วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 30 กรกฎาคม


"ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า" (1 โครินธ์ 1:31)

บทความสอนใจประจำวัน 30 กรกฎาคม

"ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า" (1 โครินธ์ 1:31 THSV2011)

เราควรที่จะโอ้อวดองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

เราโอ้อวดพระองค์ผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและพระเมตตา พระองค์สำแดงความรักมั่นคงในโลกนี้ เราโอ้อวดพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าและสหายของเรา เราโอ้อวดพระคริสต์ผู้สละชีวิตพื่อชดใช้บาปของเรา คืนชีวิตจากความตายเพื่อให้เราได้รับความชอบธรรม และขึ้นสู่สวรรค์เพื่ออธิษฐานเพื่อเรา

นี่เป็นเกียรติสิริของเราที่เราได้เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระคริสต์และเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระบิดาผ่านทางพระองค์ ที่เราได้เป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระเยซูคริสต์

ในเมื่อพระคุณของพระเจ้าได้มาถึงผู้คนมากยิ่งขึ้น ก็จะมีการขอบพระคุณพระเจ้ามากยิ่งขึ้น และพระเจ้าก็จะได้รับเกียรติสิริมากยิ่งขึ้น

"ขอพระเจ้าอวยพรท่าน พิทักษ์รักษาท่าน และประทานความรักแท้ของพระองค์แก่ท่าน 
ขอพระเจ้าทรงอวยพรการงานของท่านพร้อมกับความช่วยเหลือจากเบื้องบน 
ขอพระกำลังของพระองค์เป็นกำลังของท่าน และขอความรักแท้ของพระองค์อยู่ในจิตใจของท่าน 
ขอรอยยิ้มของพระองค์เป็นรางวัลของท่าน และพระเกียรติสิริเป็นเป้าหมายของท่าน" 
(ไม่ทราบผู้แต่ง)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 30

"If you want to boast, boast only about the Lord." (1 Corinthians 1:31)

We should boast only in the Lord.

We glory in Him as gracious and merciful, showing loving-kindness in the earth; as our God and Friend; In Christ, as crucified for our sins, raised from the dead for our justification, and ascended to heaven in order to pray for us.

This is our glory that we are one with Christ, and one with the Father through Him; that we are heirs of God, and joint-heirs with Jesus Christ.

As God's grace reaches more and more people, there will be more thanksgiving and God will receive more and more glory.

"God bless you and keep you and give you His love; 
God prosper your labour with help from above. 
Be His strength in your arm and His love in your soul, 
His smile your reward and His glory your goal." 
(Unknown Author)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 29 กรกฎาคม


"ข้าพระองค์เป็นคนต่างด้าวบนแผ่นดินโลก" (สดุดี 119:19)

บทความสอนใจประจำวัน 29 กรกฎาคม

"ข้าพระองค์เป็นคนต่างด้าวบนแผ่นดินโลก" (สดุดี 119:19 THSV2011)

ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู เราเป็นคนต่างด้าวบนแผ่นดินโลกและเป็นพลเมืองชาวสวรรค์ ครอบครัวแท้ ทรัพย์สมบัติ และหัวใจของเราอยู่ที่นั่น

ที่นี่เราไม่มีบ้านถาวร เราไม่ควรเข้าร่วมในการทำชั่วซึ่งไร้ค่า แต่เราควรเปิดเผยสิ่งเหล่านั้น

พระคัมภีร์เป็นแสงสว่างของเรา อาหารของเรา และความชื่นบานของเรา พระเยซูสัญญาที่จะเป็นสหายของเราและผู้ชี้ทางของเรา

เราควรจะอธิษฐานเพื่อประเทศที่เราอาศัยอยู่ เราควรขอบพระคุณสำหรับประเทศของเราแต่ให้จิตใจของเราจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่เบื้องบน

เราไม่ควรขาดความอดทนหรือลังเลใจที่จะกลับบ้าน แต่ยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระบิดาของเรา

เราควรมองการกระทำที่ไม่เหมาะสมว่าเป็นสิ่งที่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้นเพื่อผลดีแก่เรา และให้เราเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสภาวะปัจจุบันกับสวรรค์อันเป็นบ้านที่แท้จริงของเรา

"ข้าฯ ปรารถนาพระเยซูมากกว่าเงินหรือทอง
ข้าฯ ปรารถนาที่จะเป็นของพระองค์มากกว่าความมั่งมีเหลือคณานับได้
ข้าฯ ปรารถนาพระเยซูมากกว่าสิ่งใดๆ
ที่โลกนี้จะหยิบยื่นให้ได้ในวันนี้"
(Rhea F. Miller, เพลง "I'd Rather Have Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 29

"I am a stranger in the earth." (Psalm 119:19)

As believers in Jesus, we are strangers here and citizens of heaven; our true family, treasure, and hearts are there.

Here we have no fixed home; nor should we take part in worthless deeds of evil; instead expose them.

The Bible is our light, our food, and our joy. Jesus promises to be our Friend and Guide.

We should pray for the country in which we live; we should be thankful for it but set our affections on things above.

We should be neither impatient nor reluctant to going home, but submit to our Father's will.

We should think of ill- treatment as permitted to do us good; and contrast our present state with heaven- our true home.

"I'd rather have Jesus than silver or gold;
I'd rather be His than have riches untold;
I'd rather have Jesus than anything
This world affords today."
(Rhea F. Miller, hymn "I'd Rather Have Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 28 กรกฎาคม


"พระองค์จะช่วยเราอีก" (2 โครินธ์ 1:10)

บทความสอนใจประจำวัน 28 กรกฎาคม

"พระองค์จะช่วยเราอีก" (2 โครินธ์ 1:10 THSV2011)

กี่ครั้งกี่คราที่พระเจ้าได้ช่วยชีวิตเราจากอันตราย! พระองค์จะทำเช่นนั้นต่อไป

พระองค์ช่วยเราให้รอดพ้นจากความตายฝ่ายวิญญาณด้วยการงานแห่งพระพรของพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ และให้รอดพ้นจากความตายนิรันดร์ด้วยการสละชีวิตของพระบุตรของพระองค์

เราเคยเป็นคนตายฝ่ายวิญญาณ แต่บัดนี้เรากลับมีชีวิตสู่พระเจ้าผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระองค์ผู้ที่ช่วยเราให้รอดพ้นจากสิ่งร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั่นคือความตายฝ่ายวิญญาณ จะไม่ปฏิเสธที่จะช่วยเราให้รอดพ้นจากอันตรายที่เล็กน้อยกว่านั้น!

