วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

God So Loved the World, Part 2 - พระเจ้าทรง​​รักโลก ตอนที่ 2 (2)

How God Loves the World

The question before us today is how God loves the world according to John 3:16

 
. Jesus says, "God so loved the world, that he gave his only Son, that whoever believes in him should not perish but have eternal life." It is so important that we let the Bible define what it means by love in any given passage. We should not bring all our assumptions about love and make the Bible mean what we think love must be.

From this verse, a few great things seem obvious.

  1. God loves the world—that is, he loves the great totality of fallen, sinful human beings.
  2. This love is of such a kind and such an intensity and such a magnitude that it moved God to give his Son to die for the world (John 10:17–18
     
    ).
  3. One incontestably clear purpose and effect of that love, and that giving of the Son, is that "whoever believes in him will not perish but have eternal life." In other words, this love opens a real door so that anyone who believes on the Son will enter eternal life.
  4. Therefore, this love is indiscriminate. It may be spoken to and promised to and applied to everyone without exception. Because what this love says is, "If you will believe in my Son, I will give you eternal life. I can do this justly because my Son has cancelled the debts of all who believe. If you believe, your sins are cancelled. My love for you is this: I gave my Son so that trusting him is the only condition for living with me forever."

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

 


พระเจ้าทรงรักโลกอย่างไร?

คำถามที่อยู่ต่อหน้าเราในวันนี้ ก็คือว่า พระเจ้าทรงรักโลกอย่างไร จากพระธรรมยอห์น 3:16

พระ​เจ้า​ทรง​รัก​โลก​ดัง​นี้ คือ​ได้​ประทาน​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์ (ยอห์น 3:16 THSV2011)

เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะให้พระคัมภีร์ระบุว่าความรักในแต่ละข้อพระคัมภีร์ใด ๆ ที่กล่าวมานั้นหมายถึงอะไร เราไม่ควรนำเอาสมมติฐานทั้งหมดของเราเกี่ยวกับความรัก และทำให้พระคัมภีร์หมายถึงสิ่งที่เราคิดว่าความรักจะต้องเป็น

จากพระคัมภีร์ข้อนี้ มีบางสิ่งที่ดูเหมือนจะชัดเจน

  1. พระเจ้าทรงรักโลก นั่นคือ พระองค์ทรงรักมนุษย์ทั้งหมดซึ่งล้มลงและเป็นคนบาป
  2. ความรักนี เป็นความรักชนิดที่มีความจริงจังมาก และยิ่งใหญ่มากเพียงพอ ที่นำให้พระเจ้าทรงประทานพระบุตรให้สิ้นพระชนม์เพื่อโลกนี้

17 เพราะ​เหตุ​นี้​พระ​บิดา​จึง​ทรง​รัก​เรา เพราะ​เรา​สละ​ชีวิต​ของ​เรา​เพื่อ​จะ​รับ​ชีวิต​นั้น​คืน​มา​อีก
18 ไม่​มี​ใคร​ชิง​ชีวิต​ไป​จาก​เรา​ได้ แต่​เรา​สละ​ชีวิต​ตาม​ที่​เรา​ตั้ง​ใจ​เอง เรา​มี​สิทธิ​อำ​นาจ​ที่​จะ​สละ​ชีวิต​นั้น​และ​มี​สิทธิ​อำนาจ​ที่​จะ​รับ​คืน​มา​อีก คำ​กำ​ชับ​นี้​เรา​ได้​รับ​มา​จาก​พระ​บิดา​ของ​เรา (ยอห์น 10:17-18 THSV2011)

  1. วัตถุประสงค์และผลหนึ่งที่ชัดเจนและโต้เถียงไม่ได้ของความรักนั้น และการที่ทรงประทานพระบุตรนั้น ก็เพื่อที่ "ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์" อีกนัยหนึ่งก็คือ ความรักนี้ได้เปิดประตูที่แท้จริง เพื่อที่ทุกคนที่วางใจในพระบุตรจะได้รับชีวิตนิรันดร์
  2. ดังนั้น ความรักนี้จึงไม่มีการแบ่งแยก ความรักนี้อาจจะถูกกล่าวถึง และถูกใช้ในคำสัญญาให้กับ และถูกนำไปประยุกต์ใช้กับทุกคน โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะสิ่งที่ความรักนี้กล่าวก็คือ "ถ้าหากเจ้าวางใจในบุตรของเรา เราจะให้ชีวิตนิรันดร์แก่เจ้า เราสามารถทำสิ่งนี้อย่างเที่ยงธรรม เพราะว่าบุตรของเราได้ยกหนี้ของทุกคนที่วางใจ ถ้าเจ้าวางใจ บาปของเจ้าก็ได้รับการยกเลิก ความรักของเราสำหรับเจ้าคือสิ่งนี้ เราได้ให้บุตรของเรา เพื่อที่การวางใจในท่าน เป็นเงื่อนไขเดียวเท่านั้นสำหรับการอยู่กับเราตลอดไป"

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

คำเทศนาในชุด "พระกิตติคุณจอห์น"

หัวข้อ "พระเจ้าทรงรักโลก ตอนที่ 2"

เมื่อวันที่ 10/05/2009

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

 

For original passage, including audio or video files, please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/god-so-loved-the-world-part-2

 
.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น