วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การนมัสการ (3/7)

เราเป็นบุตรของพระเจ้าใช่หรือไม่? ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แม้ว่าเราทำบาปเลวร้ายที่สุด เราก็ยังเป็นบุตรของพระเจ้าใช่หรือไม่? พระเจ้าทรงรักเราด้วยรักนิรันดร์ใช่หรือไม่?
พระวิญญาณนั้นเป็นพยานร่วมกับวิญญาณจิตของเราทั้งหลายว่า เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า (โรม 8:16)
ช่วงหนึ่งในชีวิต ข้าพเจ้าฝึกที่จะอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง ตามพระธรรมเอเฟซัส
จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน (เอเฟซัส 6.18)
ข้าพเจ้าฝึกให้ภายในของข้าพเจ้าอธิษฐาน แล้วข้าพเจ้าพบว่าข้าพเจ้ามาถึงจุดหนึ่งที่ภายในเราอธิษฐานโดยที่เราคิดเรื่องอื่นได้ เป็นการที่จิตวิญญาณภายในอธิษฐานอยู่เป็นภาษาวิญญาณ
พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ พระองค์สัมผัสจิตวิญญาณ และพระองค์ทรงเรียกให้เรานมัสการพระเจ้าจากที่นั้น เพราะที่นั่นเราจะรับการสำแดงจากพระเจ้าได้เช่นกัน
หลายครั้งเราอาจได้รับการแตะต้องทางวิญญาณ ได้รับการสัมผัส แต่เราอาจไม่รู้สึกตัว และพระเจ้าแสวงหาคนที่จากที่ลึกที่สุดที่จะนมัสการพระองค์
7 เมื่อเสียงน้ำแก่งตก ที่ลึกก็กู่เรียกที่ลึก บรรดาคลื่นและระลอกของพระองค์ท่วมข้าพระองค์แล้ว
8 กลางวันพระเจ้าทรงบัญชาความรักมั่นคงของพระองค์ และกลางคืนเพลงของพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า เป็นคำอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งชีวิตของข้าพเจ้า (สดุดี 42:7-8)
หลายครั้งเรามีอารมณ์รักพระเจ้า มนัสการพระเจ้า ตั้งใจที่จะนมัสการอย่างที่สุด ตั้งใจที่จะถวายตัว แต่แท้ที่จริงแล้ว มีสิ่งที่มากกว่านั้นอยู่ภายใน พระเจ้าทรงสำแดงแก่เราที่ตรงนั้นได้
ขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าหนุนใจว่า เราจะต้องเป็นผู้ที่อ่านพระคำของพระเจ้า สะสมพระวจนะไว้ในความคิดด้วย เพราะทั้งหมดเป็น package เดียวกัน อย่าเปิดลึกฝ่ายวิญญาณอย่างเดียว เพราะในการเปิดฝ่ายวิญญาณ เราเปิดรับหมด เรารับจากสิ่งต่าง ๆ ทั้งจากพระเจ้า และที่ไม่ใช่มาจากพระองค์ได้

อ. ตรูจิตต์ นีเดอเรอร์
คำแบ่งปันรายการเพื่อคุณ คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 01/05/2011
เรื่อง การนมัสการ
 
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น