว้โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า! เราได้รับการอวยพรโดยพระสัญญาของพระเจ้า และได้รับการช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตกับพระเจ้าได้ เรากำลังรอคอยการเสด็จกลับมาของพระเยซู เรามีพระสัญญาแห่งชีวิตนิรันดร์! เราสามารถกล่าวได้ว่า "ทุกสิ่งก็เป็นของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเป็นของพระคริสต์ และพระคริสต์เป็นของพระเจ้า"

"โอ ขอทรงสำแดงพระองค์เองให้ข้าได้เห็นมากยิ่งขึ้นในทุกโมงยาม
โอ ขอทรงสำแดงเกียริสิริของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าฯ
ในพระคุณและฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ขอทรงสำแดงพระองค์เองมากยิ่งขึ้น
ขอทรงสำแดงความรักและความจริงมากยิ่งขึ้นด้วยเถิด พระคำผู้เสด็จมาบังเกิด"
(H. Bonar)

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, June 03 (บทความสอนใจประจำวัน 03 มิถุนายน)

The Believer's Daily Remembrancer

June 03

"The exceeding riches of His grace." (Ephesians 2:7)

The Lord glories in His grace. It is His riches- His wealth. It is all treasured up in Jesus to be received by us. His grace exceeds our thoughts and expectations - and our faith.

Jesus is the gift of grace, as is the Holy Spirit and also all spiritual blessings. Grace includes all the blessings the church has received, is receiving and will receive throughout eternity.

Oh, for faith to believe the promises of God.

There is an abundance of grace, and it is for us; for us this morning, for us whenever we ask. Let us therefore have grace, by which we may serve God acceptably with reverence and godly fear.

"Amazing grace! How sweet the sound;
That saved a wretch like me!
I once was lost, but now am found;
Was blind, but now I see."
(John Newton, hymn "Amazing Grace")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 03 มิถุนายน

"พระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์" (เอเฟซัส 2:7 THSV2011)

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้รับเกียรติสิริในพระคุณของพระองค์ เป็นความอุดมของพระองค์ ความมั่งมีของพระองค์ และพระคุณก็ได้บริบูรณ์พร้อมในพระเยซู เพื่อที่เราจะได้รับพระคุณนี้ผ่านทางพระองค์ พระคุณของพระองค์ก็เหลือล้นมากยิ่งกว่าความคิด ความคาดหวัง และรวมถึงความเชื่อของเรา

พระเยซูเป็นของขวัญแห่งพระคุณเช่นเดียวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์และพระพรฝ่ายวิญญาณทั้งสิ้น พระคุณได้รวมถึงพระพรทั้งสิ้นที่คริสตจักรได้รับแล้ว กำลังได้รับ และจะได้รับจวบจนชั่วนิจนิรันดร์

โอ ขอที่ข้าพระองค์จะเชื่อวางใจในพระสัญญาของพระเจ้า

มีพระคุณอันอุดมเพื่อเรา เพื่อเราในเช้าวันนี้ เพื่อเราในทุกเวลาที่เราขอ ด้วยเหตุนี้ ขอให้เรารับเอาพระคุณ เพื่อที่ผ่านทางพระคุณนี้ เราจะได้รับใช้พระเจ้าอย่างที่พระองค์พอใจด้วยความเคารพยำเกรงพระองค์

"พระคุณพระเจ้านั้นแสนชื่นใจ
ช่วยได้คนชั่วอย่างฉัน
ครั้งนั้นฉันหลงพระองค์ตามหา
ตาบอดแต่ฉันเห็นแล้ว"
(John Newton, เพลง "พระคุณพระเจ้า")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Daily Remembrancer by J. Smith, June 02 (บทความสอนใจประจำวัน 02 มิถุนายน)

The Believer's Daily Remembrancer

June 02

"I will treat you kindly." (Genesis 32:9)

So the Lord promised Jacob; and the promise made to our fathers, He will fulfil for us. Such a promise does not exclude troubles of all kinds, and still the Lord deals well with us.

The promise guarantees that good will come through our trials; that grace will be given to strengthen us, and all our needs will be met.

What a comfort to know that God treats us kindly in health and in sickness, in life and in death; in time and through eternity. We have good reason to be filled with confidence, contentment and thanksgiving!

Jacob, though tried, found the Lord faithful, and so shall we.

Let us rejoice that God has said "I will treat you well. I will save you with an everlasting salvation. I will be your God and your glory."

"Be still my soul: the Lord is on your side;
Bear patiently the cross of grief or pain;
Leave to your God to order and provide;
In every change He faithful will remain.
Be still, my soul: your best, your heavenly Friend
Through thorny ways leads to a joyful end."
(K.V. Schlegel, hymn "Be Still, My Soul")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 02 มิถุนายน

"เราจะทำดีแก่เจ้า" (ปฐมกาล 32:9 THSV2011)

ดังเช่นที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาไว้กับยาโคบ รวมถึงพระสัญญาที่พระองค์ได้ให้แก่บรรพบุรุษของเรา พระองค์จะทำตามคำสัญญานั้นเพื่อเรา พระสัญญาดังกล่าวมิได้ตัดปัญหาประเภทต่างๆ ออกไป และพระเจ้าจะยังคงดูแลเราอย่างดี

พระสัญญายืนยันว่าสิ่งดีจะเกิดขึ้นผ่านทางการทดสอบที่เราเผชิญ และพระองค์จะให้พระคุณแก่เราเพื่อให้กำลังแก่เรา และเราจะได้รับสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นสำหรับเรา

ช่างเป็นคำปลอบโยนที่ยิ่งใหญ่ ที่พระเจ้าจะปฏิบัติต่อเราด้วยความกรุณาในยามที่เราแข็งแรงดีและในยามเจ็บป่วย ในชีวิตและในความตาย ในกาลเวลาและจวบจนนิรันดร์กาล เรามีเหตุผลที่ดีที่จะเปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจ ความพอใจ และใจที่สำนึกในพระคุณ!