ขอให้เราวางใจว่าพระองค์จะช่วยเราให้รอดพ้น พระองค์รู้ว่าจะช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดพ้นจากการทดลองได้อย่างไร

เปาโลได้กล่าวยืนยันว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยืนอยู่ใกล้และประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า ... แล้วข้าพเจ้าจะได้รับการช่วยให้รอดจากปากสิงโต ... และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะโปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการร้ายทุกอย่าง และจะทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ของพระองค์ ขอพระสิริมีแด่พระองค์สืบๆ ไปชั่วนิตย์นิรันดร์ อาเมน" (2 ทิโมธี 4:17-18 THSV)

พระเจ้าผู้ทรงเริ่มต้นการดีจะทำให้สำเร็จ

"พระนามของพระเยซูช่างฟังดูหวานชื่นเพียงไร
ในหูของผู้เชื่อคนหนึ่ง!
พระนามนั้นบรรเทาความเศร้าโศกของเขา เยียวยาบาดแผลของเขา
และขับเอาความกลัวของเขาออกไป"
(John Newton, เพลง "How sweet the Name of Jesus sounds")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 28

"He will rescue us again." (2 Corinthians 1:10)

How many times God has rescued us from dangers! He will continue to do so.

He delivered us from spiritual death, by the blessed work of His Holy Spirit, and from eternal death by the sacrifice of His Son.

We were spiritually dead, but are now alive unto God, through faith in Jesus Christ. He who delivered us from the greatest evil- spiritual death, will not refuse to deliver us from lesser dangers!

Let us trust Him to deliver us. He knows how to deliver His people out of temptation.

Paul testified, "The Lord stood with me, and strengthened me; and I was delivered out of the mouth of the lion; and the Lord shall deliver me from every evil work, and will preserve me unto His heavenly kingdom; to Whom be glory for ever and ever. Amen." (2 Timothy 4:17-18)

He who began the good work will complete it.

"How sweet the name of Jesus sounds
In a believer's ear!
It soothes his sorrows, heals his wounds,
And drives away his fear."
(John Newton, hymn "How sweet the Name of Jesus sounds")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 27 กรกฎาคม


"ข้าพเจ้าจะรอคอยพระยาห์เวห์" (อิสยาห์ 8:17)

บทความสอนใจประจำวัน 27 กรกฎาคม

"ข้าพเจ้าจะรอคอยพระยาห์เวห์" (อิสยาห์ 8:17 THSV2011)

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ปกปิดหน้าของพระองค์ไว้ แต่คริสตจักรตัดสินใจที่จะไม่กลัว

นี่เป็นการทดลองที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้เชื่อเมื่อพระเจ้านำเอาการรับรู้ถึงการอยู่ด้วยของพระองค์ออกไป แต่นั่นยังคงเป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้เชื่อที่จะรอคอยพระองค์ทุกๆ วันด้วยการอธิษฐาน ด้วยความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งและสำแดงความรักแท้องพระองค์ที่นำมาซึ่งการยกโทษบาป

เราต้องไม่เลิกหวังใจในพระองค์ แต่เราต้องรอคอยในความเชื่อ ด้วยการเชื่อพระคำของพระองค์ และวางใจความสัตย์ซื่อของพระองค์ อย่ายอมให้สิ่งใดเลยมาทำให้ความเชื่อของเราในพระคำของพระเจ้าต้องอ่อนแอลง พระองค์รอคอยเวลาที่ดีที่สุดที่จะสำแดงพระคุณ และเราก็ควรที่จะรอคอยเวลาของพระองค์เมื่อเราจะได้รับการปลอบโยนจิตใจหรือได้รับการช่วยให้รอดพ้

จงรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าและดำรงอยู่ในทางของพระองค์ เหมือนกับผู้รับใช้คนหนึ่งที่รอคอยการกลับมาของเจ้านาย เหมือนกับลูกคนหนึ่งที่รอคอยการอวยพรจากพ่อ

พระเยซูกล่าวว่า "เราจะมาในเร็วๆ นี้แน่นอน" (วิวรณ์ 22:20 THSV2011)

"ข้าพ​เจ้า​ได้​อด​ทน​รอ​คอย​พระ​ยาห์​เวห์ พระ​องค์​ได้​เอน​พระ​องค์​มา​ยัง​ข้าพ​เจ้า และ​ฟัง​คำ​ร้อง​ทูล​ของ​ข้าพ​เจ้า" (สดุดี 40:1 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 27

"I will wait for the Lord." (Isaiah 8:17)

The Lord had concealed His face. Yet the church determined not to give in to fear.

It is a great trial to the believer when God withdraws a consciousness of His presence, but it is still the believer's privilege to wait daily in prayer, fully persuaded that God will in His time turn again, and display His forgiving love.

We must not give up hope; but we must wait in faith, believing His word and trusting His faithfulness. Nothing should be allowed to weaken our faith in God's Word. He waits for the best time to be gracious, and we should wait for His time to be comforted, or delivered.

Wait on the Lord, and keep His way. Wait as a servant for the master's return; as a child for the father's blessing.

Jesus says, "Behold I come quickly." (Revelation 22:20)

"I waited for the Lord my God
And patiently did bear;
At length to me He did incline
My voice and cry to hear." (Psalm 40:1)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 26 กรกฎาคม


"อย่ารับพระคุณของพระเจ้าโดยไม่เกิดประโยชน์" (2 โครินธ์ 6:1)

บทความสอนใจประจำวัน 26 กรกฎาคม

"อย่ารับพระคุณของพระเจ้าโดยไม่เกิดประโยชน์" (2 โครินธ์ 6:1 THSV2011)

โดย "พระคุณของพระเจ้า" เราจำเป็นต้องเข้าใจ "ข่าวดีนิรันดร์ของพระเจ้า" ซึ่งประกาศว่าพระเจ้าได้ลงมาหาเราในบุคคลของพระเยซูคริสต์ ว่าพระเจ้าได้ยอมรับความทุกข์ยากและความตายของพระเยซูให้เป็นพื้นฐานแห่งการรอดพ้นจากความตายของเรา และให้เรามีสิทธิได้รับชีวิตนิรันดร์

บัดนี้ พระเจ้าทำให้เรามั่นใจว่าพระองค์เป็นสหายของเรา ว่าพระองค์เห็นว่าเราเป็น "คนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว" ในพระเยซู สิ่งเก่าทั้งหมดก็ล่วงไปและถูกลืมเรียบร้อยแล้ว และพระองค์จะทำให้บรรดาผู้ที่รับพระคำของพระองค์และเชื่อวางใจในพระบุตรของพระองค์เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าในพระองค์

พระเจ้าส่งเสริมให้เราเติบโตในความเชื่อ ความรักแท้ และการเป็นคนใช้การได้ ขอที่เราจะไม่รับข้อความแห่งเกียรติสิรินี้โดยไม่เกิดประโยชน์

