วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การรับผิดชอบต่อกันและกัน (4/6)

ความผิดของคนในอดีต ส่งผลต่อคนในปัจจุบัน

ความผิดบาปของชนชาติอิสราเอล

34 เหตุฉะนั้น นี่แหละ เราใช้ผู้เผยพระวจนะ นักปราชญ์ และธรรมาจารย์ต่างๆไปหาพวกเจ้า เจ้าก็จะฆ่าเสียบ้าง ตรึงเสียที่กางเขนบ้าง เฆี่ยนตีในธรรมศาลาของเจ้าบ้าง ข่มเหงไล่ออกจากเมืองนี้ไปเมืองโน้นบ้าง

35 ดังนั้น บรรดาโลหิตอันชอบธรรมซึ่งตกที่แผ่นดินโลก ตั้งแต่โลหิตของอาแบล ผู้ชอบธรรม จนถึงโลหิตของเศคาริยาห์บุตรบารัคยาที่พวกเจ้าได้ฆ่าเสีย ในระหว่างพระวิหารกับแท่นบูชานั้น คงตกบนพวกเจ้าทั้งหลาย
36 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า บรรดาผลกรรมชั่วเหล่านั้นจะตกกับคนสมัยนี้ (มัทธิว 23:34-36)

เหตุการณ์เช่นนี้ ได้เปิดเผยในพระธรรมกิจการ คือ พระเยซูคริสต์ทรงถูกตรึงที่กางเขน สเทเฟนถูกฆ่า เปโตรถูกตรึงที่กางเขน เปโตรและยอห์นถูกเฆี่ยนตี

ถ้าเราถูกเตือนว่าถ้าเราทำเช่นนี้ หลานของหลานจะต้องรับโทษ เราคงจะรู้สึกว่าไกลตัว แต่ถ้าหากว่าเราเป็นลูกหลานคนนั่นเล่า เราคงจะคิดว่าไม่สมควรได้รับผลกรรมชั่วเช่นนั้น นี่แหละความหมายของกายเดียวกัน คือ รับหมด

คนสมัยนั้น เหตุใดจะต้องรับโทษของบรรพบุรุษ? เมื่อเราดูลำดับพงศ์พันธุ์ของพระเยซู ที่ไล่ถึงอาดัม จะเห็นถึงบาปที่คนในอดีตทำ จนถึงเมื่อเศคาริยาห์ซึ่งเป็นผู้ชอบธรรมถูกอาหัสสั่งฆ่าตายเพราะรับคำเตือนไม่เป็น และโทษทั้งหมดของบรรพบุรุษนี้ ลงมาที่ชนชาติอิสราเอลซึ่งเป็นลูกหลานในอนาคต

พระเจ้าส่งผู้รับใช้มา พวกเขาจะฆ่าเสีย เฆี่ยนตีเสีย และหลานของหลานจะต้องรับโทษ เราอาจจะรู้สึกว่าไกลตัว แต่พระองค์ก็ได้ทรงสำแดงว่าพวกเขาจะต้องรับโทษจากบรรพบุรุษของเขาเช่นกัน

ความผิดบาปของชนชาติอามาเลข

ขณะที่อิสราเอลเจอศึกกับอามาเลข เมื่อโมเสสนำอิสราเอลออกจากอียิปต์ โมเสสได้ขึ้นภูเขาอธิษฐาน ทุกครั้งที่ชูธงขึ้น โยชูวาก็รบชนะ จนในที่สุดอิสราเอลก็ชนะ

8 ครั้งนั้น คนอามาเลขยกมารบกับคนอิสราเอลที่ตำบลเรฟีดิม
9 โมเสสสั่งโยชูวาว่า "จงเลือกชายฉกรรจ์ฝ่ายเราออกไปสู้รบกับพวกอามาเลข พรุ่งนี้เราจะยืนถือไม้เท้าของพระเจ้าอยู่บนยอดภูเขา"
10 โยชูวาก็ทำตามคำสั่งของโมเสส ออกสู้รบกับพวกอามาเลข ส่วนโมเสส อาโรน และเฮอร์ก็ขึ้นไปบนยอดภูเขานั้น
11 โมเสสยกมือขึ้นเมื่อไร อิสราเอลก็ได้เปรียบเมื่อนั้น ท่านลดมือลงเมื่อไร พวกอามาเลขก็เป็นต่อเมื่อนั้น
12 แต่มือของโมเสสเมื่อยล้า เขาทั้งสองก็นำก้อนหินมาวางไว้ให้โมเสสท่านนั่ง อาโรนกับเฮอร์ก็ช่วยยกมือท่านขึ้นคนละข้าง มือของท่านก็ชูอยู่จนตะวันตกดิน
13 ฝ่ายโยชูวาปราบอามาเลขกับประชาชนของ เขาพ่ายแพ้ไปด้วยคมดาบ
14 พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า "จงเขียนข้อความต่อไปนี้ลงไว้ในหนังสือเพื่อเป็นที่ระลึก ทั้งเล่าให้โยชูวาฟังคือว่าเราจะลบล้างชื่อชนชาติ อามาเลข ไม่ให้ปรากฏในความทรงจำของประชาชนภายใต้ฟ้านี้ เลย"
15 โมเสสจึงสร้างแท่นบูชาเรียกชื่อ ว่าเยโฮวาห์นิสสี(แปลว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นธงของข้า) 16กล่าวว่า "มือบนพระบัลลังก์ของพระเจ้า พระองค์จะทรงกระทำสงคราม กับอามาเลขต่อไปทุกชั่วชาติพันธุ์" (อพยพ 17:8-15)