ยาโคบได้พบว่าพระเจ้าสัตย์ซื่อผ่านทางการทดสอบ และก็จะเป็นเช่นนั้นสำหรับเรา

ขอให้เราชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าได้กล่าวว่า "เราจะทำดีแก่เจ้า เราจะช่วยให้เจ้าหลุดพ้นด้วยความหลุดพ้นนิรันดร์ เราจะเป็นพระเจ้าของเจ้าและเกียรติสิริของเจ้า"

"จงนิ่งเสีย จิตใจของข้าฯ พระเจ้าอยู่เคียงข้างคุณ
จงรับกางเขนแห่งความทุกข์หรือความเจ็บปวด และแบกไว้ด้วยความอดทน
จงวางใจให้พระเจ้าบัญชาและจัดเตรียม
พระองค์ยังคงสัตย์ซื่อในทุการเปลี่ยนแปลง
จงนิ่งเสีย จิตใจของข้าฯ พระองค์เป็นสหายรัก สหายแห่งสวรรค์
หนทางขวากหนามนี้ จะนำไปสู่จุดหมายแห่งความชื่นชมยินดี"
(K.V. Schlegel, เพลง "Be Still, My Soul")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie

Daily Remembrancer by J. Smith, June 01 (บทความสอนใจประจำวัน 01 มิถุนายน)

The Believer's Daily Remembrancer

June 01

"The Lord is our righteousness." (Jeremiah 23:6)

Jesus is the eternal unchangeable God. He is our righteousness. For this reason the Son of God became man, worked, suffered, and died on the cross to take the punishment for our sins.

We have no righteousness by nature, but we have the righteousness of God by faith in Jesus. We have all justice can demand, or God requires, for our full and eternal salvation.

Let us look to-day, all the day, and every day to Jesus, as "The Lord our righteousness." Let us go to work, to every difficult situation, in the strength of the Lord, thanking God for His righteousness, even His alone. This is our strength in prayer, in daily praise, and our trust as we face death.

"Saviour, since of Zion's city * (*heaven)
I through grace a member am,
Let the world deride or pity,
I will glory in Your name:
Fading are the world's best pleasures,
All its boasted pomp and show:
Solid joys and lasting treasures
None but Zion's children know."
(John Newton, hymn "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie


บทความสอนใจประจำวัน 01 มิถุนายน

"พระยาห์เวห์ทรงเป็นความชอบธรรมของเรา" (เยเรมียห์ 23:6 THSV2011)

พระเยซูเป็นพระเจ้าผู้เป็นนิรันดร์และไม่เปลี่ยนแปลง พระองค์เป็นความชอบธรรมของเรา ด้วยเหตุนี้เอง พระบุตรของพระเจ้าจึงได้มาเป็นมนุษย์ ทำพระราชกิจ ทนทุกข์ และสิ้นพระชนม์บนกางเขน เพื่อรับเอาการลงโทษบาปของเราไป

โดยธรรมชาติแล้ว เราไม่มีความชอบธรรม แต่เราได้รับความชอบธรรมของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซู เรามีคุณสมบัติเพียพร้อมตามที่ความยุติธรรมเรียกร้องหรือพระเจ้าต้องการเพื่อที่เราจะได้รับความหลุดพ้นอย่างสมบูรณ์และนิรันดร์

ขอให้เรามองไปที่พระเยซูผู้เป็น "องค์พระผู้เป็นเจ้าและความชอบธรรมของเรา" ในวันนี้ ตลอดทั้งวัน และทุกๆ วัน ขอให้เราเผชิญกับการงานและสถานการณ์ที่ยากทุกอย่างด้วยกำลังขององค์พระผู้เป็นเจ้า และขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับความชอบธรรมของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว นี่เป็นกำลังของเราในการอธิษฐาน การสรรเสริญประจำวัน และการไว้วางใจของเรา เมื่อยามที่เราเผชิญกับความตาย

"พระผู้ช่วย ครั้นเวลาแห่งเมืองศิโยน (สวรรค์)
ซึ่งข้าเป็นสมาชิกผ่านทางพระคุณ
ยอมให้โลกหัวเราะเยาะและสงสาร
ข้าจะถวายเกียรติพระนามพระองค์
ความพึงพอใจสูงสุดของโลกนี้ก็จืดจาง
รวมถึงทุกสิ่งที่โลกนี้โอ้อวดและแสดงออก
แต่ไม่มีใครเลย ยกเว้นบุตรของศิโยนเท่านั้น
ที่รู้จักกับความชื่นชมยินดีที่มั่นคงและทรัพย์สมบัติอันถาวร"
(John Newton, เพลง "Glorious Things of Thee Are Spoken")

Reverend James Smith
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie