วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

Eternal Life Has Appeared in Christ - ชีวิตนิรัน​ดร์ได้ปราก​ฎในพระคริส​ต์ (11)

Five Assertions in 1 John 1:1–4

5. Finally, the reason John writes his testimony to Christ in this letter is because he longs for the fullness of joy that comes when others share his delight in the fellowship of the Father and the Son Jesus Christ.

Verse 4: "And we are writing this that our joy may be complete." I think all the modern versions are right in accepting the reading "our joy" instead of the King James' "your joy."

Of course in a church where one of our distinctives is Christian Hedonism, this is not a surprise at all. First comes the tremendous joy of knowing God and experiencing fellowship with him. But then we hunger for something more. Not that anything could be added to God, but that more of God can be experienced in the fellowship of the saints (cf. Psalm 16:1–3

 
). If this were not true, the longing for fellowship would be idolatry. Our joy in God's fellowship is made complete in the joy that others have in God's fellowship.

This is the very essence of Christian Hedonism—the doctrine that it is not only permissible but necessary to pursue your own happiness in the holy happiness of others. If you were to make it your aim to lead a friend into the fellowship of God, but in your heart said, "It is a matter of indifference to me if he finds fellowship with God," you would be evil. God does not want our heart to be indifferent to the good we seek. He wants us to delight in it. He wants us to pursue our joy in it just like John did. "We are writing this that our joy may be complete."

What a devastating doctrine—to teach that it is wrong for a Christian to pursue his own happiness. This doctrine is an insult to God who commands us to delight ourselves in the Lord and to count it all joy when we lay down our lives in order to share that delight with others.

In Summary:

1. Christ, our Life, has eternally existed with the Father.

2. Christ, our Life, was manifested in the flesh.

3. Through this incarnation we obtain fellowship with the Father and with his Son Jesus Christ.

4. Therefore we should make the biblical understanding of Christ the basis of the fellowship with other believers.

5. And we should seek to draw others into this fellowship because we long for the fullness of joy that comes when others share the delight we have in the fellowship of the Father and the Son.

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

 


การยืนยัน 5 ประการใน 1 ยอห์น 1:1-4

5. เหตุผลที่ยอห์นเขียนคำพยานของท่านเกี่ยวกับพระคริสต์ในจดหมายฉบับนี้ เพราะว่าท่านปรารถนาความสุขอย่างเต็มเปี่ยมที่จะมี เมื่อผู้อื่นได้ร่วมปีติยินดีในสามัคคีธรรมกับพระบิดาและพระบุตร พระเยซูคริสต์

และ​เรา​เขียน​ข้อ​ความ​เหล่า​นี้​เพื่อ​ความ​ชื่น​ชม​ยินดี​ของ​เรา​จะ​ได้​เต็ม​เปี่ยม (1 ยอห์น 1:4 THSV2011)

ข้าพเจ้าคิดว่าพระคัมภีร์ฉบับที่แปลใหม่นั้น ตัดสินใจถูกที่ยอมรับในการใช้คำว่า "ความชื่นชมยินดีของเรา" แทนคำว่า "ความยินดีของท่าน" ที่ใช้ในฉบับ King James

แน่นอนว่าในคริสตจักรที่มีลักษณะเด่นของเรา คือ การแสวงหาความสุขแบบคริสเตียน (Christian Hedonism) นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจเลย เริ่มแรกด้วยความชื่นชมยินดีอย่างมากแห่งการรู้จักพระเจ้า และมีประสบการณ์กับการสามัคคีธรรมกับพระองค์ แต่เมื่อนั้นเรารู้สึกขวนขวายหาบางสิ่งที่มากกว่านั้น ไม่ใช่ว่าจะมีสิ่งใดเพิ่มเติมพระเจ้าได้ แต่ว่าเราจะสามารถมีประสบการณ์มากยิ่งขึ้นกับพระเจ้าในการสามัคคีธรรมกับธรรมิกชน