หลังจากนั้นหลายปี โยชูวาเข้ายึดครองคานาอัน มีผู้วินิจฉัยมากมาย จนสมัยกษัตริย์ เมื่อซาอูลเป็นกษัตริย์ พระเจ้าทรงสั่งซาอูล เพื่อให้ฆ่าคนอามาเลขทั้งหมดไม่ให้เหลือ เพราะในอดีต บรรพบุรุษอามาเลข ได้ยกทัพมาตีบรรพบุรุษของอิสราเอล และในที่สุดท่านก็ยกทัพมาตีเมืองนั้น แต่เหลือกษัตริย์คนเดียว

1 ซามูเอลก็เรียนซาอูลว่า "พระเจ้าทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาเจิมท่านเป็นพระราชาเหนืออิสราเอลประชากรของพระองค์ เพราะฉะนั้น บัดนี้ขอท่านฟังเสียงพระวจนะของพระเจ้า
2 พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า 'เราจะลงโทษอามาเลขในการที่สกัดทางอิสราเอล เมื่อเขาออกจากอียิปต์
3 ท่านจงไปโจมตีอามาเลข และทำลายบรรดาที่เขามีนั้นเสียให้สิ้นเชิง อย่าปรานีเขาเลย จงฆ่าเสียทั้งผู้ชายผู้หญิง ทั้งทารกและเด็กที่กินนมอยู่ ทั้งโค แกะ อูฐ และลา' "
4 ดังนั้นซาอูลจึงเกณฑ์พวกพลและตรวจพลที่ตำบลเทลาอิม ได้ทหารราบสองแสนคน และคนเผ่ายูดาห์หนึ่งหมื่นคน
5 ซาอูลก็ทรงยกกองทัพมายังเมืองอามาเลข และตั้งซุ่มอยู่ในหุบเขา
6 และซาอูลตรัสแก่คนเคไนต์ว่า "ไปเถิด จงแยกไปเสีย ลงไปเสียจากคนอามาเลข เกรงว่าเราจะทำลายพวกท่านไปพร้อมกับเขา เพราะท่านทั้งหลายได้แสดงความเอ็นดูต่ออิสราเอลเมื่อเขาออกจากอียิปต์" ดังนั้นคนเคไนต์ก็แยกออกไปจากคนอามาเลข
7 และซาอูลก็ทรงกระทำให้คนอามาเลขพ่ายแพ้ ตั้งแต่เมืองฮาวีลาห์ไกลไปจนถึงเมืองชูร์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของอียิปต์
8 ทรงจับอากักพระราชาของคนอามาเลขได้ทั้งเป็น และได้ฆ่าฟันประชาชนเสียอย่างสิ้นเชิงด้วยคมดาบ
9 แต่ซาอูลและประชาชนได้ไว้ชีวิตอากักและสัตว์ที่ดีที่สุด มีแกะกับโคและสัตว์อ้วนพีกับลูกแกะ และสิ่งดีๆทั้งหมดไม่ยอมทำลายเสียอย่างสิ้นเชิง ทุกสิ่งที่เขาดูถูกและไร้ค่าเขาก็ทำลายเสียสิ้น (1ซามูเอล 15:1-9)

ถ้าเราเป็นลูกหลานอามาเลข เราก็จะถามว่า เหตุใดจะต้องรับผลบาปกรรมนี้ด้วย?

