วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การนมัสการ (2/7)

การนมัสการด้วยจิตวิญญาณ คือ การนมัสการด้วยตัวตนที่แท้จริงของเรา

23 "แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้องจะนมัสการพระบิดา ด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นนมัสการพระองค์
24 พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง" (ยอห์น 4:23-24)

พระเยซูคริสต์ไม่ได้ตรัสถึงเรื่องสถานที่เลย เพราะเรื่องของสถานที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป

วาระที่พระองค์ตรัสถึง ก็คือวาระของเรานี้ ที่พระองค์ได้ทรงเปิดหนทางแห่งความรอดให้แก่ชาวยิวและชาวต่างชาติ เป็นการเปิดศักราชใหม่ ที่เราจะรู้จักพระเจ้าด้วยท่าทีที่ถูกต้องจากภายใน

พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และพระองค์ทรงสถิตในทุกหนทุกแห่ง ผู้ที่จะนมัสการพระเจ้าจะต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณ

มนุษย์ที่แท้จริง เป็นจิตวิญญาณ ร่างกายของเราเป็นเพียงแค่เรือนดินที่เราอาศัยอยู่เพียงชั่วคราว

การนมัสการด้วยจิตวิญญาณ คือการนมัสการด้วยตัวตนที่แท้จริงของเรา ออกมาจากภายในของเรา ที่ยกย่องและสรรเสริญพระเจ้าอย่างแท้จริง นี่คือสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการ ไม่ใช่ระเบียบแบบแผน หรือพิธีกรรม ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การกล่าวถ้อยคำ เสียงเพลง หรืออธิษฐานออกเสียงเท่านั้น แต่ทั้งสิ้นล้วนออกมาจากภายใน

พวกฟาริสีและธรรมาจารย์เน้นเรื่องการแสดงออกภายนอก แต่ภายในไม่ได้สอดคล้องกับการแสดงออกภายนอก จนพระองค์ตำหนิคนเหล่านี้ว่า "หน้าซื่อใจคด"

7 โอ คนหน้าซื่อใจคด อิสยาห์ได้พยากรณ์ถึงพวกท่านถูกแล้วว่า
8 ประชาชนนี้ให้เกียรติเราแต่ปาก ใจของเขาห่างไกลจากเรา
9 เขานมัสการเราโดยหาประโยชน์มิได้ ด้วยเอาบทบัญญัติของมนุษย์มาตู่ว่าเป็นพระดำรัสสอนของพระเจ้า (มัทธิว 15:7-9)

พระองค์ตรัสตรง ๆ แก่พวกเขา โดยอ้างถึงคำพยากรณ์ของอิสยาห์ พระองค์ตอกย้ำว่า การนมัสการของพวกธรรมาจารย์และฟาริสีไม่ได้ออกจากภายในจิตใจจริง ๆ เป็นเพียงการนมัสการภายนอก เป็นการให้เกียรติแต่ปาก แต่ปากกับใจไม่ตรงกัน

ถ้ามีแต่ถ้อยคำที่สรรเสริญพระเจ้า แต่ใจไม่ได้เช่นนั้น ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยในสายพระเนตรของพระเจ้า

มนุษย์มองดูภายนอก แต่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรที่จิตใจ

ถ้าใจห่างไกลพระเจ้า ไม่ได้ยกย่องเชิดชูพระเจ้า ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหน พระเจ้าก็ไม่ทรงรับ

แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าสถานที่ไม่มีส่วน แต่สถานที่เป็นเพียงองค์ประกอบเท่านั้น ถ้าเรามายังสถานนมัสการ แต่ใจไม่อยู่ ก็ไม่มีประโยชน์

บางคนอยู่ที่บ้าน แต่นมัสการด้วยจิตใจ พระเจ้าก็ทรงรับการนมัสการนั้น แต่นี่ไม่ใช่หมายความว่าไม่ต้องมาโบสถ์ หากแต่ว่าอย่ามาโบสถ์เพียงแต่ตัวเท่านั้น แต่ให้นำหัวใจมาด้วย

วันนี้ ตัวท่านอยู่ที่นี่ ใจของท่านอยู่ที่ไหน? บางคนตัวกับใจอยู่คนละที่ ตัวอยู่นี่แต่ใจกลับล่องลอยไปที่อื่น

สมัยนั้น ชาวยิวมีพิธีกรรมมากมาย เป็นความคุ้นเคย แต่ขาดส่วนสำคัญ คือ ส่วนของจิตวิญญาณที่ยกย่องและสรรเสริญพระเจ้า ในสายพระเนตรพระเจ้า สิ่งเหล่านี้เป็นของปลอม

การนมัสการของจริง ต้องมาจากตัวจริง ไม่ใช่ออกมาจากหน้ากาก

คาอินถวายเครื่องบูชา พระเจ้าไม่ทรงรับ แต่ของอาเบลพระเจ้าทรงรับ เพราะคาอินไม่ได้ถวายด้วยท่าทีที่ถูกต้องที่พระเจ้าจะทรงรับเครื่องบูชาได้ เขาไม่เชื่อฟัง ไม่ถ่อมใจ นมัสการพระเจ้าแต่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เมื่อพระเจ้าไม่ทรงรับ เขาก็โมโหทันที นี่เป็นการนมัสการที่พระเจ้าทรงรับไม่ได้


ศจ. มนูญศักดิ์ กมลมาตยากุล

คำเทศนาการนมัสการรอบบ่าย คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 13/02/2011

เรื่อง การนมัสการ

 

หมายเหตุ:

  • ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
  • หัวข้อต่าง ๆ นั้น ผมได้ตั้งขึ้นมาเอง เพื่อความสะดวกในการอ่านครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น