I. การเตรียมธรรมมิกชน (3)
คริสตจักรจะต้องทำอย่างไรบ้างในการตรักเตรียมธรรมมิกชน?
 1. สอนโดยยึดหลักพระคัมภีร์
16 พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การแก้ไขสิ่งผิด และการอบรมในความชอบธรรม
17 เพื่อคนของพระเจ้าจะมีความสามารถและพรักพร้อมเพื่อการดีทุกอย่าง (2 ทิโมธี 3:16-17 THSV)
จากพระคัมภีร์ทั้งสองข้อ เราจะเห็นว่าพระคัมภีร์นำมาใช้ทำอะไรได้บ้าง  นั่นคือ ใช้ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การแก้ไขสิ่งผิด และการอบรมในทางธรรม  และพระคัมภีร์ตอนนี้ก็ยังได้บอกถึงจุดมุ่งหมาย  นั่นคือ เพื่อช่วยใช้ชีวิตฝ่ายวิญญาณได้สุขสมบูรณ์ขึ้น  ได้รับอาหารฝ่ายวิญญาณ ให้คนของพระเจ้าพรักพร้อมเพื่อที่จะทำดีทุกอย่าง
 ครูสอนพระคัมภีร์ ก็จะต้องสอนโดยยึดหลักพระคัมภีร์  เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนเข้าใจพระคำของพระเจ้า ขณะเดียวกันผู้สอนก็จะแบ่งปันบทเรียน  ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลวหรือความสำเร็จของตนเอง ให้ผู้เรียนรู้ว่า  ขณะประสบความล้มเหลวควรทำอย่างไร ขณะสำเร็จควรจะทำอย่างไร  และพระคำของพระเจ้าช่วยเหลืออย่างไร  สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ
 2. อาศัยการอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน
เอปาฟรัสซึ่งเป็นคนหนึ่งในท่านและเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ ก็ฝากคำทักทายมายังพวกท่านเช่นกัน เขาเพียรพยายามอธิษฐานเผื่อท่านอยู่เสมอ เพื่อว่าพวกท่านจะมั่นคง เป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นใจในพระประสงค์ของพระเจ้าทั้งหมด (โคโลสี 4:12 THSV)
เอปาฟรัสเป็นคนแห่งการอธิษฐาน คริสเตียนควรอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน  ไม่เพียงแต่ขอเพื่อตัวเอง แต่จะต้องอธิษฐานเผื่อความจำเป็นของเพื่อน ๆ ด้วย  อธิษฐานเผื่อครูผู้สอน ให้พวกเขาสอนตามความจริงจากพระคัมภีร์แก่เรา  และเป็นเพื่อนร่วมอธิษฐานด้วยกัน ขอที่พวกเราจะไม่ขาดการอธิษฐาน
 3. ได้รับการฝึกฝนจากการทดลองและความยากลำบาก
และจงให้ความทรหดอดทนนั้นมีผลอย่างสมบูรณ์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่สมบูรณ์และดีพร้อม โดยไม่ขาดสิ่งใดเลย (ยากอบ 1:4 THSV)และหลังจากพวกท่านทนทุกข์ชั่วเวลาหนึ่งแล้ว พระเจ้าแห่งพระคุณทั้งสิ้น ผู้ได้ทรงเรียกให้พวกท่านเข้าในศักดิ์ศรีนิรันดร์ของพระองค์ในพระเยซูคริสต์ พระองค์เองก็จะทรงฟื้นฟู จะทรงค้ำจุนให้มั่นคง จะทรงเสริมเรี่ยวแรง และจะทรงให้พวกท่านตั้งมั่นอยู่ (1 เปโตร 5:10 THSV)
พระเจ้าได้ทรงวางภาระนี้ไว้กับผู้สอนและพี่น้องทั้งหลาย โดยพระคำของพระเจ้า  เราจะอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน 
 เราปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเราได้พบการทดลอง ความยากลำบาก ความล้มเหลว  ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ การศึกษา หรือครอบครัว  พระเจ้าใช้เหตุการณ์เหล่านี้เพื่อฝึกฝนและสั่งสอนเรา พระเจ้าทรงทดสอบเรา  เพื่อให้เราเข้มแข็งขึ้น แต่มารจะทดลองเราให้เราล้มเหลว
 ถ้าเราอธิษฐานเพื่อกันและกัน เราก็จะมีกำลังขึ้น แต่หลายครั้งเราละเลยการอธิษฐาน 
 เราควรจะถามตัวเองว่า เมื่อเราพบความทุกข์ยาก  เราพบบทเรียนอะไร?
 บางครั้งเราอาจตกลงไปถึงจุดเหมือนที่อาจารย์เปโตรปฏิเสธพระเยซูถึง 3 ครั้ง  แม้ว่าก่อนหน้านั้นท่านจะเคยปฏิญาณจะติดตามพระองค์แม้ว่าจะต้องเผชิญสิ่งใด  แต่เมื่อพบการทดลอง ท่านก็ล้มลง
 การสอนพระคัมภีร์  ไม่ใช่เป็นเพียงการนำเรื่องของพระคัมภีร์เผยแพร่  แต่จะต้องเผยแพร่ชีวิตของพระเยซูคริสต์ด้วย
 เรามีชัยชนะหรือประสบความล้มเหลว หากเรามีพระวจนะ  มีการจุนเจือด้วยการอธิษฐานเผื่อกันและกัน  เราก็จะรู้ความจริงว่าพระเจ้าทรงเที่ยงแท้ และพึ่งพาได้  เราก็จะมีชีวิตฝ่ายวิญญาณมั่นคง
 วันนี้เราเฝ้าเดี่ยวหรือยัง?  ถ้ามีกำหนดเวลาที่แน่นอนในการเฝ้าเดี่ยว ชีวิตฝ่ายวิญญาณก็จะไม่อ่อนแอ
 ผู้นำนมัสการได้บอกแก่เราว่า คริสตจักรมีเสียงเรียกร้องให้สมาชิกร่วมมือกัน  ให้เราเป็น 1 คนใน 1 แสนคน  ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อนำคน 1 ล้านคนมาเชื่อพระเจ้า  และนี่ก็คือเป้าหมายของคริสตจักร
 ศจ. วิวัฒน์  วงศ์สันติชน
   คำเทศนาการนมัสการรวม คริสตจักรสะพานเหลือง
  เมื่อวันที่ 03/07/2011
  เรื่อง  เพื่อเตรียมธรรมมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้
   หมายเหตุ:  ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด  รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ  เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ  
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น