"โอพระเจ้า ขอทรงปกป้องข้าฯ ทุกโมงยาม
และอวยพรหนทางของผู้รับใช้ของพระองค์
ขอทรงเพิ่มฤทธิ์อำนาจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์
ที่อยู่ภายในข้าฯ ทุกๆ วัน
ขอทรงช่วยข้าฯ ให้เป็นคนที่ข้าฯ ควรเป็น
และทำในสิ่งที่ข้าฯ ควรจะทำ
และเป็นอิสระตลอดเวลาด้วยพระวิญญาณของพระองค์
ขอทรงทำให้ชีวิตประจำของข้าฯ มีชีวิตชีวา"
(ไม่ทราบผู้แต่ง)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 26

"Do not receive the grace of God in vain." (2 Corinthians 6:1)

By "the grace of God" we are to understand "the everlasting gospel." It proclaims that God has come down to us in the person of Jesus Christ; that He has accepted the sufferings and death of Jesus, as the ground of our deliverance from death, and as our entitlement to Eternal Life.

God now assures us that He is our Friend; that He views us in Jesus as a NEW CREATION, all former things are passed away and forgotten; and He will make all who receive His word, and believe His Son, the righteousness of God in Him.

God encourages us to grow in faith, love and usefulness. Let us not receive this glorious message in vain.

"Defend me, Lord, from hour to hour,
And bless Your servant's way,
Increase Your Holy Spirit's power
Within me day by day.
Help me to be what I should be,
And do what I should do,
And ever with Your Spirit free,
My daily life renew." 
(Unknown Author)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 25 กรกฎาคม


"จงนิ่งเสีย และรู้เถิดว่า เราคือพระเจ้า" (สดุดี 46:10)

บทความสอนใจประจำวัน 25 กรกฎาคม

"จงนิ่งเสีย และรู้เถิดว่า เราคือพระเจ้า" (สดุดี 46:10 THSV2011)

พระเจ้าผู้มีสติปัญญาไร้ขีดจำกัด เปี่ยมด้วยพระคุณ และมีฤทธิ์อำนาจสูงสุดได้จัดระเบียบเรื่องราวของลูกของพระองค์

บางครั้งเราอัศจรรย์ใจเมื่อปัญหาเกิดขึ้นในหนทางชีวิตของเรา! เหตุผลดูสับสน ความเชื่อของเราสั่นคลอน แต่พระคำของพระเจ้าเตือนเราให้ "นิ่งเสีย"

พระเจ้าจะไม่ทำร้ายเราและไม่ยอมให้ใครทำร้ายเราเลย เราจะต้องรอคอยพระองค์เหมือนลูกแกะที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้เลี้ยง พระองค์ทำตามความตั้งใจของพระองค์ในสวรรค์และบนโลกนี้ ไม่มีใครสงสัยได้เลยถึงสิทธิอำนาจของพระเจ้าในการทำตามพระประสงค์ของพระองค์

ดังนั้น ขอให้เราสงบเงียบต่อหน้พระองค์ พระองค์เป็นพระเจ้าของเรา และเราเป็นประชากรของพระองค์ ความเมตตาและความจริงของพระองค์ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ ขอที่เราจะไม่บ่น เพราะพระองค์เป็นพระบิดาในสวรรค์ของเรา ขอที่เราจะไม่กลั เพราะพระองค์สัตย์ซื่อ ขอให้เราอธิษฐานต่อพระองค์ พร้อมกับยอมจำนนตัวของเราเองให้อยู่ในมือองพระองค์ และกล่าวว่า "ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอพระองค์ทำกับข้าพระองค์ตามที่พระองค์เห็นชอบเถิด"

"พระบิดาเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงกระทำกิจอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้เกิดผลดีแก่ข้าพระองค์ในทุกๆ การทดลอง ความท้าทายและความยากลำบาก ขอทรงโปรดช่วยให้เรามองเห็นพระหัตถ์ของพระองค์ในทุกสิ่ง อาเมน"
(มานาประจำวัน 12/10/2009)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 25

"Be still, and know that I am God." (Psalm 46:10)

The infinitely wise, gracious, all powerful God orders the affairs of His children.

Sometimes we are amazed at the troubles that come our way! Reason is confused, our faith Is shaken; but God's Word reminds us to "Be still."

He will not harm us, nor will He let others do so. We must wait before Him, as a lamb in the shepherd's arms. He does according to His will in heaven and on earth. No one can question God's right to do His will.

Let us then be silent before Him. He is our God, and we are His people; His mercy and His truth are everlasting. Let us not complain, for He is our Heavenly Father; let us not fear, for He is faithful; let us pray to Him, surrendering ourselves into His hands with, "Here I am, do with me as seems good to You."

"Father, thank You that in every trial, challenge, and difficulty, You are behind the scenes working things out for our good. Help us to see Your hand in everything. Amen." 
(Our Daily Bread 12/10/2009)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 24 กรกฎาคม


"ทางแห่งสันติสุข" (โรม 3:17)

บทความสอนใจประจำวัน 24 กรกฎาคม

"ทางแห่งสันติสุข" (โรม 3:17 THSV2011)

สันติสุขเป็นพรที่ประเมินค่าไม่ได้ เราได้มาด้วยการรับพระคำของพระองค์เข้าสู่จิตใจของเรา ด้วยการกลับใจจากบาปทั้งหลายที่เราทำ ด้วยการเชื่อในพระเยซูผู้ซึ่งเต็มใจและปรารถนาที่จะช่วยเราให้หลุดพ้น ด้วยการพึ่งพาพระองค์อย่างเรียบง่ายตลอดเวลาสำหรับสิ่งจำเป็นทั้งสิ้นในชีวิตของเรา และด้วยการยอมจำนนทุกสิ่งต่อความรักแท้อันไร้ขีดจำกัดทุกๆ วัน

หากเราจะดำรงอยู่ในสันติสุข เราต้องวางใจในพระสัญญา ดำรงชีวิตตามคำสั่งของพระเจ้า จงรักภักดีต่อกษัตรย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย พูดคุยกับพระบิดาในสวรรค์ของเราทุกๆ วัน พร้อมกับสารภาพบาปของเรา มีความรักแท้ให้กับทุกคน และให้ความรักแท้ของเราจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่เบื้องบน

นี่คือทางแห่งสันติสุขนั้น จงดำเนินชีวิตในทางนี้ ไม่มีสันติสุขแท้นอกจากโดยพระคริสต์ ด้วยเหตุนี้จงอยู่ใกล้พระคริสต์

"ไม่มีทางใดที่ไปสู่ความสุขสำราญแห่งสวรรค์
หรือความชื่นบานที่มั่นคง หรือสันติสุขที่ดำรงอยู่
แต่พระคริสต์ทรงเป็นถนนนั้นที่ได้กำหนดไว้
โอ ขอที่ข้าฯ จะเดินบนทางอันศักดิ์สิทธิ์นี้
ด้วยความเชื่อ ความชื่นชมยินดี และการสรรเสริญ และการอธิษฐาน
จนกว่าข้าฯ จะได้นั่งลงกับพระเจ้า"
(Unknown Author)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 24

"The way of peace." (Romans 3:17)

Peace is an invaluable blessing. It is obtained by receiving God's Word into our hearts; by repenting of our sins; by believing on Jesus as able and willing to save us; by relying simply and always on Him for all we need; and by daily surrendering all to infinite love.