1 ข้า​แต่​พระ​เจ้า ขอ​ทรง​พิ​ทักษ์​ข้า​พระ​องค์​ไว้ เพราะ​ข้า​พระ​องค์​ลี้​ภัย​อยู่​ใน​พระ​องค์
2 ข้าพ​เจ้า​ทูล​พระ​ยาห์​เวห์​ว่า "พระ​องค์​ทรง​เป็น​องค์​เจ้า​นาย​ของ​ข้า​พระ​องค์ นอก​จาก​พระ​องค์​แล้ว ข้า​พระ​องค์​ไม่​มี​สิ่ง​ดี​ใด​เลย"
3 วิ​สุทธิ​ชน​ใน​แผ่น​ดิน​เป็น​ผู้​ประ​เสริฐ เป็น​พวก​ที่​ข้าพ​เจ้า​ปีติ​ยินดี (สดุดี 16:1-3 THSV2011)

หากสิ่งนี้ไม่เป็นจริง ความปรารถนาที่จะมีสามัคคีธรรมก็จะเป็นเพียงการนับถือรูปเคารพ ความสุขของเราในการสามัคคีธรรมกับพระเจ้าจะถูกทำให้สมบูรณ์ในความชื่นชมยินดีที่ผู้อื่นมีในการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า

นี่เป็นแก่นแท้ของการแสวงหาความสุขแบบคริสเตียนทีเดียว หลักคำสอนที่ว่า นี่ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ยอมได้ แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะไล่ล่าหาความสุขของคุณเองในความสุขอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น ถ้าหากคุณให้สิ่งนี้เป็นเป้าหมายของคุณในการที่จะนำเพื่อนคนหนึ่งของคุณมาถึงยังสามัคคีธรรมกับพระเจ้า แต่ในหัวใจของคุณกล่าวว่า "นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจ้าจะต้องเอาใจใส่ว่าเขาจะได้พบกับสามัคคีธรรมกับพระเจ้าหรือไม่" คุณก็จะชั่วร้าย พระเจ้ามิได้ทรงต้องการให้หัวใจของเราเพิกเฉยต่อสิ่งดีที่เราแสวงหา พระองค์ทรงต้องการให้เราปีติยินดีในสิ่งนั้น พระองค์ทรงต้องการเราให้ไล่ล่าหาความชื่นชมยินดีของเราในสิ่งนั้น เช่นเดียวกับที่ยอห์นได้ทำ

และ​เรา​เขียน​ข้อ​ความ​เหล่า​นี้​เพื่อ​ความ​ชื่น​ชม​ยินดี​ของ​เรา​จะ​ได้​เต็ม​เปี่ยม (1 ยอห์น 1:4 THSV2011)

ช่างเป็นหลักคำสอนที่สร้างความเสียหายเหลือเกิน ในการที่สอนว่าเป็นสิ่งผิดที่คริสเตียนจะไล่ล่าหาความสุขของเขาเอง หลักคำสอนนี้เป็นการดูถูกพระเจ้าผู้ซึ่งบัญชาเราให้มีความปีติยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า และให้นับสิ่งนั้นเป็นความชื่นชมยินดีเมื่อเราได้สละชีวิตของเราเพื่อที่จะแบ่งปันความปีติยินดีนั้นให้กับผู้อื่น

 

บทสรุป

  1. พระคริสต์ ผู้ซึ่งเป็นชีวิตของเรา ทรงดำรงอยู่นิรันดร์กับพระบิดา
  2. พระคริสต์ ผู้ซึ่งเป็นชีวิตของเรา ถูกสำแดงในรูปกายของมนุษย์
  3. เราได้มีสามัคคีธรรมกับพระบิดาและพระเยซูคริสต์พระบุตร ผ่านทางการเสด็จมาบังเกิดของพระคริสต์
  4. ดังนี้ เราควรให้การเข้าใจพระคริสต์บนพื้นฐานของพระคัมภีร์เป็นพื้นฐานของสามัคคีธรรมกับผู้เชื่อคนอื่น ๆ
  5. และเราควรหาโอกาสที่จะนำผู้อื่นมาถึงยังสามัคคีธรรมนี้ เพราะว่าเราปรารถนาความสุขอย่างเต็มเปี่ยมที่จะมี เมื่อผู้อื่นได้ร่วมปีติยินดีในสามัคคีธรรมกับพระบิดาและพระบุตร

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

คำเทศนาในชุด "ให้เราดำเนินในความสว่าง (1 ยอห์น)"

หัวข้อ "ชีวิตนิรันดร์ได้ปรากฎในพระคริสต์ (1 ยอห์น 1:1-4)"

เมื่อวันที่ 03/05/2009

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

 

For original passage, including audio or video files, please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/eternal-life-has-appeared-in-christ

 
.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น