ผู้ทรงสภาพของพระเจ้า แต่มิได้ทรงถือว่าการเท่าเทียมกับพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่จะต้องยึดถือ (ฟิลิปปี 2:6)
เราแต่ละคนมีดีไม่เหมือนกัน และเราแต่ละคนก็รู้ด้วยว่าตัวเองมีดีในสิ่งใด เรารู้ดีว่าเรามีความสามารถในสิ่งใด ที่จริงแล้วการที่เรามีดี เป็นข้อเท็จจริง และอย่าปฏิเสธข้อเท็จจริงนี้ ความถ่อมใจไม่ใช่การปฏิเสธข้อเท็จจริงนี้ และการที่เราปฏิเสธอาจกลายเป็นความเย่อหยิ่ง ถ้าเราเก่ง เราก็ยอมรับได้ว่าเราเก่ง
ปัญหาในโลกของคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า คือ ข้อเท็จจริงติดกับท่าที นั่นคือ ความเก่ง และความยโสเย่อหยิ่ง แต่จงยอมรับข้อเท็จจริง และทำลายท่าทีที่ไม่ถูกต้องเสีย
บางคนถือว่าตัวเองมีดี และมีท่าทียึดถือความดีของตัวเองนั้น เมื่อความดีของตัวเองไม่มีคนเห็น ก็เลยต้องอวดให้ผู้อื่นเห็น จึงเป็น "การอวดดี"
บางคนพยายามอวดแล้ว คนอื่นไม่ยอมรับ ก็พยายามใช้กำลัง สติปัญญา คำพูดที่เก่งกาจ แสดงออกมา เพื่อให้คนอื่นยอมรับ และกลายเป็น "การชิงดีชิงเด่น"
บางคนยอมรับแบบจำใจ ร่วมกับความเจ็บใจ เมื่อสู้ผู้อื่นไม่ได้
แต่พระเยซูคริสต์ ทรงมีน้ำใจแห่งการสละออก ไม่ได้ถือตนเองเท่าเทียมกับพระเจ้า แม้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าอยู่แล้ว แต่ไม่ถือว่าทรงเป็น
เหมือนกับการที่เศรษฐีใช้ชีวิตแบบยาจก ใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน ตำส้มตำขาย และคนเหล่านั้นบางคนทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดูไม่ออกว่าเขาเป็นเศรษฐี ไม่ถือตัว เช่นเดียวกัน พระเยซูคริสต์มิได้ทรงยึดว่าพระองค์เองทรงเป็นพระเจ้า
เวลาไปมิชชันทีม ถ้าเราถือว่าเราป็นคนกรุง ก็จะบ่นว่าไม่มีแอร์ ต้องนอนบ้านไม้ไผ่ นี่เป็นท่าทีของการไม่สละออก
อ. ชัยราช กิจเกื้อกูล (พี่ด้องYFC)
คำเทศนาค่ายสามคณะ คริสตจักรสะพานเหลือง "กายเดียวกัน" ตอนที่ 2
ระหว่างวันที่ 23-25/10/2010 ณ อาราญาน่า ภูพิมาน รีสอร์ทแอนด์สปา
เมื่อคืนวันที่ 24/07/2010
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น