If we would be kept in peace, we must trust in the promises; live by God's commands; be loyal to the King of Kings; speak daily with our Father in heaven confessing our sins, loving all and setting our affections on things above.

This is the Way, walk in it. There is no peace but by Christ, therefore stay close to Christ.

"There is no path to heavenly bliss,
Or solid joy, or lasting peace,
But Christ, the appointed road:
Oh, may I tread the sacred way,
By faith rejoice, and praise, and pray,
Till I sit down with God." 
(Unknown Author)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 23 กรกฎาคม


"ขอทรงค้ำชูข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะรอด" (สดุดี 119:117)

บทความสอนใจประจำวัน 23 กรกฎาคม

"ขอทรงค้ำชูข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะรอด" (สดุดี 119:117 THSV2011)

นี่ควรจะเป็นคำอธิษฐานประจำวันของผู้ที่เชื่อวางใจในพระเยซู หนทางก็ขรุขระ อันตรายก็มากมาย ศัตรูก็ร้ายกาจ และเราก็มีแนวโน้มที่จะล้มลง

หากเราอธิษฐานจากหัวใจ เราจะรู้สึกถึงความอ่อนแอของเราเอง เรามีความรู้แห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นกำลังของเรา เรามีความถ่อมใจที่แท้จริง และเรามีความปรารถนาที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้า

เราอยู่ในโลกนี้ และเราจะทำให้พระเจ้าเสียเกียรติถ้าพระเจ้าไม่ค้ำชูเรา

เราอยู่ในคริสตจักร และเราจะเป็นผู้สร้างปัญหาถ้าพระเจ้าไม่ค้ำชูเรา

เมื่อเราเจ็บป่วย เราอาจโกรธพระองค์และความบาปอาจทำให้ใจของเราแข็งกระด้างถ้าพระเจ้าไม่ค้ำชูเรา

ขอให้เราอธิษฐานทุกๆ วันว่า "ขอทรงค้ำชูข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะรอด" (สดุดี 119:117 THSV2011)

"ขอทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอด และขอทรงอวยพรมรดกของพระองค์ 
ขอทรงเป็นผู้เลี้ยงดูพวกเขาดุจเลี้ยงแกะ และอุ้มชูเขาไปเป็นนิตย์" (สดุดี 28:9 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 23

"Hold me up, and I shall be safe." (Psalm119:117)

This should be the Christian's daily prayer. The way is rough, dangers are many, enemies are powerful and we are liable to fall.

If we pray from the heart, it shows that we have a sense of our own weakness; a knowledge of the Lord as our strength; true humility, and a desire to honour God.

We are in the world, and unless God hold us up we shall dishonour Him.

We are in the church, and unless God hold us up, we shall be trouble–makers.

When we are ill, unless God hold us we may be angry with Him and hardened through sin.

Let your daily prayer be, "Hold me up, and I shall be safe." (Psalm 119:117)

"Lord, save Your people, Your own flock;
Be pleased Your heritage to bless.
Be their good Shepherd; carry them
For ever in Your faithfulness." (Psalm 28:9)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 22 กรกฎาคม


"พระเจ้าผู้ชอบธรรมและช่วยให้รอด" (อิสยาห์ 45:21)

บทความสอนใจประจำวัน 22 กรกฎาคม

"พระเจ้าผู้ชอบธรรมและช่วยให้รอด" (อิสยาห์ 45:21 THSV2011)

พระเจ้าไม่สามารถแยกออกจากความยุติธรรมของพระองค์ได้แม้เพื่อตอบสนองความรักแท้ของพระองค์ และความยุติธรรมของพระองค์ก็ส่องสว่างอย่างเท่าเทียมกันกับความรักแท้ของพระองค์ในแผนการของพระองค์สำหรับความหลุดพ้นของเรา

พระองค์ให้พระบุตร นั่นคือองค์พระเยซูเจ้า เพื่อเป็นตัวแทนของเรา และพระเจ้าลงโทษพระเยซูแทนเรา พระเจ้าลงโทษพระเยซูถึงตายแม้พระองค์จะไม่มีความผิดใดๆ เลยเพราะพระองค์ได้แบกรับบาปทั้งสิ้นของเราไว้ และพระเจ้าชุบพระเยซูขึ้นจากความตายอย่างเที่ยงธรรมเพราะว่าโทษบาปทั้งสิ้นของเราได้ถูกระงับแล้วโดยพระเยซู

เราเชื่อผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ งานของพระองค์สมบูรณ์แบบ การช่วยให้รอดพ้นของพระองค์ยุติธรรม

ความยุติธรรมของพระเจ้าจะส่องสว่างตลอดนิรันดร์กาลในความหลุดพ้นของเรา

"พระเจ้าช่วยเราให้หลุดพ้น และเรียกเราให้ดำรงชีวิตที่บริสุทธิ์ พระองค์ทำเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะเราสมควรได้รับ แต่เพราะสิ่งนี้อยู่ในแผนการของพระองค์ตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นของกาลเวลา เพื่อที่จะแสดงให้เราเห็นถึงพระคุณของพระองค์ผ่านทางพระเยซูคริสต์" (2 ทิโมธี 1:9, แปลจาก NLT)

"โอ พระคุณที่ทำให้เกิดแผนการแห่งความหลุดพ้น!
โอ เหวลึกอันทรงพลังที่พระเจ้าได้ยืดขยายออกที่เนินเขาที่พระเยซูถูกตรึง!
ที่นั่น พระเมตตาช่างยิ่งใหญ่ และพระคุณก็ให้แก่เราเปล่าๆ
ที่นั่น การยกโทษก็ทวีคูณขึ้นในตัวข้าฯ!
ที่นั่น จิตใจที่เต็มไปด้วยภาระหนัก ก็ได้พบเสรีภาพ ที่เนินเขาที่พระเยซูถูกตรึงนั้น!"
(William Reed Newell, เพลง "At Calvary")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 22

"A just God and Saviour." (Isaiah 45:21)

God cannot part with His justice even to satisfy His love; and His justice shines equally with His love in His plan for our salvation.