ลัทธิปรัชญาที่สอนมนุษย์ เป็นปรัชญาที่มาจากคนไม่เชื่อ สอนเราเรื่องปัจเจกบุคคล ความเป็นส่วนตัว ตัวฉันของฉัน คนอื่นไม่เกี่ยว ลัทธิเช่นนี้ฝังในความคิดของเรา รบกวนจิตวิญญาณของเรา จนไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องของคนในยุคก่อนเกี่ยวข้องกับเรา

 

เรื่องของคนคนหนึ่งมีผลต่อส่วนรวม

ความผิดบาปของอาคาน

สมัยโยชูวายกทัพเข้ายึดครองคานาอัน เมืองที่สองที่เขาจะต้องสู้รบด้วย คือเมืองอัย ปรากฎว่าแพ้ศึก ตายไป 36 คน นี่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะข่าวเหล่านี้จะกระจายไปทั่วคานาอัน เขาจึงร้องไห้อธิษฐานต่อพระเจ้า และพระเจ้าจึงเปิดเผยว่าที่แพ้ศึกเพราะมีคนคนหนึ่งที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า คือ อาคาน

1 แต่คนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องของต้องถวายนั้น เพราะอาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดี ผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ได้นำของถวายบางส่วนไปเป็นของตน และพระพิโรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อคนอิสราเอล
2 ฝ่ายโยชูวาให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้เบธาเวนข้างทิศตะวันออกของเมืองเบธเอล บอกเขาว่า "จงขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองนั้น" คนเหล่านั้นก็ขึ้นไปและสอดแนมดูที่เมืองอัย
3 และเขากลับมารายงานแก่โยชูวาว่า "ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดปีนป่ายไปที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย"
4 เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียงสามพันคน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย 5ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันคนเหล่านั้นตาย ประมาณสามสิบหกคน โดยขับไล่คนเหล่านั้นจากประตูเมืองไปยัง เชบาริมฟันเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็แหลกเหลวไปอย่างน้ำ (โยชูวา 7:1-6)

สำหรับคนทั่วไปอาจไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นจะต้องเสี่ยงเพราะคนคนเดียว เพราะเป็นแค่เรื่องของอาคานคนเดียว คนทั้ง 36 คนมีญาติพี่น้อง มีคนที่รักรออยู่ แต่ความผิดของคนหนึ่งคน ส่งผลต่อทั้งชุมชน นี่เป็นความจริงที่ปรากฎในพระคัมภีร์

เราไม่ได้ตัดไม้ทำลายป่า ไม่ได้ก่อเหตุวุ่นวาย แต่เหตุไรเราจึงต้องพบกับน้ำปาไหลหลาก? นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น

ความผิดบาปของบุตรชายทั้งสองของเอลี

ผู้รับใช้พระเจ้าคนหนึ่งชื่อเอลี มีลูก 2 คน ทั้งสองทำผิดต่อพระเจ้าร้ายแรง จนพระเจ้าทรงระบุว่าไม่สามารถให้อภัยได้ และกล่าวโทษเอลี ว่า ให้เกียรติลูกของเขามากกว่าพระเจ้า พระเจ้าจะทรงตัดเขาออกจากการรับใช้ และจะไม่มีผู้ใดในตระกูลเขาที่ได้แก่ตาย

หลังจากนั้น ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนวันหนึ่ง ฟิลิสเตียมาโจมตีอิสราเอล และทั้งสองถูกฆ่าตายในสนามรบ เมื่อเอลีทราบข่าวก็คอหักตาย ลูกสะไภ้ที่กำลังตั้งครรภ์ก็คลอดบุตรและเสียชีวิต

10 เพราะฉะนั้นคนฟีลิสเตียจึงสู้รบและอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ต่างก็หนีไปยังเต็นท์ของตน ครั้งนั้นมีการฆ่าฟันกันมาก เพราะทหารราบของอิสราเอลตายเสียสามหมื่นคน
11 และหีบแห่งพระเจ้าก็ถูกยึดไป และบุตรทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ถูกฆ่าตาย
12 ผู้ชายเผ่าเบนยามินคนหนึ่งวิ่งไปจากแนวรบมาถึงชิโลห์ ในวันเดียวกัน เสื้อผ้าขาดและดินก็อยู่บนศีรษะของเขา
13 เมื่อเขามาถึงนั้น ดูซี เอลีอยู่บนที่นั่งข้างถนนคอยเฝ้าอยู่ เพราะจิตใจของท่านหวั่นด้วยเรื่องหีบแห่งพระเจ้า และเมื่อชายคนนั้นเข้ามาในเมืองและบอกข่าว ชาวเมืองทั้งสิ้นก็ร้องขึ้น
14 เมื่อเอลีได้ยินเสียงร้องเช่นนั้นก็ถามว่า "นั่นเสียงอะไรกันโกลาหล" แล้วชายคนนั้นก็รีบเข้ามาบอกเอลี
15 ฝ่ายเอลีมีอายุเก้าสิบแปดปี ตาของท่านแข็งมองอะไรไม่เห็น
16 ชายคนนั้นบอกเอลีว่า "ข้าพเจ้าเป็นคนที่มาจากแนวรบ ข้าพเจ้าหนีมาจากแนวรบวันนี้" เอลีก็ถามว่า "ลูกเอ๋ยเป็นอย่างไรบ้าง"
17 ผู้ที่ส่งข่าวนั้นก็ตอบว่า "อิสราเอลได้หนีพวกฟีลิสเตียไปแล้ว มีการฆ่าฟันกันมากท่ามกลางประชาชน บุตรทั้งสองของท่าน คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ตาย และหีบแห่งพระเจ้าถูกยึดไปเสีย"
18 เมื่อเขากล่าวถึงหีบแห่งพระเจ้า เอลีก็หงายหลังจากที่นั่งที่อยู่ข้างประตู คอของท่านก็หัก และท่านสิ้นชีวิตแล้ว เพราะท่านชรามากและตัวก็หนัก ท่านได้วินิจฉัยคนอิสราเอลอยู่สี่สิบปี
19 ฝ่ายบุตรสะใภ้ของท่าน คือภรรยาของฟีเนหัสมีครรภ์กำลังจะคลอดบุตร และเมื่อนางได้ยินข่าวว่าเขายึดหีบแห่งพระเจ้าไป และพ่อผัวและสามีของนางก็สิ้นชีวิต นางก็โน้มตัวลงและคลอดบุตร เพราะความเจ็บปวดบังเกิดขึ้นแก่นาง
20 เมื่อนางกำลังจะตายนั้น พวกผู้หญิงที่เฝ้านางอยู่ได้บอกนางว่า "อย่ากลัวเลย เพราะเจ้ามีลูกผู้ชายคนหนึ่ง" แต่นางไม่ตอบไม่ฟัง (1ซามูเอล 4:10-20)

