31 เวลานั้นมารดาและพวกน้องชายของพระองค์มายืนอยู่ข้างนอก แล้วใช้คนเข้าไปทูลเรียกพระองค์
32 และประชาชนก็นั่งอยู่รอบพระองค์ เขาจึงทูลพระองค์ว่า "นี่แน่ะท่าน มารดาและพวกน้องชายของท่านมาหาท่านคอยอยู่ข้างนอก"
33 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า "ใครเป็นมารดาของเรา และใครเป็นพี่น้องของเรา"
34 พระองค์ทอดพระเนตรคนที่นั่งล้อมรอบนั้นแล้วตรัสว่า "นี่เป็นมารดาและพี่น้องของเรา
35 ผู้ใดจะกระทำตามพระทัยพระเจ้า ผู้นั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา" (มาระโก 3:31-35)
1. การเป็นกายเดียวกันในพระคริสต์ ไม่ใช่เป็นทางกายภาพ
"คนนี้เป็นช่างไม้ (หรือ ช่างก่อสร้าง) บุตรนางมารีย์มิใช่หรือ ยากอบ โยเสส ยูดาส และซีโมนเป็นน้องชายมิใช่หรือ และน้องสาวก็อยู่ที่นี่กับเรามิใช่หรือ" เขาทั้งหลายจึงหมางใจในพระองค์ (มาระโก 6:3)
พระเยซูคริสต์มีน้องชายและน้องสาวที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน เมื่อครอบครัวฝ่ายกายมาเยี่ยม พระองค์จึงทรงถือโอกาสนี้ที่จะสอนครอบครัวของพระองค์และสาวกของพระองค์ ถึงครอบครัวฝ่ายวิญญาณ
พระเยซูคริสต์ตรัสสอนเรื่องครอบครัวฝ่ายวิญญาณว่า ทุกคนที่ทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ถือเป็นครอบครัวฝ่ายวิญญาณ
คริสตจักร เป็นครอบครัวฝ่ายวิญญาณ เราเชื่อพระเจ้าองค์เดียวกัน เราเชื่อในพระเยซูคริสต์ และเราทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งของพระกาย
ครอบครัวฝ่ายกายภาพเป็นอย่างไร ครอบครัวฝ่ายวิญญาณก็จะเป็นอย่างนั้น
ถ้าหากในครอบครัวรักกัน รับผิดชอบต่อกันและกัน แม้จะมีความคิดขัดแย้งกันบ้าง แต่เราก็ยังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน
พระองค์ปรารถนาให้ทุกคนในครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกัน
ดูเถิด ซึ่งพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันก็เป็นการดี และน่าชื่นใจมากสักเท่าใด (สดุดี 133:1)
คำว่า "พี่น้อง" ตรงนี้ หมายถึง "คนของพระเจ้า"
เช้าวันนี้เราได้ทำให้พระเจ้าชื่นใจ เราทั้งหลายเป็นคนของพระองค์ ได้มานมัสการพระองค์ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราทุกคนเป็นพี่น้องกัน อยู่ในครอบครัวเดียวกัน
ศจ. ทิวาพร ราชรักษ์
คำเทศนาค่ายสามคณะ คริสตจักรสะพานเหลือง "กายเดียวกัน"
ระหว่างวันที่ 23-25/10/2010 ณ อาราญาน่า ภูพิมาน รีสอร์ทแอนด์สปา
การนมัสการเช้าวันที่ 24/10/2010
สรุปโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น