2. เราต้องการความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการต่อสู้กับปัญหา (1)
ทั้งสี่คนที่ต้องการพาคนง่อยไปหาพระเยซูคริสต์ ต้องเจอปัญหา คือ มีคนจำนวนมากห้อมล้อมพระเยซูคริสต์ พวกเขาพาคนง่อยเข้าไปหาพระองค์ไม่ได้
แต่ว่าทั้งสี่คนนี้ พวกเขาได้ปรึกษากัน พวกเขาไม่ได้คิดว่า ไว้วันหลังพระเยซูคริสต์มาแล้วค่อยพามาใหม่ แต่พวกเขาตั้งมั่นว่าจะพาคนง่อยไปหาพระองค์ให้ได้
การนำคนบาปมาพบกับพระเยซูคริสต์โดยการประกาศพระกิตติคุณ บางครั้งมีอุปสรรค เพราะเป็นสงครามฝ่ายวิญญาณ ศัตรูของเราไม่เปิดโอกาสให้เราทำงานอย่างง่ายดาย เพราะมันจะทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้คนรู้จักความจริง พยายามทำให้คนไม่ได้ฟังพระกิตติคุณของพระเจ้า พยายามต่อต้านอยู่เสมอ
18 พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับเขาว่า "ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว
19 เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์
20 สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค"
(มัทธิว 28:18-20)
จากบริบทจากพระคำบทนี้
มัทธิว 28:1-10 กล่าวถึงการฟื้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ กล่าวถึงการเคลื่อนก้อนหินโดยทูตสวรรค์ พระเยซูคริสต์ได้ทรงปรากฎกายให้หญิงได้พบ และให้หญิงเหล่านั้นไปบอกข่าวดีแก่สาวก
มัทธิว 28:11-15 พวกทหารได้วิ่งไปบอกพวกมหาปุโรหิต เล่าความจริงให้ฟัง ว่าอุโมงค์ว่างเปล่า พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นพระชนม์ เขาได้เห็นทูตสวรรค์และกลัวจนตัวสั่น เขาได้เล่าความจริงทั้งหมดให้ปุโรหิตฟัง แต่พวกมหาปุโรหิตและธรรมาจารย์เมื่อได้ฟังความจริง เขาก็ปรึกษากัน รวมสมองกัน และหาหนทางและเหตุผล ที่จะปฏิเสธความจริง ที่จะปฏิเสธการฟื้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ ที่จะปฏิเสธว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ นี่เป็นปรัชญาของโลก
ศัตรูที่ขัดขวางมิให้คนฟังพระกิตติคุณของพระเจ้า ได้แก่
- ศัตรูตัวแรก คือ "ระบบของโลกนี้" ระบบของโลก ปรัชญาของโลก คือ ปฏิเสธพระเจ้า พยายามสร้างวิถีชีวิตให้สวนทางกับความเชื่อของคริสเตียน พยายามทำให้คนคิดว่าเรื่องพระเจ้าเป็นเรื่องน่าเบื่อ เป็นเรื่องไม่มีเหตุผล ให้คิดว่าพระเยซูคริสต์ไม่ได้ฟื้นจากความตาย ให้คิดว่าพระเจ้าไม่มีจริง นี่เป็นการที่โลกพยายามสอนคนในโลกให้ปฏิเสธพระเจ้า
- ศัตรูตัวที่สอง คือ "เนื้อหนัง" พวกปุโรหิตและธรรมาจารย์ หลังจากคิดหนทางปฏิเสธพระองค์ เขาก็ได้ให้เงินกับพวกทหารเป็นอันมาก ทั้ง ๆ ที่ทหารเหล่านี้รู้ความจริง แต่เพราะว่าได้เงิน จึงปฏิเสธความจริง และออกไปโกหก เนื้อหนังบางครั้งทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งต่อต้านความจริงของพระเจ้า เนื้อหนัง คือ ความอยาก กิเลสตัณหาต่าง ๆ เนื้อหนังทำให้เรามองว่าคนเป็นพระเจ้า ทำให้มนุษย์ไม่ยำเกรงพระเจ้า ทำให้เราถูกครอบงำ ทำให้เราไม่สนใจความจริง
- ศัตรูตัวที่สาม คือ "มาร" ผู้อยู่เบื้องหลังของมัทธิว 28:11-15 ที่แท้จริง คือ มาร มารทำให้คนเหล่านี้ปฏิเสธพระเจ้า ทำให้โกหก เพราะมารเป็นพ่อของการมุสา มารอยู่เบื้องหลังของทั้งระบบของโลก และเนื้อหนัง มันต่อต้านไม่ให้คนเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้า ทำให้คนมองเรื่องพระเจ้าว่าไร้เหตุผล มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
เวลานี้โลกถูกครอบงำโดยศัตรูทั้งสาม และนี่เป็นเสียงที่มนุษย์ได้ยินโดยไม่รู้ตัว และกำลังแย่งคนไปจากพระเจ้า
เดิมทีแล้ว มารมีหน้าที่ดูแลการนมัสการพระเจ้า แต่มารอยากเป็นเหมือนพระเจ้า จึงทรยศพระเจ้า พระเจ้าจึงขับไล่มันลงจากสวรรค์ และมันก็นำเหล่าทูตสวรรค์ส่วนหนึ่งติดตามมมาด้วย เป็นภูติผีปีศาจ เป็นเทพต่าง ๆ บนโลกนี้ และมารยังทำงานอยู่ในเวลานี้ พยายามหลอกลวงมนุษย์เสมอ
นี่ไม่ใช่นิยาย เป็นเรื่องจริง และมันแฝงในทุกสังคมของมนุษย์ ทำงานหลายรูปแบบ ทำงานในสังคมต่าง ๆ แตกต่างกันไป
การนมัสการไม่ใช่เพียงแค่การร้องเพลง แต่เป็นการที่เราให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางในการยกย่อง แต่มารอยากได้การสรรเสริญนมัสการไปที่มันเอง
ศจ. ยุทธศักดิ์ ศิริกุล
สรุปคำเทศนางานฟื้นฟู "เราจะไป" คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 11/09/2010
เรื่อง ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
สรุปโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น