จนสมัยซาอูลไล่ฆ่าดาวิด เพราะรู้ว่าพระเจ้าจะทรงตั้งให้ดาวิดเป็นกษัตรย์ ปุโรหิตเมืองโนบที่ถูกฆ่าตายโดยซาอูล ก็เป็นลูกหลานของเอลี

17 และพระราชาก็รับสั่งแก่ราชองครักษ์ผู้ยืนเฝ้าอยู่ว่า "จงหันมาประหารปุโรหิตเหล่านี้ของพระเจ้าเสีย เพราะว่ามือของเขาอยู่กับดาวิดด้วย เขารู้แล้วว่ามันหนีไป แต่ไม่แจ้งให้เรารู้" แต่ข้าราชการผู้รับใช้ของพระราชาไม่ยอมลงมือ ทำกับปุโรหิตของพระเจ้า
18 แล้วพระราชาจึงตรัสกับโดเอกว่า "เจ้าจงไปฟันปุโรหิตเหล่านั้น" โดเอกคนเอโดมก็หันไปฟันบรรดาปุโรหิต ในวันนั้น เขาฆ่าบุคคลที่สวมเอโฟดผ้าป่านเสีย แปดสิบห้าคน
19 และเขาประหารชาวเมืองโนบ ซึ่งเป็นเมืองของปุโรหิตเสียด้วยคมดาบ ฆ่าเสียด้วยคมดาบ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และเด็กกินนม โค ลาและแกะ (1ซามูเอล 22:17-19)

ก่อนที่ซาโลมอนจะขึ้นครองราษฎร์ ก็มีปัญหาเรื่องการขึ้นครองราษฎร์ อาโดนียาห์มีบารมีสูงมาก และมีแม่ทัพของประเทเข้าข้าง และมีผู้นำฝ่ายวิญญาณ คือมหาปุโรหิตเข้าข้างด้วย แต่เมื่อซาโลมอนได้ขึ้นครองราษฎร์ ก็ปลดอาบียาธาร์จากการเป็นมหาปุโรหิต และเขาก็คือลูกหลานของเอลี

26 ส่วนอาบียาธาร์ปุโรหิตนั้น พระราชารับสั่งว่า "จงไปอยู่ที่อานาโธท ไปสู่ไร่นาของเจ้าเพราะเจ้าควรที่จะตาย แต่ในเวลานี้เราจะไม่ประหารชีวิตเจ้า เพราะว่าเจ้าหามหีบของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าไปข้างหน้าดาวิดราชบิดาของเรา และเพราะเจ้าได้เข้าส่วนในบรรดาความทุกข์ใจราชบิดา ของเรา"
27 ซาโลมอนจึงทรงขับไล่อาบียาธาร์เสียจากหน้าที่ ปุโรหิตของพระเจ้า กระทำให้สำเร็จตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งพระองค์ตรัส เกี่ยวกับเชื้อสายของเอลีที่เมืองชีโลห์  (1พงศ์กษัตริย์ 2:26-27)

 

อ. ชัยราช กิจเกื้อกูล (พี่ด้องYFC)

คำเทศนาค่ายสามคณะ คริสตจักรสะพานเหลือง "กายเดียวกัน" ตอนที่ 3

ระหว่างวันที่ 23-25/10/2010 ณ อาราญาน่า ภูพิมาน รีสอร์ทแอนด์สปา

เมื่อเช้าวันที่ 25/07/2010


หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น