วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การนมัสการ (4/7)

การนมัสการด้วยจิตวิญญาณ คือ การให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานในชีวิตของเรา

17 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ที่ไหน เสรีภาพก็มีอยู่ที่นั่น
18 แต่เราทั้งหลายไม่มีผ้าคลุมหน้าแล้ว จึงแลดูพระสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า และตัวเราก็เปลี่ยนไปเป็นเหมือนพระฉายขององค์พระผู้เป็นเจ้า คือมีศักดิ์ศรีเป็นลำดับขึ้นไป เช่นอย่างศักดิ์ศรีที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นพระวิญญาณ (2โครินธ์ 3:17-18)

พระวิญญาณจะทรงนำเราและช่วยเราในการนมัสการด้วยจิตวิญญาณ แต่หลายครั้งเราถูกปิดกั้นด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง ทำให้เราไม่สามารถเห็นพระสิริของพระเจ้าอย่างแท้จริง และหลายครั้ง รูปแบบการนมัสการ ทำให้เราขาดเสรีภาพในการนมัสการ

พระวิญญาณทรงเสด็จมา และทรงนำเราสู่ความจริงทั้งปวง

เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงจะเสด็จมาแล้ว พระองค์จะนำท่านทั้งหลายไปสู่ความจริงทั้งมวล เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพลการ แต่พระองค์จะตรัสสิ่งที่พระองค์ทรงได้ยิน และพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นที่จะเกิดขึ้น (ยอห์น 16:13)

การนมัสการด้วยวิญญาณจิต จะทำให้เราสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า พระสิริของพระเจ้า ซึ่งเป็นการสัมผัสในวิญญาณจิตของเรา พระเจ้าจะนำสิ่งที่เป็นของพระองค์สำแดงแก่เราทั้งหลาย และการนมัสการด้วยวิญญาณจิต เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นผู้ช่วย หนุนใจ เร้าใจ ให้เราหลุดพ้นจากสิ่งที่ปิดกั้น ให้เราเคลื่อนไปกับพระองค์

18 และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ
19 จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญ คือร้องเพลงสรรเสริญและสดุดีจากใจของท่าน ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า (เอเฟซัส 5:19)

เมื่อเราประกอบด้วยพระวิญญาณแล้ว เราจะสามารถร้องเพลงสรรเสริญและสดุดีจากใจ ถวายแด่พระเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่ร้องเพลงจากปากเท่านั้น แต่ร้องจากใจ และออกมาทางปาก นี่จึงทำให้การนมัสการของเราเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย

หลายครั้งเราเน้นการร้องเพลงที่ออกจากปาก แต่ไม่เน้นการร้องเพลงที่ออกจากจิตใจของเราด้วย

สิ่งที่มนุษย์คิดไม่เหมือนที่พระเจ้าคิด สิ่งที่มนุษย์ชื่นชม ไม่เหมือนกับที่พระเจ้าทรงชื่นชม แต่พระคำของพระเจ้าเน้นที่ใจ เน้นที่ภายในมากกว่าภายนอก

พระเจ้าทรงแสวงหาคนเช่นนั้นนมัสการพระองค์ การนมัสการที่ถูกต้องนั้นหายาก พระเจ้าจึงต้องทรงหา

การนมัสการที่พระเจ้าทรงพอพระทัยไม่ใช่มีทั่วไป แต่จะต้องออกจากจิตใจของคนคนนั้น ซึ่งเมื่อเรานมัสการพระเจ้าได้อย่างถูกต้องแล้ว พระเจ้าจะทรงอวยพระพร เยี่ยมเยียน สัมผัส แล้วเราจะได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ และมีศักดิ์ศรีที่มาจากพระเจ้ามากขึ้น

หลายคนนมัสการพระเจ้ามาก ๆ ใบหน้าเหมือนมีแสงออกมา เราจะสัมผัสได้เลยว่าพระเจ้าทรงสถิตกับผู้นั้น นี่เป็นสิ่งที่แสดงออกจากสีหน้า ออกจากชีวิต เขาได้พบพระเจ้า และสัมผัสความยิ่งใหญ๋ของพระองค์ นี่เป็นการนมัสการด้วยจิตวิญญาณ

ขอที่เราจะพึ่งพาพระเจ้า ตั้งเป้าหมายว่าเราจะถึงการนมัสการเช่นนั้น ซึ่งเป็นการนมัสการที่ไหลล้นจากจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย และพระองค์ทรงแสวงหา เพื่อเราจะพบพระองค์และสัมผัสพระองค์


ศจ. มนูญศักดิ์ กมลมาตยากุล

คำเทศนาการนมัสการรอบบ่าย คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 13/02/2011

เรื่อง การนมัสการ

 

หมายเหตุ:

  • ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
  • หัวข้อต่าง ๆ นั้น ผมได้ตั้งขึ้นมาเอง เพื่อความสะดวกในการอ่านครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น