เมื่ออิสยาห์ได้เห็นพระสิริของพระเจ้า ได้พบพระเจ้า ได้สัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือน สิ่งที่ท่านได้เรียนรู้ ได้แก่
1. สารภาพว่าเป็นคนบาป (1)
5 และข้าพเจ้าว่า "วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาด และข้าพเจ้าอยู่ในหมู่ชนชาติที่ริมฝีปากไม่สะอาด เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์ คือพระเจ้าจอมโยธา"
6 แล้วตนหนึ่งในเสราฟิมบินมาหาข้าพเจ้า ในมือมีถ่านเพลิง ซึ่งเขาเอาคีมคีบมาจากแท่นบูชา
7 และเขาถูกต้องปากของข้าพเจ้าพูดว่า "ดูเถิด สิ่งนี้ได้ถูกต้องริมฝีปากของเจ้าแล้ว กรรมชั่วของเจ้าก็ถูกยกเสีย และเจ้าก็จะรับการลบมลทินบาป" (อิสยาห์ 6:5-7)
เราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราไม่มีบาป
อิสยาห์สารภาพว่าท่านอยู่ท่ามกลางคนที่ริมฝีปากไม่สะอาด และท่านเองก็เช่นกัน
หลายคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า ก็จะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีบาป เพราะตราบใดที่ไม่รู้จักพระเจ้า ก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นคนบาป
แต่เรามีพระเจ้า เราก็จะสำนึกว่าตัวเองเป็นคนบาป ดังนั้นไม่รู้จักพระเจ้าจะดีกว่าหรือไม่? หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะการที่เรารู้ตัวว่าเป็นคนบาป และเข้ามาหาพระเจ้า นี่แหละจะเป็นทางแห่งความรอดของเรา
เราต้องสำรวจดูว่าเราได้ทำสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัยหรือไม่
สมัยที่กษัตริย์อุสซียาห์ครองราชย์ พระองค์เป็นคนเก่ง แสวงหาพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงช่วยเหลือ เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง เช่นเดียวกับกษัตริย์ท่านอื่นที่ติดตามพระเจ้า ดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้า แต่ขณะเดียวกัน เมื่อเศรษฐกิจดี ประชาชนกลับมีชีวิตที่ตกต่ำลงในเรื่องความเชื่อและศีลธรรม คนส่วนใหญ่พากันปฏิเสธความรักของพระเจ้า
อิสยาห์เขียนพระธรรมขึ้นเพื่อบอกว่า อิสราเอลปฏิเสธความรักของพระเจ้า ไม่ยอมรับความรักของพระเจ้า
และเมื่ออิสยาห์สำนึกว่าเป็นคนบาป ความผิดบาปของท่านก็ได้รับการอภัย
เมื่อเราเข้ามานมัสการพระองค์ ขอพระเจ้าชำระความผิดบาป ชำระชีวิตของเรา
สิ่งที่เสราฟิมนำมา มาจากแท่นบูชา แท่นบูชาคือที่ที่เขาถวายเครื่องบูชา ถ่านก้อนนั้นเป็นถ่านก้อนบริสุทธิ์ และเมื่อสัมผัสอิสยาห์ ท่านได้รับการยกโทษอภัย เช่นเดียวกับองค์พระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงเสด็จมาจากที่บริสุทธิ์ มาเพื่อเป็นเครื่องบูชา พระองค์ทรงบริสุทธิ์ พระเจ้าจึงส่งพระองค์มาเพื่อชำระเราซึ่งเป็นคนบาปให้บริสุทธิ์
บาปในชีวิตของมนุษย์มี 2 อย่าง
- บาปแต่กำเนิด เมื่อเราเชื่อในพระเยซู พระองค์ทรงยกความผิดบาปไป
- บาปที่ทำอยู่ เมื่อเราเข้ามาสารภาพ พระองค์ก็ทรงยกโทษความผิดบาปของเราเช่นกัน
เราต้องยอมรับว่าเราเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้
ศจ. ศาสวัต มูลสถาน
คำเทศนาการนมัสการรอบบ่าย คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 13/03/2011
เรื่อง นมัสการที่คริสตจักร
หมายเหตุ:ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น