He gave His Son, the Lord Jesus, to be a Substitute, and punished Him instead of us. God justly condemned Him to die, though guiltless, because our sins were attributed to Him; and He justly raised Jesus from the dead, because our sins had been appeased by Jesus.

Through the Holy Spirit we believe. His work is perfect. His deliverance is just.

God's justice will shine throughout eternity in our salvation.

"God saved us and called us to live a holy life. He did this, not because we deserved it, but because that was His plan from before the beginning of time- to show us His grace through Christ Jesus." (2 Timothy 1:9 NLT)

"Oh, the grace that drew salvation's plan!
Oh, the mighty gulf that God did span-at Calvary!
Mercy there was great, and grace was free,
Pardon there was multiplied to me!
There my burdened soul found liberty- at Calvary!"
(William Reed Newell, hymn "At Calvary")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 21 กรกฎาคม


"จงติดสนิทอยู่กับเรา" (ยอห์น 15:4)

บทความสอนใจประจำวัน 21 กรกฎาคม

"จงติดสนิทอยู่กับเรา" (ยอห์น 15:4 THSV2011)

โดยธรรมชาติ เราอยู่ห่างไกลจากพระคริสต์ แต่โดยพระคุณ เราตอบรับคำเชิญของพระองค์และมาหาพระองค์ เพราะเรารู้ว่าเราจำเป็นต้องมีพระองค์

เราเห็นว่าไม่มีสิ่งใดสามารถทำให้เราปลอดภัยและสุขใจได้ นอกเหนือไปจากการเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเยซู และเราจึงอธิษฐานที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์

พระองค์ต้อนรับเรา เทความรักแท้ของพระองค์ลงมาสู่หัวใจของเรา และเราก็กลายเป็นอวัยวะของ "ร่างกายของพระองค์ นั่นคือคริสตจักร

พระองค์สอนเราให้พักอาศัยอยู่ในพระองค์ด้วยการดำรงชีวิตในการพึ่งพาพระองค์อย่างสิ้นเชิงและในการสนิทสนมกับพระองค์ทุกวันผ่านทาการอ่านพระคัมภีร์และการอธิษฐาน ด้วยการติดสนิทกับพระองค์ในความรักแท้เ พราะพระองค์เป็นพระผู้ช่วย พระเจ้า และสหายที่เรารักยิ่ง และด้วยกาเป็นพยานถึงความเชื่อที่เรามีในพระองค์กับคนอื่นๆ

เราจะต้องติดสนิทกับพระเยซูเพื่ที่เราจะก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณ จงจับจ้องมองดูพระเยซูทุกที่และทุกเวลา

"จงเพ่งมองไปที่พระเยซู
มองดูพระพักตร์อันงดงามของพระองค์
แล้วสิ่งต่างๆ บนโลกนี้จะหมองไปอย่างน่าประหลา
เมื่อเทียบกับพระสง่าราศีและพระคุณของพระองค์"
(Helen H Lemmel, เพลง "Turn Your Eyes Upon Jesus")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 21

"Abide in Me" (John 15:4)

By nature we are far from Christ; by grace we accept His invitation, and come to Him knowing our need of Him.

We see that nothing but union with Jesus can make us safe and happy; and so we pray to be one with Him.

He receives us, pours His love into our hearts and we become members of His"body"- the church.

He teaches us to remain in Him, by living in absolute dependence on Him and daily fellowship with Him by reading the Bible and prayer; by sticking fast to Him in love as our dearly loved Saviour, God and Friend; and by witnessing to others of our faith in Him.

We must abide in Jesus to progress spiritually. Keep looking to Jesus at all times, and in all places.

"Turn your eyes upon Jesus,
Look full in His wonderful face.
And the things of earth will grow strangely dim
In the light of His glory and grace."
(Helen H Lemmel, hymn "Turn Your Eyes Upon Jesus")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 20 กรกฎาคม


"จงอธิษฐานเพื่อจะได้ไม่ตกอยู่ในการทดลอง" (ลูกา 22:40)

บทความสอนใจประจำวัน 20 กรกฎาคม

"จงอธิษฐานเพื่อจะได้ไม่ตกอยู่ในการทดลอง" (ลูกา 22:40 THSV2011)

การทดลองเป็นการทดสอบเรา ซาตานเป็นศัตรูของเรา มันใช้ทุกหนทางที่มีที่จะดึงดูดเราให้ทำบาป และดังนี้เราจึงอยู่ในอันตรายเสมอ

การทดลองของซาตานมักจะมาอย่างเฉียบพลัน รุนแรง หลอกลวง และถูกจังหวะเวลา เพื่อที่จะทำให้เราล้มลงในสถานการณ์นั้นๆ และเราก็มีความโน้มเอียงที่จะถูกนำให้หลงผิดไปเช่นกัน เพราะหัวใจของเราอ่อนแอ เปลี่ยนแปลงง่าย และมีแนวโน้มที่จะทำชั่ว

ขอให้เราระมัดระวังให้ดี มีคริสเตียนมากมายเพียงไรที่ทำให้พระเจ้าเสียกียรติสิริด้วยการทำบาป พระเจ้าสามารถพิทักษ์รักษาและช่วยให้เรารอดพ้นได้ พระองค์ได้สัญญาไว้กับเรา แต่ในทุกคำสัญญาก็มีการอธิษฐานระบุไว้ด้วย

พี่น้องที่รัก จงระลึกทุกวันว่าคุณมีศัตรูที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมหลอกลวง มันจะใช้ทั้งคนชอบธรรมและคนบาปในการนำให้คุณหลงผิดไป จงอธิษฐานอย่างตรงไปตรงมา อย่างกระตือรือร้น และอย่างไม่หยุดยั้ง พระเจ้าสัตย์ซื่อ และจะเปิดหนทางให้คุณหลีกหนีได้

"อย่ายอมแพ้การทดลอง ถ้ายอมแพ้จะบาป
เมื่อชนะครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปยิ่งง่าย
สู้ความใคร่ของใจกาย ต่อสู้ใจดื้อด้าน
จงไว้ใจพระเยซู ผู้ทรงช่วยให้มีชัย"
(Horatio R. Palmer, เพลง "อย่ายอมแพ้การทดลอง")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 20

"Pray that you will not give in to temptation." (Luke 22:40)

Temptations are trials. Satan is our enemy; he uses every possible way to draw us into sin; and so we are always in danger.

Satan's temptations are sudden- powerful- deceptive- and so timed to fall in with our particular circumstances. Also, because our hearts are weak, changeable and prone to evil we are liable to be led astray.

