วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

God So Loved the World, Part 1 - พระเจ้าทรง​รักโลก ตอนที่ 1 (7)

5. Believe

"For God so loved the world, that he gave his only Son, that whoever believes . . ." Four observations about this believing.

First, it means that not everybody will benefit from what Jesus came to do. But "whoever believes in him should not perish but have eternal life." The rest will perish—and not have eternal life.

Second, the word itself means to embrace something as true; and when it's a person, it means to trust them to be what they are and do what they say.

Third, John 1:11–12

 
shows that another word John has in mind to explain believe is receive. "[Jesus] came to his own, and his own people did not receive him. But to all who did receive him, who believed in his name, he gave the right to become children of God." So receiving Jesus and believing Jesus explain each other.

Fourth, if we ask, "Receive him as what?" the answer would be, "Receive him as what he is." For example, in John 6:35

 
, Jesus says, "I am the bread of life; whoever comes to me shall not hunger, and whoever believes in me shall never thirst." So here believing means coming to Jesus and receiving him as the food and drink that satisfies our souls. That's one of the reasons I talk about receiving him as our Treasure (Matthew 13:44
 
). And this is why faith is so transforming.

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

 


5. วางใจ (เชื่อ)

พระ​เจ้า​ทรง​รัก​โลก​ดัง​นี้ คือ​ได้​ประทาน​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​องค์ เพื่อ​ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​... (ยอห์น 3:16 THSV2011)

ข้อสังเกต 4 ข้อเกี่ยวกับการวางใจ (การเชื่อ) ได้แก่

ข้อแรก นี่หมายถึงว่าไม่ใช่ทุกคนจะได้รับผลประโยชน์จากการที่พระเยซูทรงเสด็จมา แต่...

...ทุก​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์ (ยอห์น 3:16 THSV2011)

ข้อสอง คำคำนี้ มีความหมายเพื่อกล่าวถึงบางสิ่งซึ่งจริง เมื่อสิ่งนี้เป็นบุคคลบุคคลหนึ่ง นี่จึงหมายถึงการวางใจบุคคลเหล่านี้ว่าเขาเป็นเช่นนั้นและทำในสิ่งซึ่งเขาได้กล่าวไว้

ข้อสาม ยอห์น 1:11-12 ได้แสดงให้เห็นว่าคำอีกคำหนึ่งที่ยอห์นมีอยู่ในความคิดเพื่ออธิบายถึงการเชื่อ คือ การยอมรับ (ต้อนรับ)

11 พระ​องค์​เสด็จ​มา​ยัง​บ้าน​เมือง​ของ​พระ​องค์ แต่​ชาว​บ้าน​ชาว​เมือง​ของ​พระ​องค์​ไม่​ต้อน​รับ​พระ​องค์
12 แต่​ทุก​คน​ที่​ยอม​รับ​พระ​องค์ คือ​คน​ที่​เชื่อ​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์​นั้น พระ​องค์​ก็​จะ​ประ​ทาน​สิทธิ​ให้เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า (ยอห์น 1:11-12 THSV2011)

ดังนั้น การยอมรับพระเยซู และการเชื่อพระองค์ จึงเป็นการอธิบายซึ่งกันและกัน

ข้อสี่ ถ้าหากเราถามว่า "ยอมรับพระองค์ให้เป็นสิ่งใด?" คำตอบก็คือ "ยอมรับพระองค์ดังที่พระองค์ทรงเป็น"

ตัวอย่างเช่นในยอห์น 6:35 พระเยซูตรัสว่า

พระ​เยซู​ตรัส​กับ​พวก​เขา​ว่า "เรา​เป็น​อาหาร​แห่ง​ชีวิต คน​ที่​มา​หา​เรา​จะ​ไม่​หิว และ​คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​เรา​จะ​ไม่​กระ​หาย​อีก​เลย" (ยอห์น 6:35 THSV2011)

ดังนั้น การเชื่อในที่นี้ หมายถึงการมาหาพระเยซู และยอมรับพระองค์ให้เป็นอาหารและเครื่องดื่มที่จะตอบสนองความต้องการของจิตวิญญาณของเรา นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ข้าพเจ้ากล่าวเกี่ยวกับการยอมรับพระองค์ดั่งเป็นขุมทรัพย์ของเรา

แผ่น​ดิน​สวรรค์​เปรียบ​เหมือน​ขุม​ทรัพย์​ที่​ซ่อน​ไว้​ใน​ทุ่ง​นา เมื่อ​มี​ผู้​พบ​แล้ว​ก็​กลับ​ซ่อน​เสีย​อีก และ​เพราะ​ความ​ยินดี​จึง​ไป​ขาย​ทุก​สิ่ง​ที่​เขา​มี​อยู่​แล้ว​ไป​ซื้อ​นา​นั้น (มัทธิว 13:44 THSV2011)

และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ความเชื่อจึงเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง

 

ศจ. ดร. จอห์น ไพเพอร์

คำเทศนาในชุด "พระกิตติคุณจอห์น"

หัวข้อ "พระเจ้าทรงรักโลก ตอนที่ 1"

เมื่อวันที่ 03/05/2009

 

By John Piper. © DesiringGod. Website: desiringGod.org

 

For original passage, including audio or video files, please visit http://www.desiringgod.org/resource-library/sermons/god-so-loved-the-world-part-1

 
.

 

หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น