วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Possessions - Use Them or Lose Them? (Eng-Thai) 2

Storing Up Treasure on Earth (2)

And after that, He said about a rich man.

16 And he told them a parable, saying, "The land of a rich man produced plentifully,
17 and he thought to himself, 'What shall I do, for I have nowhere to store my crops?'
18 And he said, 'I will do this: I will tear down my barns and build larger ones, and there I will store all my grain and my goods.
19 And I will say to my soul, Soul, you have ample goods laid up for many years; relax, eat, drink, be merry.'
20 But God said to him, 'Fool! This night your soul is required of you, and the things you have prepared, whose will they be?'
21 So is the one who lays up treasure for himself and is not rich toward God." (Luke 12:16-21 ESV)

This seems to be a wise thing to save things for the future. It seems that the rich man was a fortunate man. He made celebration for his retirement.

You may probable meet the people like that in this time. They relax, eat, drink and be merry. They go to best restaurants, best bars, and best entertainment. Some people may decide to travel around the world, just to eat, drink, and be merry.

This rich man had not to work. This man seemed to be wise.

But what did Jesus say about him? Fool! He was not a very wise man. He was a fool. He made poor decision in the sight of God. He utterly obsessed not with his God, but his good. He looked for them for his identity, joy, delight, satisfaction, security, and future hope in his life. He did not own them, they owned him. This is deep selfishness.

If you notice, the rich fool said the words "my" and "I" for 11 times, including my crops, my barns, my grain, my goods, and my souls. These were his things, that he earned by himself. He was preoccupied with his own material needs: relaxing, eating, drinking, and being merry.

He was merely living for material things and enjoyed material pleasure. He was obsessing about his good, about himself, and about enjoyment. This is pretty much like the wisdom of this age. But in God's sight, he was fool. This was a poor investment.

This is dangerous, isn't it? It is so easy to be covetous. On the train, there are free magazines giving to you frequently. They contain many interesting and amusing things, about technology, cars, films, etc. These things on magazine are things that you don't need. These can cause covetousness, wanting the things we don't need.

How important are the possessions to us? Do we own them, or do they own us? Are they our servants to be used in the services of God in His kingdom, or are they our masters whom we serve?

 
 

การสะสมสมบัติบนโลกนี้ (2)

 หลังจากนั้น พระเยซูตรัสเกี่ยวกับเศรษฐีคนหนึ่ง

16 แล้ว​พระ​องค์​ตรัส​อุป​มา​เรื่อง​หนึ่ง​ให้​เขา​ฟัง​ว่า "ไร่​นา​ของ​เศรษฐี​คน​หนึ่ง​เกิด​ผล​บริ​บูรณ์​มาก
17 เศรษฐี​คน​นั้น​จึง​คิด​ใน​ใจ​ว่า 'ข้า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี? เพราะ​ว่า​ข้า​ไม่​มี​ที่​ที่​จะ​เก็บ​พืช​ผล​ของ​ข้า'
18 เขา​จึง​คิด​ว่า 'ข้า​จะ​ทำ​อย่าง​นี้ คือ​จะ​รื้อ​ยุ้ง​ฉาง​ของ​ข้า​และ​จะ​สร้าง​ใหม่​ให้​ใหญ่​โต​ขึ้น แล้ว​ข้า​จะ​รวบ​รวม​ข้าว​และ​สม​บัติ​ทั้ง​หมด​ของ​ข้า​ไว้​ที่​นั่น
19 แล้ว​จะ​บอก​กับ​จิต​ใจ​ของ​ข้า​ว่า "จิต​ใจ​เอ๋ย เจ้า​มี​ทรัพย์​สม​บัติ​มาก​เก็บ​ไว้​พอ​หลาย​ปี จง​อยู่​สบาย กิน ดื่ม และ​รื่น​เริง​เถิด" '
20 แต่​พระ​เจ้า​ตรัส​กับ​เขา​ว่า 'โอ คน​โง่ ใน​คืน​วัน​นี้​ชีวิต​ของ​เจ้า​จะ​ต้อง​เรียก​เอา​ไป​จาก​เจ้า แล้ว​ของ​ที่​เจ้า​รวบ​รวม​ไว้​นั้น​จะ​เป็น​ของ​ใคร?'
21 คน​ที่​สะ​สม​ทรัพย์​สม​บัติ​ไว้​สำหรับ​ตัว และ​ไม่​ได้​มั่งมี​ฝ่าย​พระ​เจ้า​ก็​เป็น​เช่น​นั้น​แหละ" (ลูกา 12:16-21 THSV2011)

