วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

งานฟื้นฟู "เราจะไป": ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (4/7)

1. เราต้องการความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการนำคนบาปมาหาพระเยซูคริสต์ (2)

เราเห็นค่าของพระธรรมมาระโกตอนนี้ (มาระโก 2:1-12) เช่นไร?

เราเห็นสี่คนมาหาพระเยซูคริสต์ ภาพนี้เป็นภาพที่บ่งบอกว่าเราต้องการซึ่งกันและกัน

ในประเทศไทยมีคนง่อยเยอะมาก คนง่อยฝ่ายวิญญาณ คนที่ต้องการการรักษาจากพระเจ้า ต้องการสัมผัสการอัศจรรย์ในชีวิตของเขา ต้องการรับการปลดปล่อย

คนไทยเชื่อพระเจ้าไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเราจึงมีงานที่ต้องทำมากมาย และเราทำคนเดียวไม่ได้ เราต้องการซึ่งกันและกัน ในทุ่งนาที่จะต้องเก็บเกี่ยว เราไม่สามารถทำงานลำพังได้ เราต้องทำร่วมกัน

คริสตจักรสะพานเหลือง เราต้องร่วมกับโครงการต่าง ๆ ของคริสตจักร ต้องร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของคริสตจักร เราต้องการที่จะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการปรนนิบัติพระเจ้า

ไม่มีใครรู้ว่า 4 คนนี้เป็นใคร และพระเจ้าไม่ได้ตรัสบอกอะไรมากนักเกี่ยวกับ 4 คนนี้ แต่ทั้งสี่คนนี้มีนิมิตและมีทิศทางร่วมกัน คือนำคนบาปมาหาพระเยซูคริสต์

เรารู้ว่า อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นคนที่ห่วงใยเพื่อนของเขา พวกเขาจึงพยายามนำเขามาหาพระเยซูคริสต์ และเขาทั้งสี่คนมีความเชื่อ เชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงสามารถรักษาคนง่อยนี้ได้อย่างอัศจรรย์ พวกเขาเชื่อในฤทธิ์เดชของพระองค์ พวกเขาจึงร่วมกันในความเชื่อนั้น แบกคนง่อยมาหาพระเยซูคริสต์

พวกเขาไม่เพียงห่วงในใจ แต่แสดงออกเป็นการกระทำด้วย เราไม่รู้ว่าพวกเขาแบกมาไกลเพียงไร แต่พวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความรักความห่วงใย ความเชื่อต่าง ๆ ที่พวกเขามี ล้วนแสดงออกเป็นการกระทำ

37 แล้วพระองค์ตรัสกับพวกสาวกของพระองค์ว่า "ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่
38 เหตุนั้นพวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์" (มัทธิว 9:37-38)

เรารู้ว่าถ้าผู้ใดไม่มาหาพระคริสต์ เขาจะต้องตายในความผิดบาป เราต้องการซึ่งกันและกัน ไม่มีใครเล็กน้อยเกินไปที่พระเจ้าจะทรงใช้การไม่ได้ ไม่มีใครบาปเกินไปที่พระเจ้าจะทรงยกโทษให้ไม่ได้ และเราต้องการซึ่งกันและกัน

นายพรานกลุ่มหนึ่ง มีอยู่ 7 คน ขณะล่าสัตว์ในป่า ฟ้าก็กลับมืด พวกเขาจึงพยายามวิ่งเข้าไปในกระท่อมหลังหนึ่ง สักครู่ก็มีฟ้าแลบ และฟ้าก็ผ่าลงมาที่หน้ากระท่อม พวกนายพรานก็กลัวมาก พวกนายพรานก็เลยคิดว่า ฟ้าต้องการพวกเราสักคนแน่นอน จึงถามว่า "ใครทำผิดบาปอะไรหรือไม่?" แต่ไม่มีใครกล้าตอบ เพราะถ้าตอบก็คงจะถูกจับโยนออกไป แต่ฟ้าก็ผ่าตลอด พวกเขากลัวมาก จึงใช้วิธีจับไม้สั้นไม้ยาว และมีคนหนึ่งได้ไม้สั้น พวกที่เหลือจึงจับเขา แม้ว่าเขาจะร้องขอชีวิต เพราะเขากลัวถูกฟ้าผ่า แต่ไม่เป็นผล คนเหล่านั้นจึงจับคนที่ได้ไม้สั้นนี้โยนออกไป พอโยนออกไป ฟ้าก็ผ่าลงมาทันที แต่ผ่าถูกกระท่อม และไหม้กระท่อม ดังนั้นจึงรอดอยู่คนเดียว

เรื่องนี้บ่งบอกว่า ถ้าเราอยู่ด้วยกันไม่ตาย เราต้องการซึ่งกันและกัน

ในคริสตจักรของพระเจ้าเราต้องการกันและกัน เราเป็นกายของพระคริสต์ และเมื่อเราเป็นกายเดียวกัน เราก็ต้องการซึ่งกันและกัน

เมื่อเราอยู่ในคริสตจักร เราก็เป็นกายเดียวกัน เรามีพระเยซูคริสต์เป็นศีรษะของกาย เราป็นพระวรกายของพระเจ้า เราจะต้องเรียนรู้ที่จะรักซึ่งกันและกัน รับใช้ร่วมกัน

หลายคนอาจจะไม่ชอบบางอย่างของคริสตจักร จึงออกไปจากคริสตจักร นี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะเป็นเหมือนกับว่าเราชอบพระเยซูคริสต์ แต่ไม่ชอบพระวรกายของพระองค์


ศจ. ยุทธศักดิ์ ศิริกุล

สรุปคำเทศนางานฟื้นฟู "เราจะไป" คริสตจักรสะพานเหลือง

เมื่อวันที่ 11/09/2010

เรื่อง ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

สรุปโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น