วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554

รักแท้ต้องแสดงออก (5/5)

3. Comfort Zone

เมื่อจิตใจของเราเริ่มมองเห็นคนอื่นแล้ว ขาของเราต้องก้าวออกไป มือของเราต้องหยิบยื่นออกไป
หลายครั้งเราคุ้นเคยวิถีชีวิตประจำวันของเรา คุ้นเคยกับตารางเวลาของเรา บ้านของเราอบอุ่นน่าอยู่ จะให้ออกไปไหนช่างลำบากเหลือเกิน คริสตจักรของเราก็คุ้นเคย ทำให้เราอาจไม่ได้ไปรู้จักหลาย ๆ คนที่น่าสงสาร
พันธกิจหนึ่งที่ช่วยได้ ก็คือ มิชชัน นั่นคือการออกไปจากที่ที่เราอยู่ และไปพบเห็นชีวิตของคนที่อยู่อีกพื้นที่หนึ่ง ถ้าเราอยู่ตรงนั้น เราอาจจะอยากอยู่ที่นั่น แต่เมื่อเรากลับมาอยู่ที่สุขสบาย เราคงจะไม่อยากไปอีกเลย
จากตารางรายการ ข้าพเจ้าพบว่าคณะเพื่อคุณมีการออกไปข้างนอกบ่อย เราเคยได้ยินว่าคณะเพื่อคุณมีการจัดงานเฉลิมฉลองในวันคริสตมาส แต่ในระยะหลังจะเห็นได้ว่าคณะเพื่อคุณมีการออกไปเยี่ยมเยียนพี่น้อง ใช่แล้ว คริสตมาสที่แท้จริง พระองค์ก็ทรงลงมาในโลกมนุษย์นี้ แล้วคริสตมาสปีนี้เราจะทำอะไร? จะออกไปไหนอีก?
อยากให้เรามีหัวใจแบบมิชชันนารี มิชชันนารีเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่สำแดงพระเจ้าได้ชัดเจนที่สุด
พระคริสต์ทรงเป็นมิชชันนารีคนแรก พระองค์เสด็จจากสวรรค์ ลงมาในที่ที่ไม่สะดวกสบายอย่างยิ่ง (very uncomfortable zone)
ข้าพเจ้าอยากให้พวกเราสลายกรอบความคิดว่าจะต้องเป็นผู้รับใช้เท่านั้นจึงทำได้ พวกเราทุกคนทำได้ ขอที่เราจะก้าวข้ามความคิด จิตใจ และ comfort zone ของเราเพื่อรับใช้พระเจ้า
ตัวอย่างชีวิตแบบมิชชันนารีท่านหนึ่ง คือ แม่ชีเทเรซา ท่านเกิดในทวีปยุโรป ท่านได้ทิ้งประเทศที่สะดวกสบาย มาที่อินเดีย
ตอนที่ข้าพเจ้าบินไปยังประเทศอินเดีย ข้าพเจ้าถึงที่นั่นประมาณ 4 ทุ่ม และมีคนมารับ ขณะนั่งในรถ เพื่อนข้าพเจ้ารีบหยิบกล้อง แล้วถ่ายรูปภาพที่ฉากข้างถนน ซึ่งมีประชาชนนอนเกลื่อนกลาดริมถนนเต็มไปหมด เพราะไม่มีที่พักอาศัย
ครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าเดินผ่าน ข้าพเจ้าเห็นถนนสกปรกมาก และพบชาวอินเดียมากมาย เพราะนั่นคือบ้านของเขา ร่างกายของเขาบางคนก็ไม่ค่อยสะอาด บางคนเป็นโรคเรื้อน เป็นขอทาน และมีน้ำประปาที่ต่อจากแม่น้ำคงคา เมื่อน้ำจากรัฐบาลส่งมา พวกเขาจะเฮโลและวิ่งมาอาบน้ำอย่างมีความสุข คนที่ผ่านมาก็จะได้กลิ่นที่ไม่ค่อยดีนัก ที่ได้เห็นภาพเช่นนี้เนื่องจากคณะจัดงานตั้งใจให้พวกข้าพเจ้าเดินผ่าน เพื่อให้ได้เห็นว่าเรามีจิตใจที่ love in action หรือไม่
แม่ชีเทเรซา ได้เดินทางมาทำงานสร้างบ้านให้คนโรคเรื้อนนอนตาย ทั้งชีวิตของท่านได้ทำพันธกิจเช่นนี้ ยอมสละความยากลำบาก ไม่ด่วนตัดสินและสรุป
ถ้าหากจะสรุปและประเมิน เราคิดว่าที่ท่านทำเช่นนี้คุ้มหรือไม่? ในมาตรฐานของโลกนี้ ย่อมคิดว่าไม่มีทางคุ้ม มีแต่เสีย
แต่ท่านไม่ได้คิดเช่นนั้น ท่านคิดว่าอย่างน้อยช่วงชีวิตสุดท้ายของคนโรคเรื้อน เขาจะได้มีความสุขสักเล็กน้อยก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ข้าพเจ้าอยากให้เรามีหัวใจเช่นนี้
มีมิชชันนารีอีกท่านหนึ่ง ท่านดูแล ให้น้ำป้อนข้าวให้คนโรคเรื้อน จนท่านเองติดโรคเรื้อน ทางประเทศอเมริกาจึงเรียกท่านกลับไปเพื่อทำการรักษาให้หายแล้วค่อยกลับมาดูแลคนโรคเรื้อนต่อ แต่มิชชันนารีท่านนี้ตอบว่า ไม่กลับ ไหน ๆ ติดโรคแล้ว จะไม่มีอะไรขวางกั้นระหว่างท่านกับคนโรคเรื้อนอีกต่อไป และท่านก็ได้รับใช้พระเจ้าจนตายไปกับคนโรคเรื้อน หัวใจเช่นนี้แหละ
ถ้าเราก้าวออกจาก comfort zone เราจะสำแดงความรักแบบพระเยซูคริสต์ได้อย่างแท้จริง
แท้จริงผู้ที่ดำเนินชีวิตตามทางของพระเยซูคริสต์จะถูกกดขี่ข่มเหง
แท้จริงบรรดาคนที่ปรารถนาจะดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้า ในพระเยซูคริสต์จะถูกกดขี่ข่มเหง (2ทิโมธี 3:12)
ถ้าเราก้าวข้ามทั้งสามสิ่งนี้ เราจะพบเห็นคนอีกมากมายที่รอเราอยู่ เราทั้งหลายเป็นตัวแทนของพระเจ้าที่จะสำแดงความรัก และไม่ใช่สำแดงเพียงต่อกันและกัน แต่คนทั้งโลกรอเราอยู่ ขอพระเจ้าทรงนำเรา เพื่อให้ love in action ของเราสำเร็จในองค์พระเยซูคริสต์

คศ. เจนจิรา คีรีรัตน์นิติกุล
คำแบ่งปันรายการเพื่อคุณ คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 15/05/2011
เรื่อง รักแท้ต้องแสดงออก
 
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น