Let us be on guard- how many great Christians have dishonoured God by sinning. God is able to preserve and deliver us. He has promised; but prayer is implied in every promise.

Beloved, daily remember you have a crafty enemy; he will use saints and sinners to lead you astray. Pray simply, earnestly and without ceasing. God is faithful, and will make a way for your escape.

"Yield not to temptation, for yielding is sin;
Each victory will help you some other to win;
Fight manfully onward; dark passions subdue;
Look ever to Jesus, He will carry you through.
Ask the Saviour to help you,
Comfort, strengthen, and keep you;
He is willing to aid you;
He will carry you through."
(Horatio R. Palmer, Hymn "Yield Not To Temptation")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie




วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 19 กรกฎาคม


"พวกท่านรักพระองค์อยู่ แม้ว่าขณะนี้พวกท่านไม่เห็นพระองค์" (1 เปโตร 1:8)

บทความสอนใจประจำวัน 19 กรกฎาคม

"พวกท่านรักพระองค์อยู่ แม้ว่าขณะนี้พวกท่านไม่เห็นพระองค์" (1 เปโตร 1:8 THSV2011)

เราไม่เคยเห็นพระเยซู แต่เราได้เชื่อวางใจในพระคำของพระองค์

เรารักพระองค์ผู้ที่รักราก่อน พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้าผู้ซึ่งได้รับการยกชูตั้งแต่นิรันดร์กาล พระองค์เป็นผู้ที่ช่วยให้คนบาปที่หลงทางได้หลุดพ้นด้วยความเต็มใจ พระองค์ได้รับสภาพเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับพวกเรา ทนทุกข์ และยอมตายเพื่อเรา พระองค์เปี่ยมด้วยความรักแท้ ฤทธิ์อำนาจ ความเมตตาสงสาร และการสถิตอยู่ของพระองค์ก็คือสวรรค์

เรารักความหลุดพ้นอันล้ำค่าที่พระองค์ได้ให้แก่เราเปล่าๆ โดยสมบูรณ์แบบ และเต็มด้วยเกียรติสิริ

เรารักครอบครัวที่เกิดจากสวรรค์ของพระองค์ผู้ซึ่งเป็นเหมือนกับพระองค์และเป็น "ผู้ประเสริฐในแผ่นดินโลก" (สดุดี 16:3)

โอ ขอที่ข้าพระองค์จะรักพระองค์มากยิ่งขึ้น! ขอที่ข้าพระองค์จะรักพระองค์ด้วยสิ้นสุดใจ สุดความคิด สุดจิต สุดกำลัง และขอที่ข้าพระองค์จะแสดงออกถึงความรักแท้นี้ด้วยการมีชีวิตอันบริสุทธิ์ที่พระองค์ใช้การได้

"ข้าพเจ้ารักพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงฟังเสียงและคำวิงวอนของข้าพเจ้า 
พระองค์เงี่ยพระกรรณฟังข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจะทูลพระองค์ตราบที่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่" (สดุดี 116:1-2 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 19

"You love Him even though you have never seen Him." (1 Peter 1:8)

We have never seen Jesus, but we have believed His Word.

We love Him who first loved us; as the only-begotten Son of God, who was exalted from everlasting; as the voluntary Saviour of lost sinners, who became human like us, suffered and died for us. He is loving, powerful, compassionate, and His presence is heaven.

We love His precious salvation; in its freeness,-completeness – and glory.

We love His promises; which fill us with peace.

We love His holy laws; which call us to holiness.

We love His heaven-born family; who are like Him-and are "the excellent of the earth." (Psalm 16:3)

Oh, to love Him more! To love Him with all our hearts, minds, souls, and strength and to show our love by holy and useful lives

"I love the Lord because He heard my voice;
He listened when I cried to Him for aid.
I'll call on Him as long as I shall live,
Because He turned to hear me when I prayed." (Psalm 116:1-2)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 18 กรกฎาคม


"คนที่มีใจบริสุทธิ์ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้า" (มัทธิว 5:8)

บทความสอนใจประจำวัน 18 กรกฎาคม

"คนที่มีใจบริสุทธิ์ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้า" (มัทธิว 5:8 THSV2011)

ความเชื่อคือสิ่งที่ชำระหัวใจของเราให้บริสุทธิ์ เราเพลิดเพลินกับการยกโทษบาป สันติสุข และมิตรภาพกับพระเจ้าผ่านทางความเชื่อ ความเชื่อชำระล้างมโนธรรมของเราจากการงานแห่งความตายและช่วยเราให้รอดพ้นจากการลงโทษทั้งสิ้น ความเชื่อได้รับความจริงของพระเจ้าและพระเยซูก็เป็นความจริง เราได้รับฤทธิ์อำนาจในการเป็นบุตรของพระเจ้า

เราชื่นชมยินดีในความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า กล่าวอ้างพระสัญญาแห่งพระคุณของพระเจ้า และตั้งตารอคอยที่จะเข้าสู่สวรรค์ ทุกคนที่มีความหวังใจเช่นนี้ก็ชำระชีวิตของเขาเองให้บริสุทธิ์เหมือนพระคริสต์ผู้บริสุทธิ์ มโนธรรมของเขาก็อ่อนไหว ความตั้งใจของเขาก็ซื่อตรง และหัวใจของเขาก็สอดคล้องกับพระคำของพระเจ้า เขายอมสละทุกสิ่งเพื่อที่ชีวิตองเขาจะปราศจากบาปเพราะเขาปรารถนาความบริสุทธิ์

เขาป็นสุข เขาจะได้เห็นพระเจ้าและได้สุขสันต์กับพระองค์ผู้เป็นพระบิดาในสวรรค์ของเขาตลอดกาล ล้วเขาก็จะได้อยู่กับพระเจ้าของเขา และเป็นเหมือนพระองค์ในความบริสุทธิ์ ความสุข และเกียรติสิริ

"โอ พระเยซู ข้าฯ เพ่งมองพระคุณที่สมบูรณ์แบบของพระองค์
ขอทรงอวยพรข้าฯ ด้วยการทำให้ใจของข้าฯ บริสุทธิ์
เพื่อที่เมื่อข้าฯ แลดูพระองค์ในเวลานี้
ข้าฯ จะเห็นพระพักตร์ของพระองค์ในไม่ช้า
ข้าฯ จะเพ่งดูความงดงามอันเต็มด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์ทั้งสิ้น
และข้าฯ จะเห็นพระเจ้าตลอดกาล!"
(Charles Wesley)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 18

"God blesses those whose hearts are pure, for they will see God." (Matthew 5:8)

It is faith that purifies the heart; through faith we enjoy pardon, peace, and friendship with God; it clears the conscience from dead works, and delivers from all condemnation. It receives the truth of God, and Jesus is the truth; and we receive power to be children of God.

