พระวจนะคำของพระเจ้าในตอนนี้ เป็นเรื่องราวของหอบาเบล ขณะเดียวกัน ในพระคัมภีร์ตอนนี้มีเคล็ดลับที่พระเจ้าอยากให้เราได้เข้าใจจากพระคัมภีร์ตอนนี้ สิ่งนี้เองที่ชาวโลกได้ค้นพบและนำไปใช้ประโยชน์อย่างมากมาย เราทั้งหลายบางครั้งได้อ่านและก็มองข้ามไป
1 คนทั้งหลายทั่วโลกพูดภาษาเดียวกัน และมีศัพท์สำเนียงเดียวกัน
2 เมื่อพากันอพยพไปทิศตะวันออก ก็พบทุ่งราบในแดนเมืองชินาร์ จึงตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่น
3 แล้วต่างคนต่างก็พูดกันว่า "มาเถิด เราจงทำอิฐ เผาให้สุกแข็ง" เขาจึงมีอิฐใช้ต่างหิน และมียางมะตอยใช้ต่างปูนสอ
4 เขาทั้งหลายจึงว่า "มาเถิด เราจงสร้างเมืองขึ้นและก่อหอให้ยอดเทียมฟ้า ให้เราทำชื่อเสียงไว้ มิฉะนั้นเราจะต้องกระจัดกระจายไปทั่วพื้นแผ่นดิน"
5 พระเจ้าเสด็จลงมาทอดพระเนตรเมือง และหอที่มนุษย์ก่อสร้างขึ้นนั้น
6 แล้วพระเจ้าตรัสว่า "ดูเถิด คนเหล่านี้เป็นชนชาติเดียว มีภาษาเดียว นี่เป็นเพียงเบื้องต้นของสิ่งที่เขาจะทำ และเขาตั้งใจจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น
7 มาเถิด เราจงลงไป ทำให้ภาษาของเขาวุ่นวายต่างกันไป อย่าให้เขาพูดเข้าใจกันได้"
8 พระเจ้าจึงทรงทำให้เขา กระจัดกระจายจากที่นั่นไปทั่วพื้นแผ่นดิน คนเหล่านั้นก็เลิกสร้างเมืองนั้น
9 เหตุฉะนี้จึงเรียกเมืองนั้นว่าบาเบล (คล้ายคำ "บาลัล" ในฮีบรู แปลว่า วุ่นวาย) เพราะว่าที่นั่นพระเจ้าทรงทำให้ภาษาของเขาวุ่นวายไป และพระเจ้าทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปทั่วพื้นแผ่นดิน (ปฐมกาล 11:1-9)
แล้วพระเจ้าตรัสว่า "ดูเถิด คนเหล่านี้เป็นชนชาติเดียว มีภาษาเดียว นี่เป็นเพียงเบื้องต้นของสิ่งที่เขาจะทำ และเขาตั้งใจจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น" (ปฐมกาล 11:6)
พระเจ้ากำลังตรัสว่า พระองค์ทรงประทานบางอย่างกับมนุษย์เรา ซึ่งเป็นเหมือนอาวุธลับ เป็นเคล็ดลับในการทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็นในระดับครอบครัว ระดับองค์กร ระดับคริสตจักร หรือระดับชาติ ที่นี่ได้บอกว่า เพราะเขาเป็นชนชาติเดียว มีภาษาเดียว ถ้าเขาเป็นอันหนึ่งเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน สื่อสารเข้าใจกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน มีความเห็นเหมือนกัน ไม่ว่าเขาตั้งใจจะทำอะไรก็จะทำได้ทั้งนั้น นี่เป็นกุญแจสำคัญ
ถ้าในครอบครัวสามารถพูดภาษาเดียวกัน ก็จะสามารถนำพาครอบครัวสู่ความสำเร็จได้ ซึ่งคำว่าภาษานี้ไม่ใช่หมายถึงภาษาที่ใช้ในการพูด แต่หมายถึงการที่มีความคิดเหมือนกัน มีความเข้าใจกัน
เช่นเดียวกัน สิ่งนี้ก็เป็นจริงในระดับสังคม และคริสตจักร ถ้ามีเป้าหมาย มีจุดที่สามารถดำเนินการร่วมกันแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่เราจะต้องทำความเข้าใจ ว่าทำอย่างไรเราจึงสามารถดำเนินชีวิตสู่เป้าหมาย สู่ความสำเร็จได้
เรื่องราวตอนนี้ได้บอกว่า น่าเสียดายที่คนเหล่านี้ได้รวมตัวกันทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
การร่วมกัน มีภาษาเดียวกันเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ การที่เราจะมีจุดมุ่งหมาย
4 แผ่นดินโลกทั้งสิ้นจะนมัสการพระองค์
เขาทั้งหลายจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
ร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์"
5 จงมาดูสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำ
พระราชกิจของพระองค์น่าครั่นคร้ามท่ามกลางมนุษย์
6 พระองค์ทรงเปลี่ยนทะเลให้เป็นดินแห้ง
คนเดินข้ามแม่น้ำไป
ที่นั่นเราได้เปรมปรีดิ์ในพระองค์
7 ผู้ทรงปกครองด้วยอานุภาพของพระองค์เป็นนิตย์
ผู้ซึ่งพระเนตรเฝ้าบรรดาประชาชาติอยู่
อย่าให้คนมักกบฏยกย่องตนเอง
8 ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย จงสรรเสริญพระเจ้าของเรา
จงให้ได้ยินเสียงสรรเสริญพระองค์
9 ผู้ทรงให้เราอยู่ท่ามกลางคนเป็น
และมิได้ทรงยอมให้เท้าเราพลาด
10 ข้าแต่พระเจ้า เพราะพระองค์ทรงลองใจข้าพระองค์ทั้งหลาย
พระองค์ทรงทดลองข้าพระองค์อย่างทดลองเงิน (สดุดี 66:4-10)
พระเจ้าปรารถนาที่จะสำแดงพระราชกิจอันน่าครั่นคร้ามแก่ผู้ที่เชื่อพระองค์ เมื่อไรก็ตามที่ลูกของพระเจ้าร่วมกันในการอธิษฐาน ในการรับใช้ ที่นั่นจะเกิดการอัศจรรย์ และสังคมจะได้รับการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เหนือธรรมชาติจะเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่ลูกของพระองค์ที่ร่วมมือกัน ความร่วมมือร่วมใจของลูกของพระเจ้าสามารถนำกิจการอันน่าครั่นคร้ามมาสู่ชาวโลกได้
ขณะเดียวกัน พระคัมภีร์ตอนนี้ก็ได้สอนเราว่า เราทั้งหลายจะต้องมีความระแวดระวัง อย่าเป็นคนมักกบฎและยกย่องตนเอง พระเจ้าจะทรงทดลองใจของเราทั้งหลายอย่างทดลองเงิน
ศจ. ประเสริฐ พรกีรติกุล
คำเทศนาการนมัสการภาคภาษาจีน คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 11/04/2010
เรื่อง ร่วมใจจึงจะสำเร็จ
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