นี่ดูเหมือนจะเป็นการฉลาดที่จะเก็บรักษาสิ่งของต่าง ๆ เพื่ออนาคต ดูเหมือนว่าเศรษฐีผู้นี้จะเป็นผู้ที่โชคดี เขาเฉลิมฉลองสำหรับการเกษียณของเขา
คุณอาจจะพบผู้คนเช่นเศรษฐีผู้นี้ได้เช่นเดียวกันในปัจจุบัน พวกเขาผ่อนคลาย (อยู่สบาย) กิน ดื่ม และรื่นเริง

เศรษฐีผู้นี้ไม่จำเป็นจะต้องทำงาน และสิ่งที่เขาทำก็ดูเหมือนจะฉลาด

แล้วพระเยซูตรัสอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเขา? "โอ คนโง่" เขาไม่ใช่คนที่ฉลาดนัก แต่เขาเป็นคนโง่ เขาได้ตัดสินใจผิดพลาดในสายพระเนตรของพระเจ้า ความคิดของเขามิได้ยึดติดกับพระเจ้า แต่ถูกครอบงำด้วยความคิดเกี่ยวกับผลประโยชน์ของเขาเอง นี่เป็นความเห็นแก่ตัวอย่างมาก

หากสังเกต จะพบว่าเศรษฐีผู้โง่เขลาผู้นี้ กล่าวคำว่า "ข้า" หรือ "ของข้า" ถึง 7 ครั้ง (มีคำว่า "my" และ "I" ในภาษาอังกฤษรวม 11 ครั้ง) สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งของของเขา และเขาก็หามาด้วยตัวเขาเอง เขามีใจหมกมุ่นกับความต้องการฝ่ายวัตถุของเขาเอง อยู่สบาย กิน ดื่ม และรื่นเริง เขามีชีวิตอยู่เพียงแค่เพื่อทรัพย์สิ่งของ และมีความพึงพอใจในฝ่ายวัตถุ เขาครุ่นคิดกังวลเกี่ยวกับผลประโยชน์ของเขา เกี่ยวกับตัวเขาเอง และเกี่ยวกับความรื่นเริง สิ่งที่เขาคิดเป็นเหมือนกับปัญญาของโลกนี้เลยทีเดียว แต่ในสายพระเนตรของพระเจ้า เขาเป็นเพียงคนโง่เขลา เขาลงทุนอย่างไม่ชาญฉลาด

สิ่งนี้เป็นสิ่งอันตรายมิใช่หรือ เพราะเป็นการง่ายมากที่จะมีความโลภ

บนรถไฟ จะพบว่ามีนิตยสารแจกฟรีบ่อยครั้ง นิตยสารเหล่านั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจและน่าบันเทิงใจมากมาย เกี่ยวกับเทคโนโลยี รถ หนัง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ที่อยู่บนนิตยสารไม่ใช่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณ สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้คุณโลภ ต้องการในสิ่งที่คุณไม่จำเป็นต้องมี

ทรัพย์สิ่งของของเขาสำคัญต่อชีวิตของเราเพียงไร? เราเป็นเจ้าของมัน หรือมันเป็นเจ้าของเรา? สิ่งเหล่านี้เป็นทาสรับใช้เพื่อเราจะใช้ในการรับใช้พระเจ้าในอาณาจักรของพระองค์ หรือว่าสิ่งเหล่านี้กลับเป็นเจ้านายที่เรารับใช้?

 

Dr. Euan Dodds

Sermon on Luke 12: 13-34

Title "Possessions - Use Them or Lose Them?"

Sunday Morning Service at St George's Tron Church, 09/10/2011

 

NOTE:  If you find a mistake in my note, please contact me directly at ton@followhissteps.com. (For it may be from my own mistake due to my poor English listening skill.)

หมายเหตุ:  ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น