We rejoice in our relationship with God, claim God's gracious promises, and look forward to heaven; and all who have this hope purify themselves even as Christ is pure. Their consciences are tender, their intentions are honest, and their hearts are sound in God's Word. They would give all to be free from sin, for they long for holiness.

They are blessed. They shall see God, and enjoy Him as their heavenly Father for ever. Then they shall be with their God; and be like Him in purity, happiness and glory.

"Jesus, Your crowning grace impart;
Bless me with purity of heart,
That now beholding You,
I soon may see you face to face,
On all Your glorious beauties gaze,
And God for ever see!" 
(Charles Wesley)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





บทความสอนใจประจำวัน 17 กรกฎาคม


"พยานผู้ซื่อสัตย์" (วิวรณ์ 1:5)

บทความสอนใจประจำวัน 17 กรกฎาคม

"พยานผู้ซื่อสัตย์" (วิวรณ์ 1:5 THSV2011)

พระเจ้าพระบิดาให้พระเยซูแก่เรา เพื่อเป็นพยานกับถึงความรักแท้ของพระองค์

"พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์" (ยอห์น 3:16 THSV2011)

เพื่อเป็นพยานถึงพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับคนบาป

"เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ที่จะให้ทุกคนที่เห็นพระบุตรและวางใจพระองค์มีชีวิตนิรันดร์ และเราเองจะให้คนนั้นเป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย" (ยอห์น 6:40 THSV2011)

เพื่อเป็นพยานถึงความปีติยินดีองพระเจ้าในการทำให้ประชากรของพระองค์มีความสุข

"ฝูงแกะเล็กน้อยเอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระบิดาของพวกท่านชอบพระทัยจะประทานแผ่นดินนั้นให้แก่ท่าน" (ลูกา 12:32 THSV2011)

พระองค์เยซูสัญญาว่าพระเจ้าและพระบิดาของเราจะทำเพื่อเราและให้สิ่งจำเป็นทั้งหมดแก่เรา 

พระเยซูเป็นพยานผู้สัตย์ซื่อและเป็นสหายผู้เปี่ยมไปด้วยเกียรติสิริ ขอให้เราเป็นพยานเพื่อพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ได้เป็นพยานเพื่อพระบิดา

"จิตใจของข้าฯ อ่อนแรง และความคิดอันร้อนรนของข้าฯ เยือกเย็น 
แต่เมื่อข้าฯ เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์เป็น ข้าฯ จะสรรเสริญพระองค์อย่างที่ข้าฯ ควรทำ 
จนกว่าจะถึงวันนั้น ข้าฯ จะประกาศความรักแท้ของพระองค์ทุกลมหายใจ 
และขอเสียงดนตรีแห่งพระนามของพระองค์คืนความสดชื่นให้แก่จิตใจองข้าฯ ยามสิ้นลมหายใจ
(John Newton, เพลง "How sweet the Name of Jesus sounds")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 17

"The faithful witness." (Revelation 1:5)

God, the Father, gave Jesus to testify to us of His love: "For God loved the world so much that He gave His one and only Son, so that everyone who believes in Him will not perish but have Eternal Life." (John 3:16)

To witness to God's will with regard to sinners: "This is the will of Him that sent Me, that everyone who ---believes on the Son, may have Everlasting Life, and I will raise Him up at the last day." (John 6:40)

To witness to God's delight in making His people happy; "Fear not, little flock, it is your Father's good pleasure to give you the Kingdom." (Luke 12:32)

He promised that our God and Father will do for us, and give us, all that we need.

Jesus is the Faithful Witness, and our Glorious Friend. Let us witness for Him, as He does for His Father.

"Weak is the effort of my heart, and cold my warmest thought: 
But when I see You as You are, I'll Praise You as I ought. 
Till then I would Your love proclaim with every fleeting breath: 
And may the music of Your name, refresh my soul in death." 
(John Newton, hymn "How sweet the Name of Jesus sounds")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 16 กรกฎาคม


"จงถ่อมใจต่อกันและกัน" (1 เปโตร 5:5)

บทความสอนใจประจำวัน 16 กรกฎาคม

"จงถ่อมใจต่อกันและกัน" (1 เปโตร 5:5 TNCV)

เป็นสิ่งสำคัญที่เรามีความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับความเล็กน้อยของตัวเราเอง เกี่ยวกับความไม่คู่ควรของเรา และเกี่ยวกับการพึ่งพาอาศัยพระเมตตาของพระเจ้าตลอดเวลาของเรา

เราจำเป็นต้องมีจิตวิญญาณที่อ่อนโยนและสงบเยือกเย็นซึ่งมีค่ายิ่งนักในสายตาของพระเจ้า (1 เปโตร 3:4) ดังนั้นเราจึงรู้สึกขอบคุณสำหรัความดีของพระเจ้าแม้เมื่อเราเผชิญการทดลอง เราพึงพอใจสำหรับส่วนที่เราได้รับและสำหรับสิ่งต่างๆ ที่เรามี เราพึ่งพาองค์พระเยซูเจ้าจนเป็นนิสัย และระลึกถึงทั้งหมดที่พระองค์ได้สละเพื่อความหลุดพ้นของเรา รวมทั้งระลึกว่าเราจะมีสภาพเช่นไรเมื่อเราได้อยู่กับพระองค์ในเกียรติสิริเร็วๆ นี้

ความถ่อมใจเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนบาปที่ได้หลุดพ้นโดยพระคุณของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าได้สัญญาว่าพระองค์จะอยู่กับผู้ที่ถ่อมใจ พระองค์ให้พระคุณแก่ผู้ที่ถ่อมใจ ผู้ที่ถ่อมใจจะได้รับการยกชู ความถ่อมใจดึงดูดความสนใจของพระเจ้าและนำพระพรของพระเจ้าลงมาจากสวรรค์

"แต่ข้าพระองค์ยากจนและขัดสน 
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์เถิด 
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขออย่าทรงรอช้า 
พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์" (สดุดี 70:5 THSV2011) 
J. Smith (ปรับปรุงโดย Alina McKenzie)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 16

"Be clothed with humility." (1 Peter 5:5)

It is important to have a right understanding of our own littleness; of our unworthiness; and of our constant dependence on the mercy of God.

We need to have a meek and quiet spirit, which is in God's sight very precious (1 Peter 3:4). Thus we acknowledge God's goodness even when facing trials; we are content with our lot and with such things as we have. We habitually look to the Lord Jesus and remember all He sacrificed for our salvation, and what we shall soon be with Him in glory.

