วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ความหมายที่แท้จริงของวันคริสตมาส (5/5)

2. วันคริสตมาส เป็นวันที่พระเจ้าทรงประทานความรอดให้แก่มนุษย์ (4)

ขณะที่พระเยซูคริสต์ทรงถูกตรึงที่ไม้กางเขน พระองค์ตรัส 7 ประโย ประโยคที่ทรงรู้สึกถึงความโหดร้ายที่สุด คือ

ครั้นประมาณบ่ายสามโมง พระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า "เอลี เอลี ลามาสะบักธานี" แปลว่า "พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย" (มัทธิว 27:46)

พระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ เป็นพระเจ้าแห่งความรัก และเป็นพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์ ความรักไม่ใช่เรื่องคำพูด แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ พระองค์จะมีความสัมพันธ์กับคนที่บริสุทธิ์เท่านั้น และพระหัตถ์ของพระบิดาไม่เคยห่างจากพระบุตร เพราะพระองค์ทรงบริสุทธิ์

แต่วันนั้น ที่พระเยซูคริสต์ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน ความบาปของมนุษย์ทั่วโลกตกอยู่ที่พระองค์ เป็นเหตุให้พระบิดาไม่สามารถโอบกอดพระเยซูคริสต์ได้ เป็นเหตุให้เมื่อเราเชื่อในพระเยซูคริสต์ สารภาพความผิดบาปแด่พระองค์ พระเจ้าก็ทรงโอบกอดเราได้

เสื้อผ้าที่สกปรก ทำอย่างไรจึงจะสะอาด? สิ่งที่จะทำให้เสื้อผ้าสะอาดได้ ย่อมต้องมาจากสิ่งที่อยู่นอกตัวมัน คือ น้ำที่สะอาด และเมื่อซักเสร็จ เสื้อผ้าก็สะอาด แต่น้ำก็กลับสกปรกและถูกทิ้ง

"เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์" (2โครินธ์ 5:21)

พระเยซูคริสต์ทรงเสด็จมาในวันคริสตมาสเพื่อรับโทษความผิดบาปของมวลมนุษย์ และพระองค์ทรงฟื้นขึ้นจากความตายในวันที่สาม

ทุกคนที่ถ่อมใจยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบาป ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเยซูคริสต์ ก็เพราะพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากความตาย และทรงยกโทษความผิดบาปให้แก่เรา

พระเจ้าทรงรักเราทุกคน และได้ทรงประทานพระเยซูคริสต์มาให้แก่เรา เพื่อประทานความรอดให้แก่เราทุกคน เราทุกคนถูกสร้างขึ้นมาให้ต้องการพระเจ้า ท่านสามารถสัมผัสพระเจ้าได้เพียงแค่ท่านเปิดใจของท่าน

มีคนบาปสองประเภท ได้แก่

  1. คนบาปที่ยอมรับว่าตัวเองบาป
  2. คนบาปที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี

10 "มีสองคนขึ้นไปอธิษฐานในบริเวณพระวิหาร คนหนึ่งเป็นพวกฟาริสีและคนหนึ่งเป็นพวกเก็บภาษี
11 คนฟาริสีนั้นยืนนึกในใจของตน อธิษฐานว่า 'ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์โมทนาขอบพระคุณของพระองค์ ที่ข้าพระองค์ไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งเป็นคนโลภ คนอธรรม และคนล่วงประเวณี และไม่เหมือนคนเก็บภาษีคนนี้
12 ในสัปดาห์หนึ่งข้าพระองค์ถืออดอาหารสองหน และของสารพัดซึ่งข้าพระองค์หาได้ข้าพระองค์ได้เอาสิบชักหนึ่งมาถวาย'
13 ฝ่ายคนเก็บภาษีนั้นยืนอยู่แต่ไกล ไม่แหงนดูฟ้า แต่ตีอกของตนว่า 'ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดพระเมตตาแก่ข้าพระองค์ผู้เป็นคนบาปเถิด'
14 เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนนี้แหละเมื่อกลับลงไปยังบ้านของตนก็นับว่าชอบธรรม มิใช่อีกคนหนึ่งนั้น เพราะว่าทุกคนที่ยกตัวขึ้นจะต้องถูกเหยียดลง แต่ทุกคนที่ได้ถ่อมตัวลงจะต้องถูกยกขึ้น"

เพียงแค่ท่านเปิดใจ ความรอดของพระเจ้าก็มาถึงท่านได้เป็น อิสระเป็นของท่านในการเลือก ว่าจะตอบสนองต่อความรอดที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่เราในวันคริสตมาสหรือไม่


อ. นิกร สิทธิจริยาภรณ์

การเทศนาในเทศกาลคริสตมาส ที่จังหวัดภูเก็ต

สรุปโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น