"Precious promises." (2 Peter 1:4)
God’s precious promises are the promises of the Bible; they are all of free grace and are confirmed by the blood of Jesus. They are so plain that a child can understand them. They meet every need. They are the comfort and strength of every believer. We claim them in prayer; we are strengthened by them in trials and we rejoice in them in the hour of death. God’s promises are to be your daily comfort. It is for you to search them out, memorise them, trust in them, and be assured of their fulfilment, because, "He is faithful who promised." (Hebrews 10:23)
They are more precious than gold; sweeter than honey; more lasting than this world.
"There may be days of darkness and distress,
When sin has power to tempt and care to press;
Yet in the darkest day I will not fear,
For, 'mid the shadows, You will still be near.' "
(H.Deck, hymn "I take Thy promise, Lord, in all its length")
When sin has power to tempt and care to press;
Yet in the darkest day I will not fear,
For, 'mid the shadows, You will still be near.' "
(H.Deck, hymn "I take Thy promise, Lord, in all its length")
J. Smith (Adapted by Alina McKenzie)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทความสอนใจประจำวัน 22 มีนาคม
"พระสัญญาอันล้ำค่า" (2 เปโตร 1:4)
พระสัญญาอันล้ำค่าของพระเจ้า เป็นสัญญาต่างๆ ที่ปรากฎในพระคัมภีร์ ซึ่งล้วนมาจากพระคุณที่เราได้รับโดยไม่คิดมูลค่า และได้รับการยืนยันโดยโลหิตของพระเยซู สัญญาเหล่านั้นเขียนไว้อย่างเรียบง่ายเพื่อที่ลูกของพระองค์จะเข้าใจได้ สัญญาเหล่านั้นตอบสนองสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นสำหรับเรา สัญญาเหล่านั้นนำมาซึ่งการปลอบใจและกำลังสำหรับผู้เชื่อแต่ละคน เราอ้างถึงสัญญาเหล่านั้นในคำอธิษฐาน เราได้รับกำลังโดยสัญญาเหล่านั้นเมื่อเราเผชิญการทดสอบต่างๆ และเราชื่นชมยินดีในสัญญาเหล่านั้นในยามที่เรากำลังจะสิ้นลมหายใจ
จงให้พระสัญญาของพระเจ้าเป็นคำปลอบโยนประจำวันสำหรับคุณ แต่เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องค้นหาสัญญาเหล่านั้น จดจำสัญญาเหล่านั้น และวางใจในสัญญาเหล่านั้น พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าสัญญาเหล่านั้นจะเกิดผลสำเร็จ เพราะ "พระองค์ผู้ทรงสัญญานั้นทรงสัตย์ซื่อ" (ฮีบรู 10:23 TNCV)
พระสัญญาของพระเจ้าล้ำค่ากว่าทองคำ หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง และยั่งยืนยิ่งกว่าโลกนี้
"อาจมีวันอันมืดมิดและเศร้าโศกเสียใจ
เมื่อบาปมีอำนาจในการล่อลวงและพยายามที่จะกดดัน
แต่ข้าฯ จะไม่กลัวแม้วันที่มืดมิดที่สุด
เพราะ 'แม้ในยามที่อยู่ในเงามืด พระองค์จะยังคงอยู่ใกล้' "
(H.Deck, hymn "I take Thy promise, Lord, in all its length")
เมื่อบาปมีอำนาจในการล่อลวงและพยายามที่จะกดดัน
แต่ข้าฯ จะไม่กลัวแม้วันที่มืดมิดที่สุด
เพราะ 'แม้ในยามที่อยู่ในเงามืด พระองค์จะยังคงอยู่ใกล้' "
(H.Deck, hymn "I take Thy promise, Lord, in all its length")
J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น