บางครั้งเราไม่เห็นค่าของการไปสวรรค์เท่าไร และคิดว่าการไปสวรรค์เป็นเรื่องที่พูดเล่น ๆ กัน
บางครั้งการตกนรกก็รู้สึกไม่น่ากลัว จึงเพลิดเพลินในโลกนี้
บางครั้งคิดว่าการไปสวรรค์เป็นเรื่องการทำคุณงามความดี ต้องมีสมบัติเพียงพอจึงไปสวรรค์ได้
วันหนึ่ง คนที่ไปสวรรค์ ไปพบอาจารย์เปโตรที่อยู่บนสวรรค์ อาจารย์เปโตรก็จะบอกว่า ถ้าตอบคำถามท่านได้ จะเข้าสวรรค์ได้
คนที่หนึ่ง เป็นภารโรง เมื่อเข้าประตูสวรรค์ อาจารย์เปโตรก็ถามว่า "มนุษย์คู่แรกชื่ออะไร" ภารโรงก็ยิ้ม และตอบว่า "อาดัม และเอวา" ภารโรงคนนี้ก็เข้าประตูสวรรค์ได้
คนที่สองเดินมา เป็นมัคนายกโบสถ์ อาจารย์เปโตรก็เลยถามคำถามยากขึ้น ว่า "สาวกวงในของพระเยซูคริสต์มีกี่คน" เขาก็ตอบว่า "3 คนครับ คือ เปโตร ยอห์น ยากอบ"
ศิษยาภิบาลเดินมา อาจารย์เปโตรก็เลยถามคำถามยากขึ้น ถามว่า "พระเยซูคริสต์เลี้ยงอาหารกับคนกี่คน" ศิษยาภิบาลผู้นี้ก็ตอบว่า "5000 คนครับ" อาจารย์เปโตรก็เลยบอกว่า "เก่งมาก" สักพักท่านก็ถามต่อว่า "บอกชื่อมา"
แต่การเข้าสวรรค์ในพระวจนะ ไม่ได้เข้าได้ด้วยการทำความดี แต่เราเข้าสวรรค์ได้โดยพระคุณความรักของพระเจ้า
8 ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้
9 ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้ เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้ (เอเฟซัส 2:8-9)
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับคนไทย เพราะคนไทยพยายามดิ้นรนขึ้นสวรรค์ด้วยการทำความดี ทำตามศีลธรรม รักษาศีลต่าง ๆ อย่างดี พยายามรักษาศีลให้มากข้อขึ้น และทำความดีต่าง ๆ ตามวัดก็จะพบมีชื่อตามก้อนหิน ตามเสาต่าง ๆ เพราะหวังว่าถ้าได้ทำความดี ทำบุญมาก ๆ ก็จะได้ขึ้นสวรรค์
เราไม่ได้ตำหนิที่พี่น้องเหล่านั้นพยายามขึ้นสวรรค์ เพราะนี่เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของคนที่อยากไปสวรรค์ คนไทยกลัวสิ่งต่าง ๆ กลัวผี ทุกบ้านจึงต้องมีศาลพระภูมิ แม้จะเชื่อเรื่องผีหรือไม่ก็ตาม ก็เลี้ยงผีไว้ก่อน ยิ่งตึกใหญ่ ก็จะยิ่งมีศาลพระภูมิที่ใหญ่ขึ้น
คนไทยพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะได้รับการช่วยเหลือ ที่ไหว้ผีก็เพราะกลัวผีมาทำร้ายหรือรบกวน ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม ธุรกิจล่มจม อยากให้หญิงมาจีบ พยายามทุกวิถีทาง แต่สิ่งหนึ่งที่บ่งบอกให้เรารู้ว่าแท้จริงคนไทยแสวงหาการช่วยเหลือ และอยู่ในความกลัว
พวกเราซึ่งได้พบความจริงเรื่ององค์พระเยซูคริสต์ ได้พบคำตอบของชีวิตแล้ว เราจึงไม่สามารถอยู่เฉยได้ เป็นหน้าที่ของคริสตจักรที่จะออกไปประกาศ ที่จะออกไปเล่าข่าวดี ที่จะเชิญชวนคนทั้งหลายให้เข้ามา นี่เป็นวัตถุประสงค์ของการมีคริสตจักร พระเจ้าตั้งคริสตจักรให้เป็นเกลือและแสงสว่าง ดังนั้นคริสเตียนทุกคนจึงมีหน้าที่ที่จะประกาศข่าวประเสริฐ การที่จะนำคนบาปมาหาพระเยซูคริสต์จึงเป็นพันธกิจที่สำคัญมาก
ศจ. ยุทธศักดิ์ ศิริกุล
สรุปคำเทศนางานฟื้นฟู "เราจะไป" คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 11/09/2010
เรื่อง ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
สรุปโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น