12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน อย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว
13 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ
15 เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดให้เรื่องนั้นประจักษ์แก่ท่านด้วย
16 แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป (ฟิลิปปี 3:12-16)
พระเจ้าต้องการให้เรานับวันเวลา ที่ผ่านมาแล้วให้ลืมไป ตั้งแต่วันนี้ เดินหน้าต่อไป ทำให้ดีที่สุด
ในการแข่งขันวิ่งมาราธอนในกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศเม็กซิโก ปี 1968 มีคนเข้าแข่งขันทั้งหมด 74 คน และมีคนเข้าเส้นชัยทั้งสิ้น 57 คน
เมื่อคนที่ 56 เข้าเส้นชัย ผู้ชมการมอบเหรียญก็เริ่มทยอยออกจากสนาม แต่ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงตบมืออยู่นอกสนาม มีคนร้องตะโกนว่า ยังมีอีกคนหนึ่งวิ่งอยู่ คนก็เริ่มกลับเข้ามาใหม่ มามองว่าเป็นใคร เขาคือ John Stephen Akhwari นักวิ่งจากประเทศแทนซาเนีย ซึ่งขณะวิ่งเขาได้ล้มลง และเอ็นที่เข่าฉีกขาด ร่วมกับข้อเข่าเคลื่อน เขาได้พยายามเดินไปวิ่งไป คนดูต่างก็ปรบมือให้กำลังใจ จนสุดท้ายเขาก็เข้าถึงเส้นชัย
ผู้สื่อข่าวถามเขาว่า "ทำไมต้องวิ่งอีก การแข่งขันก็จบแล้ว จะวิ่งไปเพื่ออะไร?" เขาตอบว่า "ประเทศของผมไม่ได้ส่งให้ผมเดินทางกว่า 5,000 ไมล์เพื่อเริ่มแข่งขัน แต่พวกเขาส่งผมมากว่า 5,000 ไมล์เพื่อให้แข่งขันจนจบ"
วิ่งช้าหรือเร็วไม่สำคัญ แต่ต้องวิ่งเข้าเส้นชัย
จงใช้เวลาให้คุ้มค่า วิ่งไปรับตำแหน่งของเรา
อ.นิกร สิทธิจริยาภรณ์
คำเทศนาการนมัสการเนื่องในวันตรุษจีน คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 03/02/2011
เรื่อง นับวันเวลาของตนเอง
สรุปโดย BB
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น