Humility is most appropriate for a sinner saved by God's grace, for God has promised that He will live with the humble. He gives grace to the humble. The one who is humble will be exalted. Humility attracts God's notice, and brings down God's blessing.

"Yet I am poor and needy; 
Come quickly, God, I pray. 
You are my God and Saviour; 
O Lord, do not delay." (Psalm 70:5)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 15 กรกฎาคม


"เมื่อข้าพระองค์กลัว ข้าพระองค์วางใจในพระองค์" (สดุดี 56:3)

บทความสอนใจประจำวัน 15 กรกฎาคม

"เมื่อข้าพระองค์กลัว ข้าพระองค์วางใจในพระองค์" (สดุดี 56:3 THSV2011)

เราอาจมีความกลัวมากมาย แต่เราควรทำตามแบบอย่างความแน่วแน่ของดาวิด องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่เราวางใจ และพระองค์สมควรที่จะได้รับความวางใจตลอดเวลา

ช่างยิ่งใหญ่เสียจริงเมื่อเราสามารถกล่าวว่า "ข้าพเจ้าจะเชื่อมั่นในพระสัญญาอันสัตย์ซื่อของพระบิดาในสวรรค์ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะมอบทุกอย่างไว้ให้อยู่ในมือขององค์พระผู้ช่วยของข้าพเจ้า"

ขอให้เราวางใจในพระเจ้า ไม่ว่าเราจะรู้สึกเช่นไร พระเจ้าของเราได้กล่าวว่า "จงวางใจในพระยาห์เวห์เป็นนิตย์" (อิสยาห์ 26:4 THSV2011)

ขอให้เราแสวงหาพระคุณ เพื่อที่เราจะสามารถกล่าวพร้อมกับโยบได้ว่า "ถึงแม้พระองค์ทรงประหารข้าเสีย ข้าก็ยังวางใจในพระองค์" (โยบ 13:15 TKJV)

"ใครที่วางใจในพระเจ้าผู้เป็นที่อาศัยที่แข็งแรงมั่นคงและครอบครองสวรรค์และโลก
ใครที่มองดูพระคริสต์ที่อยู่เบื้องบนด้วยความรักแท้ เขาผู้นั้นก็จะไม่มีความกลัวที่ทำให้ใจทุกข์ระทม" 
(Joachim Magdeburg, เพลง "Who Trusts In God, A Strong Abode")

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 15

"Whenever I am afraid, I will put my trust in You." (Psalm 56:3)

We may have many fears, but we should take up David's resolve. Our Lord is the only proper object of trust, and He should be trusted at all times.

It is great when we can say, "I will depend on the faithful promises of my loving Heavenly Father; I will leave all in my Saviour's hands."

Let us trust in God- no matter how we feel. Our God has said, "Trust in the Lord for ever." (Isaiah 26:4)

Let us seek grace to say with Job, "Though He slay me, yet will I trust in Him." (Job 13:15)

"Who trusts in God, a strong abode, in Heav'n and earth possesses;
Who looks in love to Christ above, no fear his heart oppresses." 
(Joachim Magdeburg, hymn "Who Trusts In God, A Strong Abode")

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie





วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บทความสอนใจประจำวัน 14 กรกฎาคม


"ชนชาติของเราไม่ยอมรับรู้ถึงความห่วงใยของเราที่มีต่อพวกเขา" (อิสยาห์ 1:3)

บทความสอนใจประจำวัน 14 กรกฎาคม

"ชนชาติของเราไม่ยอมรับรู้ถึงความห่วงใยของเราที่มีต่อพวกเขา" (อิสยาห์ 1:3แปลจาก NLT)

อะไรที่เราควรจะรับรู้?

แน่นอน เราควรจะรับรู้สิ่งยิ่งใหญ่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทำเพื่อเรา พระองค์ได้ช่วยจิตวิญญาณของเรให้พ้นจากความตาย ตาของเราให้พ้นจากน้ำตา และเท้าของเราให้พ้นจากการสะดุดล้มลง เพื่อที่เราจะดำเนินชีวิตต่อหน้าพระเจ้าในดินแดนของคนเป็

เราควรจะรับรู้ว่าพระเจ้าในฐานะผู้สร้าง ผู้ธำรงรักษา พระเจ้าแห่งพันธสัญญา และพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยพระคุณของเราด้จัดเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อเราอย่างไร

เราควรจะรับรู้ว่าพระองค์เป็นผู้ปกครองดูแลสูงสุดที่ควบคุมจักรวาลไว้ พระองค์บริหารจัดการทุกเหตุการณ์ ไม่มีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้นได้ ไม่มีที่สำหรับความบังเอิญ แต่ทุกสิ่งได้รับการนำทางโดยพระปัญญาอันไร้ขีดจำกัด และความรักแท้ที่อยู่ทุกแห่งหน

เหตุใดเราจึงไม่รับรู้สิ่งนี้? ก็เพราะหัวใจของเรามักจะไม่ซื่อตรงและเต็มไปด้วยค่านิยมของโลก ความคิดของเราได้รับผลกระทบจากความเห็นที่ไม่ตรงตามพระคัมภีร์ และเราพยายามที่จะดำเนินชีวิตด้วยสายตา ไม่ใช่ด้วยความเชื่อ ด้วยวิธีนี้เองที่เราทำให้พระเจ้าเสียพระเกียรติ และจิตใจของเราก็ถูกนำให้หลงไป

"เป็นการดีที่จะขอบพระคุณพระยาห์เวห์ ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด ที่จะร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์ 
ที่จะประกาศความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า และประกาศความซื่อสัตย์ของพระองค์ในกลางคืน" (สดุดี 92:1-2 THSV2011)

Reverend James Smith 
ปรับปรุงโดย Alina McKenzie
แปลโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์


The Believer's Daily Remembrancer

July 14

"My people don't recognize My care for them." (Isaiah 1:3)

What should we recognize?

Surely, what great things the Lord has done for us; He has delivered our souls from death, our eyes from tears, and our feet from falling, that we may walk before God in the land of the living.

How God, as our Creator, Preserver, covenant God , and gracious Father, provides for us.

That He is the supreme and universal Governor; arranging and managing every event; accident can never happen, chance can have no place, but all is directed by infinite wisdom and omnipresent love.

Why do we not recognise this? Because our hearts are often false and worldly; our minds are influenced by unbiblical notions; and we try to walk by sight and not by faith. In this way we dishonour God; and our souls are misled.

"It is good to praise the Lord 
And make music to Your Name, O most High, 
To proclaim Your love in the morning, 
And Your faithfulness at night." (Psalm 92:1-2)

Reverend James Smith
Adapted by Alina McKenzie